ลุยมั่วๆ 2 คน @ KANSAI (วันที่ 5 HIMEJI - KOBE )

ย้อนดูวันที่ 4 Wakayama คลิ๊กเลย

วันอังคารที่ 2 เม.ย.62

วันนี้ใช้บัตร Kansai Thru Pass 3 Day (KTP) เป็นวันที่ 2 เพื่อไปปราสาทฮิเมจิ – โกเบ – อาริมะ ออนเซน 423423423


 
767676 06.00 น.ออกเดินทางจากโรงแรม APA Hotel Namba Shinsaibashi 341


 
จากโรงแรมออกทางซ้าย ตรงไปถึงถนนใหญ่ (ผ่าน FamilyMart) 297


 
เลี้ยวขวาตรงหัวถนนจะเป็นห้างดองกี้ ออกถนนก็จะเห็นหนุ่มกูลิโกะอยู่ฝั่งตรงกันข้าม

ไม่ต้องข้ามถนนนะครับ

 

 
เลี้ยวขวาเดินตรงไป ข้ามคลองจะเจอสถานีรถไฟใต้ดินประตู 25 (Metro) ลงบันไดไปเลยครับ

ใช้เส้นทางนี้ทุกวัน 391


 
วันนี้เรานั่ง HANSHIN Line 368 ไปเที่ยวกันครับ

เดินตามป้าย  HANSHIN


 
ถึงตรงนี้ก็เสียบบัตร KTP เข้าสถานีไปเลย ตามป้าย Amagasaki


 
ลงมารอชานชาลาที่ 3 เป็นขบวน Local

ขบวนรถจะสีแดงๆ 376


 
นั่งประมาณ 20 นาที จะจอดที่ สถานี Amagasaki Station 336


 
เดินไปเปลี่ยนขบวนรถชานชาลาที่ 5-6 เดินตามป้ายอย่างเดียวครับ ไม่หลงแน่


 
จากสถานีนัมบะ มาถึงสถานี Amagasaki Station ตามเวลาเลยครับ 447


 
เดินตามป้าย ใครจะไปโกเบ ฮิเมจิ ให้มารอที่ชานชาลาที่ 6 เป็นขบวน LTD. EXP. ไป Sanyo-Himeji 366366366


 
ชานชาลาที่ 5 เป็นขบวน Local 358


 
เราไปชานชาลาที่ 6 ขบวนนี้จะมาจาก UMEDA ช่วงเช้าคนจะแน่นหน่อย ต้องยืน ถ้าใครพักแถว UMEDA ให้ขึ้นที่นั้นได้เลย เป็นรถต้นสาย

ใกล้ถึงโกเบ คนเริ่มทยอยลง ถึงได้นั่ง 10


 
นั่งขบวนนี้ ไม่ต้องเปลี่ยนขบวนอีกแล้ว หลับยาวได้เลยครับ 929292 เพราะมันมาสุดสถานีที่ ฮิเมจิ


 
ภายในตู้จะมีที่นั่ง 2 แบบ ท้ายตู้จะเป็นแบบที่นั่งยาวติดหน้าต่าง หันหน้าชนกันแบบรูปข้างบน ส่วนตรงกลางตู้เป็นเก้าอี้มีพนักพิงแบบนั่งคู่

พนักพิงสามารถปรับได้ เพียงแค่จับตรงหูข้างเบาะด้านคนเดิน แล้วโยกไปทางซ้ายหรือขวา ถ้ามา 4 คนปรับเป็นหันหน้าชนกันได้ครับ 



