|
26 ธันวาคม 2557
|
|
|
|
นิทรรศการพิเศษ : โขน อัจฉริยนาฏกรรมสยาม (จบ)
ไม่มีหลักฐานว่าในอดีต โขนเคยเล่นเรื่องใดบ้าง แต่เรื่องที่แพร่หลายมาจนถึงปัจจุบันคือ รามเกียรติ์
ในสมัยอยุธยาโขนเป็นความสำราญการส่วนพระองค์ ปรากฏความรุ่งเรืองเป็น รามเกียรติ์คำพากย์เป็นบทพากย์ตั้งแต่สมัยอยุธยาที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่ค้นพบ ไม่ปรากฏผู้แต่ง แต่สันนิษฐานว่าน่าจะประพันธ์ขึ้นสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ความสละสลวยของคำประพันธ์เชื่อว่าแต่งโดยกวีราชสำนักเป็นบทพากย์โขนหลวง
สมัยกรุงธนบุรีสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ไว้ 8 ตอน ได้แก่ หนุมานเกี้ยววานวลิน ท้าวมลีวราชว่าความ ทศกัณฑ์ตั้งพิธีทรายกรด พระลักษณ์ต้องหอกกบิลพัสดุ์ ผูกผมนางมณโฑ และพระมงกุฎประลองศร แต่ไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากเป็นตอนสั้นๆ ไม่สามารถนำมาใช้ในการแสดงได้
เนื้อเรื่องที่ใช้แสดงปัจจุบันคือบทพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ ของพระมหากษัตริย์ไทยในรัชกาล 1,2 และ 4 จำนวนรวม 5 ฉบับ
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงสนับสนุนการฝึกหัดโขน ในราชสำนัก ยังทรงได้พระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง และผ่อนปรนกฎระเบียบให้วังของเจ้านายต่างๆ สามารถมีการฝึกหัดโขนได้ ยังโปรดให้มีการแสดงโขนในงานมหรสพสมโภชในพระราชพิธีต่างๆ ได้อีกด้วย
เช่นพิธีถวายพระเพลิงพระบรมอัฐิสมเด็จพระปฐมบรมราชชนก การฉลองวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พระราชพธีผนวชเจ้าฟ้าเสนานุรักษ์ นอกจากนี้ยังทรงมีพระราชดำริให้เกิดมีโขนชักรอกขึ้นเป็นครั้งแรกอีกด้วย
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระราชนิพนธ์บทละครรามเกียรติ์ โดยทรงตัดทอนจากฉบับรัชกาลที่ 1 ให้มีความย่นย่อเพื่อไม่ให้เกิดความน่าเบื่อหน่าย เหมาะสมกับการนำไปใช้แสดง ซึ่งเป็นฉบับที่กรมศิลปากรนิยมนำมาใช้เมื่อจัดโขน นอกจากนี้ยังได้พระราชนิพนธ์คำพากย์สำหรับเล่นโขนและหนังใหญ่จำนวน 4 ตอน
ได้แก่ พรหมมาสตร์ นาคบาศ เอราวรรณ และตอนนางลอย
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นรัชกาลที่มีการสร้างวัดมากที่สุด แต่ในทางการแสดงนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าไม่ทรงสนับสนุนมากเท่าใดนัก แต่กระนั้นก็ยังทรงโปรดให้เกล้าให้มีโขนในงานพระราชพิธีต่างๆ เช่น งานพระเมรุ งานสมโภชฉลองวัดต่างๆ
ในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์บทละคร เรื่องรามเกียรติ์ไว้ 3 ตอน ได้แก่ พระรามเดินดง บทเบิกโรงตอนนารายณ์ปราบนนทุก และตอนพิราพเข้าสวน นอกจากนี้ยังได้โปรดให้มีการฟื้นฟูโขนหลวงขึ้นมาใหม่ และยังทรงโปรดเกล้าให้มีโขนในงานพระราชพิธีต่างๆ เช่น งานพระเมรุ เป็นต้น
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้านอกจากโปรดเกล้าให้มีโขนในงานพระราชพิธีต่างๆ ยังมีการฝึกหัดโขนของมหาดเล็กโดยสมเด็จเจ้าฟ้าวชิรุณหิศ เรียกว่าโขนสมัครเล่น ความนิยมยังแพร่หลายมีการฝึกหัดโขนบ้านของขุนนางผู้ใหญ่อีกด้วย ทำให้มีการแสดงโขนในงานระดับชาวบ้าน ที่มิใช่เพียงงานพระราชพิธีเท่านั้น
จากการเป็นผู้ควบคุมวงคณะโขนสมัครเล่น เมื่อถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า การเล่นโขนในราชสำนักจึงเฟื่องฟูจนถึงขีดสุด โดยทรงโปรดให้ตั้งกรมมหรสพขึ้น ซึ่งมีโรงเรียนพรานหลวงเพื่อฝึกหัดให้เด็กๆ ที่เข้าเรียนมีความรู้ทั้งสายสามัญและศิลปะ
นอกจากนี้ยังทรงพระราชนิพนธ์บทพากย์และบทขับร้องเรื่องรามเกียรติ์ฉบับฤาษีวาลมีกิ ทรงเป็นผู้จัดการแสดง บอกบทพากย์และเจรจา กำกับการแสดงด้วยพระองค์เอง ทรงประดิษฐ์ราชทินนามแก่ศิลปินโขนที่มีชื่อเสียง มีเรือนพักประจำตำแหน่ง สำหรับคณะโขนส่วนพระองค์ เรียกว่า โขนบรรดาศักดิ์
สมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเศรษฐกิจนั้นตกต่ำ ทำให้ลดฐานะกรมมหรสพหลวง เหลือเพียงกองมหรสพ แต่ก็ยังมีการจัดแสดงโขนชุดพระพิราพในงานสมโภชช้างเผือก หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง กองมหรสพได้ย้ายมาสังกัดกรมศิลปากร และต่อมาได้มีการตั้งโรงเรียนนาฏดุริยางคศาสตร์เพื่อสืบทอดการแสดงโขนสืบมา
นาฏยเลิศล้ำ โลกา บอกเล่ารามายณา เอ่ยอ้าง เป็นของเก่านานมา หนก่อน เพียรต่อสืบสานสร้าง คู่แคว้น แดนไทย
Create Date : 26 ธันวาคม 2557 |
|
3 comments |
Last Update : 22 มีนาคม 2565 8:50:45 น. |
Counter : 306 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
ผู้ชายในสายลมหนาว |
|
|
|
|
มายิ้มตอบจากเอนทรี่เก่าด้วย