แอ่วเจียงฮาย วันที่ 3 เวียงป่าเป้า – ดอยช้าง



ย้อนดูวันที่ 2 ลำปาง-แจ้ซ้อน-เวียงป่าเป้า คลิ๊กเลย

วันอาทิตย์ที่ 16 ธ.ค.55 

เมื่อคืนนอนดึกนิดหนึ่ง แต่พอหัวถึงหมอนก็หลับยาว เช้าตื่นมาก็อาบน้ำอาบท่า ผมออกไปเดินเล่น ชมนกชมไม้ ในบริเวณรีสอร์ท

เช้านี้อากาศดีมาก หมอกลงพอเป็นพิธี ส่วนตอนกลางคืนอากาศแค่เย็นๆไม่ถึงกับหนาว





















ประมาณเจ็ดโมงครึ่งลงไปกินอาหารเช้าที่ห้องอาหารของรีสอร์ท ห้องอาหารจะอยู่อาคารเดียวกับ Lobby









อาหารจะให้ ไข่ดาว เบค่อน ไส้กรอก แฮม ใส่จานไว้ให้คนละจาน ส่วนข้าวต้ม ขนมปัง น้ำดื่ม ผลไม้เป็นบุฟเฟ่ต์ไปตักที่ไลน์อาหารได้เลย

ABF ให้คนละจาน





ไลน์อาหาร ขนม เครื่องดื่ม ผลไม้ 











ได้เวลาเดินทางไปดอยช้างต่อ ผมออกจากรีสอร์ทเวลา 09.24 น.หน้าไมล์ 854 ก.ม. 

ขอบคุณน้องฝ่ายประชาสัมพันธ์ รวมถึงพนักงานทุกท่าน บริการประทับใจมาก







ออกจากรีสอร์ทเลี้ยวซ้ายไปแม่สรวย แวะเติมน้ำมันนิดนึง

ผมเติมน้ำมันที่ปั๊มปตท.แม่สรวย เต็มถังทั้งหมด 63.97 ลิตรลิตรละ 30.64 บาทราคา 1,960 บาทระยะทางทั้งหมด 879.2 ลิตรตก 13.7 ลิตร/ก.ม. ซิปๆ เอ้ย..จิ๊บๆ (เส้นที่ผมมาจากลำปางเมื่อวาน ไม่มีปั๊มใหญ่เลยครับ ส่วนมากจะเป็นปั๊ม Cosmo กับ PB มี ปตท.ก็ที่แม่สรวยนี้แหละครับ ถ้าใครพักที่ลำปางแนะนำให้เติมน้ำมันที่ลำปางมาก่อนเลย)





ระหว่างเติมน้ำมันก็ถามเด็กปั้มว่าเห็นเขียนแม่สรวย ทำไมอ่านว่าสวยละไม่อ่านว่าสะ-รวย เด็กปั๊มบอกว่า เมื่อก่อนเป็นชื่อของแม่น้ำที่ไหลผ่านหมู่บ้านและตำบลที่ตั้งของอำเภอเดิมที่เรียกว่า “แม่ซ่วย” ซึ่ง “ซ่วย” เป็นภาษาพื้นเมือง หมายถึง “ล้าง” ต่อมาเพี้ยนเป็น“แม่สรวย” กลับมาหาข้อมูล เอ่อ..จริงของเด็กปั๊ม

ผมเติมน้ำมันเต็มถังเสร็จแวะซื้อน้ำ-ขนมที่ 7/11 นิดหน่อย ออกจากปั๊มได้ก็ขับตรงไปเรื่อยๆเลยไป อ.แม่สรวยไม่ไกลเท่าไหร ก็ถึงแยกบ้านตีนดอย เห็นป้ายไปดอยช้างแล้วครับ





ถึงแยกบ้านตีนดอยเลี้ยวซ้ายเลยครับ ขับไปอีกนิดจะมีทางแยกเลี้ยวซ้ายไปเขื่อนแม่สรวย ถ้าตรงไปก็ไปดอยช้าง ผมเลี้ยวซ้ายไปเที่ยวเขื่อนแม่สรวยก่อน





จากแยกทางเข้าเขื่อนขับไปไม่เกิน 5 ก.ม.ครับก็ถึงเขื่อนแม่สรวยแล้ว

ป้ายเก่าเชียว





เขื่อนแม่สรวยผมไม่มีข้อมูลอะไรครับ ขึ้นไปถ่ายรูปเฉยๆ



















มีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย บรรยากาศดีทีเดียว









หลังจากถ่ายรูปเดินเล่นเสร็จก็ขับย้อนกลับมาทางเดิม ถึงปากทางเลี้ยวซ้ายไปดอยช้างกันครับ

ข้อมูลและแผนที่ไปทางดอยช้าง คลิ๊กเลย





เส้นทางวันนี้เปลี่ยนแผนนิดหน่อย ตอนแรกที่หาข้อมูลผมจะวิ่งเข้า บ้านทุ่งพร้าวขึ้นทางห้วยไคร้เพราะทางขึ้นเขาจะสั้นกว่า แต่ชันนิดนึง พอเมื่อวานถามข้อมูลมีแต่คนแนะนำให้ขึ้นทาง บ้านเจริญ ดีกว่า วิวสวยกว่า ทางไม่ชัน ค่อยๆขึ้นเขา ผมเลยขึ้นทางบ้านเจริญครับ

จากปากทางเขื่อนทางก็เริ่มขึ้นเขา เห็นวิวอ่างเก็บน้ำที่เขื่อนแม่สรวยแล้ว ขอภาพมุมสูงบ้าง







