แอ่วเจียงฮาย วันที่ 1 นนทบุรี-ลำปาง



ทริปนี้ขับรถลุยไปกับแฟนสองคน วางแผนไว้เป็นเดือนได้เวลาก็ออกเดินทาง

เอาทริปที่ผมไปมาให้ดูก่อนครับ

วันแรก วันศุกร์ที่ 14 ธ.ค.55 นนทบุรี – ลำปาง

วันที่ 2 วันเสาร์ที่ 15 ธ.ค.55 ลำปาง - เวียงป่าเป้า คลี๊กเลย

วันที่ 3 วันอาทิตย์ที่ 16 ธ.ค.55 เวียงป่าเป้า – ดอยช้าง คลี๊กเลย

วันที่ 4 วันจันทร์ 17 ธ.ค.55 ดอยช้าง – ดอยแม่สลอง คลี๊กเลย

วันที่ 5 วันอังคาร 18 ธ.ค.55 ดอบแม่สลอง – เชียงแสน คลี๊กเลย

วันที่ 6 วันพุธ 19 ธ.ค.55 เชียงแสน - เชียงของ คลี๊กเลย

วันที่ 7 วันพฤหัส 20 ธ.ค.55 เชียงของ – ดอยผาตั้ง คลี๊กเลย

วันที่ 8 วันศุกร์ 21 ธ.ค.55 ดอยผาตั้ง – ตัวเมืองเชียงราย คลิ๊กเลย

วันที่ 9 วันเสาร์ 22 ธ.ค.55 ตัวเมืองเชียงราย - กลับบ้าน(นนทบุรี) คลิ๊กเลย

งานนี้เจอทั้งหมอก ทั้งดอย ทั้งแม่น้ำ และไหว้พระธาตุต่างๆจนชุ่มปอดเลยครับ ทั้งเหนื่อย ทั้งล้า แต่ก็คุ้มค่ากับทริปนี้ จองที่พักได้ ศึกษาเส้นทางพร้อมแล้วไปลุยกันเลย เย้..






วันศุกร์ที่ 14 ธ.ค.55

เหมือนเดิม น้ำมันเต็มถัง เซ็ทไมล์ที่ 0 ออกจากบ้านเวลา 06.00 น. (ศาลากลางนนท์) บอกทางคราวๆที่ผมวิ่ง แยกแครายเลี้ยวซ้ายยิงตรงผ่านปากเกร็ด ขับตรงไปเรื่อยๆจะเจอ แยกสมเด็จ แยกบางกระดี่ จนถึงสามแยก รพ.กรุงสยามเซนต์คาร์ลอส ผ่านสามแยก รพ.ขับตรงไปแล้วชิดขวาจะมีป้ายบอกไปศูนย์ศิลปชีพบางไทร ให้ขึ้นสะพานแล้วเลี้ยวขวา ขับตรงไปเรื่อยๆจะผ่าน เชียงราก- บางปะอิน –แยกอยุธยา-บางปะหัน เข้าทางหลวง 32 (พหลโยธิน) ถึงตรงนี้ระยะทางจากบ้านผม 74 ก.ม.เวลา 07.07 น.ใช้ความเร็วประมาณ 100 ก.ม./ช.ม. เข้าเส้นหลักได้ ผ่านอยุธยา สิงห์บุรี ระหว่างทางเห็นร้านต้มเลือดหมูใหญ่ดี เลยแวะเข้าไปชิมหน่อยครับ









ราคาชามละ 40 ผมว่าไม่แพงเพราะให้เยอะจริงๆ ส่วนรสชาติพอใช้ได้ ไม่ถึงกับอร่อยมาก แต่แวะรองท้องร้านนี้ก็น่าจะโออยู่นะครับ ถ้าใครไม่มีเจ้าประจำจะลองแวะดูก็ได้ (ระยะทางจากบ้านมาถึงร้านเฮียเล็กต้มเลือดหมูทั้งหมด 118 ก.ม.ครับ) ร้านใหญ่มาก

ถ้าใครผ่านเส้นอยุธยา-สิงห์บุรี ขับไปเรื่อยๆจะเห็นหลังคาสีฟ้า เด่นเป็นสง่า อยู่ทางซ้ายมือติดถนนเลยครับ ขนาดผมไม่ได้กะแวะทาน แต่เห็นแล้วต้องลองซะหน่อย ระหว่างนั่งทานอาหารก็จะมีพวกร้านหมูทุบ มีสองเจ้า จะเอาหมูทุบ หมูบด ขนมลอดช่อง สินค้าทางร้านใส่ถ้วยเล็กๆมาให้ชิมฟรีถึงโต๊ะด้วย ผมว่าเป็นการเสนอสินค้าที่สนใจทีเดียว ใครชิมแล้วติดใจก็ซื้อติดไม้ติดมือได้ ส่วนผม ชิมฟรีอย่างเดียว หุหุ (นั่งชิมไปอร่อยเหมือนกันครับไม่อยากบอก)









แวะทานข้าวประมาณครึ่งชั่วโมง ก็เดินทางต่อ จากสิงห์บุรี ผ่านอ่างทอง ชัยนาท ใช้เส้นทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ เส้นทางทั้งหมดโอเค ไม่ค่อยมีปัญหา จะมีปะผุ ซ่อมถนนนิดหน่อย ผ่านเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ช่วงเข้ากำแพงเพชร จะมีทำทางประมาณ 10 ก.ม.มั่งไม่แน่ใจ ใครไปช่วงนี้ก็ขับด้วยความระมัดระวังด้วยครับ ผ่านกำแพงเพชร-ตาก-เข้าลำปาง ผมถึงตรงนี้ ระยะทางทั้งหมด 578 ก.ม.เวลา 13.12 น.หมดน้ำมันประมาณครึ่งถังอย่างที่เห็นในรูปนั้นแหละครับ







จากตรงนี้ไปที่พักอีกประมาณ 10 กว่าโล ผมพักที่ อาลัมภางค์ 





จากรูปข้างบน ขับตรงไปข้ามสะพานทางด้านซ้ายจะเห็นบิ๊กซี จะผ่านสี่แยก ให้นับไปถึงแยกที่สี่จากบิ๊กซี (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นแยกสนามบิน) พอถึงแยกที่สี่ให้เลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงไปสุดทาง จะถึงถนนคนเดิน(กาดกองต้า) สามแยกให้เลี้ยวซ้ายขับตรงไปเรื่อยๆที่พักจะอยู่ทางขวามือครับ

ผมมาถึงที่พักอาลัมภางค์รวมระยะทาง 590 ก.ม.เวลา 13.30 น.ใช้ความเร็ว 100-120 โดยประมาณ รวมแวะทานข้าวครึ่งชั่วโมง และพักตามปั๊มรายทางประมาณยี่สิบนาที





ที่พักอาลัมภางค์ ผมไม่ได้จองไว้ ตอนแรกตั้งใจพักอีกที่ครับ ระหว่างกินข้าวต้มเลือดหมูลองโทรไปเต็ม บี 2 ก็เต็ม อีกที่ก็เต็ม เหลือที่อาลัมภางค์ว่างอยู่หนึ่งห้องพอดี เป็นห้องพัดลมธรรมดา ห้องน้ำรวม ผมจองเลยครับ บอกเดี๋ยวบ่ายๆไปอย่าเพิ่งให้ห้องใครไปละ ตอนแรกว่าจะแวะเที่ยวพระธาตุลำปางหลวง แต่ขอขับเลยเข้าไปตัวเมืองไปเอาที่พักก่อน วันแรกขี้เกียจกางเต้นท์นอน

ไปถึงที่พักถามน้องที่เคาเตอร์ น้องน่ารักมาก เอาแผนที่มาให้ แนะนำร้านอาหาร ที่เที่ยวเป็นอย่างดี







หลังจากได้ที่พัก ยึดกุญแจห้องเป็นของเราแล้ว (มั่นใจว่าคืนนี้มีที่ซุกหัวนอนแน่) ก็ขับออกไปหาของกินก่อน เดี๋ยวค่อยกลับมาแนะนำที่พักกัน

มื้อเที่ยงผมกินก๋วยเตี๋ยวปู่โย่ง เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ผมบอกทางไม่ถูกนะครับ ถ้าใครไปถามว่าก๋วยเตี๋ยวร้านปู่โย่ง หรือถามวัดเมืองศาสน์ ได้ครับร้านปู่โย่งจะอยู่ติดหน้าวัดเลย คนลำปางรู้จักดี 









อยากบอกว่าลูกชิ้นอร่อยมากกกก ใครไม่กินเนื้อจะมีร้านข้าวซอยอร่อยๆหลายร้าน พอดีผมกับแฟนไม่ชอบกินข้าวซอยเลยไม่ได้ถามมาครับว่าร้านไหนอร่อย

ผมสั่งเส้นเล็กแห้งลูกขิ้นเนื้อ แฟนผมสั่งเส้นเล็กน้ำ คนละชามพอลูกชิ้นเข้าปาก ผมสั่งเกาเหลาลูกชิ้นไปอีกชาม คงไม่ต้องบอกนะครับว่าอร่อยหรือเปล่า









ราคาตามป้าย





อิ่มเสร็จ ผมขับย้อนกลับไปเที่ยวพระธาตุลำปางหลวงต่อ (ถ้ามาจากตากเข้าลำปาง พระธาตุลำปางจะอยู่ทางซ้ายมือมีป้ายบอกถึงก่อนตัวเมืองลำปางประมาณ 15 ก.ม. ใครมานอนในตัวเมืองลำปางควรแวะพระธาตุลำปางก่อนจะได้ไม่ย้อนไปย้อนมาเหมือนผม)









