5 วันลุยดอยเชียงใหม่ (วันที่ 2 ดอยอินทนนท์ - บ่อน้ำร้อนโป่งกวาว สะเมิง)
วันพฤหัสที่ 8 ธ.ค.54
ย้อนดูวันที่ 1 นนท์-พิษณุโลก- ดอยอินทนนท์ คลิ๊กเลย
เมื่อคืนน้ำค้างแรงมาก อากาศประมาณ 8 องศา แฟนผมบอกว่าหนาวมาก ส่วนผมหลับไม่รู้เรื่อง หกโมงเช้าตื่นขึ้นมา ได้เวลาไปดูจุดสูงสุดของประเทศซักหน่อย ยังไม่เคยไปเลย ตื่นเต้นเหมือนกัน ไม่ต้องอาบน้ำแปรงฟันละ ลุยโลด เดี๋ยวค่อยกลับมาอาบก็ยังทัน
ลงจากที่พัก เลี้ยวซ้ายวิ่งกลับไปทางที่ทำการ อช. แล้วขับตรงขึ้นไปเรื่อยๆ ถนนโอเค สูงบ้างไม่ชันมาก ทางไม่แคบ ขับได้สบายๆ ขับไปเรื่อยๆ ก็จะถึงด่านตรวจที่ 2 ตรง กม. 37.5 (เสียค่าเข้าคนละ 40 บาท) วิ่งเลยขึ้นมาถึง กม. 42 จะถึงกิ่วแม่ปาน
ที่กิ่วแม่ปานจะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่นิยมมาเดินกันระยะทางทั้งหมด 3 กม. ทางจะผ่านป่าดิบเขา และทุ่งหญ้ากึ่งอัลไพน์ แล้วก็ได้เดินผ่านสันเขาที่เห็นวิวกว้างที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของกวางผา
แต่เส้นทางนี้จะต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางพาเดินชม ที่เป็นชาวบ้านในท้องถิ่นนี่เอง แล้วก็ผ่านการอบรมมาอย่างดี ก็เลยจะมีความเชี่ยวชาญและชำนาญพื้นที่ สามารถให้ข้อมูลของพันธุ์พืชสองข้างทางที่น่าสนใจมากมายทีเดียว ค่าบริการนำชม 200 บาท โดยผู้นำทาง 1 คน ทางอุทยานฯ จะกำหนดให้นำกลุ่มเข้าชมได้ไม่เกิน 10 คน คงจะเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถดูแล และให้ข้อมูลได้อย่างทั่วถึง
เส้นทางจะเปิดให้เข้าชมกันได้ตั้งแต่ 6.00 - 16.00 น. แล้วก็จะใช้เวลาเดินกันราว 2-3 ชั่วโมง เส้นทางจะเป็นวงกลมที่เดินเข้าไปแล้วก็จะวนกลับมาออกที่จุดเดิม ไม่ต้องเดินย้อนทางตอนขากลับ
สำหรับผมขอผ่านครับ เดินไม่ไหว ขอแค่แวะมาถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นก็พอแล้ว
หลังจากชมพระอาทิตย์พอหอมปากหอมคอ ก็ขับขึ้นไปถึงดอยอินทนนท์ ตรงเลยจากกิ่วแม่ปานที่ กม. 42 ทางจะมาสุดที่ กม. 47 ตรงนี้จะมีสถานีเรดาห์ของทางทหารอากาศ
มาถึงตรงนี้จะมีลานจอดรถให้เดินขึ้นไปถ่ายรูปยอดฮิตของที่นี่ครับ
