แอ่วเจียงฮาย วันที่ 2 ลำปาง – อช.แจ้ซ้อน – เวียงป่าเป้า



ย้อนดูวันที่่ 1 นนทบุรี-ลำปาง คลิ๊กเลย

วันเสาร์ที่ 15 ธ.ค.55

เมื่อคืนหัวถึงหมอนหลับยาว อากาศเย็นสบายไม่ถึงกับหนาว ผมตื่นประมาณหกโมงเช้า ล้างหน้าเสร็จก็ออกเดินสำรวจตลาด จากที่พัก อาลัมภางค์ เลี้ยวซ้ายเดินตรงไปจะเจอสามแยกแรกเลี้ยวขวาเดินตรงไปจะเจอสี่แยก (มีร้านข้าวต้มบาทเดียวอยู่ตรงสี่แยก)ข้ามสี่แยกตรงไป เจออีกสี่แยกให้เลี้ยวซ้ายแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆจะเจอตลาดนัดออมสิน











ตลาดออมสินเป็นตลาดขนาดกลาง ของขายเยอะมาก ส่วนมากจะเป็นผักกับปลาน้ำจืด ที่ชาวบ้านมาวางขาย ราคาไม่ถึงกับถูกมาก ที่สำคัญปลาน้ำจืดที่ไม่ค่อยเห็นแถวในเมืองใหญ่ แต่ที่ลำปางวางขายเป็นเรื่องปรกติ แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของเมืองลำปาง



















ผมเดินซื้อผลไม้นิดหน่อย ขากลับหิวข้าวถามแม่ค้าแถวนั้น แนะนำก๋วยจั๊บแถวหน้าวัดล้อม จากตลาดเดินไปไม่ไกลแถมเป็นทางกลับที่พักผมด้วย เลยแวะชิมซะหน่อย

ผมกับแฟนคนละชาม อร่อยพอประมาณแต่ยังไม่ถึงกับว๊าวววว 















มื้อเช้ารอดตายแล้ว อิ่มเสร็จก็เดินดูวิถีชิวิตบ้านเมืองเค้าหน่อย เดินไปซักพักหมอกลงซะงั้น











ผ่านร้านข้าวซอย ไม่รู้เจ้าดังเปล่า ไม่ได้แวะชิม 





ชอบฝาท่อน้ำครับ 





ได้เวลากลับเข้าที่พัก ก่อนเข้าผมเดินเลยที่พักไปหน่อยเห็นมีเกสต์เฮ้าอยู่หลายเจ้าเลย น่าสนใจเหมือนกัน

TheRiverside Guest House Tel.: 0066-(0)54-227005 ตอนแรกผมจะพักที่นี่แหละครับ แต่เต็มเลยมาพักที่อาลัมภางค์แทน 





ต้นน้ำ เกสต์เฮ้าท์ อยู่ตรงข้ามเดอะริเวอร์





แปดโมงเช้าเดินถึงที่พัก เจอหมอกลอยอยู่เหนือแม่น้ำวังหลังเกสต์เฮาท์ที่ผมพัก เห็นแล้วไม่อยากไปต่อเลย อยากนอนอีกคืน จะได้เดินกาดกองต้าด้วย เสียดายจัง แต่แผนจองไว้หมดแล้วต้องเดินทาง ชอบที่พักอาลัมภางค์เกสต์เฮ้าท์ ชอบเมืองลำปาง ไว้ผมจะกลับมาเยี่ยมใหม่ อีกครั้ง







เวลา 9.09 น.ไมล์อยู่ที่ 643 กม. ได้เวลาเดินทางไปเวียงป่าเป้า ออกจากที่พักขับตรงไปสะพานรัษฏา เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานขับตรงไปเจอสี่แยกใหญ่เลี้ยวขวา ขับตรงไปเรื่อยๆจะเข้าเส้น 1035 ไป อ.แจ้ห่มครับ

ผมขับผ่านกำแพงเมืองลำปาง ตรงไปอีกไม่กี่ ก.ม.ก็มีป้ายบอกเลี้ยวซ้ายไปวัดวัดเจดีย์ซาวหลัง จะช้าอยู่ใยเลี้ยวเข้าโลด





จากปากทางเข้าวัดไม่ไกลครับ ผมมาถึงวัดเวลา 9.23 น.ระยะทาง 649 ก.ม.