ขับตรงไปได้ซักพักก็จะมีทางแยก เลี้ยวขวาไปดอยช้าง ตรงไปดอยวาวี ผมเลี้ยวขวาตามรูปครับ





ทางขึ้นเขาตลอด ถนนช่วงนี้ทางยังโอเค ไม่แคบมาก ยังขับสบายๆ มีโค้งมีชันบ้างเป็นบางช่วงยังไม่ถึงกับโหดเท่าไหร เส้นนี้รถตู้ก็ขึ้นได้สบายๆครับ







ส่วนสภาพถนนก็เป็นอย่างที่เห็น เป็นลูกรังอัดแน่น ฝุ่นเยอะหน่อย สำหรับผมเส้นนี้ผมว่าขับสบายๆ ทางค่อนข้างเรียบ มีหลุมมีบ่อนิดหน่อย ถึงแม้เส้นทางจะไม่กว้างมาก แต่ก็พอรถสวนกันได้













ไม่อยากบอกว่าวิวสองข้างทางสวยมาก มีขึ้นเขาชันนิดหน่อย ขับไปเรื่อยๆก็มาถึงถนนราดยางแล้ว





จากถนนราดยางไปอีกไม่ไกลก็มาถึงโรงงานกาแฟดอยช้าง 

ผมมาถึงโรงงานกาแฟดอยช้างเวลา 11.32 น.ระยะทาง 905 ก.ม.







โรงงานกาแฟดอยช้าง จะอยู่ตรงหัวโค้งถนนพอดี ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปได้เลย ถ้าตรงไปตามทางจะไปที่วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย (ดอยช้าง) หาที่จอดรถได้ก็เห็นลานตากและโรงงานเมล็ดกาแฟอยู่ข้างหน้าเสาธง











เราสามารถเอารถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถได้ครับ จอดรถเสร็จด้านหน้าจะที่จอดรถจะเป็น Academy of Coffee 









ด้านหน้าติดทางเข้าประตู จะมีเรือนไม้ขายผลิตภัณฑ์กาแฟดอยช้าง (ใช้พันธุ์อาบาริกา) เข้าไปดูข้างในกันครับ 





ผลิตภัณฑ์ของดอยช้าง

1. Doi Chaang Peaberry กาแฟเมล็ดโทนหรือเมล็ดเดี่ยว(ซึ่งมีเพียง 7%ของผลผลิตทั้งหมด)ได้ รับการยอมรับว่าเป็นเมล็ดกาแฟชั้นคุณภาพ เนื่องจากเป็นกาแฟเมล็ดเดี่ยวทำให้ไดรับสารอาหารสะสมอย่างเต็มที่ ให้รสชาตินุ่มนวล กลมกล่อม กลิ่นคล้ายน้ำผึ้ง เชอรรี่ และความหอมของดอกไม้ ประสานกันอย่างลงตัว การคั่วระดับกลาง

2. Doi Chaang Premium (Organic) กาแฟปลอดสารเคมี ที่ได้รับการรับรองจากสหรัฐอเมริกา (USDA Organic) และสหภาพยุโรป(Organic Farming) จึงมั่นใจได้ว่าปลอดจากสารเคมีตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูกจนถึงขั้นตอนการ ผลิตออกสู่จำหน่าย เพื่อรองรับกับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ ได้รับการคัดเลือกให้วางจำหน่ายในSunOpta ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับออแกนิคส์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งใน ทวีปอเมริกาเหนือ มีสาขามากกว่า 1500 แห่ง

3. Doi Chaang Premium AA กาแฟคัดพิเศษ ขนาดเมล็ดใหญ่กว่า 7ม.ม คั่วระดับ Dark Roast ให้รสชาติเข้มข้น ลงตัว มีกลิ่นหอมคล้ายคาราเมล และแมคคาเดเมีย

4. Doi Chaang Premium A กาแฟชนิดพิเศษ ขนาด 6ม.ม ที่ใหญ่กว่าขนาดมาตรฐานทั่วไปที่มีเพียงแค่ 5 ม.ม ความ ลงตัวสำหรับทุกเมนู ด้วยรสชาติที่เข้มพอดี กอปรด้วย ความเปรี้ยวของผลไม้เล็กน้อย และกลิ่นหอมของดอกไม้ซึ่งเป็นคุณลักษณะพิเศษเฉพาะของกาแฟดอยช้าง

5. Doi Chaang Ego ขนาดเกรด B ด้วยรสชาติที่เข้มข้น ปนหวาน ให้ความลุ่มลึกลงตัว รู้สึกสดชื่น สดใสทุกครั้งที่ได้ลิ้มลอง ต่างจากเกรดพรีเมี่ยมแค่ขนาดเมล็ดและกรรมวิธีการคั่วเท่านั้น เหมาะสำหรับร้านค้าที่ต้องการลดต้นทุน

ติดต่อสอบถาม:

• บริษัท ดอยช้าง คอฟฟี่ ออริจินอล จำกัด
• สำนักงานใหญ่ เลขที่ 787 หมู่ที่ 3 ตำบลวาวี, อำเภอแม่สรวย, จังหวัดเชียงราย 57180 โทร 053-605-988 ถึง 9 Fax: 053-605-990
• สาขาที่ 1 เลขที่ 104/7 ถ.งำเมือง อ.เมือง จ.เชียงราย 57000 โทร 053-744-741 ถึง 2 Fax: 053-744-743
• ร้านกาแฟ ดอยช้าง@ อาร์ท เลขที่ 542/2 ต.เวียง อ เมือง จ เชียงราย 57000 โทร 053-752-918
• ร้านกาแฟดอยช้าง คอฟฟี่ เฮ้าท์ เลขที่ 251 หมู่ที่ 5 ต เจดีย์หลวง อ แม่สรวย จ เชียงราย 57180 โทร 053-950-332

ข้อมูลจากเวป คลิ๊กเลย





ขนาดผมกับแฟนไม่ดื่มกาแฟ-ชา เข้าไปได้กลิ่นของกาแฟ อดใจไม่ไหวขอลองชิมซักแก้ว บอกไม่ถูก มันหอม หวานมันมากกกกก 







ที่เรือนไม้นอกจากขายกาแฟสดแล้วยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆอีกมากมายเกี่ยวกับกาแฟรวมถึงของที่ระลึกมาจำหน่าย หมดตังด์ไปเยอะเหมือนกัน









ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านล่างลงไป สะอาดใช้ได้เลย









ที่มาของกาแฟดอยช้าง ........