 
จากโรงแรมมาปราสาทฮิเมจิ ใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง

ผมมาถึงสถานีฮิเมจิ เวลา 08.20 น. 7676


 
ใช้บัตรเสียบ KTP ออกได้เลย


 
ลงบันไดแล้วเลี้ยวซ้ายตามป้าย


 
ภายในสถานีมีตู้ฝากกระเป๋าหลายจุดอยู่เหมือนกัน และมีทางเชื่อมไปยังสถานี JR ได้


 
ลงบันได้มาแล้วจะเป็นทางออกสถานี Sanyo-Himeji

หน้าตาด้านหน้าสถานนี 


 
มองไปทางซ้ายมือ จะเห็นปราสาทฮิเมจิ อยู่ลิบๆ


 
ระยะทางประมาณ 1 กม. เดินบรรยากาศแบบนี้ อากาศ 4 องศา ชิวๆมาก 203203


 
วันนี้มาถึงเช้า นักท่องเที่ยวเลยยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่


 
ตรงนี้เดินเข้าประตูก็ถึงปราสาทฮิเมจิแล้วครับ


 
ถ่ายจากปราสาทฮิเมจิ มองตรงไปสุดจะเป็นสถานี JR ส่วนทางด้านขวามือเป็นสถานี Sanyo-Himeji ที่เรานั่งมาเมื่อเช้า

ดูเหมือนไกล แต่เดินจริงๆสบายมาก เพลินดี 426426426


 
เดินเข้าประตูไปเลยครับ


 
ผ่านประตู เดินเข้าไปด้านหน้าเป็นสนามลานกว้างๆ ที่เรียกว่า HonMaru เห็นปราสาทฮิเมจิ เด่นสง่ามาก


 
ด้านซ้ายมือเป็นทางเดินเข้าไปชมปราสาท จะเรียงรายไปด้วยต้นซากุระที่ออกดอกบานสะพรั่ง

ตอนนี้บานประมาณ 70-80 % 99












 
ประตูทางเข้าชมปราสาทก็ไม่ไกล แต่หมดเวลาตรงต้นซากุระเกือบครึ่งชั่วโมง


 
เกือบถึงประตูทางเข้าแล้ว 446446446

ซ้ายมือเป็นร้านขายของที่ระลึก แวะชมได้ครับ


 
มาถึงจุดจำหน่ายบัตรเข้าชมปราสาทแล้วครับ 320

ใครไม่อยากเข้าชมปราสาท อยากเดินถ่ายรูปแค่ด้านหน้าตรงทางเข้าก็ได้ ไม่ต้องซื้อบัตรเข้าชมปราสาท


 
340 ค่าเข้าชมปราสาท มีบัตรจำหน่าย 2 แบบ
304 เข้าชมภายในปราสาทฮิเมจิ อย่างเดียว 1,000 เยน
304 เข้าชมภายในปราสาทฮิเมจิ + สวนโคโคเอง (Kokoen Garden) 1,040 เยน
รับแต่เงินสด 293 ไม่รับบัตรเครดิตใดๆ 434


 
ผมซื้อแบบ 1,040 เยน ชมทั้งปราสาทและสวนโดโคเอง


 
มีบัตรแล้วเดินเข้าประตูได้เลย 443

ฮิชิโนะมง เป็นประตูที่ใหญ่ที่สุดของปราสาท ซึ่งหน้าต่างตกแต่งด้วยแลคเกอร์คุโระอุรุชิและทองเปลว


 
ข้างประตูมีแผ่นผับบอกประวัติความเป็นมาของปราสาทวางไว้ให้ด้วย

มีเกือบทุกภาษา ภาษาไทยเราก็มีเหมือนกัน 425


 
แผนผังปราสาทฮิเมจิ


 
เดินตามลูกศรเข้าไปเลยครับ




 
เดินมาถึงตรงจุดนี้ จะเป็นทางซับซ้อนหน่อย


 
ซะมะ หมายถึงรูที่เปิดตามกำแพงของหอปราสาทที่ใช้สำหรับยิงปืนหรือธนูเพื่อป้องกันปราสาท จะมี 4 ประเภท 169 วงกลม 169 สามเหลี่ยม 169 สี่หลี่ยมจัตุรัส(สำหรับปืน) 169 สี่เหลี่ยมผืนผ้า(สำหรับธนู) ซื่งใช้แบ่งตามวัตถุประสงค์