วัดเจดีย์ซาวหลังตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง บนถนนลำปาง-แจ้ห่ม เป็นวัดที่งดงามแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง ซาวเป็น ภาษาเหนือ หมายถึง 20 หลัง เป็นภาษาเหนือเช่นกันหมายถึงองค์ เมื่อรวมกันเป็นวัดเจดีย์ซาวหลัง จึงหมายถึง วัดที่มีเจดีย์ 20 องค์ วัดนี้เป็นปูชนียสถานที่สำคัญของจังหวัดลำปางสร้างแต่โบราณ ทรงคุณค่าทั้งทาง ด้านประวัติ ศาสตร์และโบราณวัตถุ จากหลักฐานการขุดพบพระเครื่องสมัยหริภุญชัยที่องค์พระเจดีย์ ทำให้สันนิษฐานได้ว่า วัดนี้สร้างมานานกว่าพันปี เจดีย์แต่ละองค์เป็นลักษณะสถาปัตยกรรมแบบเจดีย์พม่าขนาดเล็ก มีสีทองเป็นประกาย ตั้งอยู่บนฐานเหลี่ยม ยอดเจดีย์ตกแต่งประดับด้วยฉัตรอย่างสวยงาม มีความเชื่อกันว่าภายใน แต่ละเจดีย์มี พระเกศาธาตุบรรจุอยู่

อ่านประวัติวัดเจดีย์ซาวหลังคลิ๊กเลย





จุดเด่นของวัด คือ องค์พระธาตุเจดีย์ซาว ที่มีศิลปะล้านนาผสมศิลปะพม่า เชื่อกันว่าหากใครนับได้ครบ 20 องค์ถือ ว่าเป็นคนมีบุญ ครั้งแรกที่ผมเคยมานับไม่ถึงยี่สิบบ้าง เกินบ้าง แต่ครั้งนี้ผมนับครบยี่สิบองค์พอดี เริ่มมีบุญกับเค้าแล้ว อิอิ





มาวัดแล้วเข้าไปไหว้พระทันใจข้างในเจดีย์ซาวกันครับ





3 องค์ข้างบนที่เห็นไม่ใช่นะครับ พระทันใจทางวัดจะทำเหล็กดัดกันพวกขโมย อยู่หลังพระพุทธรูปข้างบน







มีเทียนประจำวันเกิดให้ทำบุญด้วยครับ







นี้ไงครับเทียนประจำวันเกิดผม มีลงยันต์ (ใช่เปล่าหว่า) แต่เห็นความตั้งใจแกะเทียนแต่ละเล่มแล้วมีความพยายามมากเลย





หลังทำบุญ-ไหว้พระเสร็จผมก็เดินไปพิพิธภัณฑ์ อยู่ภายในวัดนั้นแหละครับ





ภายในจัดแสดงพวกไม้แกะสลัก ธนบัตรสมัยเก่า พระเครื่อง ศาสตราวุธและของโบราณมีค่าต่างๆให้ชม



















เดินลงจากพิพิธภัณฑ์ เจอต้นมะม่วงตอนแรกก็ไม่ได้สนใจ แต่มาสะดุกับป้ายที่บอกประวัติไว้ น่าสนใจเหมือนกันครับ

ผมสรุปคราวๆนะครับ มีชายอนาถาสองคนพี่น้องได้มาไหว้พระอรหันต์ ตอนที่ท่านเสด็จมาที่วัดนี้ แล้วแนะนำให้สองพี่น้องอนาถาปลูกต้นมะม่วงถวายคนละต้นจะได้บุญ





ภายในวัดยังมีบ่อน้ำสองพี่น้องอีก ผมไม่ได้เดินไปแล้วครับ ระหว่างทางเดินไปขึ้นรถก็ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย

















ผมอยู่ที่วัดประมาณครึ่งชั่วโมง สี่โมงเช้าก็ได้เวลาเดินทางแล้วครับ

ออกจากปากทางวัด เลี้ยวซ้ายยิงยาวไปทางแจ้ห่ม ขับไปเรื่อยๆ เส้นทางเป็นถนนลาดยางรถวิ่งสวนกัน แต่ขับสบาย รถไม่ค่อยเยอะ ก็ขับปุเรงๆกันไป เห็นป้ายเลี้ยวขวาไปเขื่อนกิ่วลม จากปากทางเข้าประมาณ 3 ก.ม.ดูแล้วไม่ไกล ขอแวะเข้าไปชมหน่อยสิ

เวลา 9.50 น.มาถึงเขื่อนกิ่วลมเวลา 10.25 น.ไมล์ที่ 684 ก.ม.(จากวัดเจดีย์ซาวไมล์อยู่ที่ 649 ก.ม.)





