ดูจุดกางเต้นท์ ที่เห็นเต็นท์สีฟ้าตรงซ้ายมือนั้นนะครับ จะมีเจ้าหน้าที่ดูแลนักท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่ง และผมก็ไปเช่าเต็นท์ตรงนั้นละครับ
จากจุดเจ้าหน้าที่ดูแล เดินขึ้นมาหน่อยก็จะเป็นห้องน้ำ-สุขา (คนละที่กับที่ผมอาบน้ำ) ตรงนี้ห้องน้ำจะใหญ่มีหลายห้องและสะดวกกว่าครับ ลงไปหน่อยจะเป็นที่จอดรถแต่เล็ก จอดได้ไม่กี่คันหรอกครับ ถ้าเดินขึ้นไปทางขวามือ จะมีไม้กันไม่ให้รถขับขึ้นไป เดินไปเรื่อยๆ จะมีร้านอาหารอยู่ 2-3 ร้านมั้งไม่แน่ใจ มีเต็นท์กางให้เช่าด้วย ไม่ได้ถามราคา ทั้งเต็นท์และอาหารครับ
ก่อนจากเอารูปดอกบัวตองบานเต็มดอยมาฝากเล็กๆน้อยๆแล้วกัน
เวลา 9.36 น.ได้เวลาเดินทางไปแม่ฮ่องสอน ผมเซ็ทไมล์ไว้ที่ 0 ลงมาถึงขุนยวม 26 ก.ม. เวลา 10.19 น. จากขุนยวมไปถึงตรงประตูทางเข้าแม่ฮ่องสอนเวลา 11.25 น. ทั้งหมด 90 ก.ม. พอดีครับ
สำหรับทางจากแม่อูคอถึงแม่ฮ่องสอน โค้งเริ่มเยอะ และชัน ผมใช้ความเร็ว 30-60 ก.ม. ถ้ามีผู้โดยสารมาด้วย ขับช้า ไปเรื่อยๆครับ ถ้าขับเหวี่ยงเมื่อไร รับรองผู้โดยสารอ้วกแน่ อีกอย่างอากาศเย็นสบายดี ไม่ต้องเปิดแอร์เลย แค่เปิดกระจก อากาศข้างนอกจะเย็นกว่าเปิดแอร์อีก ที่สำคัญอากาศบริสุทธิ์ วิวสวยอีกต่างหาก
ประตูทางเข้าตัวเมืองแม่ฮ่องสอน
แวะกินข้าวเช้าตอนเที่ยงแถวโชว์รูมอีซูซุนั้นแหละครับ มีอยู่ 3 ร้าน ด้านขวามือ ผมเลือกร้านแรก เป็นอาหารตามสั่ง เวลาหิว กินอะไรก็อร่อยเนอะ 2 คน 3 จาน เกลี้ยง
อิ่มเสร็จก็ ขับไปเรื่อยๆ มาเจอพระยาสิงหนาทราชา ลงจอดถ่ายรูปและสักการะท่านหน่อย ถ้าเลี้ยวขวาก็จะเข้าตัวเมืองแม่ฮ่องสอน สู่ถนนสายหลัก ถ้าขับตรงขึ้นไปก็จะเป็นพระธาตุดอยกองมู
หลังจากนั้นขึ้นไปไหว้พระธาตุดอยกองมู ตั้งหลักก่อน ขอมองทำเลจากที่สูงดูทิศทางหน่อย ส่วนโปรแกรมเที่ยว บ้านน้ำฮู, บ่อน้ำร้อนผาบ่อง, บ้านน้ำเพียงดิน, กระเหรี่ยงคอยาว ที่ผมหาข้อมูลก่อนไป แฟนผมตัดเกลี้ยง บอกขี้เกียจไป เห้อๆ
รูปนี้ถ่ายจากบน พระธาตุดอยกองมู มุมนี้จะเห็นวิวตัวเมืองแม่ฮ่องสอน และสนามบินด้วยครับ