 
เดินตามทางไป 428428428

เคยอ่านในเวปต่างๆ นักท่องเที่ยวจะเยอะมาก บางครั้งต้องแจงบัตรจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าชมเป็นรอบๆ ช่วงที่ผมไปแต่เช้านักท่องเที่ยวไม่เยอะ เดินสบายเลยครับ




 
ผ่านประตูจะแคบแต่แผ่นไม้จะหน้ามาก


 
เดินผ่านอีกประตู


 
ผ่านอีก 2 ประตูก็เข้าตัวปราสาทแล้วครับ

ประตูเยอะมาก หลายชั้นเพื่อป้องกันข้าศึก 16


 
เข้าชมตัวปราสาทต้องถอดรองเท้า จะมีถุงไว้ให้ใส่รองเท้า


 
ปราสาท Himeji มีอีกชื่อว่า“Hakurojo” ซึ่งแปลว่าปราสาทนกกระสาขาว มาจากพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสง่างามและการออกแบบที่ไม่ซ้ำใครตั้งแต่ดั้งเดิม ที่นี่คือปราสาทของแท้และเป็นความภูมิใจของญี่ปุ่นสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1609 หลังจากการก่อสร้างทั้งหมด 9 ปีพร้อมๆ กับวัด Horyuji ในนารา และเป็นปราสาทแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่นที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในญี่ปุ่นมี 12 ปราสาทที่ยังคงสภาพเดิมครบถ้วนเหมือนครั้งที่ถูกสร้างขึ้นมา แต่มีเพียง 4 ปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติและหนึ่งในนั้นคือ ปราสาท Himeji นี้เอง 

ปราสาท Himeji ยังเป็นสถานที่ๆ เจ้าขุนมูลนายและครอบครัว รวมถึงซามูไรทั้งหลายอยู่อาศัยกันหลายรุ่นหลายสมัย ว่ากันว่าแม้แต่นักดาบที่มีชื่อเสียงอย่าง Musashi Miyamoto ก็อาศัยอยู่ใกล้ๆกับปราสาทนี้ ในสมัยสงครามช่วงศตวรรษที่ 15-16 นั้น ปราสาทแห่งนี้คือฐานทัพและแนวป้องกันมีทุกสิ่งเหมือนปราสาททั่วไปรวมทั้งประตูหนุนอันแข็งแกร่งที่มีแผ่นเหล็กและช่องสำหรับยิงธนูและหอกอยู่บนตัวกำแพง แต่ปราสาทแห่งนี้กลับรอดพ้นจากสงครามมาตลอดประวัติศาสตร์ 400 ปี ทำให้เป็นที่รู้จักในชื่อว่า “ปราสาทที่ไม่เคยถูกโจมตี”


 
ปราสาทฮิเมจิมีทั้งหมด 6 ชั้น 340

85 ชั้นที่ 1 มีอยู่ 3 จุดของหอปราสาทหลัก เป็นจุดสำหรับปล่อยหินให้ตกใส่ข้าศึกที่พยายามปีนกำแพง




 
ประตูสองชั้น มีทางเข้าสู่หอปราสาทหลักอยู่ 4 จุดซึ่ง 2 จุดอยู่ที่ชั้น 1 ไม่ว่าจะเข้าทางไหนก็ป้องกันด้วยประตูสองชั้นจากด้านนอกและด้านใน


 
85 ชั้น 2


 
บันไดค่อนข้างแคบและชัน


 
ข้างผนังทำที่แขวนหอกและอาวุธต่างๆ


 
85 ชั้น 3 ไม่ได้ถ่ายรูป มุสะคะคุชิ มีช่องว่างสำหรับจัดพลทหารใน 4 มุมของอาคารซึ่งเป็นพื้นที่ช่องว่างด้านใน

