ลุยมั่วๆ 2 คน @ KANSAI (วันที่ 1 สุวรรณภูมิ โอซาก้า)
 วันพฤหัสที่ 28 มี.ค. - วันศุกร์ที่ 5 เม.ย.62
ทริป นี้อยากไปดูซากุระ  ไม่ต้องเกริ่นมาก Plan, Pass, Passport, Pocket Money พร้อม รออะไร ลุยเลยสิครับ 
 ค่าเงินเยนในช่วงที่เดินทาง 7 วัน เรทอยู่ที่ 28.75 เยน มีเวลาเตรียมตัว 6 เดือนกว่าๆ ครั้งนี้ไปกัน 2 คน ตา-ยาย รอดไม่รอด ค่อยไปตายเอาดาบหน้าแล้วกัน 
 บินวันพฤหัสที่ 28 มี.ค.62 จากสุวรรณภูมิ ไฟล์ JL 728 เวลา 22.55 น. ถึง Osaka (คันไซ) วันศุกร์ที่ 29 มี.ค.เวลา 06.05 น.
 จองสายการบิน JAL โบอิ้ง 787-8 ของเอเจนซี่ JTB ในงานไทยเที่ยวไทยไปทั่วโลก ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 11 ส.ค.61 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
วันพฤหัสที่ 28 มี.ค.62
เวลา 19.00 น. มาถึงสุวรรณภูมิ สายการบิน JAL เข้าประตู 8 Row R ถึงแล้วเช็คอินก่อนเลยGATE F5 ผ่าน ตม. ไปทางขวา เดินตามป้ายไปเลยผ่านศาลา (OTOP) ตรงไปก็ถึงประตู F5 แต่วันนี้ขอแวะใช้ King Power Lounge
เลี้ยวซ้ายตรง GATE E ศาลานี้เลยครับเดินตรงไปสังเกตซ้ายมือจะเห็นป้าย King Power
ทางเข้าตรงผู้หญิงกำลังเดินออกมาครับ จะมีทางเข้าเล็กๆอยู่ด้านใน ป้ายเป็นอย่างนี้บัตรสมาชิกและผู้ติดตามเข้าได้ 1 ท่าน 
อาหารไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่  แต่ของฟรีก็โอเคแล้ว  จะว่าไป ฟาดข้าวต้มไป 2 ถ้วย ไม่รวมแซนวิชกับสลัด เล่นเอาอิ่มเหมือนกัน  ใกล้ถึงเวลาเดินไปรอที่ GATE
สายการบิน JAL โบอิ้ง 787-8 ให้น้ำหนักกระเป๋าคนละ 46 กก.  (แบ่งเป็น 2 ใบใบละไม่เกิน 23 กก.) ที่นั่งแบบ 2-4-2 ที่นั่งกว้างดี หรือผมตัวเล็กไม่รู้ ผมสูงแค่ 167 เลยนั่งสบาย ดูไม่อึดอัดบนที่นั่งจะมี หมอน ผ้าห่ม หูฟัง ไว้ให้ส่วนหน้าจอ  มีภาพยนตร์ (มีพากษ์ไทยให้ด้วย)  เกมส์  เพลง ให้เลือกเยอะพอสมควร ส่วนรีโมทจะอยู่ด้านซ้ายมือ   เวลา 22.55 น.บินตรงเวลามาก สมกับเป็นสายการบินญี่ปุ่น บินไต่ระดับได้ แจกผ้าอุ่น น้ำ ขนม ขอตบเบียร์ซักกระป๋องจะได้หลับสนิท  หลังจากนั้นนั่งหลับๆตื่นๆ ประมาณตีสามลูกเรือ เอาอาหารมาแจก  เป็นข้าวต้มหรือโจ๊กนี่แหละ กินได้ 2-3 คำพอ ส่วนสลัดผักสดดี ผลไม้ ซุปมิโซ ชอบโยเกิร์ตอร่อยสุด วันศุกร์ที่ 29 มี.ค.62
 เวลา 06.05 น. ถึงสนามบินคันไซ นั่งโมโนเรลเข้าสนามบิน
เมืองไทย 38 องศา ถึงสนามบินคันไซ 12 องศา  หนาวสะท้านเลยครับผ่าน ตม. ศุลกากร ออกจากสนามบิน เพื่อไปแลก Pass  ตอนที่ซื้อจาก Agency เมืองไทยจะได้ใบเสร็จแล้วค่อยมาแลกที่สนามบินญี่ปุ่น ส่วน Pass อื่นๆ ได้เป็นบัตรจริง ใช้ได้เลยไม่ต้องแลก
