เชียงใหม่ 3 วัน 2 คืนกับครอบครัว



ทริปนี้พาแม่ไปหาน้องชาย (น้าชายผม) ที่เชียงใหม่ครับ เนื่องจากมีเวลาหยุด 3 วัน 5-6-7 พ.ค.ที่ผ่านมา เลยถือโอกาส ไปเที่ยว ไปกันทั้งหมด 4 คน มีแม่ผม หลานสาว แฟนผมและก็ผมเอง ทุกอย่างเตรียมการแค่ สองอาทิตย์ ฉุกละหุกนิดนึง ไปเที่ยวเชียงใหม่ด้วยกันครับ






วันแรกจองตั๋วแอร์ เอเชียไป ผมเลือกไฟล์ 06.40 น.ไปถึง 07.55 น.(เช้าวันเสาร์ที่ 5 พ.ค.) ราคาคนละ 2,050 บาท จ่ายค่าโหลดกระเป๋าอีก 20 กิโล 290 บาท แพงแท้เหลา ถ้าไปกับแฟนสองคน รับรองขับรถไปเองแล้ว ดีที่เครื่องบินใหม่ทั้งลำ แถมตอนเช็คอินที่เคาเตอร์ เค้าอัพให้พวกผมขึ้นไปนั่งแถวหน้าเลยครับ เพราะเห็นมีผู้สูงอายุไปด้วย

เครื่องออกตรงเวลา ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ แปดโมงก็มาถึงเชียงใหม่ เริ่มเข้าเขตเชียงใหม่ ฝนเริ่มตกพรำๆแล้วครับ









หลังจากถึงสนามบิน จะมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทรถมาถือป้ายชื่อผมรอที่หน้าสนามบิน แล้วก็พาไปเซ็นต์เอกสารนิดหน่อย  (ผมซื้อ voucher รถเช่าต่อจากเพื่อนๆที่เอามาขายในเนทครับ เป็นของ North Wheels ใบละ 800 ต่อวัน น้องเค้ามีสามใบพอดี ผมไปรับเองถึงที่ทำงาน น้องเค้าลดให้อีก 100 เหลือ 2,300 บาท ) 











ได้รถวีออส 1500 รุ่น เจ สภาพเยินนิดหน่อย แต่พอรับได้ ไมล์ 80,000 คันนี้ไงครับ







รับรถ ทำรายการเอกสารเสร็จ (มีรูดบัตรเครดิตมัดจำ 5,000 บาท+ขอดูใบขับขี่รถยนต์+บัตรประชาชน) ก็ขับออกจากสนามบิน ตรงประตูด้าน โลตัส เลี้ยวขวายิงยาวโลด.. ถึงแยกอะไรก็ไม่รู้  มีป้ายบอกไปหางดงก็เลี้ยวซ้ายไปเลยครับ ประมาณเก้าโมงแวะปั๊มน้ำมัน กินข้าวตรงแถวหางดง มีอาหารหลายอย่าง เป็นข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ส่วนของผม ก็ข้าวกระเพราหมู ไข่ดาว อาหารสิ้นคิด แต่เป็นอาหารจานโปรด มื้อนี้หมดประมาณสองร้อยนิดๆ ถูกใจ

เห็นรถวีโก้ จอดอยู่แล้วคิดถึงรถตัวเองเลยครับ















หลังจากอิ่มแล้ว ก็พาแม่ผมไปวัดพระธาตุจอมทองต่อ (ห่างจากหางดงประมาณ 45 ก.ม.)

ประวัติพระธาตุจอมทอง ตั้งอยู่บนเนินสูงที่เรียกว่า “ดอยจอมทอง” อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ จอมทองอยู่ห่างจากตัวจังหวัดไปทางใต้ประมาณ 58 กิโลเมตร พระบรมธาตุที่ประดิษฐานอยู่ที่นี่เป็น “พระทิกขิณโมฬีธาตุ” (คือกระดูกกระหม่อมด้านขวา) แม้จะมีประวัติมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลดังที่กล่าวแล้ว แต่สถาปัตยกรรมหลักของวัดนี้ก็มีอายุประมาณไม่เกิน 500 ปี คือสร้างในสมัย พระเมืองแก้ว หรือ พญาแก้วภูตาธิปติราชาเจ้า (พ.ศ. 2038 – 2068) กษัตริย์ล้านนาแห่งราชวงศ์มังราย ซึ่งยุคนี้อยู่ในช่วงยุคทองของล้านนา แต่พระเจดีย์วัดพระธาตุศรีจอมทองนั้นยังอายุต่ำลงมาอีก คือเป็นเจดีย์แบบหลังสุดของสถาปัตยกรรมล้านนาน เป็นรุ่นหลังสมัยของพระเมืองแก้วลงมาแล้ว

