11 Day Summer in Japan (วันที่ 9 เที่ยว Sendai เย็นนอน Ueno Tokyo)



ย้อนดูวันที่ 8 คลิ๊กเลย


อาทิตย์ที่ 3 ส.ค.57

เมื่อคืนหลังจากดูงานเทศกาลโคมไฟ(Nebuta Matsuri)ถึงสามทุ่มเราก็รีบกลับมานอนที่โรงแรม Comfort เมือง Hachinohe 









โรงแรมที่เราพักห่างสถานี JR Hashinoheไม่ไกลเลยครับ รูปนี้ถ่ายจากบนห้องที่ผมพัก







ผมพักห้อง 703 ห้องไม่ใหญ่มากตามสไตล์ญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ถึงกับแคบเท่าที่ Ueno ครับ

ห้องพักผมเอง อย่าสนใจกองขยะในห้องผมเลย เมื่อคืนถึงห้องก็โยนๆ กองๆของไว้แล้วก็ถ่ายรูป มาหลายวันแล้วชักขี้เกียจ อยากอาบน้ำนอนมากกกก











ตัดมาตอนเช้าเลยแล้วกัน วันนี้ Chillๆ ตื่นสายได้ ที่พักมีอาหารเช้าให้ด้วยครับ เป็นบุฟเฟ่ต์

เช้าวันนี้ขอนอกใจ 7-11/ Familymart/ Lawson มื้อนึง





ประมาณแปดโมงเช้าก็ขึ้นไปเก็บของ อาบน้ำ แต่งตัว เก้าโมงครึ่งก็ลงมา check out 





check out เสร็จก็เดินไปที่สถานี Hashinohe วันนี้เราไปเที่ยวเมือง Sendai กันครับ

เราใช้ JR เป็นวันสุดท้าย เรานั่ง HAYABUSA 14 จาก Hachinohe เวลา 10.16 น.ถึง Sendai เวลา 11.29 น.







เรานั่งหัวกระสุนคันนี้แหละครับ นึกถึงหัวเป็ดเลย





รถไฟที่ญี่ปุ่นตรงเวลาจริงๆเลยครับ เรามาถึง Sendai เสร็จก็หาตู้ฝากกระเป๋าไว้ก่อนเลย ไม่อยากเชื่อเต็มเกือบหมด ก็เลยต้องกระจายไป 2 ที่ ฝากไว้ข้างในสถานีกับข้างนอกหน้าสถานี Sendai ได้ตู้ฝากกระเป๋าเสร็จ เราก็นั่ง JR Tohoku Line SENDAI(MIYAGI/JR) - KOGOTA ไปเที่ยวเมือง MATSUSHIMA ต่อ









ลงสถานีได้เราก็เดินเลี้ยวซ้ายไปเรื่อยๆ พอพ้นโค้งก็จะเจอนี่เลย Information center และ ที่ขายตั๋ว





ส่องแผนที่หน่อย





เดินมาเรื่อยๆก็มาถึงร้านนี้ ขอแวะเติมพลังก่อนครับ คล้ายๆจะเอาบ้านมาทำเป็นร้านอาหาร ภายในมีอยู่ไม่กี่โต๊ะเองครับ







อาหารที่สั่งกัน









ส่วนผมข้าวหน้าปลาไหลชุปแป้งทอด ไม่รู้ใช่เปล่า ผมก็เรียกไม่ถูก รู้แต่ว่าเจ้าของร้านเค้าบอกว่าปลาไหลก็ตกมาจากหน้าอ่าวนั้นเลย เป็นปลาไหลธรรมชาติไม่ได้เลี้ยงไว้ อร่อยดีเหมือนกันครับ ส่วนปลาไหลย่างก็อร่อยเหมือนกัน







อิ่มเสร็จก็ออกมาจากร้าน มองไปทางซ้าย





มองไปทางขวา





ไปซ้ายหรือขวาดี ถ้าอยากกลับไปสถานีให้เลี้ยวขวา





เราไปซ้ายดีกว่า เดินเลาะอ่าวไปเรื่อยๆ









ก็มาถึง







เดินข้ามสะพานไปสองสะพานก็จะเจอศาลเจ้า Godaido ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของอ่าว Matsushima นักบวช Jikaku Daishi คนที่สร้างวัด Zuiganji ได้อัญเชิญรูปปั้นเทพเจ้าห้าองค์มาประดิษฐานไว้ ศาลนี้จึงได้ชื่อว่า Godaido คำว่า โก๊ะ ในภาษญี่ปุ่นแปลว่าห้า