พระธาตุลำปางหลวง

พระธาตุลำปางหลวง ลักษณะทางสถาปัตยกรรม เป็นเจดีย์กลมทรงระฆังคว่ำ(แต่ในหนังสือพระเจดีย์ในล้านนา โดย สถาบันวิจัยสังคม ม.เชียงใหม่ กลับเรียกว่า เจดีย์แบบพุกามล้านนา เนื่องจากมีการปิดทองจังโกคล้ายแบบพุกามนั่นเอง) ปิดทองจังโกทั่วทั้งองค์เจดีย์ รูปทรงหนักแน่น ไม่ชลูดเหมือนเจดีย์แห่งอื่นๆ รอบๆพระธาตุมีการล้อมรอบด้วยรั้วเหล็ก โคมรั้ว มีการสร้างซุ้มประตูโขงอยู่ทางทิศใต้ของพระธาตุ บริเวณรั้วเหล็กมีเรื่องเล่าถึง รอยกระสุนปืน ที่หนานทิพย์ช้างยิงปืนสังหาร ท้าวมหายศ เมื่อช่วงพุทธศตวรรษที่ 23

ปรากฏในตำนานพระธาตุลำปางหลวงที่กล่าวถึง การเสด็จมาถึงของพระพุทธเจ้า ที่บ้านลัมภะการีวัน(บ้านลำปางหลวง) เมื่อเสด็จอยู่ดอยม่อนน้อย ขณะนั้นมีชายผู้หนึ่ง นาม"ลัวะอ้ายกอน" เห็นพระพุทธเจ้า เกิดมีความเลื่อมใสได้นำเอาน้ำผึ้งบรรจุกระบอกไม้ป้าง(ไม้ช้าวหลามไม้เปราะ) มะพร้าวและมะตูมอย่างละ 4 ลูกน้อมถวายพระองค์ และพระองค์ก็มอบพระเกษาและได้มีพุทธพยากรณ์ต่อไปว่า ในอนาคต จะมีพระอรหันต์นำเอาอัฐิพระนลาต(หน้าผาก)ข้างขวา และอัฐิลำคอข้างหน้าหลังมาบรรจุไว้ในนี้

สนใจข้อมูลพระธาตุลำปางหลวง คลิ๊กเลย









วันที่ผมไป พระธาตุลำปางหลวงกำลังบูรณะซ่อมแซมกันอยู่ เคยอ่านข่าว เห็นมีชาวบ้านมาต่อต้านว่าการซ่อมแซมทำให้ภาพจิตรกรรมฝาผนังเสียหาย อันนี้ผมไม่มีความรู้เลยไม่ขอแสดงความคิดเห็นอะไรนะครับ













หลายท่านคงเคยไปเที่ยวพระธาตุลำปางหลวงกันแล้ว ไม่ขออธิบายแล้วกัน ส่วนผมเคยมาครั้งนี้เป็นครั้งที่สองเอง ใครสนใจข้อมูลก็ลองอ่านในลิงค์ที่ผมเอามาให้ดูแล้วกันครับ







ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเข้าไปชมภายในวิหารได้ แต่ส่วนอื่นหรือบริเวณรอบๆยังสามารถเดินเข้าไปชมและกราบไหว้บูชาพระพุทธรูปข้างนอกได้เหมือนเดิม





ด้านหลังเป็นซุ้มพระบาท จะมีแสงเงาหักเหของพระธาตุ ผู้หญิงไม่สามารถขึ้นไปชมได้









สำหรับผู้หญิงถึงแม้ไม่ได้ดูเงาบนซุ้มพระบาทแต่ก็สามารถดูเงาแสงของพระธาตุภายในวิหารได้ รูปที่เห็นผมก็ถ่ายจากภายในวิหาร ไม่ได้ถ่ายบนซุ้มพระบาท

เงาพระธาตุที่ลำปางไม่ได้มีที่เดียวนะครับ ผมลองค้นดูที่ลำปางจะมีเงาพระธาตุไม่น้อยกว่า 5 ที่ อีกที่ที่ผมเคยไปอยู่ใกล้ๆพระธาตุลำปางหลวงประมาณ 17 ก.ม. คือที่พระธาตุจอมปิง คราวที่แล้วผมมาก็แวะทั้งสองที่ คราวนี้ผมแวะแค่พระธาตุลำปางหลวงที่เดียว 





ที่น่าสนใจอีกอย่างของพระธาตุลำปางหลวงคือต้นขะจาว มีประวัติ สนใจก็อ่านในลิงค์ข้างบนเอาเองครับ









ส่วนอีกกิจกรรมที่ใครไปต้องถ่ายรูปกับม้าหรือนั่งรถม้าชมเมือง  





หลังจากทำบุญ ไหว้พระเสร็จ ก็ออกเดินทางกลับเข้าที่พัก จากพระธาตุลำปางหลวง หน้าไมล์ระยะทาง 615 ก.ม.มาถึงที่พักระยะทาง 631 ก.ม.เวลา 16.00 น.ครับ ได้เวลาเข้าไปชมบ้านพักกันแล้ว







อาลัมภางค์ จะเป็นเกสต์เฮ้าท์ บ้านไม้ทาสีเขียวตัดกับขอบสีขาวบ้านไม่ใหญ่มาก มีห้องน่ารักๆ อยู่ไม่กี่ห้อง แต่ละห้องผมไม่ทราบว่ามีอะไรบ้าง เพราะห้องพักเต็มเลยไม่ได้เข้าไปสำรวจ 





 ผมได้ห้อง 11 เคียงวังครับ พวงกุญแจน่ารักเชียว







มาดูข้างในห้องกัน ผมได้ห้องพัดลม ห้องไม่ใหญ่มาก ไม่ได้ติดมุ้งลวดแต่มีมุ้งน่ารักๆให้ ขอบอกว่าผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ปลอกหมอนสะอาดมาก

ห้องพักผมไม่มีห้องน้ำในตัว ต้องลงไปอาบน้ำข้างล่าง ส่วนบนห้องจะมีทีวีขนาดกะทัดรัดให้ชมแก้เหงา แล้วก็พัดลมอีกหนึ่งตัว อ้อ..น้ำเปล่าสองขวด พร้อมผ้าเช็ดตัว สะอาดเหมือนเดิม ขนาดแฟนผมเตรียมผ้าเช็ดตัว หมอนผ้านวมไปเอง ยังไม่ใช้เลย บอกใช้ของที่พักนั้นแหละสะอาดแล้ว











อีกอย่างที่แฟนผมชอบคือ มีสมุดบันทึกให้คนที่เคยมาพักได้เขียน แอบอ่านหลายๆท่าน เขียนแต่สิ่งที่ประทับใจทั้งนั้นเลยครับ เล่มเล็กๆที่ข้างขวดน้ำนั้นแหละ





บรรยากาศภายในห้องโดยส่วนตัว ผมโอเคเลยกับห้องเลย ถึงแม้จะผิดหวังกับอากาศบ้าง ที่คิดว่าจะหนาว อยากบอกว่าลำปางตอนกลางวันร้อนแทบตับแล่บเลย ส่วนกลางคืนแค่เย็นๆไม่ถึงกับหนาว เปิดพัดลมเบอร์หนึ่งกำลังดี อีกอย่างยุงก็ไม่มี นอนสบายเลยครับ (เรื่องอากาศไม่เห็นจะเกี่ยวกับที่พักเลยเนอะ มั่วเลยผม)

เปิดหน้าต่างก็เห็นบรรยากาศริมน้ำวังเลย







ห้องผมอยู่ชั้นสอง เดินขึ้นบันไดห้องผมอยู่ทางขวามือ เดินขึ้นไปก็เห็นเลย ส่วนห้องน้ำลงบันไดเดินตรงไปนิดเดียวก็จะถึงห้องน้ำแล้วครับ ห้องส้วมจะแยกระหว่างห้องผู้หญิงกับผู้ชาย ส่วนห้องน้ำจะเป็นห้องน้ำรวมมีห้องเดียว มีน้ำอุ่นให้ด้วย

นี้ไงครับห้องน้ำรวม ถ่ายจากบันไดหน้าห้องพักผม เดินไม่ไกลเลยครับ







ส่วนนี่จะเป็นบันไดขึ้นห้องพัก ห้องผมจะอยู่ทางขวามือ





มาดูการตกแต่งภายในบ้านบ้าง ชั้นบนเป็นกระดานไม้ พื้นมันเรียบ น่านอนเล่นมาก มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเหมือนกัน



















เนื่องจากเป็นบ้านไม้ทั้งหลัง จะทำอะไรก็เกรงใจคนที่อยู่ห้องข้างล่างด้วยนะครับ เพราะถ้าเดินลงส้นเสียงจะดังไปถึงห้องข้างล่าง





ลืมบอก เกสต์เฮ้าท์มีที่จอดรถพร้อม ปลอดภัยแน่ เจ้าของบริการดีมากเลยครับ อัทธยาศรัยเยี่ยมแนะนำเส้นทาง บอกสถานที่เที่ยวให้อย่างเต็มใจ โอเคเลยอ่ะ ชอบครับ อีกอย่างทำเลดีมาก หลังบ้านติดแม่น้ำวัง ส่วนหน้าบ้านเดินไปนิดเดียวก็ถึงตลาดกองต้า (ถนนคนเดินลำปาง)

ส่วนบริเวณภายในที่พัก จะมีมุมถ่ายรูปเยอะมาก (อีกแล้ว) มีเรือนไม้ริมน้ำ จัดโต๊ะไว้ให้ลูกค้านั่งเล่น



















ความจริงผมไม่ได้คาดหวังกับที่นี่เลย กะแค่มาซุกหัวนอนพักรถไว้ไปเที่ยวเชียงรายต่อ แต่พอได้มาพัก มาสัมผัส รับรองถ้าผมมาลำปางอีก ที่นี้เป็นที่แรกที่ผมจะมาพัก ใครสนใจอาลัมภางค์ ณ ลำปางติดต่อ โทรศัพท์ 081-764-1497, 081-817-0899, 054-225-278 สนใจที่พัก คลิ๊กเลย

ลืมบอก ที่พักมีรถจักรยานไว้บริการให้เช่าขับเที่ยวในตัวเมืองลำปางด้วยนะครับ ราคาติดต่อกันเอาเอง ส่วนห้องผมพักคืนละ 350 บาท ห้องแอร์มีหลายราคา ลองโทรเช็คดูครับ