  บัตร Yokoso Osaka Ticket+ One Day Pass 2 ใบ ราคา 700 บาท (ใบละ 350 บาท) ซื้อมาจากเมืองไทย เอาใบเสร็จมาแลกบัตรจริงที่นี่ ถ้ามาซื้อที่ญี่ปุ่น 1,500 เยน/ใบ บัตร Yokoso Osaka Ticket จะแถม One Day Pass ให้อีก 1 ใบ เป็นของ NANKAI สำนักงานจะอยู่ทางซ้ายมือ ติดกับ JR แลกบัตรตรงสำนักงานได้มา 4 ใบ จะได้นั่ง ขบวน Limited Exp.Rapi:t reserved-seat ticket (one-way)หรือรถไฟหัวอัศวิน
 1 เป็นเหมือนใบเสร็จ ฟังไม่ถนัด ให้เราเก็บไว้
2 เป็นตั๋วบอกที่นั่ง ขบวน เวลา ในตั๋วจะออกจากสนามบินคันไซ เวลา 7.58 น. ถึงสถานีนันไก นัมบะ เวลา 8.42 น. เดือนที่ 3 วันที่ 29 นั่งตู้ที่ 1 ที่นั่ง 44 ใบนี้เราเก็บไว้โชว์ตอนพนักงานมาขอดูที่นั่ง
3 เป็นใบเข้าสถานี เสียบบัตรเข้าไป ประตูจะเปิด ตั๋วใบนี้ไม่คืนให้เรา
4 บัตร One Day Pass สำหรับเดินทางฟรีใน Osaka อีก 1 วันเต็ม ใช้เดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน รถบัสและรถราง (New Tram) โดยจะใช้ในวันเดียวกับที่ใช้รถไฟจากสนามบิน หรือจะใช้ในวันถัดไปก็ได้หรือใครจะซื้อตั๋วเป็นเที่ยวๆก็มีตู้ให้กดได้เลย 
ด้านตรงกันข้ามทางซ้ายมือจะเป็นสถานีของแต่ละเจ้า
 JR สีน้ำเงิน  NANKAI สีแดง แบ่งข้างชัดเจนผ่านประตูเข้ามา ลงลิฟต์หรือบันไดเลื่อนมารอรถไฟได้เลย
ชานชาลาที่ 1 เป็นขบวน Airport Express ชานชาลาที่ 2 เป็นขบวน Limited Exp.Rapi:t หรือรถไฟหัวอัศวิน
บัตร Yokoso Osaka Ticket ได้นั่งขบวน Limited Exp.Rapi:t แบบที่นั่งธรรมดา เฉพาะขาเข้าตัวเมืองเที่ยวเดียวเท่านั้น ใช้เวลา 38 นาทีถึงสถานีนัมบะ ถ้า Airport Express ใช้เวลา 44 นาที ราคาจะต่างกันนิดหน่อย
สรุป...
ขบวน Limited Exp.Rapi:t ใช้เวลาเดินทาง 38 นาที
ที่นั่งธรรมดา ผู้ใหญ่： 1,130 เยน เด็ก： 570 เยน
ที่นั่งชั้นพิเศษ ผู้ใหญ่： 1,340 เยน เด็ก： 770 เยน
ขบวน Airport Express ใช้เวลาเดินทาง 44 นาที ราคา 920 เยน ใครสะดวกแบบไหนเลือกเอาเองเลยครับ
หน้าตาขบวน Limited Exp.Rapi:t หล่อเหลาเอาการ
ภายในตู้โดยสาร เป็นที่นั่งแบบ 2-2 นั่งตามหมายเลขที่ระบุไว้เลยครับ
ท้ายตู้จะมีที่เก็บกระเป๋า ไม่ต้องลากติดตัว สะดวกสบายมาก
ที่นั่งสะอาด นั่งสบายมาก ส่วนที่นั่งชั้นพิเศษ จะนั่งแบบ 2-1 ที่นั่งจะกว้างกว่าแบบที่นั่งธรรมดา ถ้าจะนั่งแบบนี้ต้องเสียตังค์เพิ่มอีกนิดหน่อยครับ 
แบบที่นั่งธรรมดา 2-2 เวลา 8.42 น.มาถึงสถาน Namba เป๊ะ หลังจากนั้นก็เดินออกประตู North Exit
เลี้ยวขวาเดินตามป้ายไปเลยครับ ไม่หลงแน่  เดินออกจากสถานีนัมบะ ยืนงงได้ซักพัก จับทางได้ เดินตรงถนน Mido-Suji ไปเลยครับ
จะผ่านตึกนี้ เท่เชียว  พอข้ามคลองให้เลี้ยวซ้าย ตรงเข้าไปในซอย