ข้ามมา 85 ชั้น 4 เลยแล้วครับ


 
อิชิอุชิดะนะ เนื่องจากหน้าต่างในห้องนี้อยู่ในตำแหน่งที่สูงจึงมีชั้นที่ขั้นบันไดเพื่อให้สามารถปีนขึ้นเพื่อยิงปืนหรือธนูจู่โจมข้าศึกได้ 315




 
85 ชั้น 5 เสาใหญ่ มี 2 ต้น ฝั่งตะวันตกและตะวันออกซึ่งถือว่าแปลกในบรรดาสิ่งก่อสร้างปราสาทญี่ปุ่น เสาทางตะวันออกเป็นเสาเดิมที่ประครองปราสาทฮิเมจิมานานกว่า 400 ปี


 
โรคุโยคุกิกะคุชิ สิ่งประดับเพื่อซ่อนหัวตะปูซึ่งมีแบบดีไซน์เป็นใบไม้ 6 ใบ ระหว่างใบจะมีช่องว่างรูปทรงหัวใจเรียกว่าอิโนเม


 
บันไดทางขึ้นและลงแต่ละชั้น


 
ชั้น 5 ตรงบันไดจะมีประตูปิดไม่ให้ขึ้นบันไดได้


 
85 ชั้น 6 หน้าต่างมหัศจรรย์ เดิมทีหน้าต่างทุกบานของผนังกำแพงชั้น 6 ถูกวางแผนให้เปิดได้ทุกบานแต่นภายหลังค้นพบว่าช่วงระหว่างก่อสร้างได้เปลี่ยนแผนมาปิดกั้น 4 บาน




 
ชั้นนี้มีศาลเจ้าโอซะกะเบะ เดินมที่ศาลเจ้าโอซะกะเบะสักการะเทพเจ้าคุ้มครองพื้นที่แห่งนี้ใกล้เคียงหอปราสาทหลักแต่ในปัจจุบันถูกบูชาไว้ที่ศูนย์กลางของปราสาทชั้นบนสุดเพื่อเป็นเทพเจ้าคุ้มครองปราสาท




 
เดินลงมาชั้นล่างทางเดิม จะมีปราสาทไม้จำลองไว้ให้ดู


 
ชั้นล่างสุดมีกระเบื้องของประสาทใช้สลับระหว่างรูปทรงแบนและทรงกลม กระเบื้องมีลงลายตราประจำตระกูลของเจ้าของปราสาทซึ่งในปราสาทฮิเมจิ มีตราดังกล่าวทั้งหมด 6 ประเภท










 
นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยมาแล้วครับ


 
เดินลงทางออกปราสาทตรงนี้ 443






 
เดินออกตามทางจนมาเจอกับบ่อน้ำ บ่อน้ำนี้มีชื่อว่า Okiku Ido (Okiku well) เป็นตำนานของ “ผีนับจาน” ในประเทศญี่ปุ่น

ผีนับจาน 66 เป็นเรื่องเล่า กึ่งเรื่องจริง มีอยู่ประมาณ 3 ตำนาน เราจะเล่าเพียงตำนานเดียว ตามข้อมูลที่ติดไว้ตรงหน้าบ่อน้ำ ซึ่งเป็นตำนานที่เกี่ยวข้องกับปราสาทฮิเมจิ เมื่อประมาณปี ค.ศ. 1500 Aoyama เป็นผู้สำเร็จราชการของฮิเมจิ ได้วางแผนกับ Danshiro จะฆ่า Norimoto เจ้าเมืองฮิเมจิ แผนการนี้ได้ยินถึงหู Okiku คนรับใช้ในบ้าน Aoyama Okiku ได้บอกให้เจ้าเมืองฮิเมจิหนีออกไปก่อนที่จะถูกฆ่า แผนการฆ่าจึงล้มเหลว พอ Danshiro ได้รู้ว่า Okiku เป็นผู้นำแผนไปบอก จึงได้วางแผนที่จะกำจัด Okiku ด้วยการให้ Okiku ดูแลจาน 10 ใบที่เป็นสมบัติล้ำค่าของตระกูล Aoyama และได้แกล้งเอาจาก 1 ใบไปซ่อนแล้วใส่ร้ายว่า Okiku ขโมยจาน ต่อมา Danshiroได้จับ Okiku โยนลงบ่อน้ำ หวังฆ่าให้ตาย หลังจาก Okiku ตาย ผู้คนมักจะได้ยินเสียง Okiku ดังมาจากบ่อน้ำ เป็นเสียงกำลังนับจาน “1 ใบ … 2 ใบ … 3 ใบ …นับได้แค่ 9 ไม่ครบ 10”