เข้าไปถึง เอ๋อ..ไปเล็กน้อย นึกว่าจะเป็นสันเขื่อนแล้วเจอน้ำอ่างเก็บน้ำ ความจริงเป็นแค่จุดแพลากไปในเขื่อนอีกทีครับ มีแพหลายเจ้าให้เลือกใช้บริการ อัตราค่าลากตั้งแต่ 2,500-6,000 บาทแล้วแต่แพเล็ก แพใหญ่ไปวันเดียวกลับหรือค้างคืน อาหารจะเตรียมไปเองหรือสั่งที่ร้านก็ได้คิดตังค์ต่างหาก แต่ถ้าไปกันหลายๆคน น่าสนเหมือนกัน

ผมเอาป้ายชื่อที่พักพร้อมเบอร์โทรตรงจุดที่ผมแวะเข้าไปมาฝาก











เส้นทางหลักที่เข้าไปยังตัวเขื่อนกิ่วลม (ไม่ใช่เส้นที่ผมไปครับ)

เขื่อนกิ่วลม ห่างจากตัวเมืองไปตามเส้นทางสายลำปาง-งาว ประมาณ ๓๘ กิโลเมตรเศษ แยกซ้ายกิโลเมตรที่ ๖๒๓ เข้า ไปอีก ๑๔ กิโลเมตรถึงเขื่อนกิ่วลมซึ่งขึ้นกับกรมชลประทาน เปิดให้ชมและพักผ่อนในบริเวณเขื่อนได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ น. ถึง ๑๘.๐๐ น. การล่องแพใช้เวลาครึ่งวัน ติดต่อได้ที่สำนักงานท่องเที่ยวบริเวณเขื่อน ถ้าต้องการค้างคืนบนแพ หรือที่รีสอร์ทในบริเวณเขื่อน

เขื่อนกิ่วลมอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท แต่อยู่ภายใต้การดูแลของกรมชลประทาน บริเวณเหนือเขื่อนเป็นอ่างเก็บน้ำเหมาะแก่การล่องเรือหรือแพ เพราะมีทัศนียภาพสวยงาม การล่องแพใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งวัน มีสถานที่น่าสนใจ เช่น แหลมชาวเขื่อน ผาเกี๋ยง ผางาม ทะเลสาบสบพุ หมู่บ้านชาวประมงบ้านสา ฯลฯ ติดต่อบริการล่องแพได้ที่บริเวณเขื่อน

หน่วยงานราชการสามารถเข้าพักที่บ้านพักรับรองของกรมชลประทาน โดยมีหนังสือแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วัน รายละเอียด โทร. 0 5433 4393, 0 5422 3772 บริเวณสโมสรมีสนามกอล์ฟ 18 หลุมซึ่งเปิดบริการแก่บุคคลภายนอกเช่นกัน โทร. 0 5425 5195

สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปหากต้องการพักค้างคืนสามารถทำได้สองลักษณะ คือ
1. ล่องแพไปพักที่แพชาวเขื่อน-กิ่วลมรีสอร์ท ซึ่งมีที่พักเป็นบังกะโลตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบ โทร. 0 5433 4393, 0 5422 3772 ต่อ 120 (ค่าเช่าเรือทั้งวัน 2,000 บาท จุได้ 10 คน)
2. ล่องแพและค้างคืนบนแพวังแก้ว ซึ่งเป็นแพติดเครื่องยนต์ หรือค้างคืนที่วังแก้วรีสอร์ท ติดต่อได้ที่ โทร. 0 5422 3733

ข้อมูลจากเวป คลิ๊กเลย

ใครสนใจลองดูยูทูปได้ครับ 



ช่วงที่ผมไปดูเงียบๆ แต่เห็นมีรถจอดหลายคันแสดงว่านักท่องเที่ยวเช่าแพไปค้างคืนกัน อีกอย่างคงเช้าอยู่มั่ง ผมเดินไปสุดแพ เจอเจ้าของอยู่เจ้าหนึ่ง เลยแวะเข้าไปถามข้อมูลนิดหน่อย แล้วก็ขับออกมา 