สะพานไม้สีแดงที่ข้ามไปสู่เกาะอันเป็นที่ตั้งของ Godaido มีชื่อว่าSukashibashi หรือสะพานโปร่ง พื้นสะพานมีลักษณะโปร่งมีช่วงว่างระหว่างไม้ห่างกัน 1 คืบ เวลาเดินข้ามสะพานจะมองเห็นพื้นน้ำด้างล่างได้ ว่ากันว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยทำให้มีสมาธิก่อนที่จะไปสักการะ Godaido ปัจจุบันถือว่าเป็นสะพานที่ช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก เพราะว่าคู่รักที่พากันมาข้ามสะพานมักจะพากันเดินจูงมือกันเดินข้ามไปเพื่อไม่ให้พลัดตกร่องสะพาน

สะพาน Sukashibashi





ศาลเจ้า Godaido ศาลแห่งนี้ Jikaku Daishi ได้อัญเชิญรูปปั้นพระเจ้าห้าองค์มาไว้ที่ศาลนี้ ....... ศาลที่เห็นในปัจจุบัน ถูกบูรณะใหม่ ในปี 1604 โดย Date Masamune ต้นตระกูล ดาเตะ ที่เป็นผู้ตั้ง และปกครองเมืองเซนไดในยุคแรก.... สามารถเดินชมศาลเจ้าแห่งนี้โดยไม่ต้องเสียตังค์แต่อย่างใด ศาลเจ้าแห่งนี้จะเปิดให้ชมทุก 33 ปี (อะไรจะขนาดนั้น) ล่าสุดในปี 2006 ใครจะมาชมก็ต้องรออีก 30 ปี...ส่วนผมขอสละสิทธิ์ ( ไม่รู้จะมีชีวิตถึงตอนนั้นหรือเปล่า ) ข้อมูลจากเวป คลิ๊กเลย







เราเดินเล่นที่ศาลเจ้า Godaido ได้ซักพักก็เดินเลาะอ่าวไปต่อ แล้วก็มาถึงรูปสะพานไม้สีแดงยาวๆนั่นคือสะพาน Fuukurabashi ใช้ข้ามไปเกาะFukuura-jima เชื่อว่าเมื่อเดินข้ามสะพานนี้จะช่วยให้พบเจอกับคนที่คิดถึง หรือเมื่อเดินข้ามกับคู่รักก็จะทำให้รักกันมากขึ้น เกาะแห่งนี้ถูกอนุรักษ์ให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดย่อม







แล้วก็เดินมาถึง แต่เราไม่ได้เดินข้ามไปนะครับ ใครจะข้ามต้องเสียคนละ 200 เยน





จริงๆแล้ววันนั้นร้อนมาก ดูแล้วข้ามไปไม่น่าจะมีอะไร เลยขอนั่งกินน้ำที่ตรงจำหน่ายบัตรนั้นแหละครับ





นั่งดื่มน้ำเย็นๆก็ออกไปถ่ายรูปคู่สะพานซะหน่อย







เสร็จแล้วเราก็เดินย้อนกลับมาวัด Zuiganji 

ทางเข้าวัดจะเป็นซอยเข้าจากถนนหลักประมาณ 100 ม.









ข้างประตูวัดมีร้านอาหารและของต่างๆวางขาย ส่วนตรงหน้าประตูทางเข้าวัดจะมีหอยนางรมเผาขายด้วยครับ น่าสนใจ









ตอนแรกลองสั่งมาชิมก่อน 1 ตัว แต่ดูแล้วสมาชิกขอชิมทุกคนเลยสั่งมาคนละตัว ผมว่ารสชาติมันเค็มๆสู้กินสดๆไม่ได้ครับ









ได้เวลาเข้าวัดแล้ว เดินผ่านประตูเข้าไป ก่อนจะถึงวัดผ่านต้นไม้ใหญ่ ร่มรื่นมาก ขนาดร้อนๆเข้าไปแล้วเย็นสบายดี









ชอบเค้าแกะตัวอักษรบนต้นไผ่จังเลย





สรุปเราไม่ได้เดินเข้าไปในวัดเนื่องจากเวลาไม่พอ ได้แค่เดินวนรอบสวนเอง



















ประวัติวัด Zuiganji เป็นวัดที่ได้รับการก่อสร้างโดย Lord Date Masamune และเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมือง Matsushima วัดนิกาย Zen แห่งนี้มีหลังคาขนาดใหญ่ มีห้องโถงหลักที่งดงาม และมีอารามสงฆ์อันสวยงามที่ตัดกับกำแพงสีขาวและพื้นไม้ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติล้ำค่าของชาติ