กาแฟดอยช้าง เป็นผลผลิตของเกษตรกรชาวไทยภูเขาบนดอยช้าง ณ หมู่บ้านดอยช้าง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ซึ่งแต่เดิมอาชีพหลักของชาวบ้านคือ การปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย จนกระทั่งปี 2526 พี่น้องบนดอยช้างพร้อมใจกันเลิกปลูกฝิ่น เนื่องด้วยพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง ทรงสนับสนุนให้ปลูกกาแฟพันธุ์อราบิก้าและพืชเมืองหนาวอื่น ๆ ทดแทนโดยผ่านทางโครงการต่าง ๆ เป็นกาแฟสดที่ปลูกโดยฝีมือชาวอาข่า (อีก้อ) บนดอยสูงของจังหวัดเชียงราย และ ส่งออกเมล็ดกาแฟคั่วไปขายยังตลาดกาแฟสำคัญ ๆ ทั่วโลก กระบวนการผลิตกาแฟทั้งระบบของดอยช้างตั้งแต่ปลูก เก็บเกี่ยว เลือกสรร คั่ว บด และ บรรจุภัณฑ์ เป็นธุรกิจของพี่น้องชาวอาข่าทั้งหมด ที่สำคัญ รสชาติของกาแฟดอยช้างที่ผ่านการพัฒนามาหลายรุ่นนั้น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริง ๆทั้งกลิ่นหอมอันยั่วยวนและอรรถรสที่โดดเด่น ชิมแล้วทราบทันทีว่านี่คือ กาแฟสดจากยอดดอยช้าง ขุนเขาที่สูงสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,200 เมตรทีเดียว

กาแฟดอยช้างพรีเมี่ยม (Premium) เป็นเมล็ดกาแฟสมบูรณ์ กาแฟอราบิก้า 100% ที่มีขนาดเกรด A รสชาติเข้มพอดีๆ มีกลิ่นหอมหวานของดอกไม้อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกาแฟดอยช้าง เมื่อทดลองชิมจะได้รสชาตกรดอ่อน ๆ คล้ายไวน์ขาวให้ความสดชื่น กลมกล่อม ในทุกครั้งที่ได้ดื่ม ....









อดีต...ต้นกำเนิดจากดอยสูง

ปี 2526 จุดเริ่มของกาแฟดอยช้าง จากผลพวงแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ต้องการให้ชาวเขาบนดอยช้างเลิกปลูกฝิ่น หันมาปลูกพืชเมืองหนาว รวมไปถึงเมล็ดกาแฟอาราบิก้า นาย พิก่อ แซ่ดู่ ชายเกล้าผมมวยผู้กลายเป็นโลโก้ (Logo) เป็นแกนนำชุมชนชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า ให้หันมาปลูกกาแฟ ขยายจาก 600 ไร่ เป็นกว่า 12,000 ไร่ ในขณะนี้ กลายเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของชาวบ้าน จากที่เคยปลูกฝิ่น และทำไร่เลื่อนลอย

นอกจากกาแฟดอยตุง จากโครงการพัฒนาดอยตุงของสมเด็จย่า ก็ยังมีกาแฟยี่ห้อ "ยอดดอย" "แอ่งดอย" และ "ดอยช้าง" ที่ปัจจุบันมี นาย บณชัย พิสัยเลิศ หรือ "อาเดียว" ทายาทรุ่นที่สอง เป็นผู้สานภารกิจต่อ





หลังจากถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลางมาก จึงได้มีการรวมตัวกันกันก่อตั้งบริษัทกาแฟครบวงจรตั้งแต่กระบวนการผลิตกาแฟทั้งระบบของดอยช้าง เริ่มตั้งแต่ปลูก เก็บเกี่ยว เลือกสรร คั่ว บด และบรรจุภัณฑ์ เป็นธุรกิจของพี่น้องชาวอาข่าทั้งหมดของชาวอาข่าเอง ภายใต้ชื่อ บริษัท กาแฟดอยช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล” โดยร่วมทุนกับนักธุรกิจจากแคนนาดา สร้างโรงงานผลิตและสร้างโรงเก็บกาแฟของพวกเราเอง เพื่อที่จะนำเสนอกาแฟอาราบิก้าคุณภาพสูง





ชาวอาข่าคือใคร

ครอบครัวที่อยู่ที่หมู่บ้านดอยช้างนั้นส่วนมากเป็นชาวไทยภูเขาเผ่า “อาข่า” อันเป็นชนพื้นเมืองประจำทวีปเอเชีย มีถิ่นฐานเดิมอยู่ทางทิศตะวันตกตอนใต้ของประเทศจีน ปัจจุบันสามารถพบกับชาวเขาเผ่า