ผ่านถนนคนเดิน ดงทงโบริ ด้วยด้านขวามือ ห้างดองกี้เด่นสง่า แถวป้ายหนุ่มกูลิโกะ ไม่หลงแล้วเรา (ดองกี้มี 2 สาขา อีกสาขาอยู่หน้าซอยโรงแรมที่ผมพัก)สำหรับทริปนี้เราจองโรงแรม  APA Hotel Namba Shinsaibashi 6 คืนแบบไม่รวมอาหารเช้า (ราคา 81,900 เยนตกคืนละ 13,650 เยน) จาก Booking.com จองล่วงหน้า 6 เดือน หลังจากจองตั๋วเครื่องบินเสร็จ 1 อาทิตย์ ตัดบัตรเครดิตก่อนเดินทาง 1 วัน
Check-in ที่พักไม่มีปัญหา มาจ่ายบัตรเครดิตวันเข้าพัก ผ่านโอเค ระหว่างก่อนไปก็ใจตุ้มๆต้อมๆ เพราะดูราคาแล้วยิ่งใกล้วันเที่ยว ราคาพุ่งไปถึง 18,000 เยนต่อคืนไปแล้ว กลัวโดนยกห้องคืน 
โรงแรมให้ Check-in เวลา 15.00 น. เราไปถึงตั้งแต่ 9.30 น.ยังเข้าพักไม่ได้แต่สามารถฝากกระเป๋าได้ (ขากลับ Check-out ก่อน 11.00 น.แต่ให้ฝากกระเป๋าได้ถึงเที่ยงคืน)หลังจากได้ห้องพักแน่ๆแล้ว ก็ได้เวลาลุย เดินกันตัวปลิว ลั้นล้ากันไป
ออกจากโรงแรมเลี้ยวซ้ายตรงไปถึงถนนใหญ่ เลี้ยวขวาเดินตรงไป เจอร้านนี้  ตามแผนที่วางไว้ ตั้งใจจะไปกินแถวตลาด Kuromon Ichiba Marke แต่หิวอ่ะ ขอแวะชิมหน่อย
รอคิวไม่ถึง 10 นาที ที่นั่งเป็นเค้าเตอร์ มีประมาณ 12 ที่นั่ง ขอเมนูมาดู ราคาไม่แรงเท่าไหร่ 
ของผม เป็นเซท หมู+ปลา หมูนุ่มดี  ของแฟน เป็นหมูอย่างเดียว แฟนชอบมาก  ค่าเสียหายทั้งหมด (น้ำเปล่าฟรี เติมได้ตลอด)
อิ่มแล้ว เปลี่ยนแผนไปเที่ยวปราสาทโอซาก้าแทน ตลาดคุโรมง ค่อยไปวันอื่นแทนแล้วกัน 
จากร้านเดินข้ามสะพานตรงไปนิดเดียว จะมีทางลงไปรถไฟใต้ดิน ประตูที่ 25 เดินลงไปเลยครับ สังเกตป้ายตัว M ไว้ลงมาแล้วเดินตามป้าย MidoSuji Line
ดูป้าย M สีแดง
วันนี้เราเปิดบัตร One Day Pass เลยครับใช้บัตรเสียบตรงช่องทางเข้าสาย MidoSuji Line ขึ้นชานชาลาที่ 2 นั่งไป 2 ป้าย ลงสถานี Hommachi เสียบบัตรออก อย่าลืมรับบัตรกลับมาด้วยละ ต้องใช้บัตรนี้ทั้งวัน จากนั้นมองป้าย Chuo Line สายสีเขียว เดินตามป้ายไปเลยครับ
ไม่ต้องกลัวหลง มีทั้งป้ายข้างบนและตรงพื้นบอกตลอดทาง อย่าเดินหลุดเส้นทางแล้วกัน  ถึง Chuo Line เสียบบัตรเข้าไปชานชาลาที่ 1 นั่งไป 3 ป้าย ลงสถานี Morinomiya Station
เดินตามป้ายเลยครับ จะมีป้ายบอกว่าไป ปราสาทโอซาก้าตลอดทาง ออกประตู 1ออกมาได้ เดินตามฝูงชนเลยครับ ถ้ากลัวหลงก็ถามทางได้ ทุกคนเต็มใจบอกทาง พอเห็นเรางงๆ มีเดินพาไปส่งด้วย  เดินมาถึงตรงนี้แล้วตรงนี้มีรถรางหรือรถอะไรไม่รู้ เรียกไม่ถูก จะพานักท่องเที่ยววนรอบตัวเมืองปราสาท จะจอดให้ลงเป็นจุดๆ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะคน 500 เยน ไม่ชัวร์นะครับ ส่วนผมเดินเล่นรอบปราสาทเอา ดอกซากุระบานประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ เสียดายมาเร็ว 1 อาทิตย์  ตรงนี้ถ้า Full Bloom จะงามหยดย้อยแค่ไหน คิดดูเอาแล้วกันเดินต่อไป ถือว่ายังไม่เลวร้ายนี่ถ้าบานเต็มต้น นั่งปิ้ง บาร์บีคิว ใต้ต้นซากุระไปด้วย คงฟินสุดๆ เห็นปราสาทโอซากะ ลิบๆทางเข้าประตู จะมีร้านอาหารมาเปิดขาย หอมมาก แต่ยังอิ่มอยู่ ขอเดินชมอย่างเดียวพอ