จากป้ายเดินตรงขึ้นไป จะเป็นหมุดหลักฐานของกรมแผนที่ทหาร ความสูงที่ระบุไว้บนป้ายคือความสูง 2,565 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง แต่ ความสูงใหม่ตามแผนที่ของกรมแผนที่ทหาร ฉบับล่าสุด ( L7018 ) คือ 2,580 เมตร
ส่วนดอยที่สูงเป็นอับดับ 2 คือ ดอยผ้าห่มปกที่มีความสูงทิ้งห่างกันเกือบ ๆ 300 ม. ที่ความสูง 2,291 เมตร
บนยอดดอยยังมี อ่างกาหลวง ให้นักท่องเที่ยวได้เดินสัมผัสธรรมชาติอีกด้วย ที่มาของชื่ออ่างกา มีทั้งที่บอกว่า มาจากสภาพพื้นที่บริเวณนี้ที่เป็นแอ่งน้ำใหญ่มีน้ำขังอยู่ตลอดทั้งปี กับมีหินรูปคล้ายกาอยู่ หรืออีกแนวก็บอกว่า ชาวเขาเรียกชื่อดอยนี้ว่า อั่งกา ที่แปลว่า ภูเขาใหญ่ แล้วก็เลยเพี้ยนมาเป็น อ่างกา
ผมไม่ได้เดินหรอกครับ ได้แค่เดินสัมผัสธรรมชาติอยู่บนนั้นแหละครับ เดินวนลงมาก็จะเจอหน่วยพิทักษ์ยอดดอยอินทนนท์ ตรงข้างหน้าจะหน่วยพิทักษ์จะปลูกหญ้าหอม เวลาเอามือไปลูบแล้วมาดมจะหอม แต่ผมไม่ได้ลองนะครับ เลยไม่รู้ว่าหอมจริงหรือเปล่า
อากาศข้างบนช่วงเวลาประมาณ 7.30 น. บนยอดดอยครับ 8 องศา ยังหนาวไม่พอที่จะเป็นแม่คะนิ้งได้
อยากเห็นแม่คะนิ้งอะ (ที่จริงทางเหนือเรียกเหมยขาบ ส่วนแม่คะนิ้งทางภาคอีสานเค้าเรียกกัน)
ข้างๆหน่วยพิทักษ์จะมีร้านขายอาหารอยู่ 2-3 ร้านครับ เห็นแล้วอดไม่ไหว หนาวๆอย่างนี้นะครับ ซดร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใครเลย
หลังจากซัดมาม่าไปเรียบร้อย ก็เดินไปที่จอดรถ เจอจุดชมวิว หมอกกำลังตรึม
ถ่ายรูปหมอกเสร็จ ตียาวไปไหว้พระธาตุต่อ
ประวัติพระธาตุนภเมทนีดล-พระธาตุนภพลภูมิสิริ //www.hotsia.com/chiangmai/pratat-doiintanon/index.shtml
มาถึงพระธาตุต้องเสียบัตรค่าเข้าคนละ 40 บาท เป็นของกองทัพอากาศ ขึ้นไปถึงก็หาที่จอดรถ ที่จอดรถน้อยไปหน่อย ถ้าช่วงเทศกาลผมว่าเต็มแน่นอน ขนาดผมไปยังต้องวนหลายรอบถึงจะได้ที่จอด (แอบบ่น) หาที่จอดได้ก็ขึ้นไปไหว้พระและชมวิว
ทั้งสองพระธาตุ สำหรับคนที่เดินไม่ค่อยไหวทางด้ายซ้ายมือข้างบันได จะมีบันไดเลื่อนไว้คอยบริการครับ สำหรับขึ้นอย่างเดียวครับ ตอนลงต้องเดินลง บันไดอย่างเดียว แต่ไม่สูงมาก ถือว่าออกกำลังกายไปในตัว
ต้มยำไก่ รสชาติกลมกล่อม ซดร้อนๆคล่องคอดี