ได้เวลาไปเดินเล่นแล้ว ออกจากที่พักเลี้ยวซ้ายเดินไปหน่อยก็ถึงกาดกองต้า (ถนนคนเดิน) วันนี้วันศุกร์ไม่มีครับ ก็เดินชมบรรยากาศเงียบๆไป นี่ไงครับ ถนนหน้าบ้านพักผมไปยังถนนคนเดิน





ถ้าข้อมูลผมไม่ผิด ร้านนี้จะเป็นร้านแรกจากถนนคนเดิน เสียดายสายไฟเยอะไปหน่อย แต่ดูบรรยากาศแล้วน่าเดินเหมือนกันครับ







เดินไปเรื่อยผ่านหอศิลป์ลำปาง เห็นกำลังจัดอะไรกันอยู่ ผมเดินเข้าไปถาม ได้ความว่าเตรียมงานไว้จัดให้ชมรูปภาพไว้วันพรุ่งนี้ ผมได้รับเกีรยติเป็นคนแรกที่ได้เข้าชม







ภาพเป็นของอาจารย์ท่านใดผมก็ลืมชื่อ (ต้องขอโทษด้วยครับ) พอดีมัวแต่ถ่ายรูป ที่น่ารักอีกอย่าง ระหว่างถ่ายรูปก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยบรรยาว่ารูปนี้มีที่มาอย่างไร รู้สึกเกรงใจจัง เพราะเพิ่งจะจัดเสร็จห้องเดียว ยังเหลืออีกหลายห้องที่ยังเตรียมงานอยู่ ผมยืนชมได้ซักพักก็ขอตัวเพื่อให้อาจารย์และทีมงานได้เตรียมตัวจัดนิทรรศการต่อไป





















ออกจากหอศิลป์ลำปางก็เดินดูสถาปัตกรรม-วิถีชีวิตพื้นบ้าน แถวถนนคนเดิน ผมว่าบ้านเรือนน่าอยู่จังเลย





















ผมว่ามาวันธรรมดาก็ดีเหมือนกันเนอะไม่ต้องเดินเบียดกับนักท่องเที่ยว เดินสบายๆ มีเวลาละเลียดถ่ายรูป แต่อยากเดินตอนเค้าขายของอ่ะ 























ภาพจะมั่วหน่อยนะครับ แต่ก็อยู่ในถนนคนเดินนั้นแหละ ลาถนนคนเดินด้วยตึกนี้ครับ สีสันโดนใจมาก





เดินชมตลาดกองต้าเสร็จ ผมก็เดินตรงไปจะเจอสี่แยกเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานแรก (ไม่ใช่สะพานรัษฏาภิเศก) เป้าหมายคือวัดปงสนุกครับ ระหว่างข้ามสะพานเห็น สะพานรัษฏา ขอซักสองสามแชะครับ

น้ำแอบสกปรกไปหน่อย เสียดายภูมิทัศน์สวยๆหมดเลย







เดินข้ามสะพานตรงไปเรื่อยๆก็จะถึงวัดปงสนุกเหนือ







ลำปาง – เปิดตำนาน “วัดปงสนุก” แห่งเขลางค์นคร ธรรมสถานหนึ่งเดียวของไทย ที่พึ่งได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO ในปี 2008 เผยเส้นทางการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม-สถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในประเทศ จากชุมชน-รัฐ

วัดปงสนุก หรือวัดปงสนุกเหนือ ตั้งอยู่ในเขต ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นวัดสำคัญคู่กับจังหวัดลำปางมาช้านาน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยที่เจ้าอนันตยศ ราชบุตรของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญไชย (ลำพูน) เสด็จมาสร้างเขลางค์นคร (ลำปาง) เมื่อ พ.ศ.1223 หรือ 1,328 ปีก่อน ซึ่งเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา พระครูโสภิตขันตยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดปงสนุกด้านเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง พึ่งรับมอบรางวัลดี (Award of Merit) ด้านการอนุรักษ์มรดกทางด้านวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ตามโครงการ 2008 Asia-Pacific Heritage Award for Cultural Heritage Conservation จากองค์การ UNESCO โดยมีดร.ริชาร์ด อิงเกิลฮาร์ท” ที่ปรึกษาอาวุโสในผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ด้านวัฒนธรรมประจำองค์การยูเนสโก เป็นผู้ถวายรางวัลหออารักษ์
ข้อมูลวัดปงสนุก คลิ๊กเลยจ้า









พระประธานในอุโบสถ





ผ่านประตูเข้าไปจะเจอเสาหลักเมืองเสาแรกของ จ.ลำปาง

เสาหลักเมืองเสาแรกของเขลางค์นคร หรือจังหวัดลำปาง จากประวัติศาสตร์พบว่า เป็นชื่อที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การอพยพผู้คนในเหตุการณ์ช่วงปี พ.ศ.2346 ที่พญากาวิละได้ยกทัพเข้าโจมตีเมืองเชียงแสน ซึ่งเป็นที่ตั้งมั่นของพม่า และได้กวาดต้อนชาวเชียงแสนซึ่งเป็นชาวบ้านบ้านปงสนุกมาตั้งถิ่นฐานที่ลำปาง รวมถึงการอพยพของคนเมืองพะยาวที่หนีศึกพม่าลงมายังลำปาง ชาวปงสนุกเชียงแสน และชาวพะยาว จึงได้ ตั้งบ้านเรือนจนกลายเป็นหมู่บ้าน







เดินต่อไปเป็นศูนย์อนุรักษ์โบราณวัตถุวัดปงสนุกเหนืออยู่ข้างๆพระอุโบสถ





ภายในจะแสดงพระบฏและหีบธรรม

พระบฏ หมายถึง ผืนผ้าที่เขียนภาพพระพุทธเจ้า พุทธประวัติ หรือทศชาติชาดก ตลอดจนข้อคติธรรมคำสอน สำหรับห้อยแขวนเป็นพุทธบูชา มีขนาดแตกต่างตามคติและความนิยม โดยนิยมเขียนเป็นภาพพระพุทธเจ้าพระองค์เดียว หรือ ขนาบข้างด้วยพระอัครสาวก รวมถึงเรื่องราวอื่น ๆ เช่น พระมาลัย ชาดกทศชาติ พระเวสสันดรชาดก พระเจดีย์จุฬามณี และข้อคติธรรมต่าง ๆ เพื่อการสักการะ ประดับ ตกแต่งและประกอบการถ่ายทอดสอนสั่ง เผยแผ่พระศาสนาจนกระทั่งเป็นการสืบทอดและอุทิศส่วนกุศลสร้างผลบุญ ประเพณีแห่ผ้าขึ้นพระบรมธาตุเจดีย์ของชาวนครศรีธรรมราช จะมีผ้าห่มพระบรมธาตุผืนพิเศษที่เขียนภาพพุทธประวัติผืนยาว ซึ่งก็คือ ผ้าพระบฏนั่นเอง แต่ในปัจจุบันผ้าพระบฏในขบวนแห่ผ้าขึ้นธาตุมีสีขาว สีแดง สีเหลือง ส่วนใหญ่เป็นผ้ายาวเรียบๆ
ที่มาพระบฏ คลิ๊กเลย







หีบพระธรรม
หีบพระธรรมมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ ด้านล่างทำฐานสอบ มีหูทำด้วยโลหะสำหรับยกอยู่ที่ด้านข้างทั้ง ๒ ด้าน มีขนาดยาวประมาณ ๗๖ ซ.ม. กว้าง ๕๑ ซ.ม. ลักษณะเด่นของหีบพระธรรม สามารถแบ่งออกได้เป็น ๓ ประเภทด้วยกันคือ ประเภทแรก ได้แก่หีบพระธรรมฝาตัด ฝาของหีบพระธรรมประเภทนี้ตัดเรียบแบนราบไม่นูนคุ่มขึ้นมาเหมือนหีบพระธรรมฝาคุ่ม
ซึ่งจัดอยู่ในประเภทที่ ๒(อย.ห. ๑๒ และ อย.ห. ๓) ส่วนประเภทที่ ๓ เป็นหีบลายจำหลักไม้ จึงได้ชื่อว่า หีบจำหลักทำขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์เท่านั้น ในสมัยอยุธยานิยมทำหีบพระธรรมฝาตัด และฝาคุ่ม ส่วนในสมัยธนบุรีอาจจะมีการสร้างหีบพระธรรมขึ้น แต่ยังไม่มีปรากฏให้เราได้ศึกษากันเลย ในสมัยรัตนโกสินทร์นิยมสร้างตู้ไทยโบราณมากว่าหีบพระธรรม
ที่มาหีบธรรม คลิ๊กเลย





ตอนแรกยอมรับเลยครับ นึกว่าเป็นโกฏิใส่พระศพ ตอนนั้นก็กล้าๆกลัวๆกำลังโพล้เพล้อยู่เลยแถมเข้าไปถ่ายรูปคนเดียว แฟนก็รอข้างนอก เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาเยอะ กลับมาบ้านค้นข้อมูลดู เพิ่งรู้ว่าเป็นหีบพระธรรมกับพระบฏ เสียดายจัง เที่ยวแบบไม่มีความรู้ก็เป็นอย่างนี้เอง





เดินต่อมาหน่อยจะมีศาลาแสดงพิพิธภัณฑ์วัตถุโบราณล้ำค้ามากมาย
ปัจจุบัน “วัดปงสนุก” ได้กลายเป็นแหล่งรวมของสิ่งสำคัญหลายอย่างที่ทรงคุณค่าทางด้านศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม มากมาย อาทิ พระพุทธรูปไม้ เสาหงส์ ซุ้มประตูโขง ภาพพระบฎ เขียนเรื่องพระเวนสันดรบนผ้าและกระดาษสา หีบธรรมโบราณ และธงช้างเผือกขนาดใหญ่ในสมัยรัชกาลที่6 ซึ่งทางวัดได้นำมารวมไว้เป็นพิพิธภัณฑ์













วัดปงสนุกเหนือกับวัดปงสนุกใต้จะอยู่ติดกันไม่มีกำแพงกันเดินถึงกันครับ ชมวัดปงสนุกเหนือเสร็จก็เดินขึ้นไปยังวัดปงสนุกใต้ต่อครับ 