“อาข่า” ได้ตามแนวเขาเทือกของประเทศลาว เวียตนามและภาคเหนือของประเทศไทย พวกเราไม่มีภาษาเขียนเป็นของตนเองหากแต่มีการถ่ายทอดวัฒนธรรม ประเพณีอันทรงคุณค่าผ่านการบอกเล่าจากคนรุ่นหนึ่งสู่คนอีกรุ่นหนึ่งและดำเนินชีวิตตาม

“วิถีของอาข่า” นับถือภูตผี ศีลธรรม และปรัชญาสังคมซึ่งเป็นเครื่องมือปกครองความประพฤติของแต่ละคนพร้อมทั้งเน้นย้ำเรื่องความผูกพันอันแน่นแฟ้นของครอบครัวและผืนแผ่นดิน เช่นเดียวกับชาวไทยภูเขาเผ่าอื่น ๆ ในดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ

ชาวอาข่ายังคงต้องต่อสู้กับกิเลส ความห่างไกลจากความเจิญและความยากจน จึงมีเด็กรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยที่ต้องละทิ้งหมู่บ้านไปเสาะหาโอกาสที่ดีกว่าในตัวเมือง

ลองฟังเพลงของอาข่าได้ครับ เพราะดี แต่ผมไม่ทราบความหมายนะครับ
ข้อมูลจากเวป คลิ๊กเลย



หลังจากเข้าไปชมโรงงานกาแฟเสร็จ พร้อมเกร็ดประวัติที่มาของกาแฟดอยช้างเล็กๆน้อยๆแล้ว ได้เวลาออกจากโรงงานดอยช้าง เลี้ยวซ้ายไปหน่อยจะมีร้านชื่อ A-Roy (อร่อย) เป็นมินิมาร์ท ใครจะขึ้นไปนอนบนดอยช้างให้ซื้อของที่นี้ขึ้นไปเลยครับ เพราะข้างบนไม่มีร้านขายของชำขาย มีแต่ร้านอาหารของการเกษตรเท่านั้นเอง 





จากโรงงานดอยช้างไปถึงสถานนีเกษตรประมาณ 3 ก.ม. ไม่ไกลเนอะ แต่ดูทางขึ้นสิครับ ที่ผมไปกำลังทำทางอยู่ (อีกหน่อยทางเสร็จคงขึ้นสบาย) จากในรูป เลี้ยวซ้ายจะลงไปทางบ้านห้วยไคร้ ผมขับตรงขึ้นไป ทางแย่มาก ลูกรังตลอดขึ้นเขาโค้งชัน เป็นหลุมเป็นบ่อตลอด ดีว่าทางเละประมาณ 1 ก.ม. แต่ไม่ต้องห่วงเห็นรถเก๋ง รถตู้ยังขึ้นได้เลยครับ ลุยโลด







ผมก็มาถึง ดอยช้าง เวลา 12.35 น.ระยะทาง 907 ก.ม.

ดอยช้าง ตั้งอยู่ที่ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย สูงจากระดับน้ำทะเล 1,700 เมตร แต่เดิมเป็นที่อยู่ของชาวเขาเผ่าม้ง ต่อมาปี พ.ศ. 2458 ชนเผ่าลีซอได้อพยพเข้ามาตั้งเป็น หมู่บ้านดอยช้าง และปี พ.ศ.2526 ชนเผ่าอาข่าได้เข้ามาอาศัยอยู่ใน หมู่บ้านดอยช้าง ซึ่งเป็นชุมชนเล็ก ๆ มีวิถีชีวิตเงียบสงบ

ส่วนชื่อ บ้านดอยช้าง นั้น ตั้งขึ้นตามลักษณะของภูเขาที่มีรูปร่างเหมือนช้างแม่ลูกสองเชือก หันหน้าไปทางทิศเหนือ (ตัวจังหวัดเชียงราย) สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่บริเวณโรงเรียนบ้านดอยช้าง และบน ดอยช้าง มี ผาหัวช้าง สูง 1,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นสถานที่ชมทิวทัศน์ที่สวยงาม อากาศเย็นสบายตลอดปี โดยอุณหภูมิเฉลี่ย 18 องศาเซลเซียส

ใครสนเที่ยวดอยช้าง ดูเวปนี้ได้ครับ คลิ๊กเลย









จอดรถตรงอาคารเอนกประสงค์ เข้าไปถามข้อมูลข้างในก่อนครับ











วันนี้ตามโปรแกรมผมเตรียมเต้นท์มากางนอนบนดอยช้างครับ ผมเข้าไปติดต่อ ถามข้อมูลว่าจะกางตรงไหนบ้าง เจ้าหน้าที่แนะนำดีมาก ให้ขึ้นไปกางตรงจุดกางเต้นท์ข้างบน วิวจะสวยมาก วันนี้นักท่องเที่ยวยังไม่มีใครมากางเต้นท์ สามารถเอารถขับขึ้นไปกางข้างบนได้เลย 

ลานกางเต็นท์ ข้างบนดอยช้าง







มีห้องน้ำพร้อมอ่างน้ำเอนกประสงค์





วิวจะได้ประมาณนี้











ถามที่กางเต้นท์เสร็จ ขอกินข้าวก่อนครับ ผมสั่งอาหารกินที่ห้องอาหารตรงส่วนสำนักงาน อาหารง่ายๆ จานเดียว กับไข่เจียวหมูสับ 









อิ่มเสร็จก็ได้เวลาขึ้นไปกางเต้นท์แล้วครับ ผมถามแล้วมีบ้านพักเปล่า เจ้าหน้าที่บอกมี แต่ต้องขับขึ้นไปอีกหน่อย วันนี้ห้องว่างทั้ง 5 ห้าห้องเลย แฟนผมเลยขอดูห้อง เจ้าหน้าที่ก็ขับพาขึ้นไปดู

