Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
27 ธันวาคม 2548
 
All Blogs
 

> รู ป แ บ บ ข อ ง ว ร ร ณ ค ดี ส มั ย รั ช ก า ล ที่ ๑ <

๑. มีการใช้คำประพันธ์หลายชนิด คือ โคลง กลอน ร่าย และร้อยแก้ว

๒. ไม่มีวรรณคดีเรื่องใดแต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทฉันท์เลยแม้แต่เรื่องเดียว

๓. ในสมัยนี้กลอนบทละครและกลอนเพลงยาวเป็นคำประพันธ์ที่นิยมกันมากที่สุด รองลงมาได้แก่โคลง ลักษณะกลอนมีลีลาเช่นเดียวกับในสมัยกรุงศรีอยุธยา คือไม่เน้นสัมผัสสระเท่าสัมผัสในที่เป็นสัมผัสสระเท่าสัมผัสพยัญชนะและมีจำนวนคำไม่แน่นอนในวรรค สำนวนกลอนในบทละครเรื่องต่าง ๆ ยังไม่ถึงขั้นดีเลิศ ทั้งนี้เพราะกลอนบทละครในสมัยนี้ทั้ง 4 เรื่อง เป็นวรรคคดีเรื่องยาวโดยเฉพาะ รามเกียรติ์ การทรงพระราชนิพนธ์ก็มุ่งเพื่อความสมบูรณ์ของต้นฉบับ

นิราศรบพม่าที่ท่าดินแดง และ เพลงยาวนิราศกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทเสด็จไปตีเมืองพม่าเมื่อ พ.ศ. ๒๓๓๖ ทั้งสองเรื่องนี้มีลักษณะร่วมกันเป็นสำคัญได้แก่สำนวนของกวีที่เป็นนักรบ นั่นคือ ห้วน สั้น รวดเร็วทันใจ แต่ นิราศรบพม่าที่ดินแดง มีลีลาที่นิ่มนวลกว่าเพราะมีบทครวญถึงบรรดานางในที่จากมา

เพลงยาวนิราศกรมพระราชวังบวรฯ นั้นแม้จะไม่มีบทครวญถึงสตรี แต่ก็มีบทครวญถึงกรุงศรีอยุธยาที่น่าประทับใจเช่นกัน

เกิดนิทานคำกลอนขึ้นเป็นครั้งแรกในวงวรรณคดีไทย นั่นคือเรื่อง สมบัติอมรินทร์คำกลอนในสมัยอยุธยาแม้เราจะเคยมีการแต่งนิทานคำกลอนคือเรื่อง สิริวิบุลกิติ แต่ก็แต่งเป็นกลอนกลบทตลอดทั้งเรื่องโดยมีจุดประสงค์จะให้เป็นตำราการแต่งกลอนกลบทชนิดต่าง ๆ ส่วน สมบัติอมรินทร์คำกลอน นั้น มีจุดประสงค์เล่านิทานโดยใช้กลอนเพลงยาว



๔. โคลงและร่ายในสมัยรัชกาลที่ ๑ มีความคล้ายคลึงและมีความไพเราะไม่แพ้โคลงและร่ายที่มีชื่อเสียงในสมัยอยุธยา ทั้งนี้เพราะกวีเป็นผู้ที่มีความสามารถเป็นพิเศษคือ เจ้าพระยาพระคลัง (หน) และพระเทพโมลี (กลิ่น)

ส่วนร่ายโดยเฉพาะร่ายยาวมหาชาติทั้งกัณฑ์กุมารและมัทรีของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) และกัณฑ์มหาพนของพระเทพโมลีนั้นได้รับยกย่องว่ามีโวหารเป็นเลิศ โดยเฉพาะกัณฑ์มัทรีของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) พรรณนาความรักของแม่ได้ดีเยี่ยม



๕. คำประพันธ์ที่เด่นที่สุดอีกประการหนึ่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชก็คือ ร้อยแก้ว เดิมทีภาษาร้อยแล้วจะมีใช้ในวรรณคดีประเภทกฎหมาย ตำรา พงศาวดารมาโดยตลอด แต่ในรัชกาลนี้มีวิวัฒนาการคือ ใช้ภาษาร้อยแก้วเรียบเรียงนิยายพงศาวดารเป็นครั้งแรก และกล่าวได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ทั้งนี้เพราะผู้อ่านเข้าถึงง่ายกว่าร้อยกรอง ภาษาร้อยแก้วในราชาธิราช และ สามก๊กได้กลายมาเป็นแบบฉบับของผู้แต่งหนังสือในเวลาต่อมา

