3 วัน 3 คืนกับน้ำตกทีลอซู ที่รอคอย อุ้มผาง จ.ตาก (วันที่ 3 เดินทางกลับบ้าน) ย้อนดูวันที่ 2 น้ำตกทีลอซู คลิกเลย วันเสาร์ที่ 15 ต.ค.65 โปรแกรมวันนี้  เวลา 05.30 น.ไปดูหมอกที่ดอยหัวหมด โดยใช้รถกระบะโฟร์วีลคันเดิม    จากรีสอร์ทไปดอยหัวหมดใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็มาถึงดอยหัวหมด    ไปถึงเจอหมอกฟุ้งๆอยู่ตามยอดเขา  ตั้งใจรอดูพระอาทิตย์ทะลุหมอก  แอบผิดหวังนิดหน่อย วันนี้พระอาทิตย์ขี้อายไม่ยอมขึ้นมาโชว์ตัว    ส่วนหมอกยังทำหน้าที่โชว์ตัวได้อย่างดีเยี่ยม    รอจนเกือบเจ็ดโมงเช้า ดูแล้วพระอาทิตย์คงไม่ขึ้นมาโชว์ตัวแน่ เลยกลับเข้ารีสอร์ท แต่ก่อนกลับเจอหมุดเขตอยู่บนดอยหัวหมด ไม่รู้มีความสำคัญอะไร ถ่ายรูปมายังงั้นแหละ     เวลา 07.30 น.กลับถึงรีสอร์ท ที่พักได้เตรียมข้าวต้มหมูพร้อมปาท่องโก๋  มื้อเช้าเป็นมื้อสุดท้าย ในแพคเกจ     เวลา 08.30 น.ได้เวลาออกจากรีสอร์ทแล้ว รถตู้คันเดิมมารอรับกลับ  ขับมาได้ประมาณ 1 ชั่วโมง รถตู้แวะให้เราพักแถวตลาดชาวบ้านติดกับน้ำตก    แวะซื้อของนิดหน่อย เป็นพวกผัก ผลไม้ต่างๆ ถูกอยู่เหมือนกัน    มีทางลงไปน้ำตก  ดูเหมือนเป็นลำธารมากกว่า    ได้เวลาไปต่อ นั่งรถไปอีกประมาณ 1 ชม.มาแวะจุดพักรถที่ กู้ฮะก้อ อ.พบพระ  จุดนี้วันแรกก็มาแวะที่ตรงนี้   พักรถประมาณ 15 นาที เดินทางไป อ.แม่สอด ส่วนเส้นทางจะเจอดินสไลด์อยู่ 1 จุดตรงเส้นระหว่างจุดพักรถไปแม่สอด มีอยู่ 1 จุด ทางการกำลังซ่อมอยู่    ก่อนถึง อ.แม่สอด แวะเที่ยวน้ำตกพาเจริญ    น้ำตกพาเจริญ เป็นน้ำตกหินปูน มีลักษณะเป็นชั้น ๆ คล้ายขั้นบันไดลงมา อยู่ในการดูแลของ อช.น้ำตกพาเจริญ    เข้ามาจะมีลานจอดรถได้หลายสิบคัน    จากจุดจอดรถเข้าไปยังน้ำตก ต้องผ่านศูนย์บริการการท่องเที่ยว      ภายใน อช.มีร้านอาหาร เครื่องดื่มไว้บริการ  เดินตามป้ายไปได้เลย   ทางเดินไปห้องน้ำ หญ้าตัดเรียบไม่มีรก ขยะไม่มีให้เห็นซักชิ้น รักษาความสะอาดได้ดีมาก ขอชมเลยครับ    มีที่นั่งพักหลายจุดมาก   ทางลงไปน้ำตก ทำบันไดไม่ชันมาก คนสูงอายุเดินได้สบาย    จากลานจอดรถเดินไม่ไกลก็มาถึงน้ำตกพาเจริญ ทางเดินไม่ลำบาก    มีป้ายบอกชัดเจน   อยู่ที่น้ำตกพาเจริญประมาณ 30 นาที ได้เวลาเดินทางต่อ ลาน้ำตกพาเจริญด้วยภาพนี้แล้วกันครับ    มื้อเที่ยง รถพามากินแถวตลาดริมเมย  ตลาดริมเมยเป็นตลาดไม่ใหญ่มาก ขายของเครื่องใช้ไฟฟ้า ของกิน ของใช้ แป้งทาหน้า