ไส้ย่างแห้งไปหน่อย ยังไม่โดน
ลาบหมูใส่ตับ จานนี้ฟินสุด
ส่วนไส้กรอกผมซื้อไปจากบ้านครับวานให้แม่ค้าเค้าเวฟให้
ส่วนร้านจำไม่ได้แล้วว่าร้านอะไร รู้ว่าจะอยู่ตรงกลางๆ รสชาติเกินความคาดหมาย
เที่ยงตรงออกจากร้าน ไม่กลับทางเดิม เราสามารถเดินจากร้านอาหารข้ามน้ำตกได้เลย เดินไปจะเจอสะพานตรงนี้อีกสะพานหนึ่ง เป็นสะพานแขวน เดินขึ้นไปก็จะเจอลานจอดรถเหมือนกันครับ
เวลา 12.07 น.ผมออกจากน้ำตกแม่กลาง 12.16 น. ก็ลงมาถึงทางแยกจอมทอง ระยะทางทั้งหมด จากเมื่อวานที่ผมเซทเป็น 0 ไว้ มาถึงตรงนี้ 108 ก.ม.พอดีครับ จุดนี้ผมเซทไมล์มาที่ 0 ก.ม. จากทางแยกผมก็เลี้ยวซ้ายขับเข้าหางดง ขับไปเรื่อยๆก็เจอทางแยกมีป้ายเลี้ยวซ้ายไปสะเมิง ผมมาถึงแยกสะเมิงเวลาบ่ายโมงพอดี จากไมล์ผมระยะทาง 47 ก.ม. ขับไปหน่อยจะเจอป้ายท่องเที่ยวเพียบ ใครสนใจก็เชิญแวะได้ตามสบายครับ 5
เส้นทางจากหางดงไปสะเมิง มีขึ้นเขานิดหน่อย โค้งพอมีบ้างเล็กน้อย ขับมาเรื่อยๆจะเจอแยกขวาไปแม่ริม ส่วนผมยิงตรงไปสะเมิง ช่วงนี้จะลงเขานิดหน่อย จากแยกตรงนี้ลงไปไม่กี่ ก.ม.ก็จะเจอไร่สตอเบอรี่นภ-ภูผา อยู่ทางขวามือ มีป้ายบอกตลอดทาง ผมไม่แวะ ขับจากไร่นภ-ภูผา ไปประมาณ 5 ก.ม.ก็ถึง ตลาดสดเทศบาลสะเมิงใต้แล้วครับ ผมมาถึงตลาดสดสะเมิงใต้ 13.54 น.รวมระยะทาง 86 ก.ม.
ที่สะเมิงใต้จะจัดเทศกาลสตอเบอรี่ทุกต้นเดือน ก.พ.ทุกปี ปีนี้จัดวันไหนผมไม่ทราบครับ
ก่อนถึงตลาดสด จะเจอทางแยกนี้ก่อน ตลาดสดเลี้ยวซ้ายก็เจอเลย ถ้าเลี้ยวขวาจะไปปายได้ และตรงแยกนี้เค้าจะปิดถนนจัดเทศกาลสตอเบอรี่ทั้งสาย ข้อมูลไร่สะเมิง //www.oknation.net/blog/tawan999/2011/01/10/entry-1
ผมถึงตลาดสดเกือบบ่ายสอง ตลาดยังไม่มีอะไร เลยขับไปบ่อแก้วต่อ ตั้งใจจะพาแฟนไปนอนโฮมสเตย์แถวบ่อแก้ว กะตื่นมาแล้วคลานไปเก็บสตอเบอรี่ เส้นทางไปบ่อแก้ว จากแยกตัวสะเมิงใต้ ให้เลี้ยวขวา (มีป้ายบอกไปปาย) ก็เลี้ยวขวา ขับตรงไปเรื่อยๆ จะผ่านหมู่บ้านน้ำริน แล้วก็จะมาเจอสามแยก ให้เลี้ยวขวา (ด้านหน้าจะเป็นสะเมิงรีสอร์ทอยู่ตรงทางแยกพอดี
มาถึงตรงนี้ให้ขับเลี้ยวโค้งไปตามถนน (ถ้าขับตรงเข้าตรงซุ้มประตูไม้ จะไปบ่อน้ำร้อนโป่งกวาว) จากป้ายไป ต.บ่อแก้ว 25 ก.ม.
