5 วันลุยดอยเชียงใหม่ (วันที่ 4 ดอยอ่างขาง-ดอยปุย-เชียงใหม่)
วันเสาร์ที่ 10 ธ.ค.54
ย้อนดู วันที่ 3 บ่อน้ำร้อนโป่งกวาว สะเมิง -ดอยอ่างขาง คลิ๊กเลย
หกโมงเช้า อากาศหนาวมาก หมอกตรึมเลยครับ
อากาศตอนเช้าลดลงมานิดหน่อย จากเมื่อตอนเย็น แต่เมื่อคืนนอนที่ห้องไม่หนาวเท่าไหร่ครับ ผมสามทุ่มก็หลับสนิทแล้ว
ผมเดินชมรีสอร์ทไปเรื่อยๆ มีพญาเสือโคร่งถ้าบานครบทุกต้นคงสวยน่าดู
วันนี้ทั้งที่พักและเต็นท์เต็ม มีนักท่องเที่ยวเอาเต็นท์มากางเองด้วย
แปดโมงแดดเริ่มมาแล้ว แต่หมอกยังเหมือนเดิม
ที่รีสอร์ทมีลำธารเล็กอยู่ด้านหลังด้วย พร้อมแปลงดอกไม้ สวยงาม
แปดโมงผมเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วลงมากินอาหารที่รีสอร์ทครับ (อาหารเช้ารวมค่าที่พักแล้วครับ)เป็นข้าวต้ม ให้กับข้าวมาเยอะเลย ไม่ขี้เหล่ จัดให้เป็นชุดใครชุดมันชอบตรงที่ไม่ต้องมานั่งรวมกันกับข้าวมี 4 อย่าง ไข่เจียว ผัดผัก หมูผัดขิงแล้วก็ยำผักกาดดอง ทุกอย่างเติมไม่อั้น แต่ผมชุดเดียวอยู่เลยครับ เช้านี้อากาศหนาวกินข้าวต้มร้อนๆ ฟินอย่าบอกใคร
เก้าโมงเช้าฤกษ์ดี ล้อหมุนครับ ตอนแรกตั้งใจจะไปเดินตลาดหน้าสถานีเกษตรอ่างขาง ว่าจะไปหาของกิน แต่อิ่มซะก่อนเลยเปลี่ยนแผน ขอขึ้นไปเที่ยว บ.นอแล จากป้ายถ้าจะไปสถานีเกษตรหลวงอ่างขางให้ขับตรงไป คนละทางกับ บ.นอแล
ขับไปเปลี่ยนใจไม่ไปแล้ว ขอเข้าไปดูหน่วยจัดการต้นน้ำแม่เผอะดีกว่า เพราะผ่านมาเห็นดอกพญาเสือโคร่งกำลังบาน ก่อนถึงแยก ให้เลี้ยวขวาลงไป สังเกตุป้ายแล้วกัน (เห็นธงชาติไทยเล็กทางขวามือเปล่า ตรงนั้นจะมีป้าย เป็นทางเข้า แม่เผอะครับ)
ป้ายจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็เห็นชัดเจนดี
ทางลงจะมีต้นพญาเสือโคร่งปลูกเรียงกันไปตามถนน กำลังบาน 60 เปอร์เซ็นต์แล้ว ขับเข้าไปประมาณ กิโล ก็ถึงแม่เผอะ ข้างในมีบ้านพักและที่กางเต้นท์ไว้สำหรับนักท่องเที่ยวด้วย
เข้าไปถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่นิดหน่อยก็ขับลงดอย ขึ้นมาจากแม่เผอะ ก็เลี้ยวซ้าย ขับมาหน่อยจะมาเจอจุดกางเต้นท์บนอ่างขาง ผมเซทไมล์ที่รถเป็น 0 ก.ม.เวลา 9.20 น.ตรงนี้ครับ
ขับไปเรื่อยๆผ่านที่เดิม มีตลอดทางทั้งสองฝั่งเลยครับ ผมขับไปจอดไป เสียเวลากับถนนสายนี้มากที่สุด คุ้มครับคุ้ม
หลังจากซืมชับกับดอกพญาเสือโคร่งเต็มอิ่มแล้วก็มาถึงฐานปฏิบัติการ เมื่อวานหมอกยังไม่มี แต่วันนี้ตรึมเลยครับ
เทียบจากเมื่อวานที่ผมมา ยังเห็นยอดเขา แต่วันนี้ไม่เห็นอะไรเลย ส่วนถนนเห็นแค่ระยะ 5 ม.เอง ถามเจ้าหน้าที่ว่าอีกนานเปล่าครับว่าหมอกจะหมด เจ้าหน้าบอกว่าถ้าอย่างนี้ถึงบ่ายไม่รู้จะหมดหรือเปล่า