ลักษณะแพครับ มีห้องน้ำห้องส้วมในตัว สองห้อง จะแคบหน่อย ที่นอนหมอนมุ้งมีครบ เครื่องยนต์ติดในแพเลยไม่ต้องใช้เรือลาก ก็สะดวกดี ถ้าไปเป็นกลุ่มใหญ่คงสนุกน่าดู ที่เห็นเป็นแพใหญ่ บรรจุได้ 20-30 คนครับ ส่วนแพเล็กบรรจุคนได้ไม่เกิน 10-15 คน





ผมเข้าไปถามข้อมูลประมาณ 15 นาทีก็ออกเดินทาง จากเขื่อนกิ่วลม เส้นทางจะเป็นสองเลนบ้าง สี่เลนบ้างแต่วิ่งสวนกัน วิ่งสบายๆ ไปไม่ลำบาก แต่อาจจะเหงานิดนึง เพราะนานๆทีรถจะสวนหรือวิ่งตามกันมา ดีผมชอบรู้สึกถนนเป็นของเรายังไงไม่รู้ 

ระหว่างทางก็จะผ่านทางเข้าเขื่อนกิ่วคอหมา (เส้น 1035) ผมไม่ได้แวะแล้วครับ ขับปุเรงๆต่อไป เจอป้ายอีกแล้ว เลี้ยวซ้ายไป อช.แจ้ซ้อน อีก 17 ก.ม.จากปากทางเส้น 1035





ผมกับแฟนเคยไป อช.แจ้ซ้อนครั้งนึงแล้ว แต่ตอนนั้นไปแบบมึนๆ ครั้งนี้ขอแวะเข้าไปหน่อย 17 ก.ม.จากปากทาง เส้นทางดีบ้างไม่ดีบ้างตามสภาพ ไม่เป็นไรขับไปเรื่อยๆก็ถึงแล้วครับ

ผมมาถึง อช.แจ้ซ้อนเวลา 11.24 น.ระยะทาง 731 ก.ม.จากเขื่อนกิ่วลมมาถึง อช.แจ้ซ้อนประมาณ 60 กม.





จ่ายค่าเข้าอุทยาน คนละ 40 บาท ค่ารถอีกคันละ 30 บาท จุดแรกที่ผมเดินเข้าไป บ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อน 

บ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อน

เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีสภาพการเกิดทางธรณีวิทยา มีกลิ่นกำมะถันอ่อน ๆ จำนวน 9 บ่อ ตั้งอยู่รวมกันในบริเวณ พื้นที่ที่ ทำการอุทยานฯประมาณ 3 ไร่ ภายในพื้นที่มีโขดหินน้อยใหญ่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป และมีไอน้ำลอย กรุ่นขึ้นมาจากบ่อปกคลุมรอบบริเวณ น้ำพุร้อนมีอุณหภูมิเฉลี่ย 73 องศาเซลเซียส เป็นที่นิยมนำไข่ไก่และ ไข่นกกระทามา แช่สำหรับไข่ไก่แช่นานประมาณ 17 นาที ไข่แดงจะแข็งมีรสชาติมันอร่อย ส่วนไข่ขาวจะเหลว คล้ายไข่เต่า







ระหว่างทางเดินไปบ่อน้ำร้อน ดูร่มรื่นดีครับ











พอไปถึงบ่อน้ำร้อน สภาพเป็นอย่างที่เห็นครับ จะได้กลิ่นกำมะถันนิดๆเตะจมูก 







ที่ อช.แจ้ซ้อน มาแล้วต้องต้มใข่ ถ้าใครไม่ได้เตรียมไป บริเวณร้านค้าข้างบนเค้าจะมีขายใส่ชะรอม 3 ฟอง 20 บาทหรือจะเหมาเป็นแผงก็มีให้









เดินผ่านบ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อนก็จะเป็นห้องอาบน้ำแร่ครับ