ขึ้นบันไดไปเลย









งดงามเนาะ













รูปนี้ตอนถ่ายรูปไม่คิดอะไร แต่มาเปิดเนทดู มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เหมือนกัน โง่จริงๆเลยผม

วิหารหลังมียอด หรือวิหารพระเจ้าพันองค์ หรือวิหาร 12 ราศี หรือวิหารสะเดาะเคราะห์ ราว พ.ศ.2386 เจ้าหลวงมหาวงศ์ได้ไปฟื้นฟูเมืองพะเยาขึ้นใหม่ รูบาอินทจักรพระอุปัชฌาย์ของครูบาอาโนชัยธรรมจินดามุนี ได้นำชาวพะยาว (พะเยา) อพยพกลับ แต่ก็ยังคงเหลืออีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ยอมกลับ ละได้มาตั้งรกรากอยู่กับชาวบ้านปงสนุก





วัดปงสนุก เหนือเป็นวัดโบราณวัดหนึ่งในลำปาง สันนิษฐานว่าสร้างร่วมสมัย พระเจ้าอนันตยศเสร็จมาทรงสร้างเมืองเขลางค์นคร เมื่อ พ.ศ. 1223 วัดปงสนุก เดิมมีชื่อเรียกอยู่หลายชื่อ ตามหลักฐานในจารึกที่พบในที่ต่าง ๆ มีอยู่ 4 ชื่อ คือ วัดศรีจอมไคล วัดศรีเชียงภูมิ วัดดอนแก้ว วัดพะยาว(พะเยา) ชุมชนเดิมบริเวณวัดปงสนุกเป็นผู้คนที่อพยพมาจาก 2 ที่ด้วยกัน คือจากการกวาดต้อนครั้งที่ลำปางไปรบกับเมืองเชียงแสน ราว พ.ศ. 2364 และจากเมืองพะเยาเมื่อชาวเมืองคราวหนีศึกพม่า ด้วยเหตุนี้ชาวเมืองเชียงแสนและเมืองพะเยา แม้เมื่อมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ใหม่ ก็ยังรำลึกถึงบ้านเกิดเมืองนอนเดิม จึงได้เอานามชื่อวัดและชื่อบ้านมาเรียก โดยชาวพะเยาก็เรียกวัดพะยาว(พะเยา) ชาวเชียงแสนก็เรียกวัดปงสนุก ซึ่งเป็นชื่อบ้านเดิมของตนในเชียงแสน ซึ่งปัจจุบันวัดปงสนุก ใน อ.เชียงแสน ก็ยังมีอยู่

ปัจจุบันวัดปงสนุก แยกเป็น 2 วัด ทั้งที่อาณาเขตก็ไม่กว้างขวางเท่าใด คือ วัดปงสนุกเหนือ และวัดปงสนุกใต้ สาเหตุที่แยกเนื่องมาจากพระสงฆ์ สามเณร ในอดีต มีจำนวนมาก จึงแบ่งกันช่วยดูแลรักษาวัด แต่ถึงอย่างไรทั้งสองวัดก็นับถือกันว่าเป็นวัดพี่วัดน้องอาศัยช่วยเหลือกัน มาโดยตลอด วัดปงสนุกในอดีตถือว่าเป็นวัดที่มีสำคัญและมีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวพันกับ เมืองลำปาง อาทิ เป็นสถานที่ดำน้ำชิงเมืองบริเวณหน้าวัดระหว่างเจ้าฟ้าชายแก้วและเจ้าลิ้น ก่าน ราวปี พ.ศ. 2302 และยังเป็นสถานที่ฝังเสาอินทขิลหรือเสาหลักเมือง หลักแรก เมื่อ พ.ศ. 2400 สมัยเจ้าหลวงเจ้าวรญาณรังษีราชธรรม เสาหลักเมืองดังกล่าว ถูกย้ายไปฝังไว้ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองในปัจจุบัน





วัดปงสนุกใต้ กำลังจัดงานทำบุญทอดผ้าป่าลอยฟ้าด้วยครับ







ผมเดินชมแบบไม่มีข้อมูลอะไรเลย รู้แค่ว่าเป็นวัดที่สำคัญอีกแห่งของจังหวัดลำปาง แต่ไม่รู้จริงๆว่ามีความสำคัญอย่างไร ลองกลับมาค้นข้อมูลดู โอ้... สุดยอดเลยครับวัดนี้ ถ้าผมมีข้อมูลหรือศึกษาก่อนไปคงไม่รีบเดินอย่างนี้หรอก พลาดที่สำคัญๆตั้งหลายอย่าง เฮ้อ..อนาจใจตัวเองแท้

ขากลับผมเดินออกจากประตูทางด้านวัดปงสนุกใต้ครับ





เดินออกจากประตูวัดผ่านร้านนี้ เดินเลยไปหน่อย ได้กลิ่นปิ้งๆย่างๆเตะจมูกดีเหลือเกิน มองหน้าแฟน รู้กันครับ อิอิ







มื้อเย็นขอแวะชิมซักหน่อยบรรยากาศภายในร้าน เป็นร้านเล็กๆธรรมดาแต่เห็นมีลูกค้าเจ้าถิ่นเข้ามาตลอด แอบๆเหล่ว่าแต่ละโต๊ะสั่งอะไรบ้าง ล๊อกเป้าหมายเรียบร้อยไม่รอช้า สั่งไป 4 อย่าง





ไส้กรอกอีสานย่าง จานนี้อร่อยมาก รสชาติไม่เค็มมาก หมักเครื่องเทศเข้ากับเนื้อ กินคู่กับผัก ขิง ตามด้วยพริกสด สุดๆ 





จานที่สอง คอหมูย่าง ตอนแรกผมนึกว่าเป็นหมูกรอบอีกแม่ค้าบอกไม่ใช่เป็นคอหมูย่าง จานนี้เหนียวไปหน่อย รสชาติธรรมดาผมกับแฟนเฉยๆ หน้าตาให้เต็ม พอชิมรสชาติคะแนนหายไปครึ่ง 





จานที่สาม ต้มแซ่บเอ็นหมู รสชาติกลมกล่อม เนื้อไม่เหนียว เคี้ยวกรุบๆดี โอเคเลยจานนี้ทดแทนคอหมูย่างไป 





จานที่สี่ ส้มตำไทยใส่ปู ผมว่าเค็มไปหน่อย ไม่มีรสหวานเลย สรุปโดยรวม อาหารรสชาติพอประมาณ ราคาปานกลาง อาหาร 4 อย่างมีน้ำแข็ง 1 ถังข้าวเหนียว 1 กระติบน้ำเปล่ากับโค้กอย่างละขวดทั้งหมด 240 บาท 





อิ่มเสร็จตามข้อมูลที่หามา วันศุกร์ที่ลำปางจะมีถนนคนเดินสายวัฒธรรมตรงถนนวังเหนือตรงหน้าป่าไม้ มีข้อมูลก็เดินถามไปเลย ออกจากร้านเลี้ยวซ้ายเดินตรงไปเลยจะผ่านสะพานที่ผมข้ามมา ไม่ต้องข้ามครับ ให้เดินตรงไปจะไปถึงสะพานรัษฏาให้เดินข้ามถนนไปจะเจอตลาดสดเทศบาล 3 (รัษฎา)เดินตัดซอยตรงตลาดสดจะไปถึงถนนแล้วเลี้ยวซ้ายไปหน่อยก็จะเจอถนนวังเหนือแล้วครับ งงเปล่า ผมอ่านแล้วผมยังงงเลย

เอาใหม่ถ้ามาจากฝั่งโน้น ให้ข้ามสะพานรัษฏา ด้านขวาจะเป็นตลาดสดเทศบาล 3 ด้านหน้า ให้เดินผ่านไปแล้วเลี้ยวขวาจะเป็นถนนเล็กๆ ผ่านตลาดสดเทศบาล 3 ด้านข้าง ให้เดินตรงไปสุดถนนแล้วเลี้ยวซ้ายเดินไปอีกหน่อยก็จะถึงถนนวังเหนือแล้วครับ เฮ้อ..ไม่งงแล้วเนอะ (จะเดินผ่านตลาดเลยก็ได้ครับ เข้าด้านหน้าแล้วเดินออกด้านข้างแล้วเลี้ยวขวาตรงไป)

ระหว่างทางแฟนเจอร้านเสริมสวย ขอสระผมหน่อย 20 นาทีจัดไปที่รัก เดี๋ยวไม่สวย อิอิ







ผมเดินมาถึงแล้ว เอ่อ..ไหงทำไมมันเงียบอย่างนี้ละ





ระหว่างทางผมก็ถามไปเรื่อย บางคนก็บอกว่าไม่มีถนนคนเดินวันศุกร์เลิกไปแล้ว บางคนก็บอกว่ายังมีอยู่ ข้อมูลสับสนมาก ไปถึงก็ชัดเลยเงียบกริบ เดินกลับมาทางเก่า ผ่านตลาดสดแวะซื้อขนมมากินแก้ช้ำใจ 1 ถุง





ขากลับข้ามสะพานรัษฏาครับ ดูดีกว่าเดินกลับทางเก่า นี่ไงครับสะพานรัษฏาภิเศก









แฝนผมบ่นอุบเลย ไหนว่าข้อมูลแน่น ให้เดินไปกลับไม่ต่ำกว่า 6 กิโลแถมไม่มีถนนคนเดินอีก เดินไปถึงที่พักถามเจ้าของ บอกว่าวันนี้วันศุกร์มีถนนคนเดินสายวัฒธรรม บ้านผมอยู่แถวนั้น แต่ต้องเดินเข้าไปอีก รับรองมีแน่

แค้นมากๆ ขออาบน้ำอีกรอบแต่งตัวเสร็จคราวนี้ขอขับรถไปแล้วกัน จากปากถนนวังเหนือขับรถไปอีกไม่ไกล แต่ถ้าเดินอ่ะไกลแน่ ก็มาถึงถนนสายวัฒนธรรมจนได้ หาทีจอดแล้วเดินลุยต่อ ไม่เสียหน้าแล้วผม





เป็นถนนคนเดินเล็กๆ ขายของทั่วไป ของขายยังไม่เยอะเท่าไหร่ นักท่องเที่ยวเลยไม่ค่อยมี ส่วนมากจะเป็นคนท้องถิ่นเดินกันมากกว่า ถ้าอากาศหนาวกว่านี้คงน่าเดินเหมือนกันครับ ใครที่มาลำปางวันศุกร์ไม่รู้ไปไหนก็ลองมาแวะที่ถนนสายวัฒนธรรมได้เลยครับ ผมเดินเล่นๆก็หมดไปหลายบาทอยู่เหมือนกัน



























เดินได้ซักพัก ปวดขาสิครับท่าน ได้เวลากลับไปนอนพักแล้ว ตอนกลับที่พักขับหลงพอเป็นพิธีตามแบบฉบับผม วันนี้ขับรถทั้งหมดจากบ้านถึงที่พักลำปาง 641 ก.ม.