เส้นทางจากสะเมิงไป ต.บ่อแก้ว ไม่ดี ขึ้นเขา ทางแคบเป็นบางช่วง ที่สำคัญ ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อเกือบตลอดเส้นทาง สงสารรถ ระยะทาง 25 ก.ม.ผมใช้เวลาประมาณชั่วโมงถึงจะถึง บ่อแก้ว ทางผ่านจะผ่าน อช.อะไรซักอย่างจำไม่ได้ครับ ก็ขับผ่านมาเรื่อยๆ แล้วก็มาถึง ต.บ่อแก้ว มีป้ายบอกไปสวนดอยแก้ว ให้เลี้ยวซ้ายตรงปั๊มน้ำมัน (ปั๊มหลอด) ก็เลี้ยวลงไป ขับไปประมาณ 3 ก.ม.ขึ้นเขาไป เจอชาวบ้านลองถาม บอกว่าเลยมาแล้ว ก็งงสิครับ มีอยู่ทางเดียวไม่เห็นไร่เลย ก็เลยขับย้อนกลับ เข้าไปที่ อบต.บ่อแก้ว ลงไปถามเจ้าหน้าที่ดูอีกที เจ้าหน้าที่บอกว่ามีหลายไร่และแนะนำข้อมูลให้เป็นอย่างดี ขอบคุณครับ อำเภอสะเมิง เป็นแหล่ง ปลูกสตรอเบอรี่ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และเป็นสตรอเบอรี่พันธุ์ดีและมีคุณภาพดีที่สุด ปลูกมากที่สุด ที่ตำบลบ่อแก้ว อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ต.บ่อแก้ว ยังไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ เนื่องจากเส้นทางที่ไม่ค่อยสะดวก บวกกับไร่ส่วนมากจะปลูกไว้ขาย ไม่ค่อยได้ทำเป็นเชิงท่องเที่ยวซักเท่าไหร่ ส่วนมากจะเป็นพ่อค้าเข้ามารับซื้อแล้วนำไปขายมากกว่าครับ แต่ถ้าใครสนใจ ที่ บ่อแก้วก็มีไร่ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส กับธรรมชาติอย่างแท้จริง ใครชอบแนวนี้ก็เชิญนะครับ 1. ไร่ลุงจวบ 053-939075 ต.บ่อแก้ว 2. สวนดอยแก้ว 053-939079, 081-8039905 , 081-7242650 ที่นี่อยู่ที่ ต.บ่อแก้ว ห่างจากสะเมิงไปอีก กว่า 30กม 3.ลุงประพันธ์สตรอเบอร์รี่ 053-939304, 081-9938931, 084-8109981 อยู่ที่ต.บ่อแก้วเหมือนกัน อ่านจอในกระทู้ของคนที่เคยไปมาแล้วเขาบอกว่าดี ก็เลยฝากบอกกันมา เพราะไร่นี้ไม่ได้โปรโมทอย่างเป็นทางการเหมือนทั้ง 3 ไร่ก่อนหน้านี้
ผมมาถึงบ่อแก้วประมาณบ่ายสาม (ระยะทางทั้งหมด 116 ก.ม.จากทางแยกขึ้นดอยอินทนนท์) ที่พักก็ยังไม่มี ตั้งใจจะมานอนเล่นที่ไร่สตอเบอรี่ แฟนผมเค้าบอกไม่นอนที่นี่แล้ว ตอนนี้ไปไร่ก็ไม่ได้เห็นอะไร พรุ่งนี้กว่าจะออกมา ทางก็ไม่ดี กลับไปนอนสะเมิงดีกว่า สรุปขับมาเที่ยวเฉยๆ ขากลับออกมา ก่อนถึง บ้านน้ำริน จะมีร้านขายกาแฟครับ ชื่อร้านพิมพ์มาดา แวะนิดนึง รถผมจอดเด่นเป็นสง่าเลย