อยากบอกว่าเจ้าหนี้ที่บริการดีมากเลยครับ ดีจนผมเกรงใจอ่ะ







แฟนผมเห็น โอเค เลย (สงสัยขี้เกียจกางเต้นท์แน่ 555) ขึ้นไปเดินเลือกเลย ขอห้องที่ 2 บ้านวิมานดาว 







มาดูภายในห้อง ห้องไม่ใหญ่มาก แต่มีห้องน้ำในตัว เห็นอย่างนี้มีน้ำอุ่นให้นะครับ น้ำแรงอีกต่าง เป็นชักโครกมีสายชำระ โอเคเลย ภายห้องไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลมให้ เพราะข้างบนอากาศเย็นจนถึงหนาวทั้งปี มีผ้านวม ห่มแล้วอุ่นมากกกก ไม่มีแสงสีเสียง เงียบดีจัง ชอบอ่ะ แต่มีปลั๊กไฟฟ้า กระติกน้ำร้อน ถ้วย ชากาแฟให้ ทั้งหมดคืนละ 400 บาท แฟนผมตกลงเลย 

อ้าว....แล้วไม่กางเต้นท์เหรอ แฟนผมบอกไว้ค่อยไปกางที่ภูชีฟ้าแล้วกัน จบข่าว















หน้าบ้านจะมีม้านั่ง ระเบียงไว้ให้ชมวิว





ที่จริงผมมาดอยช้างเพื่อดูดอกพญาเสือโคร่งครับ แต่พอทราบข้อมูลอยู่บ้างว่า ตอนนี้พญาเสือโคร่งที่ดอยช้าง โดนแมลงกินตายเกือบหมด เสียดายมาก ยังไงก็ขอเข้ามาดูบรรยากาศซักครั้งหนึ่ง ไว้พญาเสือโคร่งเริ่มฟื้นตัวแล้วจะกลับมาเที่ยวใหม่ครับ

จากเวปนี้ครับ คลิ๊กเลย

ข้างหลังจะเป็นต้นพญาเสือโคร่งบานทั้งดอยเลย รู้สึกว่าตอนนั้นพญาเสือโคร่งจะเยอะที่สุดในเมืองไทยประมาณ 2,000 กว่าต้น (ถ้าข้อมูลผมผิดต้องขอโทษด้วยครับ พอดีเคยอ่านเจอในเวปคราวๆ ตอนนี้หาลิงค์ไม่เจอแล้วครับ)




ผมเอาแผนที่เที่ยวเป็นวงกลมบนดอยช้างมาประกอบคำอธิบายแล้วกันครับ

ขอบคุณแผนที่ดอยช้างจากเวป คลิ๊กเลย





ตามแผนที่ เริ่มจากอาคารเอนกประสงค์ที่ผมไปติดต่อที่พัก ทานอาหาร ให้ขับไปตามลูกศรสีแดง ผมแวะขึ้นไปบ้าน A เฟรมก่อน ค่อยย้อนลงไปทางขวา ไปยังพุทธอุทยานแล้วขับลงมาถึงลานกางเต็นท์-อาคารเอนกประสงค์ แล้ววนกับเข้าบ้านพัก A เฟรม จะขับเป็นวงกลม

ขับไปตามป้ายเลยครับ





จากบ้านพักก็เลี้ยวขวาขึ้นเขา ทางลูกรังตลอด ขับไปจะผ่านหมูบ้านชาวเขาเล็กๆ ขับขึ้นเขาไปเรื่อยๆจะถึงทางแยกขับตรงไปจะไปเชียงราย จะมีป้ายเล็กๆบอกสังเกตหน่อยนะครับ ผมเลี้ยวขวาไปพุทธอุทยาน จะผ่านศูนย์เรียนรู้ โครงการขยายผลโครงการหลวงวาวี จะอยู่ทางขวามือ ถ้ามาถึงตรงนี้รับรองไม่หลงไปเชียงรายแน่









ผมจอดรถเข้าไปดู เงียบอ่ะ ไม่เห็นมีใครเลย เดินขึ้นไปอีกหน่อยจะเจอ ค่ายทหาร ร.17 พะเยา ถามน้องๆได้ข้อมูลเส้นทาง น้องๆบอกว่าวิ่งได้สบาย ก็ขับต่อไปครับ (ตอนแรกไม่แน่ใจว่ารถวิ่งได้เปล่า ดูทางเอาแล้วกัน)





เส้นทางนี้รถเก๋ง รถตู้ไม่แนะนำ บางช่วงเจอหลุมใหญ่มากสงสารรถเลย พอผ่านช่วงถนนลูกรังมาหน่อยก็เข้าป่าไผ่ ผมจอดรถแถวนี้





จอดรถได้ จะเห็นพระพุทธรูปอยู่กลางป่าไผ่ทางขวามือเรา ขับผ่านก็เห็นเลย อยู่ตรงทางโค้งบรรยากาศตอนนั้นประมาณเกือบบ่ายสอง อยากบอกว่าอากาศเย็นมาก เงียบสงบดีจังเลย





ข้างๆมีรูปปั้นยักษ์ท้าวเวสสุวัณ 1 ตน





เข้าไปไหว้พระเสร็จก็เดินไปอีกหน่อย ทางขึ้นไปพุทธอุทยานจะอยู่ทางซ้ายมือ เป็นบันไดเล็กๆเดินขึ้นไปเลย บันไดทางขึ้นเป็นหัวพญานาค มีชื่อด้วยนะ ชื่อนงคราญกับอนงค์





ทางขึ้นจะปลูกต้นกาแฟเต็มสองทางข้างเลยครับ ร่มรื่นมาก ทางขึ้นไม่ชันมากเดินพอหอบนิดๆ 









