น่าน..ไง วันที่ 4 (อช.นันทบุรี น่าน)
วันพุธที่ 8 ธ.ค.53
ย้อนดูวันที่ 3 อช.ดอยภูคา อช.นันทบุรี คลิ๊กเลย
เมื่อคืนนอนหลับเต็มอิ่มดีครับ ตอนกลางคืน ผมเอาเสื่อมาปูนอนที่สนามหญ้าดูดาวเต็มฟ้า นานๆทีจะมีโอกาสเห็นดาวเต็มตาสักที ขอเก็บความสุขไว้เต็มที่หน่อย หลังจากนั้นก็เข้านอน
ตื่นมาก็เก็บของ เตรียมตัวกลับไปนอนที่ตัวเมืองน่านต่อ วิวพาโนรามาบนดอยนันทบุรี
ก่อนออกเดินทาง ไหว้ศาลเจ้าหลวงวาว ขอให้เดินทางโดยปลอดภัยตลอดทริป และขอขมาหากผมทำอะไรที่ผิดพลาดโดยไมได้ตั้งใจ
ประมาณแปดโมงเช้า ผมลงจาก อช. มาถึงท่าวังผาประเกือบเก้าโมง ก็ฝากท้องไว้ที่ร้านข้าวแกงแถวข้างทาง กินเสร็จเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองน่าน ใช้เส้นทาง 1080 ประมาณ 60 ก.ม.ถึงเข้าตัวเมืองน่าน ก่อนถึงน่าน ผมผ่าน หอศิลป์ริมน่านขอแวะเข้าไปชมหน่อย
หอศิลป์ริมน่าน เป็นสถานที่ๆจัดแสดงภาพศิลปะที่บรรดาศิลปินที่มีชื่อเสียงมากมาย ซึ่ง อ.วินัย ปราบริปู เป็นเจ้าของหอศิลป์แห่งนี้ ค่าเข้าชมคนละ 20 บาท ภายในหอศิลป์ จะมีหลายอาคาร แต่อาคารที่จัดแสดงภาพศิลป์ มีอาคารใหญ่อยู่อาคารเดียว นี่คืออาคารจัดแสดงภาพศิลป์ครับ
เราเข้าไปชมศิลปะข้างในกันครับ ทางเข้าไปยังภายในอาคาร
เดินเข้าไปชมภายในอาคารกันครับ
ภายในอาคารจะมีภาพศิลป์จัดแสดงมากมาย หนึ่งในนั้น มีภาพฝีพระหัตถ์ ของพระเทพ จัดแสดงไว้ด้วยครับ
เรื่องรูปศิลป์ผมก็ไม่ค่อยมีความรู้อะไรกับเค้าหรอก ถ่ายรูปมาฝากให้ดูแล้วกัน บรรยายไม่ถูก
ศิลปะที่จัดแสดงภายในแต่ละเฮือน ผมจำไม่ได้แล้วครับว่าอยู่เฮือนไหนบ้าง แต่ขอเอาภาพที่ประทับใจมาแบ่งปันให้ดูแล้วกันครับ
จุดเด่นของวัดนี้คือเป็นวัดที่สร้างทรงจตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ดูคล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาค 2 ตัว อาคารนี้เป็นทั้งพระอุโบสถ พระวิหารและพระเจดีย์ประธาน โดยใช้อาคารในแนวตะวันออก-ตะวันตกเป็นพระวิหาร และอาคารแนวเหนือ-ใต้ เป็นพระอุโบสถ รัฐบาลไทยเคยพิมพ์รูปวัดภูมินทร์ในธนบัตรใบละ 1 บาท ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และเมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ ได้จำลองพระวิหารหลังนี้ไว้ด้วย ข้อมูลจากเวป //www.ezytrip.com/travel/images/10000/00900/000823.htm
สำหรับภาพเขียนรูปคนที่โดดเด่นเป็นพิเศษและเป็นที่กล่าวขวัญถึงมากที่สุดในวัดภูมินทร์ ต้องยกให้ภาพ ปู่ม่าน ย่าม่าน ซึ่งอยู่ใกล้กับประตูทิศตะวันตก เป็นภาพขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับขนาดคนจริงของชายหนุ่มและหญิงสาวในชุดแต่งกายแบบพม่าหรือแบบไทยใหญ่ ในอิริยาบถยืนเคียงกัน ฝ่ายชายจับบ่าหญิงสาวและใช้มือป้องปากเหมือนกำลังกระซิบกระซาบถ้อยคำบางอย่างข้างๆ หู