เดินข้ามสะพาน ผ่านประตูเข้าไปข้างใน
เห็นปราสาทใกล้เข้ามาแล้ววันนี้เราไม่ได้ขึ้นไปชมตัวปราสาทโอซาก้า แค่มาสำรวจเส้นทางเพราะพรุ่งนี้ ผมมีบัตร Osaka amazing pass ไว้ค่อยมาเข้าฟรี
มาครั้งแรกไม่หลงก็โอเคแล้ว ได้เวลาไปสำรวจเส้นทางอื่นต่อ  เดินออกจากปราสาททางไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ผ่านสถานีโทรทัศน์ NHKมาถึงตรงนี้ เดินตรงไปถึงสี่แยกเลี้ยวขวา จะเจอทางลงประตูที่ 10 Tanimachiyonchome
แอบเดินไกลเหมือนกัน  สถานีต่อไป Umeda 
จากสถานี Tanimachiyonchome ขึ้นขบวน Tanimachi Line สายสีม่วง ชานชาลาที่ 2 นั่งไป 3 ป้าย มาลงที่ Higashi-Umeda Station
จำไม่ได้ออกประตูไหน ยืนงงๆ อยู่ซักพัก กด Google Map นำทางไปร้าน ซูชิ 100 เยน เดินผ่านทางนี้ละลานตาไปหมดตอนนี้ชีวิตฝากไว้กับ Google Map อย่างเดียวเลยครับ ผ่านวัดหรือศาลเจ้าก็ไม่รู้ สวยดีแวะนิดนึงเดินตาม Google Map ต่อไป ผ่านตึกนี้ น่ารักดี 1 รูปจัดไปแล้วก็มาถึงจนได้ ซูชิ 100 เยน อยู่ถนนใหญ่ เห็นป้ายชัดเจนเข้ามาแล้ว กดบัตรคิวก่อนครับ อยู่หน้าร้านเลย ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ ยืนงงในดงซูชิ ซักพัก พนักงานมากดบัตรคิวให้แทน  ได้บัตรคิวเดินผ่านแคชเชียร์ระหว่างรอเรียก นั่งดูซากอารยธรรมที่หลงเหลือรอคิวประมาณ 10 นาทีก็ได้เวลาเราแล้ว พนักงานเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่น ฟังก็ไม่ออก ต้องไปบอกให้เรียกภาษาอังกฤษแทน เค้าคงรำคาญเลยเดินมาบอกแล้วพาไปนั่งที่โต๊ะ  ตอนกดบัตรคิวมีให้เลือกระหว่างนั่งโต๊ะกับนั่งเค้าเตอร์ ผมเลือกนั่งโต๊ะดีกว่า
นั่งได้ก็ลุยเลยครับ จะมีเมนูอาหารและคำแนะนำต่างๆ  ถ้าสายพานมายังไม่ถูกใจ กดสั่งในแทบเลทได้เลยไม่รอแล้วนะ รสชาติ เฉยๆอ่ะ ยังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่
เคยดูในยูทูป จะมีหยอดจานแบบเล่นกาชาปองด้วย แต่สาขานี้ไม่มี ไม่รู้เข้าผิดสาขาหรือผิดร้านกันแน่
ค่าเสียหายทั้งหมด 2,343 เยนอิ่มแล้ว ประมาณ 15.30 น. ได้เวลาเข้าที่พัก
เดินมาสถานีรถไฟใต้ดิน ลงตรงนี้นั่ง MidoSuji Line 5 ป้ายไปลงสถานี Namba  เดินออกประตู 25 ผ่านคลองโดทงโบริข้ามสะพานได้เจอร้านดองกี้อยู่หัวมุม เลี้ยวซ้ายตรงไปประมาณ 80 ม. โรงแรมจะอยู่ขวามือ เห็นเด่นชัด