ขอลาด้วยภาพนี้แล้วกันครับ





ถนนวัฒนธรรมอยากให้จังหวัดประชาสัมพันธ์นิดนึง ตลาดจะได้โตกว่านี้ ผมว่าทำเลออกจะไกลหน่อยไม่เหมือนกาดกองต้า แต่ถนนวัฒนธรรมยังมีจุดเด่นตรงมีโบราณสถานให้น่าเดิน ถ้าได้นักการตลาดเก่งๆผมว่าถนนสายวัฒนธรรมจะเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อีกที่ครับ วันนี้ขอจบทริปวันแรกแค่นี้ครับ พรุ่งนี้ไปนอนเวียงป่าเป้า แล้วอย่าลืมตามไปเที่ยวด้วยกันต่อนะครับ

วันนี้เดินทางจากนนทบุรี ถึงลำปางและเที่ยวในตัวเมืองรวมระยะทางทั้งหมด 643 ก.ม.

ค่าเสียหายวันนี้

- อาหารเช้าร้านเลือดหมู 120 บาท (เลือดหมู+กระดูกหมูอย่างละ 1 ชาม+น้ำเปล่า 2 ขวด+ข้าว 2 ถ้วย)

- ข้าวโพดคั่ว 1 ถุง 25

- ก๋วยเตี๋ยวปู่โย่ง 3 ชาม 90 บาท

- ทำบุญที่วัดปงสนุก 20 บาท

- อาหารมื้อเย็น 240 บาท

- ค่าสระผม 70 บาท

- ตลาดสดเทศบาล ขนมหวาน 1 ถุง ถั่วกับแหนมรวมเป็น 40 บาท

- ถนนสายวัฒนธรรม

- ข้าวแต๋น 100 บาท

- น้ำส้ม+ชาเย็น 35 บาท

- ลูกชิ้น+ไส้กรอกทอด 20 บาท

- ค่าที่พัก 350 บาท

สรุปยอดวันนี้ 1,110 บาท




 

Create Date : 24 ธันวาคม 2555
18 comments
Last Update : 14 มกราคม 2560 21:06:13 น.
Counter : 29256 Pageviews.

 

การเดินทางไปลำปาง

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว (จากกรุงเทพมาลำปาง)

1.ใช้ทางหลวงเส้นพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) ผ่านประตูน้ำพระอินทร์แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 32 วิ่งผ่านจังหวัดอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท แล้วเข้าสู่ทางหลวงเส้นพหลโยธินอีกครั้ง ผ่านจังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก แล้วเข้าสู่จังหวัดลำปางทาง อ.แม่พริกและ อ.เถิน รวมระยะทางประมาณ 599 กม. ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 7-8 ชม.

2.กรณีไปทางพิษณุโลก ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 11 ผ่านอุตรดิตถ์ อ.เด่นชัย จ.แพร่ แล้วเข้าสู่จังหวัดลำปาง
สภาพถนนหนทางจากตัวเมืองลำปางเพื่อไปท่องเที่ยวอำเภอต่างๆส่วนใหญ่เป็นถนนสี่เลน สภาพดี ขับขี่รถยนต์สะดวก

การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง (จากกรุงเทพมาลำปาง)
ขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต รถโดยสารประจำทางมาจังหวัดลำปาง มีทั้งบริษัทขนส่งจำกัด และบริษัทเอกชน เช่น วิริยะทัวร์ สมบัติทัวร์ เป็นต้น มีให้เลือกทั้งรถโดยสารชั้น 1 ชั้น 2 และวีไอพี
รถรอบเช้าถึงลำปางตอนกลางคืน ถ้ารถรอบกลางคืนจะถึงลำปางตอนเช้ามืด

บริษัท ขนส่ง จำกัด
สอบถามตารางการเดินรถ (หมอชิตกรุงเทพฯ) โทร 02-9363660
รถปรับอากาศชั้น 1 , รถปรับอากาศชั้น 2

บริษัท นิววิริยะทัวร์ จำกัด
สอบถามตารางการเดินรถ (หมอชิตกรุงเทพฯ) โทร 02-9362205-7
รถปรับอากาศชั้น 1 , รถปรับอากาศVIP (24 ที่นั่ง)

บริษัท สมบัติทัวร์ จำกัด
สอบถามตารางการเดินรถ (หมอชิตกรุงเทพฯ) โทร 02-9362495-9
รถปรับอากาศชั้น 1 , รถปรับอากาศVIP (24 ที่นั่ง)

บริษัท สยามเฟิร์สทัวร์ จำกัด
สอบถามตารางการเดินรถ (หมอชิตกรุงเทพฯ) โทร 02-9362953
รถปรับอากาศชั้น 1 , รถปรับอากาศVIP (32 ที่นั่ง)

บริษัท เชิดชัยทัวร์ จำกัด
สอบถามตารางการเดินรถ (หมอชิตกรุงเทพฯ) โทร 02-9360198-9
รถปรับอากาศชั้น 1 , รถปรับอากาศชั้น 2

บริษัท ทันจิตต์ทัวร์ จำกัด
สอบถามตารางการเดินรถ (หมอชิตกรุงเทพฯ) โทร 02-9363210-3
รถปรับอากาศชั้น 1

บริษัท วิริยะทัวร์ จำกัด
สอบถามตารางการเดินรถ (หมอชิตกรุงเทพฯ) โทร 02-9362827
รถปรับอากาศชั้น 1

การเดินทางโดยรถไฟ (จากกรุงเทพมาลำปาง)
ขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพง มีให้บริการทั้งรถเร็ว รถด่วนพิเศษ ถ้านั่งรถไฟจะมีโอกาสได้ลอดอุโมงค์รถไฟขุนตาล และสามารถลงที่สถานีขุนตาลได้เลยกรณีต้องการเที่ยวอุทยานแห่งชาติขุนตาล

การเดินทางโดยเครื่องบิน (จากสนามบินสุวรรณภูมิมาลำปาง)
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ของบริษัทการบินกรุงเทพ จำกัด เปิดบริการเที่ยวบินมาจังหวัดลำปางทุกวัน กำหนดบินออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 06.40 น. ถึง จังหวัดลำปาง เวลา 09.20 น. และออกจากจังหวัดลำปาง 09.50 น. ถึงสุวรรณภูมิ เวลา 12.30 น.

ขอบคุณข้อมูลจากเวป
คลิ๊กเลย

 

โดย: nongmalakor 24 ธันวาคม 2555 10:59:32 น.  

 


ระยะทางจากตัวเมืองไปยังอําเภอต่างๆ

อ. วังหนือ 107 กิโลเมตร ขึ้นรถที่ ถ. ทิพวรรณ แยกซอยข้าง ธ. นครหลวงไทย

อ. แจ้ห่ม 52 กิโลเมตร ขึ้นรถที่ ถ. ทิพวรรณ แยกซอยข้าง ธ. นครหลวงไทย

อ. ง้าว 83 กิโลเมตร ขึ้นรถที่ตรงข้ามวิทยาลัยอาชีวศึกษา

อ. เกาะคา 15 กิโลเมตร ขึ้นรถที่ ถ. รอบเวียง ใกล้ ธ. กสิกรไทย

อ. แม่ทะ 27 กิโลเมตร ขึ้นรถที่ สี่แยกศรีชุม ถ. ทิพวรรณ

อ. ห้างฉัตร 16 กิโลเมตร ขึ้นรถที่ห้าแยกหอนาฬิกา

อ. เสริมงาม 39 กิโลเมตร ขึ้นรถที่ข้างโรงเรียนบุญวาทย์ ถ. สนามบิน

อ. แม่เมาะ 40 กิโลเมตร ขึ้นรถที่สี่แยกร้านขายยาไทยโอสถ ถ. ทิพวรรณ

อ. เถิน 96 กิโลเมตร ขึ้นรถที่ตรงข้ามศาลจังหวัดด้านประตูชัย

อ. สบปราบ 54 กิโลเมตร ขึ้นรถที่ตรงข้ามศาลจังหวัดดานประตูชัย

อ. แม่พริก 125 กิโลเมตร ขึ้นรถที่ตรงข้ามสถานีตํารวจภูธร ถ. บุวาทย์


การคมนาคมระหว่างจังหวัด

จากสถานีขนส่งลําปาง มีรถโดยสารธรรมดาและปรับอากาศไปยังจังหวัดเชียงราย แพร่ และน่าน นอกจากนี้ยังมีรถจากเชียงใหม่วิ่งผ่านลําปาง ไปยังทุกจังหวัดในภาคเหนือ และบางจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่นขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี นครราชสีมา เป็นต้น

ข้อมูลจากเวป คลิ๊กเลย


 

โดย: nongmalakor 24 ธันวาคม 2555 11:06:10 น.  

 





ฮู้ย... ดีใจ..

อย่างน้อย... ก็คนที่ 3 ต่อจากเจ้าของ บล็อค





บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
nongmalakor Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



 

โดย: foreverlovemom 24 ธันวาคม 2555 13:58:57 น.  

 




อ่ะ...

หายใจได้แล้ว...

คุย...

เมืองไทยน่าเที่ยวนะคะ...

เหนือสุด ไปไกล ก้อ... สุโขทัย...