ขากลับประทับใจมาก แฟนผมทำตังค์ตก 500 บ.น้องเค้าเห็นรีบเก็บตังค์วิ่งมาคืนที่รถผมเลยครับ ประทับใจจริงๆ ให้ค่า่น้ำใจน้องก็ไม่รับบอกพี่อุดหนุนร้านแล้ว น้องเค้าชื่อน้องฝน เป็นพนักงานขายอยู่ที่ร้านกาแฟนั้นแหละ ขอบใจมากจ๊ะน้อง น้องทำให้สะเมิงเป็นเมืองที่ประทับใจของพี่ตลอดไป
เวลา 17.00 น.ขับมาถึงทางแยกตรงสะเมิงรีสอร์ท(ระยะทาง 144 ก.ม.) แวะถามห้องพักยังว่าง อุ่นใจหน่อย ขอเข้าไปดูบ่อน้ำร้อนโป่งกวาว ถ้าดีก็นอนที่นั้นเลย แต่ถ้าไม่ชอบค่อยออกมานอนที่สะเมิงรีสอร์ท จากทางแยกบ้านน้ำริน (สะเมิงรีสอร์ท) ให้ขับรถตรงไป จะมาถึงสามแยก ทางมุมขวาจะเป็นวัดบ้านป้อกให้เลี้ยวซ้ายไปครับ จะผ่านโรงเรียนวัดบ้านป๊อก แล้วให้ขับตามทางไปเรื่อยๆ
ขับไปตามทางเรื่อยๆ ก็จะมาถึง บ้านโป่งกวาวแล้วครับ
ถึงบ่อน้ำร้อนโป่งกวาวแล้วครับ (ถ้าไปไม่ถูกไม่ต้องกลัวหลง ชาวบ้านแถวนั้นรู้จักหมด)ส่วนทางจะเป็นลาดยางสลับกับลูกรัง มีขึ้นเขาบ้าง แคบบ้าง แต่ถ้าเทียบกับทางไป บ่อแก้วแล้ว ไปบ่อนน้ำร้อนดีกว่ากันเยอะ มาถึงที่พักบ่อน้ำร้อนเวลา 17.00 น.ระยะทางทั้งหมด 172 ก.ม.พอดี
ช่วงขับรถ ผมให้แฟนผมโทรไปถามที่บ่อน้ำร้อนโป่งกวาว ว่ามีห้องว่างไหม ทางนั้นถามก่อนเลยครับว่า เคยมากันเปล่า มากันสองคน ถ้าไม่กลัวก็มาได้นะ (หมายความว่าไงอะ)
เข้าใจแล้ว มาถึงทั้งรีสอร์ทไม่มีนักท่องเที่ยวเลยครับ มีแค่พนักงานต้อนรับอยู่ 3 คน ส่วนพวกคนงานก็กลับบ้านหมดแล้ว เหลือผมกับพนักงาน ผมเข้าไปสอบถามราคา ถ้านอนเต้นท์คิดคนละ 300 บาทหรือนอนห้องรวมก็คนละ 300 บาทเหมือนกัน แต่ถ้านอนบ้าน บ้านหลังละ 1,500 บาท ผมขอเดินดูที่พักก่อน เห็นแล้วก็เลยลองต่อบ้านพักดู พนักงานบอกว่างั้นคิดคนละ 300 แล้วกันจะนอนตรงไหนอย่างไรก็ตามสะดวก ผมเลยขอนอนบ้านพักแล้วกัน (บ้านพักจะแยกส่วนออกไปครับ มี 4 หลัง หลังหนึ่งจะนอนได้ประมาณ 6 คนถ้าอัดดีๆได้ถึง 10 คนสบายๆ) ส่วนตรงนี้จะเป็นบ้านมีทั้งหมด 4 หลัง หลังแรกกับหลังที่ 3 จะเป็นห้องแฝดครับ รวมทั้งหมด 4 หลัง 6 ห้อง ส่วนนี้จะเป็นส่วนตัวมาก จะแยกออกมาจากด้านใน (ตรงนี้อยู่ด้านหน้าเลยครับขับรถเข้ามาจะเห็นเลย)
หลังแรก ห้องแฝดติดกันครับ
ด้านหน้าจะมีบ่อแช่น้ำร้อน มีสไลด์เดอร์ แต่ตอนที่ผมไปไม่ได้เปิดน้ำเข้าบ่อ