ถึงพุทธอุทยาน







พุทธอุทยานดอยช้าง ซึ่งมีหลวงพ่ออำนาจ สีลคุโณ ได้มาปฏิบัติธรรมจำพรรษาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2532 เป็นผู้ดูแลรักษาพุทธอุทยาน ดอยช้าง ยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติของป่าไม้ไว้ได้อย่างสมบูรณ์มาก มีบึงน้ำขนาดใหญ่อยู่กลางพุทธอุทยาน มีสีเขียวมรกตบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย มีเสียงกบเขียดร้องอยู่ตลอดเส้นทางเดินไปสู่ ลานพุทธสถานที่มีพระพุทธรูปปางต่างๆไว้ให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะบูชา ถัดจากลานพุทธสถานก็มุ่งตรงสู่ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่มีน้ำไหลเข้าไปในบ่ออยู่ตลอดเวลาไม่เคยเหือดแห้ง และน้ำก็ยังใสสะอาดเย็นฉ่ำตลอดทั้งปี

ขึ้นไปถึงข้างบนจะเป็นป่าไผ่ เดินไปหน่อยจะเห็นพระพุทธรูปปางต่างเต็มไปหมดเลยครับ















หลุดจากป่าไผ่เดินไปหน่อยจะเป็นป่าสนรวมถึงต้นไม้ต่างๆ ร่มรื่นดีมาก ดูมอสเกาะต้นไม้แสดงถึงสภาพอากาศและความสมบูรณ์ของป่าไม้ครับ











ดูทางเดินไปบ่อน้ำ เห็นบรรยากาศแล้วหายเหนื่อยเลยครับ







แล้วก็มาถึงบ่อน้ำ ใสมาก







ดูความใสของน้ำครับ

















ข้างๆบ่อน้ำ จะมีบ่อน้ำศักสิทธิ์ ที่มีน้ำไหลเข้าไปในบ่ออยู่ตลอดเวลาไม่เคยเหือดแห้ง และน้ำก็ยังใสสะอาดเย็นฉ่ำตลอดทั้งปี น้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่พุทธอุทยานดอยช้างแห่งนี้ เป็น 1 ใน 9 ของน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่นำไปกระทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาพุทธมังคลาภิเษก เนื่องในวโรกาศที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีพระชนมายุครบรอบ 60 พรรษา เมื่อปี 2530 และปี 2542 กระทรวงมหาไทย นำทูลเกล้าถวายเป็นน้ำทรงอภิเษกในวโรกาสครบรอบพระชนมายุ 72 พรรษา

บ่อน้ำศักสิทธิ์ ค้นพบในปี 2400 โดยชาวเขาที่อพยพมาตั้งรากฐานที่บ้านดอยช้าง ได้เห็นประกายแสงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทางด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้าน และเกิดขึ้นประจำในคืนวันเพ็ญ ที่ 15 ค่ำ จึงออกค้นหา จึงมาพบบ่อน้ำศักสิทธิ์แห่งนี้ ข้อมูลผมอ่านจากป้ายข้างๆบ่อครับ







ข้างๆมีศาลแม่สร้อย







ผมกับแฟนก็ถ่ายรูปกันไป ซักพักมีชาวบ้านแถวนั้นขึ้นมาด้วย ไม่เหงาแล้ว นึกว่าจะมีแค่ผมกับแฟนสองคน





ผมเดินเลาะตามขอบสระน้ำไปเรื่อยๆ อ่ะ..เจอทางลงไปบ่อน้ำอีกบ่อหนึ่งครับ







อากาศเย็นสบาย ครึ้มมากเลย เดินเพลินดีครับ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด อาจจะเงียบๆไปหน่อย แต่ผมว่าสงบดี

จากข้อมูลที่ผมหาก่อนไป นึกว่าไม่เจอพระพุทธรูปองค์นี้อีก สวยงามมากเลย





ก่อนไปผมพยาหาข้อมูลที่มาที่ไป แต่มีน้อยมาก รู้แต่ว่าขึ้นไปแล้วคุ้มค่ามากเลยครับ พุทธอุทยาน ทั้งเงียบ ทั้งสงบ ร่มรื่น เหมาะกับการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง









ศาลาจะอยู่กลางสระน้ำ มีปลาคราฟด้วยครับ เห็นบอกว่ามันมีเอง ไม่ได้เลี้ยงไว้หรือใครเอามาปล่อย ข้อมูลนี้ผมไม่แน่ใจ ฟังจากชาวบ้านที่ขึ้นมาเที่ยวนั้นแหละ









ไม่ได้มีตัวเดียวนะครับ เพียบ ตัวใหญ่ๆทั้งนั้น เป็นไงครับ น้ำใสกิ๊งเลยเนอะ





ก่อนมาผมก็พอเห็นภาพอยู่บ้าง แต่พอมาเจอของจริง ตะลึงมากกว่า สวยกว่าในรูปที่ผมเห็นเยอะเลย แถมเนื้อที่กว้างมาก นึกว่าจะเล็กนิดเดียว เดินกันนานมาก ใครขึ้นไปครั้งแรกอาจจะเจอบรรยากาศเงียบๆหน่อย ยิ่งไปกันสองคนแบบผม อาจจะหวิวๆได้แต่ไม่ต้องกลัวนะครับ ไม่มีอันตรายแน่นอน รับรองเดินเพลินเลย

ผมอยู่ที่พุทธอุทยานประมาณชั่วโมงก็ได้เวลากลับเข้าที่พักแล้วครับ ทางจะขับเป็นวงกลม ไม่ได้ขับย้อนเส้นทางเดิม ขับไปจะมีจุดชมวิวผมไม่ได้ขึ้นไป 