ที่เห็นในบล็อคของคุณทั้งหมด... กล้องดี... ฝีมือดี...

ภาพแจ่ม... เชิญชวนให้ไปเยี่ยมเยือนจริงๆ...

อาหารก็... เฮ้อ... น้ำลายไหล... เป็นทางยาว...


ยิ่งหิว... หิว... อยู่...


โหวตให้ด้วยหัวใจ...


 

โดย: foreverlovemom 24 ธันวาคม 2555 14:02:15 น.  

 

สวัสดีตอนค่ำๆ ครับ .....

อ่านแผนการเดินทางแล้ว นับเป็นเ้ส้นทางที่น่าสนใจนะครับ .....

หนาวนี้ผมว่าจะขึ้นเหนือไปรับลมหนาว เผลอๆ อาจได้ลอกการบ้านบล็อกนี้บ้าง .....

 

โดย: NET-MANIA 24 ธันวาคม 2555 18:51:06 น.  

 




นึกว่าหายไปไหน...

ไม่ได้อยู่ "หน้าแรก" หรอกหรือคะ???

ต้องไป ค้น...




Christmas Greetings Wishing you a prosperous New Year! Christmas Greetings




 

โดย: foreverlovemom 25 ธันวาคม 2555 0:26:34 น.  

 

ที่เที่ยวในตัวเมืองลำปาง

อำเภอเมือง

ลำปางเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่ยังนิยมใช้รถม้าเป็นพาหนะเดินทางระยะใกล้ๆ ภายในตัวเมืองจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว รถม้าลำปางเป็นรถเปิดประทุน ที่นั่งผู้โดยสารคล้าย คลึงกับที่นั่งของจักรยานสามล้อแต่มีขนาดใหญ่กว่า อยู่ทางตอนหลังของที่นั่งคนบังคับม้า ซึ่งมีระดับสูง
กว่าเล็กน้อย นั่งได้คันละ 2 คน สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถไปขึ้นรถม้าได้ที่ หน้าศาลากลางเก่าจังหวัดลำปาง, หน้าโรงแรมเวียงทอง และ หน้าโรงแรมทิพย์ช้าง ตั้งแต่ 06.00-23.00 ยกเว้นหน้าศาลากลางเก่ามีบริการ 06.00-16.00 น. อัตราค่าโดยสาร 100-200 บาท ปัจจุบันยังมีการทำรถม้าที่หมู่บ้านวังเหนือ ท่าคร่าวน้อย ศรีบุญเรือง นาก่วมเหนือ และนาก่วมใต้


------------------------------------------

วัดพระแก้วดอนเต้า

ตั้งอยู่ที่ตำบลเวียงเหนือ เป็นวัดเก่าแก่และสวยงาม มีอายุนับพันปี เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1979 เป็นเวลานานถึง 32 ปี เหตุที่วัดนี้ได้ชื่อว่าวัดพระแก้วดอนเต้ามีตำนานกล่าวว่า พระมหาเถระแห่งวัดนี้ได้พบแก้วมรกตในแตงโม (ภาษาเหนือเรียกว่า หมากเต้า) และนำมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูป แต่ต่อมาถูกอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดพระธาตุลำปางหลวงจนถึงปัจจุบัน ปูชนียสถานที่สำคัญในวัดพระแก้วดอนเต้า ได้แก่ พระเจดีย์องค์ใหญ่ซึ่งบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า มณฑปศิลปะพม่าซึ่งมีลักษณะงดงามและเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ วิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่มีอายุเก่าพอๆกับวัดนี้ นอกจากนี้ยังมี วิหารหลวง และพิพิธภัณฑสถานแห่งลานนา การเดินทางไปยังวัด ข้ามสะพานรัชฎาภิเษกแล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนพระแก้วประมาณ 1 กม. จะเห็นองค์พระธาตุตั้งเด่นอยู่บนเนิน

------------------------------------------

วัดเจดีย์ซาวหลัง

"ซาว" แปลว่า ยี่สิบ "หลัง" แปลว่า องค์ วัดเจดีย์ซาวหลัง แปลว่าวัดที่มีเจดีย์ 20 องค์ ตั้งอยู่ที่ตำบลต้นธงชัย ห่างจากตัวเมือง 5 กม. ตามถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม เป็นวัดใหญ่อยู่กลางทุ่งนา บริเวณวัดร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ วัดนี้เป็นปูชนียสถานที่สำคัญของจังหวัดลำปางสร้างแต่โบราณ ทรงคุณค่าทั้งทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุ จากหลักฐานการขุดพบพระเครื่องสมัยหริภุญชัยที่องค์พระเจดีย์ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าวัดนี้สร้างมานานกว่าพันปีสิ่งที่น่าชมภายในวัดคือ องค์พระธาตุเจดีย์ซาว ที่มีศิลปะล้านนาผสมศิลปะพม่า ข้างหมู่พระเจดีย์มีวิหารหลังเล็ก ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดปางสมาธิ ศิลปะเชียงแสน ชาวบ้านเรียกว่า "พระพุทธรูปทันใจ"

พระอุโบสถหลังใหญ่ซึ่งประดิษฐานพระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีพุทธลักษณะงดงาม บานประตูทั้งสามเป็นของโบราณ เขียนลวดลายรดน้ำละเอียดสวยงาม เสาซุ้มประตูหน้าต่างประดับลวดลายกระจกสีเป็นลักษณะศิลปะสมัยใหม่ และที่ศาลาการเปรียญเรือนไม้ชั้นเดียวด้านหลังพระอุโบสถ ได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงโบราณวัตถุที่ชาวบ้านนำมาถวาย นอกจากนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2526 ชาวบ้านได้ขุดพบพระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์หนัก 100 บาทสองสลึง มามอบให้แก่ทางวัดซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้ชื่อว่า "พระแสนแซ่ทองคำ" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัยล้านนา ราวพุทธศตวรรษที่ 21 ขนาดหน้าตักกว้าง 9 นิ้วครึ่ง สูง 15 นิ้ว เป็นพระพุทธรูปทองคำองค์แรกที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุแห่งชาติ


------------------------------------------

วัดป่าฝาง

ตั้งอยู่ที่ ถนนสนามบิน ตำบลหัวเวียง สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยชาวพม่าที่มาประกอบอาชีพการป่าไม้ในจังหวัดลำปาง มีพุทธสถานที่เด่นคือ พระเจดีย์ใหญ่สีทองสุกปลั่งบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากพม่าเมื่อประมาณ พ.ศ. 2449 ศาลาการเปรียญเป็นเรือนไม้ทั้งหลังขนาดใหญ่ หลังคาซ้อนกันเป็นชั้นๆ แบบพม่า และพระอุโบสถขนาดเล็กหลังคาเครื่องไม้แบบพม่า มีลวดลายเครือเถาปูนปั้นเหนือประตูสวยงาม วัดนี้มีพระสงฆ์พม่าจากเมืองมัณฑเลมาเป็นเจ้าอาวาสอยู่เสมอ

------------------------------------------

วัดไชยมงคล

ตั้งอยู่ที่ถนนสนามบิน ตำบลหัวเวียง เยื้องกับวัดป่าฝาง มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า วัดจองคา พุทธสถานที่เด่นของวัดคือ กุฏิ ขนาดปานกลาง ตัวอาคารเป็นตึกสีขาว หลังคาเครื่องไม้แบบพม่า หน้าบันประดับกระจกเป็นรูปเทวดา เสาประดับด้วยลวดโลหะสีทองขดเป็นลายเครือเถา ประดับกระจกสีสวยงาม ม่านและระเบียงโดยรอบทำด้วยแผ่นไม้ฉลุฝีมือประณีต ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสำริด มีลักษณะงดงามสร้างจากเมืองมัณฑเล สหภาพพม่า


------------------------------------------

วัดศรีชุม

เป็นวัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาวัดพม่าที่มีอยู่ในประเทศไทยทั้งหมด 31 วัด สร้างในปี พ.ศ. 2436 โดยคหบดีพม่าชื่อ อูโย ซึ่งติดตามชาวอังกฤษเข้ามาทำงานป่าไม้ในประเทศไทย เมื่อตนเองมีฐานะดีขึ้นจึงต้องการทำบุญโดยสร้างวัดศรีชุมขึ้นในเขตตำบลสวนดอก
การเดินทางไปวัดศรีชุม จากถนนพหลโยธินเมื่อถึงโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัยแล้ว เลี้ยวซ้าย ตรงสี่แยกเข้าถนนศรีชุมไปประมาณ 100 เมตร จะพบทางเข้าวัดอยู่ทางด้านขวามือ จุดเด่นของวัดนี้เดิมอยู่ที่ พระวิหาร ซึ่งเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ที่มีศิลปะการตกแต่งภายในร่วมสมัยระหว่างศิลปะล้านนาและศิลปะพม่า หลังคาเครื่องไม้ยอดแหลมแกะสลักเป็นลวดลายสวยงามมาก แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าได้เกิดเหตุเพลิงไหม้พระวิหารลงทั้งหลัง เมื่อตอนเช้าตรู่ของวันที่ 16 มกราคม2535 คงเหลืเพียงไม้แกะสลักตรงซุ้มประตู


------------------------------------------

สถานปฏิบัติธรรม-มณฑป หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์
ตั้งอยู่ชานเมืองลำปางประมาณ 4 กม. ตามทางสายลำปาง-แจ้ห่ม ภายในบริเวณมีมณฑปลักษณะ เป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ มีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อเกษม เขมโก เกจิอาจารย์ซึ่งมีผู้เคารพนับถือเป็นจำนวนมาก นั่งในท่าสมาธิขนาดเท่ารูปจริง เพื่อให้ประชาชนเคารพสักการะ และบริเวณหน้า มณฑป ก็มีที่จอดรถและสถานที่เช่าพระเครื่อง ส่วนกุฏิของหลวงพ่อเกษมอยู่ด้านข้างมณฑป