 
ปราสาทคู่กับซากุระ


 
รูปปั้นปลาที่หลังคาปราสาท มีชื่อว่า “ชะชิโฮะโกะ” (Shachihoko : 鯱) เป็นสัตว์ในตำนานญี่ปุ่น หัวเป็นเสือ ร่างเป็นปลาคาร์ฟ เชื่อว่ามีอำนาจทำให้ฝนตกได้ ไว้ป้องกันปราสาทจากไฟไหม้

จะมีรูปปั้นโชว์ให้ดูทั้ง 3 แบบ 232323








 
มุมกำแพงหิน มีการก่อสร้างเพื่อป้องกันข้าศึกปืนขึ้นมา ด้วยการเพิ่มส่วนโค้ง (Fan curve) ที่ปลายกำแพงด้านบนทำให้กำแพงชันขึ้น


 
ออกจากตัวปราสาทเดินกลับออกประตูทางด้านขวามือให้ขึ้นไปชมสวนซากุระฟรี






 
ชมสวนเสร็จออกประตูเดิมเลี้ยวขวาเพื่อไปสวนโคโคเอง

มีนั่งเรือชมรอบปราสาทด้วย ไม่รู้ขึ้นเรือตรงไหน พอดีเดินผ่าน 389389389




 
สวนโคโคเองอยู่คนละส่วนกับตัวปราสาทฮิเมจินะครับ ตอนแรกนึกว่าอยู่ในส่วนเดียวกันอีก 440440440

ต้องเดินออกจากบริเวณปราสาทมาข้างนอกถนนเลี้ยวขวาเดินตรงไป พอพ้นคูน้ำข้างบน ด้านขวามือจะเป็นสวนโคโคเอง เดินเข้าไปเลยครับ 


 
ใช้บัตรปราสาทฮิเมจิยื่นให้เจ้าหน้าที่ตรงทางเข้าได้เลยครับ


 
เดินเข้าไปนิดเดียวก็กลับแล้วครับ กลัวเสียเวลากินสเต็กที่โกเบ 19

สวนที่นี่ช่วงใบไม้แดงน่าจะสวย


 
เดินประมาณ 5 นาทีก็เผ่นไปสถานีแล้วครับ

เจอร้านขนมหน้าสถานีขอชิมหน่อย 281284




 
3 ชิ้น 496 เยน


 
225226226 11.58 น. รอขึ้นรถไฟทีสถานี Sanyo-Himeji ขบวน Hanshin-Umeda ชานชาลาที่ 4 ตู้ที่ 6

ใช้บัตร KTP เสียบเข้าสถานี


 
หน้าตารถไฟเป็นแบบนี้ ดูป้ายหน้ารถถูกขบวนแล้ว ขึ้นได้เลย 376


 
เอาขนมวาฟเฟิ้ล มากินระหว่างเดินทาง อร่อยมาก 366


 
บ่ายโมงมาถึงสถานี Kobe-Sannomiya 331




 
เสียบบัตรออก


 
หาทางออกตรงประตู Hankyu


 
จากประตูสถานี Hankyu รูปข้างบน มองเยื้องๆไปด้านขวาจะเห็นร้านโกเบสเต็กแลนด์ สาขา 1