เดินข้ามสะพานไป สระนี้นั่งแช่เท้าได้แต่ห้ามลงอาบ





ข้ามสะพานไปจะเป็นห้องอาบน้ำแร่ ห้องอาบน้ำแร่จะติดลำธารน้ำตก ร่มเย็นมาก













มีป้ายเตือนว่าใครเป็นโรคหัวใจกับโรคความดันห้ามแช่ครับ





ห้องอาบน้ำแร่

จัดไว้บริการ 3 รูปแบบ คือ ห้องแช่ส่วนตัวจำนวน 41 ห้อง ห้องแช่รวม 1 ห้อง และยังได้จัดสระน้ำแร่ กลางแจ้ง ทั้ง 3 รูปแบบจัดไว้บริการนัก ท่องเที่ยวทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. และในวันหยุดเปิดบริการ ตั้งแต่ 06.00 – 19.00 น. นอกจากนี้ยังมีนวดแผนโบราณไว้บริการสำหรับนักท่อง เที่ยวที่สนใจอีกด้วย

เข้าไปดูข้างในห้องกัน ผมถามเจ้าหน้าที่บอกว่าห้องนึงจะเข้าได้ไม่เกินสามคนครับ











ผมไม่ได้ใช้บริการครับ แต่เอาข้อมูลมาฝาก

อัตราค่าบริการ
1. ห้องอาบน้ำแร่แบบแช่ส่วนตัว ผู้ใหญ่ 50 บาท/คน เด็ก 20 บาท/คน
2. ห้องอาบน้ำแร่แบบแช่รวม ผู้ใหญ่ 20 บาท/คน เด็ก 10 บาท/คน
3. ห้องอาบน้ำแร่แบบสระกลางแจ้ง คนละ 10 บาท





ใกล้เที่ยงแล้วไปหาของกินกันดีกว่า ผมใช้บริการของเอกชนครับ เดินออกจากห้องอาบน้ำแร่ ตรงขึ้นไปทางน้ำตก จะมีเพิงร้านอาหารหลายเจ้า ไม่รอช้าของผมกะเพราไข่ดาว แฟนผมข้าวผัด แล้วก็ปลาเผาหนึ่งตัวพร้อมยำวุ้นเส้น ตอนนี้รสชาติไม่ต้องคำนึง เอาอิ่มไว้ก่อนสบายไป













จากร้านอาหารเดินไปน้ำตกประมาณกิโล แต่สามารถเอารถขึ้นไปจอดข้างบนยังจุดจอดรถ 800 ม.ได้ แล้วเดินไปอีก 200 ม.ถึงจะเจอน้ำตก ขับรถขึ้นไปสิจะเดินทำไม 

ขึ้นมาถึงจุดจอดรถ ข้างบนมีร้านขายอาหารเหมือนกัน บรรยากาศดีกว่าข้างล่างเยอะเลย รู้งี้ขึ้นมากินข้าวข้างบนดีกว่า













ก่อนไปถึงน้ำตกแจ้ซ้อน ทางซ้ายจะมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกแม่เปียกให้เดินขึ้นไปชมธรรมชาติเดินเป็นวงกลมระยะทางประมาณสามกิโลได้ แหะๆเห็นทางแล้ว ผมไม่ได้เดินขึ้นไปชมครับ ขอไปแค่น้ำตกแจ้ซ้อนดีกว่า





เดินมาประมาณ 200 เมตรก็ถึงแล้วครับ ชั้นแรก ร่มรื่นชุ่มช่ำดีจัง

















น้ำตกแจ้ซ้อน เป็นน้ำตกที่กำเนิดจากลำน้ำแม่มอญ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีแอ่งน้ำรองรับอยู่ตลอดสาย ไหลตกลงมาเป็นชั้น ๆ มี 6 ชั้น สนใจข้อมูล อช.แจ้ซ้อน คลิ๊กเลย หมายเลขโทรศัพท์ อุทยานแห่งชาติแจซ้อน โทรศัพท์ 0 5438 0000, 08 9851 3355 โทรสาร 0 5438 0457 

ผมเดินมาถึงชั้นแรก ถอดใจแล้ว 555 นั่งเล่นอยู่แถวนี้แหละ















นั่งเล่นได้ซักพักออกจาก อช.แจ้ซ้อนเวลา 13.00 น.ระยะทางจากหน้าไมล์ 731 ก.ม. ขับกลับออกมาจากปากทางอีก 17 ก.ม.เลี้ยวซ้ายเข้าเส้น 1035 วิ่งเส้นนี้ตรงไปเรื่อย หรือสังเกตุป้ายบอกทางไป อ.วังเหนือ ก็วิ่งตามป้ายเลยครับ ขับตรงไปตามป้ายก็จะมาถึงสามแยก อ.วังเหนือ เลี้ยวซ้ายไปออกสามแยกเวียงกาหลง ถึงสามแยกเวียงกาหลงเลี้ยวขวาเข้าเวียงป่าเป้าแล้วครับ