------------------------------------------

วัดศรีรองเมือง

ตั้งอยู่ที่บ้านท่าคร่าวน้อย ตำบลสบตุ๋ย ในเขตเทศบาลเมืองด้านทิศตะวันตก เป็นวัดพม่าที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2448 สมัยที่ลำปางเป็นศูนย์กลางการค้าขายและการทำป่าไม้ สถาปัตยกรรมที่สำคัญได้แก่ วิหารไม้ซึ่งมีหลังคาจั่วซ้อนกันเป็นชั้นเล็กชั้นน้อยสวยงามตามแบบศิลปะพม่า นอกจากนี้ยังนับว่าเป็นวัดที่มีการประดับตกแต่งภายในด้วยลายไม้แกะสลักและลายปูนปั้นลงรักปิดทองประดับด้วยกระจกสี ฝีมือประณีต วิจิตรสวยงาม


------------------------------------------

เขื่อนกิ่วลม

อยู่ห่างจากตัวเมืองไป 38 กม. ตามเส้นทางสายลำปาง-งาว โดยแยกซ้ายตรงหลักกม.ที่ 623-624 เข้าไปอีก 14 กม. เปิดให้ประชาชนเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจได้ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. เขื่อนกิ่วลม อยู่ภายใต้การดูแลของกรมชลประทาน บริเวณเหนือ เ ขื่อน เป็น อ่างเก็บ น้ำ เหมาะ แก่การ ล่องเรือ หรือแพ เพราะมีทัศนียภาพสวยงาม การล่องแพใช้เวลา ประมาณครึ่งวัน
มีสถานที่น่าสนใจ เช่นแหลมชาวเขื่อน ผาเกี๋ยง ผางาม เกาะชวนฝัน ทะเลสาบสบพุ หมู่บ้านชาวประมง บ้านสา ฯลฯ สำหรับผู้ที่สนใจกีฬาทางน้ำ บอสสินี่ สปอร์ต คลับ ได้รับอนุญาตจาก กรมชลประทานให้จัดตั้ง ศูนย์กีฬา ทางน้ำ ที่บริการอุปกรณ์กีฬาทางน้ำประเภทต่างๆ เข่น สกู๊ตเตอร์ บานานาโบ๊ท วินเสริฟ เป็นต้น บ้านพักรับรอง ของทางกรมฯ อนุญาตให้เข้าพักได้เฉพาะข้าราชการ หรือหน่วยงานราชการเท่านั้น โดยมีหนังสือแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วัน ไปที่กรมชลประทาน ถนนสามเสน หรือ โทร. 241-4806 บริการจองแพ เรือ และที่พักบริเวณอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน สามารถติดต่อได้ที่ กิ่วลมรีสอร์ท แพวังแก้วและวังแก้วรีสอร์ท


------------------------------------------

พิพิธภัณฑ์บ้านย่าแดง

เจ้าของคือ อาจารย์วิถี พานิชพันธ์ ตั้งอยู่ที่ ถนนตลาดเก่า (ตลาดจีน)เป็นที่เก็บสะสมเครื่องเขินและผ้าล้านนา ไม่มีการจัดแสดงอย่างเป็นทางการ ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอเข้าชมล่วงหน้าได้ โทร. (054) 217063


------------------------------------------

ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง

ตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดลำปางด้านตะวันตกเฉียงใต้ หลักเมืองทำด้วยไม้สัก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว โดยหลักที่หนึ่งสร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2400 หลักที่สองสร้างประมาณปี พ.ศ. 2416 และหลักที่สามสร้างประมาณปี พ.ศ. 2429 ต่อมาในปี พ.ศ. 2440 เมื่อสร้างศาลากลางจังหวัดขึ้น ได้นำหลักเมืองมาไว้ที่บริเวณหน้าศาลากลาง และได้มีการสร้างมณฑปครอบหลักเมืองทั้งสามในปี พ.ศ. 2511


------------------------------------------

พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ

ประดิษฐานอยู่ในมณฑปทรงไทยแบบจตุรมุขชึ่งตั้งอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดลำปาง พระพุทธรูปสร้างด้วยโลหะผสมรมดำทั้งองค์ ปางสมาธิ ชาวบ้านเรียก "หลวงพ่อดำ" จัดสร้างโดยกรมการรักษาดินแดนเมื่อปี พ.ศ. 2511 มี 4 องค์ เพื่อนำไปประดิษฐานไว้ 4 ทิศของประเทศ โดยทางทิศเหนือได้นำมา ประดิษฐานไว้ ณ จังหวัดลำปาง นับเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง เป็นที่เคารพสักการะของประชาชน ปัจจุบันพระพุทธรูปองค์นี้ปิดทองเกือบทั้งองค์โดยสาธุชนที่มานมัสการ


------------------------------------------

วัดพระธาตุม่อนพญาแช่

ตั้งอยู่ที่ ต.พิชัย บนเส้นทางสายลำปาง-งาว ระยะทางประมาณ 5 กม. จากตัวเมืองโดยเลี้ยวขวาเข้าไปตรงหลักกม.ที่ 605 ประมาณ 1 กม. วัดตั้งอยู่บนเนินเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของจังหวัดลำปางได้อย่างชัดเจน ทางวัดได้พัฒนาเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และขอความร่วมมือกับสำนักงานป่าไม้เขตลำปางจัดให้เป็นวนอุทยานม่อนพญาแช่ ความสวย งามของวัดอยู่ที่บันไดนาคที่ทอดยาวขึ้นไปสู่พระเจดีย์ซึ่งกล่าวว่าบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเจดีย์เดิมถูกทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2498 ทุกปีจะมีงานนมัสการพระธาตุในวันแรม 8 ค่ำ เดือน 7 เหนือ (ตรงกับเดือน 9)


------------------------------------------

วัดพระธาตุเสด็จ

อยู่ห่างจากตัวเมืองไปตามเส้นทางลำปาง-งาว ประมาณ 19 กม. แยกซ้ายตรงกม.ที่ 17 เข้าไปประมาณ 2 กม. วัดพระธาตุเสด็จเป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง มีตำนานกล่าวว่าสร้างขึ้นในสมัยพระนางจามเทวี เมื่อประมาณ 500 ปีมาแล้ว อุโบสถและวิหารต่างๆ ในวัดนี้ล้วนแต่เป็นของโบราณที่ได้รับการบูรณะใหม่ แต่ยังคงสภาพศิลปะโบราณให้เห็นได้อยู่จนปัจจุบัน กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นโบราณสถานของชาติแล้วพุทธสถานที่สำคัญคือ องค์พระธาตุเสด็จ เป็นเจดีย์ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า
เป็นเจดีย์แบบลานนา ลักษณะคล้ายพระธาตุลำปางหลวงแต่องค์เล็กกว่า นอกจากนี้ยังมีวิหารใหญ่ เรียกว่า "วิหารกลาง" ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดปางลีลาองค์ใหญ่มีพุทธลักษณะงดงามนามว่า "หลวงพ่อห้ามญาติ" วิหารหลวง เรียกว่าวิหารจามเทวี ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ ศิลปะเชียงแสนและวิหารพระพุทธ มีพระพุทธรูปชื่อ "พระเจ้าดำองค์อ้วน" เป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ


------------------------------------------

สวนสาธารณะหนองกระทิง

ตั้งอยู่ที่ตำบลบ่อแฮ้ว จากตัวเมืองข้ามลำน้ำวังไปตามเส้นทางสายลำปาง - ห้างฉัตร ประมาณ 3 กม.เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนชาว ลำปางที่ใกล้ตัวเมือง มีหนองน้ำใสเหมาะสำหรับว่ายน้ำ เล่นเรือถีบ มีสวนหย่อม และต้นไม้ร่มรื่น มีร้านอาหารและเครื่องดื่มบริการหลายแห่ง


------------------------------------------

อ่างเก็บน้ำวังเสือ

อยู่ห่างจากตัวเมืองไปตามถนนสายลำปาง-เด่นชัย 18 กม.แล้วเลี้ยวขวาตามถนนเข้าตัวเมือง อีกราว 300 เมตร เป็นอ่างเก็บน้ำที่อยู่ริมถนน เหมาะแก่การแวะพักผ่อนปิคนิค ริมอ่างเก็บน้ำเป็นทิวเขาที่มีทิวทัศน์สวยงาม โดยเฉพาะยามเย็นเมื่ออาทิตย์อัสดง


------------------------------------------


วัดปงสนุก

วัดปงสนุก เป็นวัดโบราณวัดหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ที่วัดปงสนุก ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง ๕๒๐๐๐ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา และฝังลูกนิมิตร เมื่อ พ.ศ. ๓๒๑๔
สันนิษฐานว่าวัดนี้คงสร้างขึ้นร่วมสมัยพระเจ้าอนันตยศเสด็จมาทรงสร้างเมืองเขลางค์
เมื่อพ.ศ. ๑๒๒๓ บริเวณวัดปงสนุกตั้งอยู่ติดกำแพงเมืองเขลางค์รุ่นที่ ๒ ด้านใน
จากการศึกษาสภาพสิ่งก่อสร้างเท่าที่ปรากฏปัจจุบัน มีอาคารสถานก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุด คือ
เจดีย์และวิหารพระเจ้าพันองค์ ซึ่งปรากฏในบันทึกมีการบูรณะครั้งหลังประมาณ ๑๒๐ กว่าปีมาแล้ว
สิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นพยานวัตถุบ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองของวัดสืบทอดกันมาจากอดีต
เป็นเวลาร้อยกว่าปีมาแล้ว วัดปงสนุก เดิมมีชื่อเรียกอยู่หลายชื่อ


------------------------------------------


กาดกองต้า

กาดกองต้า หรือ ตลาดจีน (กาดกองต้า เป็นคำล้านนา แปลตามตัวคือ ตลาดถนนท่าน้ำ) เป็นตลาดโบราณ ของคนลำปาง อายุร้อยกว่าปีมาแล้ว ตั้งอยู่ริมแม่น้ำวัง เริ่มก่อตั้งเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2420 (สมัยรัชกาลที่5) ความสำคัญในอดีตเป็นท่าเรือขนถ่ายสินค้าทางภาคเหนือและเป็นศูนย์กลางการค้าไม้ซึ่งมีพ่อค้าหลายเชื้อชาติทั้งพม่า จีน และชาวตะวันตก ชื่อตลาดจีน มาจากพ่อค้าส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายจีน ซึ่งบางส่วนเดิมทีได้มาขายแรงงานที่นี้ และได้พัฒนาจนมาเป็นพ่อค้าส่วนใหญ่ของตลาด เสน่ห์กาดกองต้าถ่ายทอดผ่านทางสถาปัตยกรรมทั้งเรือนแบบไทยภาคกลาง เรือนล้านนา เรือนพม่า เรือนแบบจีน และเรือนขนมปังขิงแบบฝรั่งเศส ตลาด ถนนคนเดิน จะเปิด เวลา 18.00-22.00น. เฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ (แนะนำว่าถ้าอยากถ่ายรูปให้มาเวลาบ่ายๆจะดีน่ะค่ะ)
สถานที่ตั้ง ถ.ตลาดเก่า ต.สวนดอก อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง ใกล้สะพานรัษฎาภิเศก


ข้อมูลจากเวป คลิ๊กเลย

 

โดย: nongmalakor 25 ธันวาคม 2555 9:37:41 น.  