เส้นทางสุดขากลับนี้สุดๆ แคบพอดีรถผมเลยครับ ด้านซ้ายเหว ด้านขวาขอบภูเขา ถนนลูกรังหลุมลึก เป็นทางลงเขา มีโค้งหักศอกเลาะริมเขาไป ลืมถ่ายรูปมาให้ดูเลยครับ สมาธิอยู่กับรถอย่างเดียว 

รูปนี้ยังพื้นๆ ยังไม่ถึงทางแคบ





ดีหน่อยมาเจอต้นพญาเสือโคร่งบานอยู่ต้นหนึ่ง จอดถ่ายรูปนิดนึง















ขับมาเรื่อยๆ (สงสารรถ) มาถึงจุดกางเต้นท์ข้างบนแล้วก็ลงมาที่ห้องประชาสัมพันธ์ที่ผมมาติดต่อครั้งแรก แวะสั่งอาหารนิดหน่อย แล้วก็ขับวนขึ้นไปที่พักต่อ

รูปนี้วิวแถวตรงจุดกางเต้นท์ครับ







ไปถึงก็อาบน้ำ อาหารที่สั่งไว้ก็ไม่ได้กินหรอกครับ อากาศเย็นๆต้องบะหมี่สำเร็จรูป ซดร้อนๆ เด็ด อิอิ





นั่งดูตะวันจนลับขอบฟ้า ตรงหน้าที่พักก็เข้าห้องนอน คืนนี้หลับฝันดีครับ ลาด้วยรูปพระอาทิตย์ตกดินที่หน้าบ้านพักผมเองครับ อยากบอกว่าชอบดอยช้างมาก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ การเดินทางจะออกแนวแอดแวนเจอร์หน่อย แต่ประสบการณ์ที่ได้รับกับมาก็คุ้มค่าการเดินทาง และที่สำคัญเจ้าหน้าที่ทุกท่านเลยครับ ประทับใจมากกกกก แล้วจะกลับไปเยี่ยมใหม่









วันนี้วิ่งจากสวนทิพย์ วนารีสอร์ท หน้าไมล์ที่ 854 ก.ม.จนมาถึงที่พักบนดอยช้าง 914 ก.ม.รวมทั้งหมด 60 ก.ม.

พรุ่งนี้ไปนอนแม่สลองกันครับ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nongmalakor&month=01-2013&date=06&group=15&gblog=26

ค่าเสียหายวันนี้

- เติมน้ำมันเต็มถัง 1,960 บาท

- 7/11 ขนมนมเนย 136 บาท

โรงงานกาแฟดอยตุง

- กาแฟ 4 ถุง,น้ำผึ้ง 1 ขวด,ชา 1 กระป๋อง ทั้งหมด 1,880 บาท

- ค่าอาหารกลางวัน 190 บาท

- ค่าที่พัก 400 บาท

- ค่าอาหารมื้อเย็น 190 บาท

- ทำบุญ 50 บาท

รวมค่าเสียหายทั้งหมด 4,806 บาท




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2555
6 comments
Last Update : 15 มกราคม 2560 21:00:08 น.
Counter : 17689 Pageviews.

 

 

โดย: Kavanich96 31 ธันวาคม 2555 7:42:18 น.  

 




น่าเที่ยวจังเลย..


**********************************

สวัสดีปีใหม่ 2556 ค่ะ...


ขอให้ทุกคนในครอบครัวมีสุขภาพที่แข็งแรงนะคะ...

ร่ำรวยเงินทอง... ครอบครองทุกสิ่งที่ปรารถนา...

มีความสุขมากมายค่ะ...






 

โดย: foreverlovemom 2 มกราคม 2556 0:41:07 น.  

 



แผนที่เที่ยวบนดอยช้าง คลิ๊กเลย

 

โดย: nongmalakor 3 มกราคม 2556 14:05:59 น.  

 

ตาม ๆ เที่ยวคะพี่ต้อง รอตอนต่อไปนะคะ รีบอัพหน่อย น้องรอดูอยู่

 

โดย: paerid 4 มกราคม 2556 20:16:53 น.  

 

การเดินทางไปยังดอยวาวี ดอยช้าง คลิ๊กเลย

รถยนต์ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเส้นทางได้ 2 เส้นทาง
• เส้นทางแรก จากอำเภอเมืองเชียงราย วิ่งไปตามทางหลวงหมายเลข 1211 ผ่านสี่แยกเด่นห้าไปประมาณ 21 กิโลเมตร ถึงสามแยกทางเข้าหมู่บ้านห้วยส้านพลับพลา เลี้ยวขวาวิ่งตรงไปตามถนนราดยางประมาณ 9 กิโลเมตร ผ่านฝายเก็บน้ำบ้านแม่มอญ บ้านห้วยส้านลีซอ ทางเริ่มขึ้นเขาลาดชันไปตามถนนลูกรังอีกประมาณ 7 กิโลเมตร เข้าเขตสถานีทดลองที่สูงวาวี รวมระยะทาง 43 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
•เส้นทางที่สอง จากอำเภอเมืองเชียงราย วิ่งมาบนทางหลวงหมายเลข 1 ประมาณ 22 กิโลเมตร ถึงสามแยกเลี้ยวขวาที่บ้านปากทางไปอำเภอแม่สรวย วิ่งมาตามทางหลวงหมายเลข 118 ประมาณ 30 กิโลเมตร ถึงสามแยกบ้านตีนดอย เลี้ยวขวาวิ่งไปตามทางลาดชันประมาณ 14 กิโลเมตร ผ่านบ้านแสนเจริญ บ้านดอยส้าน แล้วต่อไปอีกประมาณ 8 กิโลเมตร ถึงสถานีทดลองเกษตรที่สูงวาวี รวมระยะทาง 74 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
•รถโดยสารประจำทาง ขึ้นรถสองแถวที่อำเภอแม่สรวย สายแม่สรวย-ดอยช้าง ค่าโดยสารคนละ 30 บาท เวลา 10.00-15.00 น. มีบริการวันละ 3 เที่ยว หรือเช้าเหมารภสองแถวจากสถานีขนส่ง อ.เมืองเชียงราย ราคาประมาณ 300-500 บาท