ข้อมูล //www.oceansmile.com/N/Chianmai/Pratadjomtong.htm







ผมโชคดี ที่วันนี้เป็นวันพระใหญ่ เค้าจะทำพิธีรดน้ำพระธาตุ ชาวบ้านเค้าจะเอาน้ำดอกคำฝอยมารดน้ำพระธาตุกันครับ แล้วมีพระมาสวดทำพิธี เห็นชาวบ้านมาทำบุญแล้วน่าปลื้มใจครับ



























เข้าไปนั่งฟังในโบสถ์ได้ซักพัก ประมาณห้าโมงกว่าๆได้เวลาไปเที่ยวดอยอินทนนท์ แต่ก่อนขึ้นดอย แวะเข้าที่พักก่อนครับ คืนนี้ผมจองที่พักที่ touchstarresort ครับ อยู่ก่อนขึ้นดอยอินทนนท์ 1 ก.ม.ครับ รีสอร์ทก็หาจากห้องบีพีนั้นแหละครับ ราคาจากห้องละ 2,000 เหลือ 1,000 บาท

เวปรีสอร์ //www.touchstarresort.com/home_thai.html







เข้าไปถึงรีสอร์ท น้องๆพนักงานน่ารักมากครับ พาไปชมให้ดูทุกห้องเลยว่าจะเลือกแบบไหน ที่รีสอร์ทจะมีหลายแบบ

แบบ Swiss Cottage ภายในดูแคบไม่ค่อยส่วนตัวเท่าไหร







Deluxe room เป็นตึกสองชั้น ห้องกว้างแต่อยู่ไกลหน่อย









Single Cottage เลือกห้องนี้ ถึงจะแคบแต่ดูส่วนตัว สมาชิกชอบแบบนี้มากที่สุด





ได้ห้องริมน้ำ R5-R6 ครับ 





เข้าไปดูห้อง ภายในจะแต่งคล้ายๆกัน มีแบบเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ มีแอร์ ห้องน้ำในตัวพร้อมน้ำอุ่น









นอกบ้านจะมีระเบียงพร้อมโต๊ะยาวไว้นั่งเล่น





เลือกห้องเสร็จ เอากระเป๋าเก็บก็ขับขึ้นไปบนดอยอินทนนท์ต่อครับ (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่เสียค่าเข้าชมตามอุทยานทุกที่ครับ)

เอาข้อมูลดอยอินทนนท์ที่ผมเคยหามาฝาก ลิงค์นี้ครับ ละเอียดสุดๆเเล้ว //www.thaiweekender.com/index.php/doiinthanon.html

ที่แรกผมขับมาถึงสองพระธาตุ







































ทำบุญนิดหน่อย เสร็จแล้วก็ขับลงไปสถานีเกษตรดอยอินทนนท์ต่อ มาถึงดอยอินทนน์เวลาประมาณบ่ายโมงกว่าๆ ได้เวลากินข้าวแล้ว ผมพาไปกินบนสถานีเกษตรดอยอินทนนท์ 







ไม่รู้ว่าบ่อปลาเทราต์ปิดครับ เสียดายเลยอดกินเลย (บ่อปลาเทราต์ปิดปลายเดือน เม.ย.-ส.ค.) เลยสั่งปลาสเตอร์เจียนรมควันนึ่งซีอิ๋วแทน ความสด อร่อยยังสู้ปลาเทราต์ไม่ได้ 