เรารีบเดินกลับมาทางสถานีรถไฟ เพื่อแวะชมศาลาคันรันเต Kanrantei





จากวัด Zuiganji เดินมา Kanrantei ไม่ไกลครับ ข้ามถนนเดินไปทางอ่าวไม่ถึง 500 ม.ก็ถึงศาลาแล้วครับ









จะเข้าไปชมก็ต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 200 เยน







ศาลาคันรันเต ซึ่งเป็น Tea House อยู่บนเนินเตี้ยๆในโค้งอ่าว ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่พักผ่อนในฤดูร้อนของท่าน ดาเตะ มาซามุเนะและภริยา รวมถึงใช้เป็นที่ต้อนรับองค์หญิงหรือทูตจากท่านโชกุน ชื่อ คันรันเต Kanranteiหมายถึง สถานที่ใช้ชมวงคลื่นบนผิวน้ำ หรือ อาจหมายถึงสถานที่ใช้ชมพระจันทร์ก็ได้











เข้าไปนั่งชมตรงพรมแดง







แล้วหันหน้าไปทางอ่าว จะเห็นภาพอย่างนี้ครับ







นั่งทอดอารมณ์กันไป ปล่อยใจให้ว่างเปล่าก็มีความสุขดีเหมือนกันเนาะ ประมาณห้าโมงเย็นเราก็นั่งรถกลับไปที่ Sendai 

ข้อมูลการเที่ยว Matsushima คลิ๊กเลย







เรามีเวลาที่ Sendaiประมาณสองชั่วโมง ก็ได้เวลา Shopping ที่ อิจิบังมาชิเดินดูของนิดหน่อยครับ
เที่ยวเมือง Sendai คลิ๊กเลย



































เดินเล่นซื้อของได้ซักพักก็หาของกิน มาถึงถิ่น Sendai เค้าดังเรื่องลิ้นย่าง ขอซักหน่อย เจอร้านนี้ในตลาดอิจบังมาชิ ผมไม่รู้ว่าร้านเค้าดังหรือไม่ แต่ดูเค้าตั้งใจย่างลิ้นมาก ชิมแล้วย่างได้นุ่ม อร่อยสมคำล่ำลือ อิอิ















อิ่มเสร็จมีเหลือเวลานิดหน่อย เราเลยเดินกลับไปที่สถานีแวะดูร้าน Uniqlo แถวนั้น หลังจากซื้อของได้มานิดหน่อยก็เดินกลับไปเอากระเป๋าที่สถานีแล้วรอขึ้นรถไฟกลับ Ueno ระหว่างรอรถน้องจ๋าบอกว่ามือถือหาย ไม่รู้ว่าลืมไว้ที่ไหน ยังพอมีเวลาเลยวิ่งไปดูที่ร้านลิ้นย่าง ทางร้านบอกว่าไม่มี ก็เลยวิ่งกลับมาที่สถานี คิดว่าหายแน่แล้ว แต่เชื่อเปล่าครับว่าเราได้มือถือคืน แล้วจะเฉลยว่าได้คืนยังรอวันพรุ่งนี้ครับ สุดยอดแห่งความประทับใจ

สำหรับทริปปีที่แล้ว น้องปู ทำเป้หายบนรสบัส แต่เราก็ได้คืนเหมือนกัน ทริปนั้นก็ยังอยู่ในความทรงจำตลอดไป คลิ๊กเลย

เรานั่งรถไฟ HAYABUSA 36 จาก Sendai เวลา 20.30 น.ถึง Ueno เวลา 21.58 น. คืนนี้เรานอนโรงแรม Tokyo Ueno New Izu ที่เดิม พรุ่งนี้ ช้อปปิ้งที่โตเกียว//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nongmalakor&month=08-2014&date=24&group=12&gblog=37

ลาด้วยบรรยากาศตอนเย็นในเมืองเซนได











 

Create Date : 21 สิงหาคม 2557
0 comments
Last Update : 14 กรกฎาคม 2559 18:11:05 น.
Counter : 2952 Pageviews.


nongmalakor
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [?]




ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
Google
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2557
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
21 สิงหาคม 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nongmalakor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.