ได้ห้อง 810 ให้คีย์การ์ดมา 2 ใบ ดีงามมาก เรานอนที่นี่ทั้ง 6 คืนตลอดทริป สะดวกสบายมาก อยู่ใกล้ทำเลเสียเงินทั้งนั้น 
เข้าไปสำรวจห้องกัน ห้องแคบไปหน่อยตามสไตล์ห้องญี่ปุ่น เข้าไปห้องน้ำอยู่ด้านหน้า ถัดไปเป็นเตียงเดี่ยวขนาด 5 ฟุต ที่นอนนุ่มมาก แต่ที่ทึ่งที่สุดคือหมอนใบเล็กมากแถมแบนราบเรียบ ผมเป็นคนนอนหมอนสูง ยังคิดเลยว่าจะนอนไหวไหม พอนอนหนุนหมอน หลับสนิททุกคืนเลย ไม่รู้ว่าเหนื่อยหรือหมอนกับที่นอน นอนสบายกันแน่
ที่ห้องไม่แอร์ให้ มีแต่ฮีทเตอร์ อากาศช่วงนี้ 7 องศา แค่เปิดหน้าต่างก็หนาวกว่าเปิดแอร์ที่บ้านอีก  ด้านข้างเตียงมีโต๊ะเครื่องแป้งให้ 1 ตัว เครื่องเป่าผม กาน้ำร้อนและก็ดูในรูปเองแล้วกัน  ใต้โต๊ะเครื่องแป้งมีตู้เย็นให้ 1 ตู้ วันแรกให้น้ำเปล่า 1 ขวดปลายเตียงมีทีวีให้ 1 เครื่อง ทางเดินจากประตูมายังเตียง ประมาณนี้มีถังขยะ 2 ใบ  แยกพลาสติกกับขวด สลิปเปอร์ 2 คู่ รองเท้าแตะ 2 คู่ ชุดยูกาตะ 2 ชุดและเก้าอี้ 1 ตัวเข้าไปดูในห้องน้ำกันบ้าง ไม่กว้างเหมือนเดิม แต่คุณภาพคับห้อง ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่ามาก อุปกรณ์มีให้พร้อมทุกอย่าง ผ้าเช็ดตัว 2 ผืน ผ้าเช็ดมือ 2 ผืน ผ้าเช็ดเท้า 1 ผืน ชอบมีดโกนหนวด คมมากหลังจากเก็บกระเป๋าเรียบร้อย ไปเดินเล่นหาอาหารมื้อเย็นกัน  
ออกจาก รร.เลี้ยวซ้ายเดินไปถึงถนนใหญ่เลี้ยวขวาตรงห้างดองกี้ เดินตรงไปลง Subway ประตูที่ 25 เข้าสถานีนัมบะ ใช้บัตร One Day Pass เสียบเข้าสถานี MidoSuji Line ขึ้นชานชาลาที่ 1 นั่งไป 2 ป้าย ลงสถานี Dobutsuen-Mae Station ออกประตูที่ 1เดินตรงไป เลี้ยวซ้ายลอดใต้ทางรถไฟก็ถึงตรอก จันจันโจโยโก๊ะ (ジャンジャン横丁 / Janjan Yokocho Alley)  ร้านอาหารละลานตามาก ร้านนี้ขาย Kushi-katsu (หมูทอดเสียบไม้) คนญี่ปุ่นต่อแถวยาวมาก  เดินไปร้านเป้าหมาย
ผ่านร้านยิงปืนเหมือนงานวัดบ้านเราเลยเดินต่อไป
เจอร้านเป้าหมายแล้ว ขาย Kushi-katsu (หมูทอดเสียบไม้) เจ้าดัง เปิดเวปไหนก็แนะนำร้านนี้
เกิดลังเล คนต่อคิวน้อยสู้ร้านแรกไม่ได้ เดินวน 1 รอบดูเชิงก่อน  เปลี่ยนเป้าหมาย กลับไปร้านแรกที่คนยืนต่อคิวดีกว่า  มีแต่คนท้องถิ่นกิน
ระหว่างรอคิวถ่ายบรรยากาศภายในร้านมาให้ดูรอประมาณ 20 นาที ได้เวลาเราบ้างแล้วเมนูมีภาษาอังกฤษกำกับด้วย  หรืออยากกินอะไรก็จิ้มๆในตู้ได้เลยได้เวลาลุย
จานนี้หมูนุ่มมาก แต่รสชาติยังเฉยๆ น้ำซอสยังไม่ค่อยโดน มีโอกาสไปกินอีกไม่ซ้ำแน่ส่วนของทอด อร่อยทุกอย่าง แป้งกรอบอร่อย รสชาติกลมกล่อมมาก ดีเลิศ กินคู่กับเบียร์ มันสุโค้ยยยยย  คิดไม่ผิดที่ตัดสินใจมากินร้านนี้ทั้งหมดกี่ไม้ไม่ได้นับ ชอบจานไหนก็สั่งไปเรื่อยๆ อิ่มไม่รู้ตัว