กุ้งก้ามแดงราดซ้อดมะขาม น้ำซ้อดเข้มข้น กุ้งเนื้อเด้งมาก จานนี้อร่อยมากครับ




สลัดผัก ผัดสด กรอบมาก น้ำสลัดก็อร่อย







แกงเลียง แม่ผมซดคนเดียวเกลี้ยงถ้วย บอกถูกปากมาก





ยำก้านคะน้าใส่กุ้ง ก้านคะน้ากรอบมาก ไม่เหม็นเขียว เปรี้ยว หวาน เผ็ด ลงตัวมาก





เห็ดหอมทอดซีอิ๋ว ไม่อร่อย จานนี้เฉยๆ





สรุป พวกผักที่นี้สด อร่อยทุกอย่างยกเว้นเห็ดที่ยังไม่โดน มื้อนี้หมดไป แปดร้อยกว่าบาท แพงตรงกุ้งราดซ้อดมะขาม มีสามตัว จานละสามร้อยบาท กับปลาสเตอร์เจียนครับ ตัวละสองร้อย นอกนั้นราคาพื้นๆ แต่โดยรวมถือว่าราคาไม่สูงมากครับ รับได้ 





พออิ่มเสร็จได้เวลาเดินย่อยชมดอกไม้ ในสถานีเกษตรกันต่อ





ดอกไม้หน้าฝน ผมว่ายังสวยสู้หน้าหนาวไม่ได้ครับ และดอกไม้ที่ปลูกก็เปลี่ยนไปตามฤดู 

























หน้าฝนก็สวยไปอีกแบบครับ ช่วงที่ผมไปข้างบน อากาศเย็นไม่ร้อนมาก มีฝนตกบ้างประปราย ลาด้วยเจ้าหงษ์ขาวนี้แล้วกันครับ





ประมาณบ่ายสาม ก็ลงจากสถานีเกษตรมาตรงตลาดม้ง (ใช่เปล่าหว่า) แวะซื้อของนิดหน่อยครับ













สี่โมงเย็นก็มาถึงรีสอร์ท แยกย้ายเข้าห้องพัก พอเข้าห้องพักได้ฝนก็ตกตลอดเลยครับ ตอนแรกตั้งใจจะถ่ายรูปบรรยากาศกาศรอบๆรีสอร์ทซะหน่อย ก็เลยอดถ่ายรูป

ได้เวลาสองทุ่มฝนก็ยังไม่หยุดตก เลยกางร่มไปกินข้าวที่ห้องอาหารของรีสอร์ท อาหารของรีสอร์ทตอนแรกกะกินกันตาย เพราะขี้เกียจขับรถออกไปกินข้างนอก สั่งพวกข้าวต้ม ข้าวผัด กระเพรา แล้วก็ต้มยำ มากิน ไม่อยากบอกว่าอร่อยมากกกกกกก 555













เมื่อคืนฝนตกพร่ำๆ ตลอดเย็นดีจัง ตัดมาตอนเช้าเลยครับ ฝนก็ยังไม่หยุดตก เลยได้ถ่ายรูปมาอีกบรรยากาศนึง









ขนุนปลูกอยู่หน้าห้องผมนั้นแหละครับ ดกมากกกกกก





แปดโมงเช้าเดินไปกินข้าวที่รีสอร์ท อาหารก็ง่ายๆ ข้าวต้ม ข้าวผัดกระเพรา ขนมปัง ทำนองนี้ครับ









ที่รีสอร์ทมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆเยอะเลยครับ เสียดาย ฝนตกเลยถ่ายรูปมาได้นิดหน่อย























เก้าโมงฝนยังไม่หยุดตก ก็ได้เวลาออกจากรีสอร์ทไปเที่ยวต่อ ก่อนลาจากรีสอร์ทขอถ่ายรูปเจ้าข้าวต้มหน่อยนะครับ มันน่ารักมาก เดินตามมาส่งผมถึงที่ห้อง ไปไหนก็ตามไป แถมตอนกลางคืนยังนั่งเฝ้าหน้าห้องผมอีกต่างหาก น่ารักมาก ชื่อข้าวต้มครับ





ตอนแรกตั้งใจจะพาแม่ไปเที่ยวที่กฤษดาดอย แต่เจอสภาพอย่างนี้เลยขับไปแม่ริมบ้านน้าชายครับ