มาทันเซทกลางวันพอดี 99 ตรงที่คนยืนรอคิวหน้าร้าน




 
รอคิวประมาณ 15 นาที เรียกไปที่โต๊ะ สั่งไป 2 เซท 
275 โกเบสเต๊กเนื้อวัวกลางวัน 150 กรัม ราคา 4,180 เยน
274 ชุดสเต็กเนื้อโกเบแบบพิเศษ180 กรัม ราคา 5,880 เยน
304 รวม 10,060 เยน


 
เอาเนื้อที่สั่งมาให้ดู




 
ของผมโกเบสเต๊กเนื้อวัวกลางวัน จะให้สลัด น้ำจิ้มและเครื่องเคียง+น้ำเปล่าตามรูปเลยครับ


 
ส่วนของแฟน ชุดสเต็กเนื้อโกเบแบบพิเศษ ให้เหมือนกันแต่เพิ่มซุปมิโซะมา 1 ถ้วย


 
นั่งรอประมาณ 5 นาที เชฟก็มาปรุงอาหารให้ต่อหน้า

กระเทียมมาก่อนเลย




 
ปรุงแบบสุกปานกลาง

ทำชุดสเต็กเนื้อโกเบแบบพิเศษ 180 กรัมก่อน 275


 
มีหัวบุก-เห็ด-มะเขือยาว 267


 
ผัดพวกผักเสร็จ 26

เนื้อทั้ง 2 เซทลงกระทะพร้อมกัน โรยเกลือ พริกไทยนิดหน่อย








 
ของแฟนเสร็จแล้ว มีข้าวหรือขนมปังให้เลือก 


 
ของผม ไม่มีหัวบุก เห็ด มะเขือยาว แต่มีน้ำมิโซะกับข้าวสวยให้


 
ผัดถั่วงอกกับผักตั้งโอ๋(ไม่แน่ใจนะครับ) 240240240


 
ผัดเสร็จมาใส่จานผม ลุยได้ 

เนื้อแทบไม่ต้องเคี้ยวเลย นิ่มมากกกก ส่วนรสชาติเฉยๆ ออกจืดๆไปหน่อย อาจจะคาดหวังไว้สูง ยังไม่ค่อยโดนทั้ง 2 จาน


 
หลังจากเช็คบิลเสร็จ เป้าหมายต่อไป เมือง Arima-onsen ถามพนังงานแคชเชียร์สถานี Subway Sannomiya Station ไปทางไหน น้องเค้าอธิบาย ดูผมงงๆ เลยพาเดินไปส่ง 18

ออกจากร้านเลี้ยวขวาเดินตรงไปถึงแยกแรกให้เลี้ยวขวาจะเข้าถนน IKUTA (แถวนี้ดงร้านสเต็กเลยครับ) เดินตรงไปเกือบสุดถนน จะเห็นสถานี Subway Sannomiya Station อยู่ขวามือ