การกินให้จิ้มน้ำจิ้มครั้งเดียว เพราะน้ำจิ้มเป็นส่วนรวม ถ้าจะจิ้มอีกให้ใช้ผักกะหล่ำปีตัดซอสแล้วมาราดในจาน กินเสร็จให้เอาไม้เสียบไว้ในกระบอกไม้ไผ่ราคาเบาะๆ 4,450 เยน (รวมเบียร์สด 1 แก้ว 500 เยน)  ลองนับในรูปได้ประมาณ 18 ไม้ แต่ละไม้ราคาไม่เท่ากันอิ่มแล้วเดินเล่นแถวนั้นก่อน (ย่านชินเซไก)
เดินผ่านคลับการเล่นโกะและ Shogi (หมากรุกญี่ปุ่น) เล่นจริงจังมากเดินไปอีกนิดก็ถึงหอคอยซือเท็นคาคุ (Tsutenkaku Tower) ย่านชินเซไก (Shinsekai) ใครมีบัตร Osaka amazing pass สามารถใช้บัตรนี้ขึ้นไปชมวิวบนหอคอยได้ฟรีครับได้เวลากลับแล้วครับ ขอแวะร้านดองกี้หน่อย ตอนแรกจะถอดใจกลับแล้ว หาร้านไม่เจอ ถามเจ้าถิ่นบอกเดินไปอีกนิดเดียวก็เจอแล้ว อยู่ตรงหัวมุมถนนพอดีเข้าไปชมข้างใน คนไม่เยอะเหมือนแถวดงทงโบริ น่าเดินมาก ของเลือกให้เยอะเหมือนกัน
ยังไม่ได้ซื้ออะไร แค่มาเดินสำรวจก่อน ไว้ค่อยกลับมาช้อป  ได้เวลากลับนัมบะแล้วครับ 
เดินกลับทางเดิม นั่งสาย MidoSuji Line ที่สถานี Dobutsuen-Mae 2 ป้าย ลงนัมบะ ออกประตู 25 เหมือนเดิม แวะทักทายหนุ่มกูลิโกะหน่อยก่อนกลับเข้าที่พัก ลองชิม ทาโกยากิ ร้านนี้ 8 ลูก 500 เยน ยังไม่ค่อยอร่อย ข้างในยังแฉะอยู่เลย แป้งก็ไม่กรอบน้ำซอสเฉยๆ สรุปไม่ผ่าน
ค่าใช้จ่ายก่อนเดินทาง 
ตั๋วเครื่องบิน 39,700 บาท (คนละ 19,850)
ที่พัก APA Hotel Namba Shinsaibashi 23,505.30 บาท 6 คืน คืนละ 3,917.5 บาท (81,900 เยน) คิดเรท 28.70 เยน ณ วันตัดบัตร
 ซื้อพาสต่างๆ งานไทยเที่ยวไทยไปทั่วโลกที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ วันเสาร์ที่ 16 ก.พ.62 ของบริษัท UPON
 บัตร Yokoso Osaka Ticket+ One Day Pass 2 ใบ ราคา 700 บาท (ใบละ 350 บาท) ราคาที่ญี่ปุ่น 1,500 เยน/ใบ
บัตร Kansai Thru Pass 3 Day 2 ใบ ราคา 2,900 บาท (ใบละ 1,450 บาท) ราคาที่ญี่ปุ่น 5,200 เยน/ใบ
บัตร Osaka amazing pass 1 Day 2 ใบ ราคา 1,400 บาท (ใบละ 700 บาท) ราคาที่ญี่ปุ่น 2,700 เยน/ใบ
บัตร Suica ของเดิม
 ประกันการเดินทาง AIS 482 บาท (คนละ 241 บาท) ตลอดทริป
 ซิม SIM2Fly AIS 598 บาท (คนละ 299 บาท) 7 วัน 4 GB    มีซิมอยู่แล้วแค่ซื้อแพคเกจ
อัตราแลกเงินก่อนเดินทาง
แลกเงินร้าน SuperRich วันที่ 21 ก.ย.61 เรท 29.10 แลก 20,370 บาท ได้ 70,000 เยน
แลกเงินร้าน Headquarter โทร 02-0101600 วันที่ 28 ก.พ.62 เรท 28.55 แลก 39,970 บาท ได้ 140,000 เยน
สรุป แลก 2 ช่วง ทั้งหมด 60,340 บาท ได้ 210,000 เยน
ค่าใช้จ่ายวันพฤหัสที่ 28 มี.ค.62
 ค่าทางด่วนงามวงศ์วาน 60 บาท
ค่าทางด่วนพระรามเก้า 25 บาท
ค่าแท๊กซี่ 365 บาท (มิเตอร์ขึ้น 355)