โทรไปหาน้าชาย บอกว่าเดี๋ยวพาไปกินร้านส้มตำอร่อยๆ ในตัวเมืองเชียงใหม่ นัดเจอกันที่หน้าราภัฎเชียงใหม่แล้วกัน เกือบเที่ยงเราก็มาเจอกัน แล้วน้าพาเข้ากาดธานินท์ (อยู่ตรงข้ามกับราชภัฏเชียงใหม่) ร้านส้มตำจะเข้าทางกาดแล้วขับวนไปวนมา ผมก็บอกทางไม่ถูกเหมือนกัน 555

ร้านส้มตำ ป้าอ้วน





ส้มตำร้านนี้อร่อยทุกอย่าง ไก่ย่างก็อร่อย แต่ตับหวานไม่ผ่านครับ เฉยๆอ่ะ นอกนั้นผ่าน ส่วนมื้อนี้น้าผมเป็นเจ้ามือ

















อิ่มเสร็จก็ออกมาซื้อไส้อั่วในกาดธานินท์ มีแพคกลับบ้านให้ด้วย ร้านนี้อร่อยจริงๆ แนะนำเลยครับ







เกือบบ่ายสอง ฝนยังตกอยู่เลยครับ ไม่รู้จะไปไหน เลยขับไปบ้านน้าชายที่แม่ริม (คืนนี้นอนค้างที่บ้านน้าชายครับ)

วิวถ่ายจากสวนในบ้านครับ ตอนเช้าหมอกตรึมเลย





ช่วงประมาณบ่ายสามก็นอนพักผ่อน ประมาณห้าโมงเย็น น้าก็พาไปกินมื้อเย็นที่ร้านบ้านสวนแม่ริมต่อ สั่งมาหลายอย่างมาก แต่ไม่กล้าถ่ายรูปเกรงใจผู้ร่วมโต๊ะ





หลังจากทานเสร็จผมกับแฟนและหลานก็ขับไปเดินถนนคนเดินที่ประตูท่าแพต่อ ส่วนแม่ผมก็กลับไปนอนที่บ้านกับน้าชาย

ผมมาถึงถนนคนเดินประมาณหนึ่งทุ่ม







ผมชอบเดินถนนคนเดินประตูท่าแพมากกว่าถนนวัวลายอีกครับ มันมีอะไรให้ดูเยอะกว่า ระหว่างเดินก็มีฝนตกปรอยๆเป็นระยะๆ วันนี้ร้านไม่ค่อยเยอะ นักท่องเที่ยวก็น้อยเพราะฝนตกมั่ง เลยไม่ค่อยมีคนเดิน แต่ก็ยังมีอะไรให้ดูอีกหลายอย่าง ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมามาก เพราะมัวแต่เดินดูของ เดินจนทั่วเสร็จก็กลับประมาณสี่ทุ่มกว่าๆ ไปถึงบ้านน้าห้าทุ่มนิดๆ





















เกือบลืมเล่าความประทับใจของคนเชียงใหม่แล้วครับ ช่วงที่ผมไปถนนคนเดิน จอดถามน้องว่าจะไปหาที่จอดรถได้ตรงไหน น้องเค้าก็บอกทาง ผมก็ยังงงๆ ก็ขอบคุณน้องเค้าไป แล้วขับมาแบบมึนๆ ซักพักน้องเค้าขับมอเตอร์ไซด์มานำทางไปที่จอดรถ ใกล้ถนนคนเดินที่สุด ประทับใจมาก ว่าจะถามชื่อน้องเค้าหน่อย พอเค้าเห็นผมจอดรถได้ น้องเค้าก็ขับรถออกไปเลย ประทับใจสุดๆ ขอบคุณน้องมากเลยนะครับ