 
น้องเดินเร็วมาก ขอบคุณอีกครั้งนะครับ ที่พามาส่งถึงสถานี


 
เดินลงบันได ใช้บัตร KTP เสียบบัตรเข้าไปได้เลย

รอที่ชานชาลาที่ 1 เพื่อไป Tanigami 337


 
7676 14.38 น.รอขึ้นที่ ชานชาลาที่ 1


 
ภายในตู้โดยสาร นั่งสบายๆ


 
หน้าตารถที่เรานั่งมาจะเป็นแบบนี้


 
นั่งประมาณ 10 นาทีก็มาถึงสถานี Tanigami 333


 
ลงแล้วเดินไปขึ้นอีกขบวน Kobe Dentetsu-Arima Line 368 อยู่ชานชาลาตรงกันข้าม 

นั่งประมาณ 10 นาที มาถึงสถานี Arimaguchi Station


 
หน้าตารถที่นั่งมาจะเป็นแบบนี้ 377




 
767676 15.05 น.ก็มาถึง Arimaonsen Station


 
ทางเข้า ทางออกมีประตูเดียว เสียบบัตรออกไปเลยครับ


 
327 Arimaonsen Station เป็นสถานีเล็กๆ


 
ออกจากสถานีเลี้ยวซ้ายเดินข้ามถนนมาก็เจอสัญลักษณ์เมืองอาริมะเลยครับ






 
เดินลงไปชมข้างล่างกัน








 
เดินขึ้นสะพานมาได้ ถึงสี่แยกเดินตรงเข้าถนนสายนี้


 
เจอร้านขายขนมแซมเบ้ ทำกันสดๆ 405405




 
3 ชิ้น 100 เยน จัดมา 304




 
เดินมาหน่อยก็เจอสถานีรถบัสของ Hankyu สามารถนั่งกลับไปโอซาก้าได้เลย ลองเขาไปถามใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ราคาประมาณ 1,000 กว่าเยน จำราคาไม่ได้ 


 
เดินต่อไปเจอตึก Arima Toys and Automata Museum เดี๋ยวกลับมาชม 261262263


 
Kinsen : บ่อน้ำพุร้อนสีทอง 324 อยู่ใกล้ๆตึก Arima Toys and Automata Museum 


 
ข้างๆตึกมีบ่อแช่เท้าฟรี 328


 
เดินชมเมืองกันก่อนครับ

เมืองอาริมะไม่ใหญ่แต่เป็นเมืองน่ารักมาก ลักษณะเดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ 427427427














 
เจอ KOROKKE โคะโระเกะ อร่อยมาก จัดไป 2 ชิ้น 241241


 
แผนที่น่ารักมาก




 
มาถึงตรงนี้




 
เดินกลับมาที่ Arima Toys and Automata Museum 391


 
ซื้อบัตรเข้าชมกันครับ คนละ 800 เยน ใช้บัตร KTP ลดได้ 100 เยน เหลือคนละ 700 เยน

บัตรเข้าชมน่ารัก 470


 
ได้บัตร ขึ้นลิฟต์ไปชั้น 6 แล้วค่อยเดินลงมายังชั้นล่าง โดยแต่ละชั้นจะแสดงของเล่นเกี่ยวกับไม้ อลังการ ตื่นตะลึงกับสิ่งของที่เอามาแสดงโชว์ ไม่รู้จะอธิบายยังไง ต้องมาดูเอง แนะนำเลยครับ 20






































 
เดินชั่วโมงครึ่ง เต็มอิ่มกับ Arima Toys and Automata Museum ได้เวลาเดินกลับแล้ว 428428428


 
เดินมาถึงสถานี Arimaonsen Station


 
767676 17.39 น. เสียบบัตรเข้าไปเลยครับ


 
กลับรถไฟเส้นเดิม






 
767676 18.30 น.ถึง Kobe-Sannomiya


 
นั่งสาย Hanshin Line 367 ชานชาลาที่ 1 ประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึง Hanshin-Umeda Station ต่อด้วย รถไฟใต้ดิน Mido-suji สายสีแดง 366 กลับ Namba


 
เดินเล่นแถวนัมบะต่อ




 
กินทาโกยากิ ตรงร้านหัวมุมสะพาน




 
ร้านนี้ทั้งแป้ง ทั้งซอส อร่อยมากกก 252

ลงไปกินที่ในร้านได้เลยมีน้ำเปล่าให้ดื่มฟรีพร้อมห้องน้ำ


 
ต่อด้วยเกี้ยวซ่าร้านนี้


 
สั่งแบบ Original เข้าไปนั่งกินที่ร้านก็ได้ มีซอสไว้ให้ใส่พร้อมน้ำเปล่ากดดื่มได้เลย 