ขนมจากพม่า เดินเล่นๆเพลินดีเหมือนกัน     จากน้ำตกพาเจริญมาตลาดริมเมยใช้เวลาประมาณ 40 นาที    มื้อเที่ยงเราหากินเอง มีร้านแนะนำ กระเพราะปลาริมเมย  ขอชิมหน่อย    ร้านอยู่ตรงตีนสะพานมิตรภาพ 2 ไทย-พม่า ข้ามแม่น้ำริมเมย   เมนู มีอาหารให้เลือกเยอะเหมือนกัน  สั่งน้ำชามะนาวมา 1 แก้ว      สั่งอาหารไป 3 อย่าง    สั่ง ขาหมู 3 ท่า  เป็นเมนูแนะนำ คล้ายๆขาหมูเย็น มีผักดองราดด้วยซอสน้ำมันงา มีน้ำจิ้มออกเปรี้ยว เผ็ด จะว่าอร่อยก็อร่อย จะว่าเฉยๆก็ไม่ผิด   กุ้งผัดซอส xo  กุ้งตัวใหญ่กำลังดี สดมาก เนื้อเด้ง หัวกุ้งมันทุกตัว ผัดกับบล็อกเคอรี่ราดซอสน้ำแดง รสออกเค็มๆมันๆ กินกับข้าวสวยอร่อยอย่าบอกใคร เมนูนี้ให้เต็มไม่มีหัก   เมนูต่อไป กระเพาะปลาน้ำแดง  รอตั้งนาน ถามเด็กเสิร์ฟ บอกลืมจด สั่งใหม่ได้กระเพาะปลาตุ๋นมาแทน รสชาติเหมือนกระเพาะปลาทั่วไป ยังไม่ค่อยว๊าววเท่าไหร่ อยากลองกระเพาะปลาน้ำแดงเป็นหม้อมากกว่า   ราคาตามใบเสร็จ  แอบแรงนิดนึงแต่ไม่ติดใจเพราะเมนูมีราคาบอกไว้อยู่แล้ว บรรยากาศภายในร้าน กว้าง สะอาด เด็กเสิร์ฟบริการดี รสชาติเข้มข้น กลมกล่อมแต่ยังไม่ค่อยว๊าววว ยังมีอีกหลายเมนูที่น่ากิน แค่นี้ยังบอกอะไรมากไม่ได้ ไว้มีโอกาสต้องลองไปชิมอีก    อิ่มเสร็จ พาไปวัดไทยวัฒนาราม    วัดไทยวัฒนาราม ตั้งอยู่ใน ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นวัดที่งดงามอีกหนึ่งวัดในแม่สอด ที่สร้างด้วยศิลปะแบบวัดในพม่า สีเหลืองทองอร่ามวิจิตรงดงาม วัดนี้เดิมชื่อ “วัดแม่ตาวเงี้ยว” หรือ “วัดไทยใหญ่” วัดแห่งนี้ ซึ่งสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2400 โดยนายมุ้ง ชาวพม่าจากรัฐฉานที่อพยพครอบครัวมาอาศัยอยู่ในอำเภอแม่สอด และเป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรกของหมู่บ้านแม่ตาว ที่ต่อมาได้รับพระราชทานนามว่า หมื่นอาจคำแหงหาญ ครั้นในปี พ.ศ.2500 กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศให้วัดนี้เป็นวัดพระพุทธศาสนา สังกัดกรมศาสนา   ทำบุญซื้อธูป เทียน ดอกไม้ บูชาตรงนี้    ผมไปมีการแสดง ไม่รู้เรียกว่าอะไร น่าจะเป็นศิลปะของพม่า  พระวิหารที่โดดเด่น ด้วยศิลปะแบบพม่า มีลวดลายแกะสลักสีทองลงบนพื้นผนังสีแดง ล้อมด้วยกำแพงสีแดงและรูปปั้นลายหงส์สีทอง บริเวณทางเดินมีรูปปั้นสีทองเป็นโลหะสีทองขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ด้านหน้า   คล้ายพระตาหวานที่พม่าเลย   ใครสายบุญ วัดนี้มีบุญให้ทำหลายองค์รวมถึงเทพทันใจ แต่ถ่ายรูปมาได้แค่นี้    เราอยู่ที่วัดนี้ประมาณ 30 นาที  ได้เวลาเดินทางกลับบ้าน  ออกจากวัดไทยวัฒนารามเวลา 15.00 น.