ค่าใช้จ่ายวันศุกร์ที่ 5 เม.ย.62
 ร้านYoshinoya 1,080 เยน
ร้านซูชิร้อยเยน 2,343 เยน (ซูชิ 18 จาน 1,800 เยน + อูดงไก่ 1 ถ้วย 543 เยน)
ค่าอาหาร Kushi-katsu (หมูทอดเสียบไม้) ราคา 4,450 เยน
ค่าโทโกยากิ 500 เยน
น้ำเปล่า 1 ขวด 200 เยน
สรุป ค่าใช้จ่ายวันนี้ ไม่รวมค่าช้อปปิ้ง 8,573 เยน, 450 บาท
 วันนี้ใช้บัตร Yokoso Osaka Ticket+One Day Pass ราคา 1,500 เยน เหมาตลอดวัน
ถ้าซื้อเป็นเที่ยว
ขบวน Limited Exp.Rapi:t จากสนามบินคันไซ-สถานีนัมบะ ที่นั่งธรรมดา 1,130 เยน
จากสถานี Namba – สถานี Morinomiya นั่ง 2 ต่อ ค่าโดยสาร 230 เยน
จากสถานี Tanimachiyonchome – สถานี Higashi-Umeda Station 1 ต่อ 230 เยน
จากสถานี Umeda – สถานี Namba 1 ต่อ 230 เยน
จากสถานี Namba - สถานี Dobutsuen-Mae 1 ต่อ 180 เยน
จากสถานี Dobutsuen-Mae - สถานี Namba 1 ต่อ 180 เยน
สรุป ถ้าซื้อเป็นเที่ยววันนี้ จ่ายทั้งหมด 2,180 เยน ใช้เกิน 680 เยน คุ้มครับ
| Create Date : 07 เมษายน 2562 |
| Last Update : 9 พฤษภาคม 2563 17:52:05 น. |
|
3 comments
|
| Counter : 6221 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [
King Power Lounge ไม่ค่อยใหญ่เท่าไหร่ อาหารมีพอประมาณ เครื่องดื่มมีให้ครบ ยกเว้นแอลกอฮอล์ บัตรสมาชิก 1 ใบให้ผู้ติดตามเข้าได้ 1 ท่าน โดยรวมถือว่าโอเค เข้าไปกินอาหารรองท้อง มีที่ชาร์ทโทรศัพท์ นั่งฆ่าเวลาได้ดี สำหรับผมพอใจครับ
สายการบิน JAL ใช้โบอิ้ง 787-8 บินตรงเวลาทั้งขาไปและขากลับ เครื่องใหม่ สะอาด หน้าจอทีวีใหญ่ ภาพยนต์มีให้เลือกหลายเรื่อง มีทั้งใหม่และเก่าปนกัน ส่วนมากมีพากษ์ภาษาไทยให้ด้วย หูฟังเสียงชัดดี เกมส์มีไม่ค่อยเยอะ(ไม่ค่อยได้เล่นด้วย) อุปกรณ์แจกบนเครื่อง ไม่มีสลิปเปอร์ ผ้าปิดตา Ear plug แปรงสีฟัน ยาสีฟัน มีแค่หมอน ผ้าห่ม หูฟังเท่านั้น แต่ในห้องน้ำมีแปรงสีฟันยาสีฟันไว้ให้ อาหารยังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ แอร์บริการดี ทีสำคัญให้น้ำหนักเยอะดี แถมขากลับให้รวมกันได้ ถูกใจขาช้อปอย่างแฟนผม ส่วนราคา รับได้ ไม่แรงเกิน ถ้ามีโปรอีกจะไปกับเจ้านี้แหละ
พาสต่างๆ ซื้อกับบริษัท UPON แลกได้ ใช้ได้ ไม่มีปัญหา
โรงแรม APA Hotel Namba Shinsaibashi จอง Booking.com Check-in ได้ปกติไม่มีปัญหาใด ส่วนโรงแรม
ข้อดี
1 อยู่ทำเลดีมาก ห่างจากสถานีนัมบะไม่ไกล เดินไปทางไปไหนสะดวกสุดๆ ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง ของกิน อยู่ตรงนี้เตรียมหมดตัวได้ 555
2 รับฝากกระเป๋าก่อน Check-in จะมาตีห้า หกโมงเช้า มีเจ้าหน้าที่โรงแรมอยู่ตลอด สามารถฝากกระเป๋าได้ ส่วน Check-out ฝากกระเป่าได้ถึงเที่ยงคืน