ผมมาถึงตัวเมืองเวียงป่าเป้าเวลา 14.27 น.หน้าไมล์ 836 ก.ม.ระยะทางจากแจ้ซ้อน 100 ก.ม.โดยประมาณ ผมพักรถซื้อของกินที่เวียงป่าเป้านิดหน่อย ยังมีเวลาเลยแวะไหว้พระธาตุจอมผ่อ





จากปากทางจะเห็นโอท๊อปอยู่ทางด้านขวามือ ให้ขับช้าๆชิดซ้ายไว้ จะมีป้ายทางซ้ายมือให้เลี้ยวเข้าพระธาตุจอมผ่อ เป็นซอยเล็กๆ ขับไปจะผ่านหมู่บ้านขับไปเรื่อยๆจะมีป้ายบอกไม่ไกลครับ ไม่เกิน 3 ก.ม. 













พระธาตุจอมผ่อเป็นพระธาตุเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก ถ้าใครมีเวลามาถึงเวียงป่าเป้าแล้วลองแวะขึ้นไปไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลก็ได้ครับ 











ผมขึ้นไปทำบุญไหว้พระประมาณ 15 นาทีก็ลงแล้วครับ ขับรถจากเวียงป่าเป้าไปอีกประมาณสิบกว่ากิโล ก็มาถึงรีสอร์ท





ผมมาถึงสวนทิพย์ วนารีสอร์ทเวลา 15.25 น.ระยะทางจากบ้านทั้งหมด 854 ก.ม. ตอนหาข้อมูลถามเพื่อนๆ ก็สงสัยจะขับมาเวียงป่าเป้าทำไม เพราะเส้นทางหลักจากลำปางไปเชียงรายส่วนมากจะใช้ทางหลวงหมายเลข 1 จะเข้างาว-พะเยา-พาน-เชียงราย แต่แฟนผมเค้าอยากมานอนที่สวนทิพย์ พอดีซื้อแพคเกจไว้ในงานท่องเที่ยวเลยต้องจัดโปรแกรมเส้นทางนี้ครับ

มาถึงที่พักก็ไม่ผิดหวัง ติดต่อที่ประชาสัมพันธ์ก่อนครับ แค่เสาก็ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้าง 









ผมได้ห้อง 123 ครับ





เข้ามาดูห้องกันครับ เอ่อ..ผมบรรยายห้องพักแนวนี้ไม่เป็นซะด้วยสิ รู้แต่ว่าห้องกว้างมาก ดูเอาเองแล้วกันเนอะ





เครื่องใช้ไม้สอย โอเคเลยครับ มีให้พร้อม ห้องหอมมาก











มาดูห้องน้ำบ้าง











ที่ชอบอีกอย่างคือ มีระเบียงนอกห้องให้นั่งเล่นใหญ่มากสามารถพักผ่อนได้จริงๆครับ 





เป็นระเบียงส่วนตัว ห้องใครห้องมัน ตอนเย็นผมสั่งอาหารมานั่งกินที่ระเบียงนี้แหละครับ





อาหารมื้อค่ำผม มีสปาเก็ตตี้ขี้เมา,เห็ดหอมซีอิ้ว,ยำมะเขือยาวแล้วก็อะไรก็ไม่รู้ 555 ที่จริงผมสั่งแหนมเนืองแต่เอาอะไรมาให้ก็ไม่รู้จานแรกนั้นแหละ ไม่อยากเรื่องมาก เอามาให้ก็กินได้ อร่อยดีเหมือนกันแคบหมูจิ้มกับน้ำพริกอ่อง คืนนี้ยาวครับ อิอิ













ที่พักเป็นส่วนตัวดีครับ ห้องใหญ่ บรรยากาศดี เหมาะกับหนุ่มสาวที่มาฮันนูมูน เพราะมาถึงแล้วไม่รู้จะไปเที่ยวไหนต่อ ก็คลุกวงในอยู่ในห้องนั้นแหละ 555 ส่วนคู่ผม แฟนผมก็ดูทีวีเล่นเนท ผมก็ชิมไปกรึ๊บไป เตียงใหญ่ๆ 2 เตียง อย่างนี้ก็เตียงใครเตียงมันละครับ วันนี้เที่ยวแบบชิวชิว ไม่เหนื่อยมาก 