มาถึงตลาดมูเซอดำเวลา 16.20 น.แวะซื้อผักติดไม้ติดมือไปนิดหน่อย   สำหรับตลาดมูเซอดำ ขายผักผลไม้ถูกมาก ส่วนมากน่าจะมาจากจีน   หลังจากนั้นตียาวมาถึงปั๊มน้ำมันแถวโกรกพระ นครสวรรค์ เวลา 19.00 น.  แวะยืดเส้นยืดสาย กินข้าว   แวะกิน เคเฟซี ข้างปั๊ม เหลือแค่ซากอารยธรรม    หลังจากหลับยาวรถตู้จะมาส่งที่ลานจอดรถ BTS หมอชิต ส่วนผมรถตู้อยู่แถวบางบัวทองเลยขับรถมาส่งถึงบ้านผม มาถึงบ้านเวลา 22.30 น. โดยสวัสดิ์ภาพ  น้ำตกทีลอซูเป็นน้ำตกที่อยากไปมากที่สุด ทางไปอาจจะโหดนิดๆ แต่ถ้าเทียบกับสมัยก่อนถือว่าตอนนี้เดินทางได้สะดวกขึ้นซึ่งไปแล้วบอกได้เลยว่าคุ้มค่าที่ได้ไป ไม่ผิดหวัง ถ้าใครยังมีแรงหรือมีโอกาส อยากให้ไปลองสัมผัสกับน้ำตกทีลอซูซักครั้ง แล้วจะประทับใจกว่าที่เห็นในภาพเยอะเลย สรุป ค่าใช้จ่าย   อุดหนุนผักและกล้วยฉาบที่รีสอร์ท 220 บาท (หน่อไม้ 2 ถุง 140 บาท/กล้วยฉาบ 2 ถุง 40 บาท/กล้วยฉาบ 2 ถุง 50 บาท/ผัก 30 บาท)  ทำบุญกฐิน 100 บาท  แตงกวา 40 บาท (1 ถุง)  ขิง 30 บาท  บัวหิมะ 100 บาท  มาม่า คัพ 20 บาท  บริจาคค่าเข้าห้องน้ำ 10 บาท  ร้านอาหารกระเพาะปลาริมเมย 940 บาท (ขาหมู 3 ท่า 200 บาท/กุ้งผัดซอส XO ครึ่ง กก.600 บาท/กระเพาะปลาตุ๋น 1 ถ้วย 80 บาท/ชามะนาว 35 บาท/น้ำดื่มขวดเล็ก 10 บาท/ข้าวสวย 1 จาน 15 บาท)  ขนมฝากเด็ก 100 บาท (3 ถุง 100 บาท)  ครีมทาตัวพม่า 70 บาท (1 แพค)  ทำบุญที่วัดไทยวัฒนาราม 160 บาท  ตลาดมูเซอดำ  อโวคาโด 100 บาท (3 กก.100 บาท)  แอปเปิ้ล 100 บาท (1 ถุง) ผักกะหล่ำ 50 บาท  พริกจินดาแห้ง 100 บาท  กระเทียมครึ่งกิโล 70 บาท  ไก่ KFC 233 บาท  ทิปคนขับรถ 100 บาท  ค่าใช้จ่ายวันนี้ 2,543 บาท  รวมค่าใช้จ่ายตลอดทริป 3 วัน 3 คืน ทั้งหมด 13,643 บาท   Create Date : 27 ตุลาคม 2565 1 comments Last Update : 27 ตุลาคม 2565 15:19:01 น. Counter : 1049 Pageviews. Share Tweet

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณ**mp5**, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณnewyorknurse

แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ   โดย: **mp5** 27 ตุลาคม 2565 15:49:35 น.