ประมาณเที่ยงกว่าๆลงมาก็ขับวนอยู่ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนนั้นแหละ ยังหาที่พักไม่ได้เลย ถามคนแถวนั้นว่ามีที่ซ่อมเต็นท์เปล่า คำตอบคือ ไม่มี แล้วเราจะเอายังไงดี ที่นอนก็ยังไม่มี เต็นท์ก็ไม่มีที่ซ่อม
แฟนผมเริ่มงอแงแล้ว ตัดสินใจวนดูอีกรอบ ไปทางสนามบิน วนกลับมาในตัวเมือง ยังไม่ได้ที่พัก เลยแวะเข้าไปเอาใบประกาศผ่าน 1,864 โค้งก่อน (ใบละ 20 บาท ใครไปอย่าลืมไปขอนะครับ แฟนผมไม่ได้ขับรถเค้าก็ขอใบประกาาศได้เหมือนกัน)
ที่หอการค้าจังหวัด อยู่ที่เดียวกับ ททท.จากประตูแม่ฮ่องสอนขับตรงไปในตัวเมือง ถึงแยกสิงหนาทราชา เลี้ยวขวาขับตรงไปหน่อยก็ถึงหอการค้าจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ เลี้ยวเข้าไปได้เลย (ตอนขับมีใครเคยนับบ้างครับ)
ได้เวลาหาที่พัก ขับรถวนหาอยู่ในตัวเมืองเต็มเกือบหมดแล้ว ถามคนแถวนั้นแนะนำให้ไปนอนที่ โกล์เด้น ปาย รีสอร์ท แต่ออกนอกเมืองไปประมาณ 5 ก.ม. ไปทาง ภูโคลน เข้าไปถามยังมีห้องว่าง ราคาที่พัก 1500 บ./คืน รวมอาหารเช้า ตกลงคืนนี้เรานอนที่นี้ ขี้เกียจไปหาที่อื่นแล้วเสียเวลาเที่ยว
ได้ที่พักเสร็จแล้วก็ไปยังภูโคลน ไมล์อยู่ที่ 113 ก.ม. ขับไปเรื่อยๆ จะมีทางบอก ให้เลี้ยวซ้ายไปบ้านรักไทย ภูโคลน ถ้าตรงจะไป ปาย จะมีป้ายบอกครับ ขับช้าๆ คอยสังเกตุป้ายเอานะครับ
ถึงว่าตัดโปรแกรมเที่ยวผมหมดเลย ฮือๆ
จากที่พัก ไปถึง ภูโคลน 7 ก.ม.เวลา 13.30 น.พอดี ผมกับแฟนพอกโคลนทั้งตัวคนละ 600 บ.ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ขั้นตอนแรก ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะเอาโคลนมาทาทั่วตัว แล้วไปตากแดดให้แห้ง ประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นก็ให้เราไปล้างตัว ให้สะอาด แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะเอามะขามมาทาตัว เสร็จแล้วก็ล้างน้ำ หลังจากนั้นก็ ให้เดินไปแช่น้ำร้อนในสระประมาณ 15 นาที จึงค่อยมาอาบน้ำเปลี่ยนชุด ก่อนกลับเจ้าหน้าที่จะฉีดน้ำแร่ที่หน้าเราด้วยครับ ไม่ต้องเช็ด เป็นอันเสร็จพิธี
เราสองคนหลังจากพอกโคลน เหมือนเงาะป่าเลย 555
เวลาทำการ และสถานที่พอกตัวและสระน้ำแร่ครับ เป็นของเอกชน ใครสนใจเข้าไปดูในเวปเค้าได้เลยครับ
คลิ๊กเลย