ภาษาร้อยแก้วในราชาธิราชจะไพเราะงดงามเพราะกวีจะใช้คำสุภาพและคำศัพท์ที่เด่นทั้งในด้านเสียงและมีความหมายลึกซึ้งประทับใจ ประโยคส่วนใหญ่จะมีโครงสร้างง่าย ๆ แม้บางประโยคค่อนข้างยาวแต่ก็เข้าใจได้โดยตลอด

ส่วนในเรื่อง สามก๊ก นั้นจะเห็นว่าพัฒนาขึ้นอีกลักษณะหนึ่งจากราชิธิราช คือ ง่าย สั้นกะทัดรัด ฉับไว ได้ความดี แต่ไม่ห้วนจนกระทั่งขาดความไพเราะรื่นหูและความกระจ่างชัด นับได้ว่าเป็นแบบอย่างของการเขียนร้อยแก้วที่ดีเยี่ยม

ราชาธิราช และ สามก๊ก จะมีลักษณะเด่นอยู่ที่การใช้โวหารเปรียบเทียบคมคายชวนให้คิด






##########################





กิจกรรม : นักเรียนคิดว่ารูปแบบที่ดีเด่นที่สุดของวรรณคดีสมัยรัชกาลที่ ๑ มีลักษณะอย่างไร จงแสดงความคิดเห็น










 

Create Date : 27 ธันวาคม 2548
21 comments
Last Update : 30 ธันวาคม 2548 9:05:52 น.
Counter : 1877 Pageviews.

 

น่าจะเป็นการที่ใช้ร้อยแก้วมาแต่งเป็นเรื่องราวแทนที่จะแต่งเป็นร้อยกรองซึ่งเข้าใจยากถ้าจะใหเข้าใจต้องนำร้อยกรองไปแปลก่อน

 

โดย: ภัทร์ทิญา 6/1 IP: 61.19.153.195 9 มกราคม 2549 11:36:03 น.  

 

ร้อยแก้วเพราะผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ง่าย

 

โดย: ณัฐพล 6/1 IP: 61.19.153.195 9 มกราคม 2549 11:40:49 น.  

 

เป็นการดีเด่นในด้านการใช้ โคลง..ร่าย..กาพ..กลอนและร้อยแก้วในการแต่งวรรณคดีต่างๆและยังดีเด่นในเรื่องของเพลงยาวด้วย

 

โดย: น.ส.ศิริรัตน์ ยุทธนา ม. 6/2 IP: 61.19.153.195 9 มกราคม 2549 11:41:25 น.  

 

ไม่ว่าจะเป็นโคลง ร่ายกลอนและร้อยแก้วในสมัยร.1มีความไพเราะและเข้าใจง่ายเพราะกวีในสมัยร.1นี้มีความสามารถมากเป็นพิเศษในเรื่องนี้

 

โดย: ธเนศ 6/1 IP: 61.19.153.195 9 มกราคม 2549 11:47:11 น.  

 

ผมมีความคิดเห็นว่า รูปแบบของวรรณคดีในสมัยรัชกาลที่1
มีความไพเราะและกวีใช้คำสุภาพและใช้คำศัพท์ที่โดดเด่น
ทั้งด้านเสียงและความหมาย ฟังแล้วเกิดวามไพเราะ และนี่ก็คือความคิดเห็นของผม

 

โดย: ชวลิต แก้วแกมสุวรรณ IP: 61.19.153.195 9 มกราคม 2549 11:48:18 น.  

 

ผมมีความคิดเห็นว่า มีการแต่งเรื่องได้น่าสนใจน่าติดตาม ตอนต่อไป เพราะเรื่องราวแต่ละเรื่องล้วนชวนให้น่าติดตาม และมีเรื่องราวที่สนุกสนาน และ ใช้สำนวนที่ไพเราะ ไม่หยาบคายเกินไป >_<

 

โดย: ทศพร6/2 IP: 61.19.153.195 9 มกราคม 2549 11:50:52 น.  

 

คือไม่มีวรรณคดีเรื่องใดแต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทฉันท์เลยแม้แต่เรื่องเดียว ซึ่งทำใท้เข้าใจได้ง่ายขึ้น

 

โดย: พิสชา6/1 IP: 61.19.153.195 9 มกราคม 2549 11:52:00 น.  

 

ควรจะเป็นร้อยแก้ว เพราะอ่านแล้วจะทำให้เข้าใจง่ายมากกว่าร้อยกรอง

 

โดย: น.ส.สุนิศา ปานนุ่ม 6/1 IP: 61.19.153.195 9 มกราคม 2549 11:52:29 น.  