ด้านซ้ายมือจะเป็นโรงเรือนใหญ่ไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่ม ไว้ทำกิจกรรมต่างๆ เหมาะสำหรับ บริษัทพาพนักงานมาสัมมา ท่องเทียวครับ
หลังจากได้ห้องพักพนักงานก็พาไปดูห้อง พร้อมกับปูที่นอนให้ นี้ไงครับห้องที่ผมจะนอนคืนนี้ ได้ห้องแรกเลย บรรยากาศดีสุดๆ (ผมมากันสองคนจะปูทำไมสามเตียงอ่ะ เผื่อใครเหรอ 555) ตอนกลางคืนผมแกล้งแซวแฟนผมว่า เอากระเป๋าไว้บนเตียงทำไม เดี๋ยวเค้าไม่มีที่นอนก็ขึ้นมานอนเบียดกับเราหรอก เห้อๆ
ห้องกว้างขว้างมากเลยครับ ภายในเป็นปูนหมดพื้นกระเบื้อง ดูคราวๆนอนกันสิบคนยังได้สบายๆ เดินตรงไปสุดห้องจะเป็นห้องน้ำครับ ห้องน้ำจะมีบ่อน้ำร้อนใว้ให้แช่ส่วนตัวด้วย แต่วันนี้ไม่มีแขกเค้าเลยไม่เปิดน้ำร้อนให้แช่ และแถม Walk In เข้ามาอีกเลยเตรียมตัวไม่ทัน
เราไปดูอีกส่วนเป็นจะเป็นห้องรวม ห้องอาหาร บ่อน้ำร้อน (อยู่คนละส่วนกัน) ต้องเดินออกทางด้านหลังหรือจะขับรถมาก็ได้ครับ ไม่ไกลกัน ผมกับแฟนเข้ามาเห็นครั้งแรก โดนเลยครับ แฟนผมเค้าอยากนอนแช่น้ำร้อนพอดี ส่วนบรรยากาศก็เงียบสงบ เป็นส่วนตัวสุดๆ แถมทีนี้ไม่มีไฟฟ้านะครับ ต้องปั่นไฟเป็นเวลา เค้าจะปั่นช่วง หกโมงเย็นถึงสองทุ่ม ถ้าที่พักแขกเต็ม จะปิดสี่ทุ่ม แฮ่ๆ วันนี้ทั้งรีสอร์ทมีผมกับแฟนสองคน สองทุ่มปิดไฟ
ตรงนี้เป็นสำนักงานมั่ง ผมมาติดต่อครั้งแรกก็ตรงนี้ กินข้าว สั่งอาหารก็ตรงนี้
ด้านหลังสำนักงานเป็นที่พัก ตึกสองชั้นแบ่งเป็นห้องๆไป
ด้านข้างเป็นห้องอาหาร
ตรงนี้ลานกางเต้นท์อยู่ใกล้ลำธาร ตอนกลางคืนนอนเสียงลำธารสุขสุดๆ
ถัดจากห้องอาหารเดินเข้าไปจะเป็นส่วนของบ่อแช่น้ำแร่ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เป็นแขกของรีสอร์ท เก็บค่าบริการคนละ 60 บาท
สำหรับผมแช่ฟรีมีชุดให้เปลี่ยนพร้อมผ้าเช็ดตัว มีแบ่งเป็นห้องๆ หรือจะอาบรวมก็มี
เดินสำรวจก่อน
บ่อเห็ดกลางแจ้ง
ห้องแช่ส่วนตัวหรือมาเป็นคู่
เข้าไปดูข้างในกัน ห้องเล็กแช่ไม่สะใจ
เดินข้ามสะพานไปดูส่วนอื่นกันบ้าง
มองจากสะพานกลับไปยังห้องอาหาร
ข้ามสะพานมาอาบบ่อนี่กว่า ผมเลือกห้องนี้สำหรับครอบครัว หรือหมู่คณะ แช่ได้ประมาณ 15-20 คน ห้องเปิดโล่งไม่มีหลังคา จะมีประตูเป็นส่วนตัวดี ไม่มีนักท่องเที่ยวก็ดีอย่างเลือกห้องได้ตามสบาย