สถานีทดลอง เกษตรที่สูงวาวี ตั้งอยู่ หมู่ 3 บ้านดอยช้าง ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย หากเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวควรใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ เนื่องจากเป็นทางลาดชันขึ้นเขา

กิจกรรมที่น่าสนใจในดอยวาวี ดอยช้าง

ชมแปลงปลูกไม้ดอกเมืองหนาว ชมดอกซากุระดอย

ชมทะเลภูเขา ทะเลหมอก

สัมผัสวิถีชีวิตชาวเขา

ชิมชารสดี

สิ่งน่าสนใจอื่นๆในดอยวาวี ดอยช้าง

จุดท่องเที่ยวภายในสถานีศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตเชียงราย 2 (วาวี)
1.สวนพรรณไม้หอมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ
2. แปลงไม้ผลเมืองหนาว เช่นพลับ พลัม บ๊วย ท้อ สาลี่ และยังมีอีกมากมาย ไม้ผลเหล่านี้จะผลิตออกผลในช่วงฤดูหนาว
3.สวน ไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาว เช่น ดอกซัลเวีย ป๊อบปี้ ดอกกระดาษ พิทูเนีย บิโกเนีย ลำโพงขาว กุหลาบพันปี มีความสวยงามมากในช่วงฤดูหนาว
4.แปลง รวบรวมพันธุ์ว่านสี่ทิศ เป็นไม้ที่เลื่องชื่อและหาชมได้เฉพาะที่ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัย การผลิตเชียงราย 2 เท่านั้น ซึ่งมีหลายพันธ์ออกดอกสีแดง ชมพู บานสะพรั่งทั่วทั้งแปลง ในช่วงฤดูหนาวทำให้มีสีสันสวยงามมาก
5.พุทธอุทยาน แวดล้อมด้วยพรรณไม้ป่าธรรมชาติ เป็นที่อยู่อาศัยของนกป่า กระรอก กระแต กระต่าย นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และแท่นศิลาศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสมเด็จพระพุทธสิกชีอันเป็นที่เคารพสักการะของ เจ้าหน้าที่สถานีฯและชาวบ้านทุกคน

ช่วงเวลาที่เหมาะสม สำหรับการมาท่องเที่ยวดอยวาวี ดอยช้าง

ปฏิทินการท่องเที่ยว
•มกราคม - กุมภาพันธ์ อากาศ หนาว เส้นทางสะดวกสามารถเดินทางด้วยรถกระบะ ดอกท้อ ซากุระ หรือ ชมพูภูพิงค์บ๊วย สาลี่ พลัม กำลังออกดอก สตรอเบอรี่กำลังติดผล และเก็บเกี่ยว ชิมชาเขียวและชาจีน ชมดอกไม้เมืองหนาวบานสะพรั่ง เลือกซื้อพืชผักไม้เมืองหนาว
•มีนาคม - เมษายน อากาศเย็นสบาย เส้นทางแห้งสะดวก ใช้รถกระบะวิ่งได้ ชิมผลท้อสดจากต้น มะคาเดเมียติดผล ดอกเสี้ยวดอยบานสะพรั่ง
•พฤษภาคม อากาศหนาวเย็นปานกลาง มีฝนตก เส้นทางลื่น ต้องเดินทางโดยรถขับเคลื่อนสี่ล้อ สาลี่เริ่มติดผลพลับกำลังติดผล
•มิถุนายน - ตุลาคม อากาศเย็นฝนตกชุก เส้นทางลื่น ควรเดินทางโดยรถขับเคลื่อนสี่ล้อ เก็บผลพลับ มะคาเดเมีย และ สาลี่
•พฤศจิกายน - ธันวาคม อากาศหนาวเย็น ไม้ผลเมืองหนาวพักตัว ไม้ดอกเมืองหนาวบานสะพรั่ง ดอกซากุระเริ่มบานปลายธันวาคม เก็บผลสตรอเบอรี่

คำแนะนำในการท่องเที่ยว
•ของดีจากดอยวาวี กาแฟคั่วบดใหม่ๆ ชาจีน ชาเขียว รสดี หรือจะเป็นไม้ดอกเเมืองหนาว สีสวย พืชผักผลไม่เมืองหนาวปลอดสารพิษที่มีให้เลือกตามฤดูกาล
•สำหรับผู้ที่ต้องการพักแรมทางสถานีฯ มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการ ส่วนอาหารนักท่องเที่ยวต้องติดต่อแจ้งล่วงหน้า หรือจัดเตรียมมาเอง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 5360 5932 ต่อ 101

หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ

สถานีทดลองเกษตรที่สูงวาวีเปิดทำการ 08.00-17.00 น. ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์

สอบถามข้อมูลท่องเที่ยวและที่พัก

โทรศัพท์ 0-5360-5934,0-5371-8075,0-5360-5932 ต่อ 101.

 

โดย: nongmalakor 7 มีนาคม 2556 16:34:28 น.  

 

https://www.infobrez.com/asset-tracking-software

 

โดย: twinklekrish IP: 223.187.115.246 14 มีนาคม 2565 18:51:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


nongmalakor
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [?]




ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
Google
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
30 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nongmalakor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.