 

 

โดย: Kavanich96 25 ธันวาคม 2555 10:36:16 น.  

 




เห็นข้อมูลเพิ่มเติม...

.. อยากโหวต ให้อีก...

เฮ้อ... จนใจ..

อ่ะ...




 

โดย: foreverlovemom 25 ธันวาคม 2555 11:30:56 น.  

 

สวัสดีคะพี่ต้อง ตามเที่ยวด้วยคนคะ เห็นแล้วอยากไปแบบนี้บ้าง แต่คนขับรถนีคงจะไม่ไหวอะคะ ตอนนี้เลยหาที่เที่ยวใกล้ๆ ไปก่อน

ปล.อัพบล็อกนครพนมแล้วนะคะ พี่ต้องอัพอีกบล็อกอย่าลืมแวะไปเรียกนะคะ

 

โดย: paerid 25 ธันวาคม 2555 15:57:01 น.  

 

สวัสดีค่ะ เรากำลังจะล่องจากใต้ขึ้นเหนือ 5-13 ม.ค.56 ทริปอ่างขาง-เชียงราย อ่านบล็อกของคุณแล้วเราได้ข้อมูลดีๆ เยอะเลยค่ะ ตอนแรกจะซัดยาวให้ถึงเชียงใหม่ แต่สนใจอยากแวะนอนลำปางขึ้นมาแล้วค่ะ ที่พักน่ารักมาก ราคาก็น่าคบหา
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ นะคะ

 

โดย: คุณนุ้ย IP: 113.53.214.232 25 ธันวาคม 2555 21:35:27 น.  

 

ส่งความสุขวันคริสต์มาสนะคะ^__^

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: วันฝัน วันซันเดย์ 26 ธันวาคม 2555 2:03:27 น.  

 





อยากไป... อยากไป... อยากไป...





 

โดย: foreverlovemom 26 ธันวาคม 2555 12:19:43 น.  

 

คุณนุ้ย... เมืองลำปางเป็นเมืองเล็กๆ ยังไม่ใหญ่เหมือนเชียงใหม่ แต่ยังคงมีกลิ่นอาย-วิถีชีวิตแบบชาวเหนืออยู่ ส่วนตัวเมืองเชียงใหม่เหมือน กทม.ไปทุกวัน รถติด แสงสีเสียง ที่ กทม.มีเชียงใหม่ก็มีเหมือนกัน ผมว่าเสน่ห์ในตัวเมืองเชียงใหม่ไม่มีแล้วอ่ะ ถ้าสนใจลำปางก็ลองแวะเที่ยวตามข้อมูลในบล็อกผมดูก็ได้ครับ ลำปางมีอะไรน่าสนใจเยอะเหมือนกัน

เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ที่จริงแต่เมือง แต่ละจังหวังก็มีเสน่ห์ของมันอยู่ในตัว เพียงแต่เราจะมองเค้าในมุมไหนแค่น้้นเอง ยังไงคุณนุ้ยเที่ยวให้สนุกและปลอดภัยตลอดทริปนะครับ

 

โดย: nongmalakor 27 ธันวาคม 2555 14:20:43 น.  

 




บ้านนี้ อลังการทุกห้อง ไม่ว่าจะเปิดเข้าไปส่วนไหน.. ละลานตา ละลานใจ..

... แต่...

ไม่ค่อยเปิดให้ comment...

ไม่รู้ว่าพี่ป๋องจะเข้าไป จ่อมตรงไหนได้มั่ง...

เฮ้อ... บ่น...

สวัสดีวันครู ค่ะ...

 

โดย: foreverlovemom 16 มกราคม 2556 1:37:12 น.  

 

ตั้งใจว่าจะขับรถไปแอ่วเชียงรายปลายปีนี้สัก 6 วัน (พักค้าง 5 คืน) กำลังหาข้อมูลอยู่ครับ นับว่าเป็นประโยชน์มาก

 

โดย: Kasame Ku IP: 110.168.13.176 18 พฤษภาคม 2557 12:25:17 น.  

 

ที่พักอาลัมภางค์บริการแย่มาก
ผิดหวังมาก
การบริการแย่มาก ผู้หญิงที่มีลอยสักที่แขน
*เราไปเช่าที่พัก 2 ห้อง ในราคา 1200 คือห้อง 17 กับ 18
ก่อนหน้านี้ได้มีการโทจองแล้วก็บอกหมดว่ามีผู้ใหญ่กี่คน เด็กกี่คน ทางพนังงาน(เสียงผู้หญิง)แนะนำให้เราเอาห้องใหญ่ คือห้อง 17 กับ 18 เราตกลงจอง
ถึงวันที่กำหนด เราก็เข้าไปเช็คอิน โดนมีผู้หญิงผมสั้นมีลอยสักที่หัวไหล่ยืนอยู่ตอนรับ
คนต้อนรับ : นางบอกว่ามากันเยอะที่พักจะพอหรอ? แล้วทำหน้าไม่พอใจชักศรีหน้าใส่ (เราก็บอกกับนางไปตอนโทจองแล้วนะ)
เรา : อ่อคือเรามีที่นอนมาอยู่หลังรถพอนอนได้ค่ะ
คนต้อนรับ : ชักศรีหน้าใส่แล้วทำแบบไม่พอใจใส่
++(คือถ้าไม่พอใจก็ยินดีจ่ายเพิ่มนะ ไม่ต้องมาทำหน้าไม่พอใจใส่ลูกค้าขนาดนั้น ง่ายๆนะกูเป็นคนเองเงินมาให้นะ ทำเหมือนไปนอนฟรี เอออออ...คือไร)++
เรา : เออพี่ค่ะมีอาหารขายไหมค่ะตอนเย็น
คนต้อนรับ : ไม่มีค่ะต้องไปซื้อมากินเอง มีแต่อาหารเช้าคิดหัวละ100 แล้วก็ทำหน้าใส่
เรา : อ่อค่ะ
++(อาหารเช้าหัวละ100โอ้วววววว... อาหารเย็นก็ไม่มีเห้ยยย งง)++
ตกเย็นเราและครอบครัวก็ไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินกาดกองต้า ซื้ออาหารมาเพียบเลยอ่อที่ขาดไม่ได้เลยเบียร์เย็นๆ3ขวด
เรา : พี่ค่ะขอแก้วเพิ่มสัก2ใบได้ไหมค่ะ
คนต้อนรับ : ไม่มีค่ะ ขึ้นไปเอาบนห้องได้ไหมค่ะ ทำหน้าเหมือนลำคานแบบเดิม

(คุณเป็นคนบริการคุณควรทำหน้าแบบนี้ใส่ลูกค้าหรอค่ะ ไม่เข้าใจคุณให้บริการมาก่อนนานนะแค่ยืมช้อนจานแก้วน้ำคุณต้องทำหน้าขนาดนั้นหรอ เราเอาเงินไปให้คุณนะ คุณไม่มีอาหารเย็นขายเราก็ไปซื้อมากิน คุณควรมีจานช้อนบริการลูกค้านิ แล้วคุณให้ไปหาซื้อมากินทำไมแล้ว เรื่องคนเข้าพักเยอะคุณคิดเพิ่มได้นิ บอกสิ ไม่ใช่มาชักศรีหน้าใส่)
+++++ บรรกาศโอเคที่พักน่ารัก +++++ อบรบการให้บริการให้ดีกว่านี้ก็จะดีนะ

ครั้งเดียวพอ ผิดหวังมาก

 

โดย: seeyou IP: 223.204.190.228 16 ธันวาคม 2558 21:40:24 น.  

 

สวัสดีครับคุณseeyou ไม่ทราบไปนานยังครับ ช่วงที่ผมไป เจอน้องๆรวมทั้งเจ้าของบริการดี ถ้าผมเจอแบบนี้ก็คงเซ็งไม่แนะนำ ไม่เชียร์ลงบล็อกแน่ ยังไงต้องขอบคุณ คุณseeyou ที่มาเล่าประสบการณ์ด้านลบให้ฟัง ถ้ามีอะไรเกียวกับที่พัก ด้านบริการไม่ว่าลบหรือบวกก็เอามาแชร์ในบล็อกได้เลยครับ ถือว่า Update ข้อมูลให้เพื่อนๆที่เข้ามาอ่านในบล็อกผมได้ตัดสินใจว่าจะใช้บริการที่พักดีเปล่า ถ้าผมมีโอกาสไปนอนลำปางอีกจะได้เอาข้อมูลไปบอกเจ้าของให้ปรับปรุงและแก้ไขต่อไป

ปล.คุณseeyouไปเที่ยวไหนมาบ้างครับ ประทับใจที่เที่ยวหรือต้องระวังอะไรบ้าง เอามาแชร์ในบล้อกผมได้นะครับ

 

โดย: nongmalakor 18 ธันวาคม 2558 14:02:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


nongmalakor
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [?]




ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
Google
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
24 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nongmalakor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.