ซึ่งไม่มีใครทราบว่ากระซิบว่าอย่างไร แต่ด้วยสายตาของทั้งคู่นั้นมีแววกรุ้มกริ่มแฝงนัยบางอย่างที่น่าคาดเดาไปในทางโรแมนติก จนอาจารย์ สมเจตน์ วิมลเกษม ปราญช์เมืองน่าน ได้แต่งคำกลอนอันสุดแสนโรแมนติกเป็นภาษาเหนือเพื่อบรรยายถ้อยคำกระซิบของปู่ม่านย่าม่านนี้ว่า คำฮักน้องกูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาว จักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาว ก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาขะลุ้ม จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม ก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไป ก็เลยเอาไว้ในอกในใจ๋ตัวชายปี้นี้ จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้ ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา... แปลได้ว่า ความรักของน้องนั้น พี่จะเอาฝากไว้ในน้ำก็กลัวเหน็บหนาว จะฝากไว้กลางท้องฟ้าอากาศกลางหาว ก็กลัวเมฆหมอกมาปกคลุมรักของพี่ไปเสีย หากเอาไว้ในวังในคุ้ม เจ้าเมืองมาเจอก็จะเอาความรักของพี่ไป เลยขอฝากเอาไว้ในอกในใจของพี่ จะให้มันร้องไห้รำพี้รำพันถึงน้อง ไม่ว่ายามพี่นอนหลับหรือสะดุ้งตื่น เมื่อภาพอันแสนคลาสสิคมาเจอกับคำบรรยายสุดโรแมนติกนี้แล้ว จึงไม่น่าแปลกที่ภาพปู่ม่านย่าม่านนี้ได้ชื่อว่าเป็นภาพ กระซิบรักบันลือโลก และผมก็มีโอกาสได้ไปถ่ายภาพจริงในวัดมาแล้วครับ ดีใจสุดๆ ข้อมูลจากเวป //www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000078350
น้องคนนี้เป็นไกด์ ที่น่ารักมาก ตอนน้องเค้าอู้กำเมือง ตอนที่ ปู่ม่าน ย่าม่าน กระซิบรัก อยากบอกว่า น้องน่ารักมาเลยครับ
หลังจากนั้นก็เดินเล่นแถวนั้นจะมีวัด พิพิธภัณฑ์ ตรงแยกข่วงเมือง
ได้เวลาขับรถชมเมือง ไปเดินเล่นที่ตลาดหน้าโรงแรมเทวราช หาของกินไปเรื่อยเปื่อย
ผมเดินเล่น ขับรถชมเมืองจนเกือบสี่ทุ่ม อยากบอกว่าน่านเป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ ชีวิตไม่ต้องรีบเร่งอะไรมาก ชีวิตผมว่าแค่นี้ก็พอแล้ว อย่าไปยัดเยียดอะไรให้มันโตจนน่านผิดรูปแบบไปเลยครับ
ขอฝากรูปนี้ไว้ก่อนจะจากน่าน
ไว้พรุ่งนี้ไปนอนดูดาวที่ ดอยเสมอดาว คลิ๊กเลย ต่อครับ
Create Date : 16 กรกฎาคม 2554 |
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2559 15:31:17 น. |
|
1 comments
|
Counter : 7672 Pageviews. |
|
|
ขอตามมาเที่ยวอช.นันทบุรี น่าน 4ด้วยคนค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปทักทายที่สวนผึ้งค่ะ
ไป ลา ทอสคานา La Toscana มา 2 ครั้งแล้วค่ะ
ไม่มี ผ้าเย็น เครื่องดื่มตอนรับเลยค่ะ
ที่เขียนก็อยากให้มี ผ้าเย็น เครื่องดื่มตอนรับ
ให้แขกที่มาพัก เพราะ อากาศที่สวนผึ้งร้อนมากๆค่ะ
ถ้ามีให้คะแนน เต็มเลย
โดยรวมแล้วก็ดีหมดค่ะ
ขอให้มีความสุขกับวันหยุดนะคะ