วันนี้ขอนอนพักผ่อนเอาแรงก่อน พรุ่งนี้ไปนอนบนดอยช้างกันครับ ลาด้วยเตียงนุ่ม คืนนี้นอนหลับฝันดี พรุ่งนี้ไปนอนดอยช้างกันครับ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nongmalakor&month=30-12-2012&group=15&gblog=25

ปล.ผมซื้อ Voucher ราคา 2,500 ห้อง deluxe พร้อมอาหารเช้า ส่วนใครสนใจก็เข้าไปชมในเวป สวนทิพย์ วนารีสอร์ท โดยตรงได้เลยครับ คลิ๊กเลย





สำหรับที่พัก ด้วยรูปและคำบรรยายของบล็อกผมดูรีสอร์ทแล้วเฉยๆ แต่ถ้าไปดูในบล็อกของคุณชานไม้ชายเขาแล้วจะรู้ว่า รีสอร์ทนั้นน่าพักแค่ไหน เอ่อ...ไม่ทราบว่าไปที่เดียวกันเปล่าครับ ทำไมรูปของผมมันไม่อลังการงานสร้างเหมือนคุณชายไม้ชายเขาเลยอ่ะ เห้อๆ

ดูบล็อกคุณชานไม้ชายเขา //www.bloggang.com/mainblog.php?id=rainynight&month=16-12-2008&group=27&gblog

วันนี้เดินทางจากลำปางถึงที่พักสวนทิพย์ วนารีสอร์ทรวมระยะทางทั้งหมด 211 ก.ม.

ค่าเสียหายวันนี้

ตอนเช้า
- ส้ม 1โล 70 บาท
- ก๋วยจั๊บ 2 ชาม 60 บาท
- ทำบุญที่วัดเจดีย์ซาว 60 บาท

กลางวัน
- ค่าเข้า อช.แจ้ซ้อน 110 บาท
- อาหารมื้อเที่ยง 290 บาท
- 7/11 ขนมขบเคี้ยวน้ำอัดลม 80 บาท
- ทำบุญวัดจอมผ่อ 40 บาท

ตอนเย็น
- ค่าที่พัก 2,500 บาท
- อาหารมื้อเย็นที่รีสอร์ท 777 บาท

รวมค่าเสียหายทั้งหมด 3,987 บาท



Create Date : 27 ธันวาคม 2555
Last Update : 15 มกราคม 2560 20:23:28 น. 5 comments
Counter : 11543 Pageviews.

 



เวียงป่าเป้า สวยจังค่ะ...

เมื่อตะกี้ ก้อ ได้ดูคุณหมอฟัน หัวใจสีขาว... อยู่ที่นี่ด้วย...

สวยทั้งตัว สวยทั้งหัวใจ...


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
แฟนlinKinPark Music Blog ดู Blog
nongmalakor Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น






โดย: foreverlovemom วันที่: 27 ธันวาคม 2555 เวลา:19:45:28 น.  

 


โดย: Kavanich96 วันที่: 28 ธันวาคม 2555 เวลา:10:23:03 น.  

 







โดย: foreverlovemom วันที่: 29 ธันวาคม 2555 เวลา:9:42:09 น.  

 
ตาม ๆ เที่ยวด้วยคะพี่ต้อง เพิ่งจะได้เข้ามาดู ชอบที่พักสวนทิพย์จัง น่าพักมาก ๆ


โดย: paerid วันที่: 4 มกราคม 2556 เวลา:19:45:22 น.  

 
สุดยอดแห่งการรวมการท่องเที่ยวลำปาง...ชัดเจนสวยงามสุดบรรยาย..ผมคนลำปางนี่เองยังต้องอายนครับ..ขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง..อยู่ที่เขื่อนกิวลม..คือเป็น..ชาวเขื่อน..แนะ..ชาวเขื่อน..ของมนันยา...ไงละ 5555


โดย: chan IP: 171.100.172.221 วันที่: 11 กรกฎาคม 2556 เวลา:18:36:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nongmalakor
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [?]




ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
Google
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
27 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nongmalakor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.