ผมไม่รอถึงบ่าย ขับลงมาเลย ค่อยๆขับค่อยๆคลำทางไป ไม่กี่กิโล ก็ลงเขาหมอกไม่มีแล้ว มีแต่ถนนอย่างนี้อ่ะ
ขับไปจะมีด่านตรวจตรงแยก ตอนแรกผมว่าจะลองกลับไปอีกทาง แต่เจ้าหน้าที่แนะนำว่าให้ลงทางไชยปราการดีกว่า ถนนดีกว่าและไม่ไกลด้วย ผมก็เลยลงทางเดิม ทางไชยปราการ ลงมาถึงตีนดอย ก่อนถึงปากทาง จะมีไร่สตอเบอรี่ ร้านขายผลไม้หลายเจ้า ผมแวะเจ้านี้โดนไปหลายบาทอยู่เหมือนกันครับ
ผมมาถึงไร่จุ่นจันทร์ 10.15 น.ครับ
ได้ของฝากเสร็จก็เดินทางต่อ ขับไปเรื่อยๆ ก็มาถึงปากทางเข้าอ่างขาง เวลา 10.44 น.ระยะทางจากจุดกางเต้นท์ 24.4 ก.ม.ครับ เวลา 11.00 น.ก็มาถึง ไชยปราการขับไปเรื่อยๆ รถค่อยข้างเยอะ แต่ไม่ถึงกับติดวิ่งขึ้นเขา ลงตีนดอย ปุเรงๆกันไป ใช้ความเร็ว 40-80 ก.ม./ชม. เที่ยงกว่าๆก็มาถึงแม่ริม แวะหาญาติหน่อยครับ ญาติเลยพาไปเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวที่แม่ริม อยู่ตรงสี่แยก (จำไม่ได้ครับว่าอยู่แยกไหน แต่น่าจะเป็นแยกใหญ่) ก๋วยเตี๋ยวเนื้ออร่อยมากเลยครับ ผมกับแฟนคนละชาม พิเศษ อิ่มมาก แต่จำชื่อร้านไม่ได้
หลังจากร่ำลาญาติเสร็จก็ออกเดินทางต่อ ขับไปจนถึงดอยสุเทพฯ ตั้งใจจะขึ้นไปไหว้ครับ เพราะเป็นพระธาตุปีเกิดผม แต่หาที่จอดรถไม่ได้ เลยขอขึ้นดอยปุยก่อนแล้วกัน ขากลับค่อยแวะมาไหว้พระธาตุดอยสุเทพ เส้นทางจากดอยสุเทพ จะขึ้นเขาตลอด มีชันเป็นบางช่วง ถนนลาดยางดีครับ แต่แคบไปหน่อย ขับระวัง ไม่ประมาทก็ไม่น่ากลัว เวลา 15.11 น.ก็มาถึงดอยปุย ระยะทาง 187 กม.
รถเยอะมาก ผมเข้าไปที่จอดรถได้ ก็เดินลุยเลย ตื่นตาตื่นใจมาก ชอบอ่ะ
มีหลายเจ้าเลยครับ
เดินตลาดเสร็จ ขึ้นไปชมสวนดอกไม้ข้างบนต่อครับ เก็บค่าเข้าคนละ 10 บาท
ทางขึ้น
ขึ้นไปถึงก็จะเจอพิพิธภัณฑ์ชาวเขาเผ่าแม้ว ดอยปุย เข้าไปดูมีจัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตชาวเขา
ข้างบนมีชุดชาวเขาให้เช่าใส่ไว้ถ่ายรูป มีหลายร้าน ค่อยๆเดินเลือกชุดเอาแล้วกัน มีให้เช่าตั้งแต่ 30-50 บาทแล้วแต่ร้านครับ แฟนผมไม่กล้าใส่ กลัวลงดอยไม่ได้
บริเวณสวนจะปลูกต้นไม้ตามเนินเขา
ผมเดินอยู่บนสวนประมาณครึ่งชั่วโมงได้ก็ลงจากสวนแล้วครับ ลงมาก็มีของขายตลอดทาง
ตอนขาขึ้นผมไม่ได้ขึ้นทางนี้นะครับ ผมขึ้นอีกทาง แต่ขาลงผมลงย้อนป้ายนี้ลงมานะครับ
ถ้าเลี้ยวซ้ายก็ลงตลาดกลับไปลานจอดรถ แต่ผมเห็นป้ายนี้เข้า
ตัดสินใจยังไม่กลับครับ เดินตรงไป ไหนๆก็มาแล้ว ขอชมหน่อย
ระหว่างทางไปน้ำตก
จ่ายค่าเข้าเสร็จเดินตรงไปก็เป็นทางลงไปน้ำตกแล้วครับ
น้ำตกมาอยู่กระจึ๊งเดียว
ภายในอากาศเย็นดีครับ สวนไม่ใหญ่มาก มีดอกฝิ่นปลูกให้ดูด้วย
ช่วงเดินกลับ ผ่านศูนย์แสดงหุ่นจำลอง ผมไม่ได้แวะชมครับ
เวลาแ16.00 น.ผมก็ลงจากดอยปุย เจอน้องเค้านั่งเล่นกับเพื่อนอยู่เห็นน่ารักดี เลยเอามาลาปิดท้ายทริปดอยปุยแล้วกันครับ