3 ให้คีย์การ์ด 2 ใบ แยกกันคนละใบ เวลาไปไหนใครอยากกลับก่อนไม่ต้องรอกันหรือเอาคีย์การ์ดเสียบไว้ชาร์ทอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆได้
4 อุปกรณ์ทุกอย่างให้ครบ ชอบมีดโกนหนวดมาก มาให้ทุกวันเลย เก็บกลับมาใช้ที่บ้านสบายเลย
5 ห้องสะอาด ไม่มีกลิ่นอับใดๆ มีแม่บ้านมาทำความสะอาดให้ทุกวัน เปลี่ยนผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดเท้า ทุกวัน น้ำสองวันแรกให้แค่ 1 ขวด หลังจากนั้นให้วันละ 2 ขวด
6 ชอบที่นอนกับหมอนมาก นอนหลับสบายมาก ตื่นมาไม่รู้สึกเพลียหรือปวดคอ
7 ห้องน้ำสะอาด มีอุปกรณ์ต่างๆให้ครบ ที่ไดร์ผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่เหลว แชมพู ครีมนวดผม ให้มาครบ น้ำไหลแรงมาก
ข้อเสีย
1 ห้องแคบไปหน่อย แต่ก็ตามสไตล์ญี่ปุ่น
2 ติดหน้าตรงคลอง แฟนบอกตอนกลางคืนเสียงดังเข้ามาในห้อง ส่วนผมหัวถึงหมอนก็หลับแล้ว ไม่รู้เรื่องๆ 555
3 ราคาแรงไปหน่อย แต่เทียบกับความสดวกสะบาย พอรับได้
อาหารร้านYoshinoya สำหรับพอกินได้แต่แฟนชอบมาก บอกอร่อยดี ส่วนราคาไม่แพง
ปราสาทโอซาก้า แอบผิดหวังกับซากุระ ก่อนมาดูพยากรณ์ทุกวันบอกโอซากะจะ Full Bloom ช่วงนี้ ผมไปบานประมาณ 70-80% แต่ก็ถือว่าสวยเลยละ ด้วยความที่คาดหวังไว้เยอะ เลยไม่ค่อยโอเท่าไหร่ ส่วนตัวปราสาทตามแผนคือพรุ่งนี้เข้าไปชม เลยเฉยๆ
ร้านซูชิ 100 เยน ผิดหวัง ไม่อร่อยเลย เดินไปไกลด้วยกว่าจะเจอ หรือผมเข้าผิดร้าน ผิดสาขาไม่รู้ เคยดูในยูทูปจะให้จานเปล่าไว้หยอดเล่นแบบกาชาปองด้วย แต่สาขานี้ผิดหวังอย่างแรง
ตรอก จันจันโจโยโก๊ะ ชอบมาก เดินเล่นเพลินเลย แสงสีไม่แพ้แถวที่ผมพัก แต่คนน้อยกว่า น่าเดินกว่า ดูมีเสน่ห์ดี ชอบเป็นพิเศษ วันอื่นว่าจะมาซ้ำกลับดึกทุกคืน เลยมาได้แค่คืนเดียว ถ้ามีโอกาสคราวหน้ามาซ้ำแน่
ร้านขาย Kushi-katsu ไม่รู้ชื่อร้านแต่อร่อยมากกกกก ไม่รู้ผมชอบของทอดด้วยมั่ง มาเจอแบบนี้ติดใจรสชาติเลย ไม่รู้เจ้าอื่นจะอร่อยเหมือนกันเปล่า แต่ชอบรสชาติร้านนี้แล้ว
ห้างดองกี้ สาขาชินเซไก ของเยอะมาก คนไม่ค่อยเยอะเหมือนแถวนัมบะหรือผมไปใกล้จะปิดแล้วประมาณสามทุ่มกว่าๆ แฟนบอกไว้มาช้อปที่นี้ ผมก็อยากมาเดินเล่นแถวนี้ สุดท้ายไม่ได้มา
ย่านนัม แสงสี ผู้คนเยอะทุกวัน มีทั้งห้าง ของกิน เดินได้กันทั้งคืน ส่วนมากกลับมาจากเที่ยวที่อื่นต้องแวะมาเดินเล่นทุกคืน อยู่ใกล้ที่พักก็อย่างนี้แหละ 555
ส่วนโปรแกรมวันนี้ ผิดแผนนิดหน่อย แต่โดยรวมถือว่าไปครบทุกที่ ขาดแต่ตลาดคุโรมง คิดว่าอยู่ใกล้ๆที่พักไปเมื่อไหร่ก็ได้ สุดไม่ได้ไป แต่ได้ไปตลาดคุโรชิโอที่ วากายามาทดแทน 2 วัน ฟินสุดๆ