ตัดมาตอนเช้า น้าผมพาไปทำบุญที่วัดป่าดาราภิรมณ์ แต่เช้า ใกล้ๆบ้านน้านั้นแหละครับ









หลังจากทำบุญเสร็จ ก็ขึ้นไปถ่ายรูปภายในโบสถ์ วิหาร วัดนี้สวยจริงๆเลยครับ









































หลังจากทำบุญเสร็จ ก็ไปนั่งชิลๆที่ร้านข้าวแฝ่





ร้านนี้น่ารักดี ตกแต่งร้านเก๋เชียวมีมุมถ่ายรูปเยอะเลยครับ นอกจากจะขายน้ำปั่นต่างๆแล้ว ยังมีส่วนร้านอาหารอีกด้วย ใครผ่านไปลองแวะไปได้ครับ





































หลังจากสั่งน้ำมาดื่มนั่งกินขนมนิดหน่อยก็ได้เวลากลับเข้าบ้านเตรียมตัวกลับ กทม.แล้วครับ ระหว่างทางไปบ้านน้าฝนหยุดตก เจอต้นไม้หางนกยูงกับคูนบานสองข้างทางแวะถ่ายรูปนิดนึง





























ตอนบ่ายสามก็ได้เวลากลับบ้าน ร่ำลาน้าเสร็จ ก็ขับออกมาหาอะไรกินในเมืองนิดหน่อย แล้วคืนรถ ห้าโมงเย็นที่สนามบิน ขากลับผมกลับนกแอร์ ตกคนละ2,490 บาท มาลงดอนเมืองใกล้บ้านหน่อย 













กลับเที่ยวบินประมาณหกโมงเย็นครับ มาถึงสนามบินดอนเมืองทุ่มนิดๆ ขากลับเด็กมารับผิดสนามบินโทรคุยกันตั้งนาน ต่างคนต่างก็รอ ผมก็เดินหาว่าจอดอยู่ตรงไหนเด็กก็ถามว่ารออยู่ตรงไหนขับวนหลายรอบแล้ว คุยไปคุยมาบอกว่าไปรับที่สุวรรณภูมิ เพราะตอนให้มาส่งที่สุวรรณภูมิ ลืมบอกว่าขากลับดอนเมือง 555 เลยนั่งแท็กซี่กลับเอง 

ทริปนี้จัดให้แม่ผมโดยเฉพาะ ขอบคุณน้าต้อยและน้าแมว(น้าสะใภ้) ที่รับรองดูแลเป็นอย่างดี ลาด้วยภาพหยดน้ำบนต้นหางนกยูงข้างทาง






 

Create Date : 11 มิถุนายน 2555
4 comments
Last Update : 14 มกราคม 2560 13:14:29 น.
Counter : 4031 Pageviews.

 

 

โดย: Kavanich96 12 มิถุนายน 2555 8:44:38 น.  

 

สวัสดีคะพี่ต้อง

กว่าจะได้ดูทริปเชียงใหม่ นีลืมไปเลยนะเนี้ย แล้วยังมีอีกตั้งสองทริปที่ไปมาแล้วจะขยันอัพให้น้องดูได้เมื่อไรคะเนี้ย

แล้วนี้อัพบล็อกเสร็จก็ไม่ยอมขึ้นหน้าแรกให้เราเห็นด้วยนะ น่าจริง ๆ เลยพี่เรา

อยากเห็นภาพจากเลนส์ 18-200 จังว่าเป็นอย่างไร ไปถ่ายมาสนุกไหม

ไปทะเลเจอฝนมาหรือเปล่าคะ เห็นช่วงนี้ฝนตกตลอดเลย

----------------------
ขึ้นเขาวังครั้งนี้ไม่เจอลิงเลยคะ ไม่รู้เขาเอาลิงไปเก็บไว้ที่ไหนหมด ไม่เห็นสักตัวเลยคะ ก็งงเหมือนกัน ว่าลิงหายไปไหนหมด ใช้ขึ้นไปแล้วมีทีถ่ายรูปหลายมุมคะ แต่ขี้เกียจจะเดิน ร้อน และเมื่อย สงสัยนีจะแก่แล้วอะคะ พ่อเดินเที่ยวไหวคะพ่อจะแข็งแรงกว่าแม่ แต่แม่เดินได้นิดหนึ่งก็จะเหนื่อย และแม่มีโรคประจำตัวอยู่ด้วยคะ ดีที่่ช่วงนี้สุขภาพดีขึ้นเยอะอะคะ ไม่งั้นแค่นั่งรถไปเชื่อๆ ก็จะแย่เหมือนกัน