ขากลับ ขับมาหน่อยจะมีทางแยกเลี้ยวซ้ายไป ขุนช่างเคี่ยน ตอนแรกผมอยากจะเข้าไปดู แต่ลองถามๆคนแถวนั้นบอกว่าดอกพญาเสือโคร่งยังไม่บาน เลยไม่แวะดีกว่า ขับมาเรื่อยๆ ผ่านภูพิงค์ ไม่ได้แวะ มาถึงพระธาตุดอยสุเทพ วนสามรอบแล้วยังหาที่จอดรถไม่ได้เลยไหว้พระธาตุที่บนรถนั้นแหละครับ (ไม่เป็นไรผมเคยมาไหว้ 3 ครั้งแล้ว) ครั้งนี้ครั้งที่ 4 ไหว้บนรถก็ได้เนอะ เป็นพระธาตุประจำปีผมด้วย ไหว้เสร็จก็ขับลงมาถึงตีนดอยสุเทพ เวลา 16.42 น.ระยะทางทั้งหมด 206 กม. จากตีนดอยไปที่พัก รร.โลตัสปางสวนแก้ว ประมาณ 4 ก.ม. รถติดมาก เวลา 17.25 น.ถึงโรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว
ผมได้ชั้น 10
ผมอธิบายห้องไม่เป็น ดูคุณprettyguide เค้ารีวิวไว้ในพันทิปแล้วกัน คลิ๊กเลยส่วนของห้องนอน
ที่พักโอเคเลยครับ ห้องผมหันหน้าไปทางดอยสุเทพ แถมทำเลอยู่ในเมืองไม่ไกลจากถนนนิมมานฯ รร.ติดกับห้างเซนทรัลเดินผ่านได้เลยครับ ผมเอาของขึ้นไปเก็บเสร็จ ก็ไปเดินถนนวัวลายต่อ ผมตัดสินใจไม่เอารถไป นั่งสองแถวหน้าเซนทรัลนั้นแหละ คนละยี่สิบบาท
นั่งซักพักก็มาถึงถนนวัวลาย
ผมเคยมาเดินถนนคนเดินที่ท่าแพประทับใจมากครับ แต่ถนนวัวลายผมเพิ่งเคยมาเดินครั้งแรก เดินไปรู้สึกผิดหวังมากเลยอะ ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย เหมือนตลาดนัด รีบเดินให้เสร็จๆ จากหัวถนนถึงท้ายถนน กลับไปดูละครที่โรงแรมดีกว่า
นั่งรถตุ๊กๆกลับโรงแรม โดนไป 120 บาท ตอนแรกเรียก 150 ต่อได้แค่นี้ ทำไมแพงจัง
กลับมาถึงเซลทรัล หิวดิ เห็นขายอาหารอยู่ กินที่นี้กันตายไปก่อนแล้วกัน
อิ่มเสร็จก็ขึ้นไปที่พัก อาบน้ำ ดูช่องสามจบ แฟนบอกอยากไปเดินนิมมานฯต่อ เพราะผิดหวังกับวัวลายมา เอาตามใจ เดินมาขึ้นตุ๊กๆที่หน้าเซนทรัลต่อ โดนไป 70 บาทแล้วก็มาถึง
เดินไปเรื่อยๆ หมดซอย 1 ก็เดินไปถึงซอย 9
หลังจากเดินจนครบทุกซอยก็ได้เวลากลับที่พัก พรุ่งนี้เดินทางกลับบ้านแล้วครับ คลิ๊กเลยค่าเสียหายวันที่ 10 ธ.ค.541. พุทรา+องุ่น ที่ไร่จุ่นจันทร์ (อ่างขาง) 700 บาท 2. ค่าสระผม 60 บาท 3. ค่าจอดรถที่ดอยปุย 30 บาท 4. ค่าเข้าชมสวนดอกไม้ที่ดอยปุย 20 บาท 5. ค่าเข้าชมน้ำตกที่ดอยปุย 40 บาท 6. ค่ารถไปวัวลาย 40+120=160 บาท 7. ค่าขนมที่ ถ.วัวลาย 60 บาท 8. ค่าอาหาร+น้ำ+ของกินเล่น มื้อเย็นที่เซลทรัล 146 บาท 9. ค่ารถตุ๊กๆไป ถ.นิมมานฯ 70 บาท 10. ซื้อแจกันที่ นิมนาม ฯ 1 ใบ 120 บาท 11. ค่าที่พักโรงแรมโลตัส ปางสวนแก้ว 1,400 บาท รวม 2,806 บาท
Create Date : 21 ธันวาคม 2554 |
|
8 comments |
Last Update : 8 มกราคม 2560 20:30:48 น. |
Counter : 8285 Pageviews. |
|
|
|