พอกตัวเสร็จซื้อของฝากเป็นกระเป๋าที่ภูโคลนนั้นละครับ แฟนผมบอกที่ภูโคลนนะถูกที่สุดแล้ว ต้องเจ้านี้ด้วย อยู่ร้านแรกสุด ใบกลาง 2 ใบ 70 บ. ใบใหญ่ 60
หลังจากได้ช้อปปิ้ง พอกตัวเสร็จแวะถ้ำปลาต่อเลยครับ ทางผ่านกลับไปที่พัก ห่างจากภูโคลน 10 ก.ม.ออกจากภูโคลนเลี้ยวขวา ขับเข้าหมู่บ้าน เลี้ยวซ้ายจะไปปางอุ๋ง ให้เลี้ยวขวาไปตามทาง มีป้ายบอกครับไม่หลง ผมใช้เวลา 18 นาทีพอดีครับ จากภูโคลน
ค่าเข้าไม่เสียครับ แต่ซื้ออาหารพร้อมดอกไม้ เข้าไปบูชา ชุดละ 25 บ. ที่ถ้ำปลามีจะกางเต็นท์ บ้านพักก็มี สนใจติดต่อเอาเองครับ เพราะผมไม่ได้ถามเลยไม่รู้ราคา
ที่จอดรถจะอยู่ตรงข้างหน้าเลยครับ (ตรงป้ายข้างบนถ้ำปลา ตรงข้ามที่จอดรถจะมีร้านอาหารไว้บริการ) จากที่จอดรถต้องเดินเข้าไปยังถ้ำปลา ประมาณ 700 ม. ระหว่างทางเดินร่มรื่น ผ่านสะพานไม้ข้าม แม่น้ำสะงี ก่อน (ไม่ใหญ่ เล็กกว่าคลองแสนแสบ อีกแต่สะอาดกว่าเยอะ 555) สองข้างทาง ด้านซ้ายจะเป็นต้นไม้ ด้านขวาจะติดแม่น้ำ
เดินมาสักพักก็จะมาถึงถ้ำปลา มีเท่าที่เห็นละครับ เป็นปลาพวงเงิน
เข้าไปไหว้เสร็จ ถ่ายรูป ได้ประมาณ 45 นาที ออกเดินทางเข้าถนนคนเดินที่แม่ฮ่องสอน กลับทางเก่า ใช้เวลา 20 นาที ก็หาที่จอดรถได้ ก็เดินดูของส่วนมากจะคล้ายๆกัน
หลังจากทานอาหารเสร็จ ผมก็ซ่อมเสาเต็นท์ ใช้เสาลูกโป่งกับสก็อตเทปนะครับ มาดามเอาไม่รู้อยู่หรือเปล่า แก้ขัดไปก่อน (ซื้ออุปกรณ์ซ่อมเต้นท์ที่ร้านกาดคำ ได้เสาลูกโป่งกับสก็อตเทป)
หลังจากซ่อมเสาเต้นท์เสร็จตามมีตามเกิด ก็ได้เวลานอนแล้วครับ ไว้พรุ่งนี้จะไปนอนกางเต้นท์ที่ปางอุ๋ง ขอลาด้วยเตียงนอนที่ โกล์เด้น ปาย รีสอร์ท ก่อนครับ
สรุปค่าใช้จ่ายวันที่ 4 ธ.ค.50
- ข้าวเช้าที่แม่ฮ่องสอน 3 จาน 85 บาท
- ค่าห้องพัก โกล์ดเด็นปาย รีสอร์ท 1,500 บาท (ทริปพนักงานยกกระเป๋า 20 บาท)
- นวดที่ภูโคลน 600 บาท 2 คน 1,200 บาท
- ซื้อกระเป๋าที่ภูโคลน ใบกลาง 8 ใบ 280 บาท
- หมวก 50 บาท
- ซื้ออาหารถ้ำปลา 1 ชุด 25 บาท
- ซื้อของกินเล่นที่ถนนคนเดิน 100 บาท
- ข้าวเย็นที่ รีสอร์ท 380 บาท
- อุปกรณ์ซ่อมเต็นท์ 50 บาท
- ค่าบัตรใบประกาศผ่าน 1864 โค้ง ใบละ 20 บาท 2 คน 40 บาท
รวมค่าใช้จ่ายวันที่ 4 ธ.ค.ทั้งหมด 3,730 บาทรวมระยะทางวันนี้ 153 ก.ม.