ตัวแป้งด้านบนกรอบ ด้านล่างนิ่ม เนื้อแป้งไม่หยาบนุ่มกำลังดี ใส้ก็อร่อย เข้ากันมาก ร้านนี้อร่อยเลยครับ แนะนำ 241241

 
เดินเล่นได้ซักพักเดินกลับไปที่พัก ผ่านร้าน Yoshinoya กินข้าวคนละถ้วย

ร้านนี้แฟนติดใจตั้งแต่วันแรกแล้ว 158 ต้องมาซ้ำ


 
ของผม


 
ของแฟน


 
ราคาทั้งหมดตามใบเสร็จ 304

 
767676 22.14 น.ได้เวลากลับเข้าที่พัก กว่าจะอาบน้ำ ประมาณ 23.30 น. หัวถึงหมอนสลบยาว พรุ่งนี้ไปชมสวนซากุระ Kameoka ที่ Kyoto ครับ คลิ๊กเลย
 
467 ค่าใช้จ่ายวันนี้
237 ค่าเข้าปราสาทฮิเมจิ 2,080 เยน (คนละ 1,040 เยน )
237 Magnet 400 เยน (ปราสาทฮิเมจิ 1 ชิ้น)
237 ขนมวาฟเฟิ้ล 496  เยน (3 ชิ้น)
237 ร้านสเต็กแลนด์ 10,060 เยน (2 เซท)
237 ขนมแซมเบ้ 100 เยน (3 ชิ้น)
237 KOROKKE โคะโระเกะ 260 เยน (2 ชิ้น)
237 ค่าเข้าชม Arima Toys and Automata Museum 1,400 เยน (คนละ 700 เยน)
237 ทาโกยากิ 500 เยน
237 เกี้ยวซ่า 260 เยน
237 ร้าน Yoshinoya 1,220 เยน
สรุป ค่าใช้จ่ายวันนี้ 16,776 เยน
 
467 วันนี้ใช้บัตร Kansai Thru Pass 3 Day ราคา 5,200 เยน วันที่ 2 ใช้ค่าเดินทางรถไฟ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

สรุป ถ้าซื้อเป็นเที่ยวในวันนี้ทั้งหมด 4,740 เยน 
366 จากสถานี Osaka-Namba Station – สถานี Sanyo-Himeji ราคา 1,370 เยน
366 สถานี Sanyo-Himeji – สถานี Kobe-Sannomiya ราคา 960 เยน
366 จากสถานี Subway Sannomiya – สถานี Arimaonsen Station ราคา 930 เยน
366 จากสถานี Arimaonsen Station - สถานี Subway Sannomiya ราคา 930 เยน
366 จากสถานี Kobe-Sannomiya - สถานี Namba ราคา 550 เยน

304 รวมใช้ PASS 2 วัน จ่าย 6,950 เยน เกินราคา Pass แล้วครับ ยังเหลืออีก 1 วัน
 400 วันที่ 1 จ่ายทั้งหมด 2,210 เยน
 400 วันที่ 2 จ่ายทั้งหมด 4,740 เยน 

 


Create Date : 14 เมษายน 2562
Last Update : 9 พฤษภาคม 2562 13:19:38 น. 1 comments
Counter : 4692 Pageviews.

 
กราบขอบพระคุณงามๆ สำหรับบันทึกที่น่ารักและละเอียด นั่งหาข้อมูลตามรูทนี้ในกูเกิ้ล โดยใช้บัตรคันไซมาหลายวันมาก อยากรู้ว่ารถไฟมันนั่งกินข้าวได้มั้ย พอมาเจอบล็อคนี้ ตอบทุกข้อสงสัยได้เลย 🙏🏻😇❤️ เดี๋ยวจะไปตามรอยนะคะ


โดย: Kathy IP: 115.87.12.240 วันที่: 29 กันยายน 2566 เวลา:19:18:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nongmalakor
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [?]




ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
Google
Group Blog
 
 
เมษายน 2562
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
14 เมษายน 2562
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nongmalakor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.