ชุดแช่น้ำแร่ ที่รีสอร์ทเตรียมไว้ให้ มีทั้งของผู้ชาย ผู้หญิงและชุดเด็ก
ขับรถมาเหนื่อยๆ มาแช่น้ำแร่ หายเพลีย แช่น้ำร้อนซักพัก ก็ขึ้นไปอาบน้ำประปาเย็นจับใจ แล้วก็ลงมาแช่น้ำร้อนต่อ สลับไปมา ระบบเส้นเลือดหมุนเวียนดีแท้ ชอบมากๆ ส่วนตัวสุดๆ
แบบห้องตักอาบก็มีให้บริการสำหรับคนที่ไม่ชอบแช่น้ำร้อน
บ่อเด็กเล็กก็มี
นอกจากแช่น้ำร้อนแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกด้วย
แช่น้ำเล่นเกือบชั่วโมง ก็เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็สั่งข้าวกินที่พักนั้นแหละครับ กินเสร็จก็นั่งคุยกับพนักงานรีสอร์ท ได้เวลาทุ่มครึ่งผมก็กลับไปนอนที่พัก (สัญญาญมีแต่เอไอเอส) แต่ต้องเดินไปทางด้านหลังห้องอาหาร เพราะมีสัญญาณตรงนั้นแค่จุดเดียว ส่วนที่อื่นรับไม่ได้ เพราะฉะนั้นใครจะมานอนพัก ต้องการความเป็นส่วนตัว ที่นี้ครับ รับรองไม่ผิดหวัง แถวนี้ร้านอาหารข้างนอกไม่มี อาศัยมือเย็นที่รีสอร์ทนั้นแหละ แถมที่รีสอร์ทก็ไม่มีอะไร เพราะไม่มีแขกมาพักเลยไม่ได้เตรียมของ อาศัยง่ายๆ กะเพราหมูไข่ดาวกับราดหน้า รสชาติไม่ต้องพูดถึง กินกันตายไปก่อน
ก่อนผมจะเดินกลับเข้าที่พัก พนักงานยื่นเทียน 4 เล่มพร้อมกับไฟแช๊คให้ ไว้จุดใช้ตอนกลางคืน อยากบอกว่าคืนนี้โรแมนตีกที่สุดเลย คืนนี้หลับฝันดีจ้า ลาด้วยภาพบรรยากาศห้องนอนตอนกลางคืน ทั้งรีสอร์ทมีผมกับแฟนและพนักงานปั่นไฟอีกหนึ่งคนแค่นั้นเอง นอกนั้น เค้ากลับบ้านหมด ส่วนตัวสุดๆ ชอบครับ อิอิ บ่อน้ำร้อนโป่งกวาว คุณเกษมกฤษ 081-0058911 คุณหน่อย 086-0123771, 085-7057671, 089-0603044 02-2262504-4 //www.weekendhobby.com/enduro/webboard/shtml/20064.shtml
พรุ่งนี้ไปลุย ดอยอ่างขาง กันครับ คลิ๊กเลยค่าใช้จ่ายวันนี้ 1. ค่าเข้าด่าน อช.อินทนนท์ด่านสองคนละ 40 บาทx2คน 80 บาท 2. ค่าเข้าชมพระธาตุคนละ 40 บาทx2คน 80 บาท 3. มาม่าคัพ 1 ถ้วย 25 บาท 4. ทำบุญ 50 บาท 5. ค่าอาหารที่น้ำตกแม่กลาง 500 บาท 6. ค่ารีสอร์ท 600 บาท 7. ค่าอาหารที่รีสอร์ท 125 บาท 8. กาแฟ+ขนม ที่สะเมิง 70 บาท รวม 1,530 บาท
Create Date : 18 ธันวาคม 2554 |
|
5 comments |
Last Update : 3 มกราคม 2560 21:13:43 น. |
Counter : 14590 Pageviews. |
|
|
|