ส่วนที่พักตรงที่นีไปพักเงียบสงบดีคะ แต่ห้องพักก็แบบธรรมดา แถมเตียงนอน นอนขยับตัวไม่ได้เลย ขยับทีมีเสียงดังตลอด ฮะๆๆ แต่เจ้าของที่นี้อัธยาศัยดีมาก ๆ คะ ดูแลแขกดี ตอนที่ครอบครัวนีจะกลับพี่เขาก็เดินมาส่งขึ้นรถ ได้ความประทับใจตรงนี้ละคะ เดียวนี้แถวปราณบุรี มีทางลาดยางตลอดแล้วคะ สะดวกสบายมาก ๆ ยิ่งแถวตรงหาดปราณบุรี รีสอร์ทเยอะมาก ๆ เลยคะ มีหลายแบบหลายราคา แต่นีว่าตรงแถวหาดปราณบุรีจะดูวุ่นวายไปหน่อย แต่ตรงที่นีพักจะอยู่ด้านหลังเขากระโหลกทางด้านนี้จะดูเงียบ ๆ สงบ ๆ ถ้าใครชอบแบบส่วนตัวเงียบ ๆ สงบ ๆ มาพักทางด้านนี้ดีกว่า ทางด้านนี้ก็มีหลายรีสอร์ทให้พักเหมือนกัน ส่วนใหญ่รีสร์อทก็จะอยู่กันแบบติด ๆ อะคะ เดียวนี้ปราณบุรีมีแต่รีสอร์ทกันทั้งนั้นเลย พูดถึงรีสร์อทที่นีพักถ้าไม่คิดอะไรก็โอเคนะคะ ประทับใจเจ้าของรีสอร์ทเข้าไปพักเหมือนอยู่บ้านอะคะ นีเห็นตอนกลางคืนมีคนมาปิ้งย่าง อาหารทะเลทานกันด้วยนะคะ และรีสอร์ทนี้เขาอนุญาติให้เอาน้องหมา น้องแมวมาพักได้ด้วย คงดีสำหรับคนที่พาหมากับแมวไปเที่ยวละคะ

ใช้เลยร้านอาหารที่นีไปทานก่อนถึงวัดห้วยมงคลคือร้านเจ้แหม่ม คนเยอะมาก ๆ อาหารช้าได้ใจ ถ้าไม่ช่วยเขาเก็บโต๊ะและเสริฟเองก็คงอีกนานกว่าจะได้นั่ง ได้ทานนีก็ชอบไก่ทอดร้านเขานะอร่อยดีแต่จานหนึ่งน้อยจังกว่าจะได้ก็นาน แถมข้าวเหนียวก็เหลือแค่สองกระติบ ขายดิบขายดี ของหมด ฮะๆๆ รู้สึกแถวนั้นจะมีร้านเขาร้านเดียวอะคะ เลยขายดิบขายดีในช่วงเทศกาล ฮะๆๆ

นีเห็นพี่จิบโพสไว้ว่าจะกลับมาไทย แต่ไม่รู้เมื่อไรนะคะ ตอนนี้ไม่เห็นพี่จิบในเฟสเลย และหาพี่จิบไม่เจอด้วยเหมือนพี่จิบจะปิดเฟสไปอะคะ อาจจะปิดชั่วคราวก็ได้ หาไม่เจอเลย งง เหมือนกัน



 

โดย: paerid 12 มิถุนายน 2555 15:56:18 น.  

 

ลืมเลย ขอบคุณมากนะคะสำหรับสาหร่ายของฝากจากเกาหลีอร่อยดีคะ ยังทานไม่หมดเลย ยังเหลืออีกถุงหนึ่ง
เดียวเย็นนี้กลับไปทานดีกว่า

 

โดย: paerid 12 มิถุนายน 2555 16:02:52 น.  

 

สุขสันต์วันเกิดคะพี่ต้อง
มีความสุขมาก ๆ นะคะ สุขภาพ แข็งแรง ๆ คะ

 

โดย: paerid 15 มิถุนายน 2555 9:36:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


nongmalakor
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [?]




ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
Google
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
11 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nongmalakor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.