 

ข้าพเจ้ามีความคิดเห็นว่า มีการใช้คำประพันธ์ที่ไพเราะ เนื้อเรื่องชวนให้น่าติดตามมีตัวละครที่โดดเด่น ใช้ถ้อยคำที่เหมาะสม ทำให้เกิดความสนใจในเรื่องนั้นๆ

 

โดย: จีรยา 6/2 IP: 61.19.153.195 9 มกราคม 2549 11:55:38 น.  

 

ดิฉันคิดว่ารูปแบบของวรรณคดีสมัยรัชกาลที่ 1 มีการใช้โวหารเปรียบเทียบจึงทำให้เกิดความไพเราะ มีความหมายที่ลึกซึ้งมีการใช้คำที่สุภาพทำให้เกิดคารมคมคายให้ชวนคิด

 

โดย: พัชราวดี สืบสาย IP: 61.19.153.195 9 มกราคม 2549 11:56:27 น.  

 

จะเด่นในเรื่องการใช้ โคลง กลอน ร่าย และร้อยแก้วและไม่มีวรรณคดีเรื่องใดแต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทฉันท์เลยแม้แต่เรื่องเดียวโคลงและร่ายสมัยนั้นก็มีความนิ่มนวลไพเราะไม่แพ้สมัยอื่นๆเลย

 

โดย: น.ส.ธิติมา อ่างเงิน ม.6/2 IP: 61.19.153.195 9 มกราคม 2549 12:02:49 น.  

 

ในการแต่งคำประพันธ์ในทุกรัชกาลสมัย ถ้าเข้าใจถึงภาษาและรู้ความหมาย ก็จะพบเนื้อหาที่สอดแทรกให้นึกคิดและพึ่งไปปฎิบัติ อนึ่งว่าเป็นการเตือนสติและนำมาเป็นสิ่งจูงใจ ในบางครั้งยังแทรกความบันเทิงให้อ่านคิดตาม และ/หรือ คิดถึง


ปล.เป็นอะไรที่ทรมานมากพิมพ์ได้ข้างเดียว อีกข้างเดี้ยง

ปล2.เป็นบล็อคที่มืดมนมาก อ่านแล้วลายตา

ปรับหน่อยก็ดีนะครับ

[img]//www.khmaniacs.com/imagenes/gifs/khsprite_verygood.gif[/img]

 

โดย: สุกฤษฎิ์ 6/2 IP: 203.113.16.241 11 มกราคม 2549 14:49:50 น.  

 

ปล2.เป็นบล็อคที่มืดมนมาก อ่านแล้วลายตา
โทดทีคับที่บ้านเนตช้า โหลดแบกกราว ช้าตาม = =" มะเหงจิงๆง่า >_<"


ตายดีก่า

 

โดย: สุกฤษฎิ์ 6/2 IP: 203.113.16.241 11 มกราคม 2549 14:57:01 น.  

 

คุณค่าในการประพันธ์ของรัชกาลที่ 1 ให้ภาษาและการประดิษฐ์คำที่มีความหมายน่าคิดและเตือนใจตัวเอง เป็นภาษาที่สวยงาม

 

โดย: ธนินทร์ 6/2 IP: 203.113.67.105 11 มกราคม 2549 15:19:39 น.  

 

ร้อยแก้วคือไรบอกทีมันงงมาก

 

โดย: จูน IP: 222.123.0.185 11 กรกฎาคม 2550 19:54:55 น.  

 

บอกด้วยเด้อมานไม่รู้จริงๆครูให้เอากลับมาทำบ้าน

 

โดย: จูน IP: 222.123.0.185 11 กรกฎาคม 2550 19:57:42 น.  

 

 

โดย: จูน IP: 222.123.0.185 11 กรกฎาคม 2550 19:58:50 น.  

 

สวัสดีค่ะ

 

โดย: ก้อย IP: 203.146.63.189 1 กันยายน 2550 16:45:33 น.  

 

ราวลืมอ่านงะ

 

โดย: แหง่ว IP: 203.113.56.73 15 กันยายน 2550 3:19:08 น.  

 

 

โดย: เล็ก HoMe IP: 203.113.55.206 2 ธันวาคม 2550 21:06:08 น.  

 

ดีที่ค้นหาได้

 

โดย: ซี IP: 125.27.175.229 3 มกราคม 2551 14:44:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ratana_sri
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]







Friends' blogs
[Add ratana_sri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.