ย้อนดูวันที่ 2 เดลลี-ศรีนาคา นอนพาฮาลแกรม Pahalgam //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nongmalakor&month=23-04-2017&group=12&gblog=62

วันอังคารที่ 11 เม.ย.60

เมื่อวานมาถึงดึกมากวันนี้ไกด์เลยให้นอนพักผ่อนเต็มที่ โดยใช้สูตร ปลุก 8 โมงกินข้าว 9โมงขี่ม้าขึ้นไปบนยอดเขา 10 โมงเช้า

ส่วนผมเกือบเจ็ดโมงเช้าตื่นมาชมธรรมชาติที่พาฮาลแกรม เปิดหน้าต่างจากห้องมองออกไปจะเห็นวิวแบบนี้

เห็นวิวแล้วหายง่วงเป็นปลิดทิ้งรออะไรครับ ลงไปสูดอากาศเย็นๆ 8 องศาข้างนอกห้องดีกว่า

ลงมาชั้น 1 เป็นแผนกต้อนรับ

ด้านซ้ายมือเป็นห้องอาหาร

ผมว่าผมตื่นเช้าแล้วนะยังมีกรุ๊ปผมตื่นเช้ากว่าอีก

วิวหน้าโรงแรม

เมื่อคืนผมพักห้องนี้ครับ

เช้านี้ผมฉายเดี่ยวคุณแฟนนอนหลับปุ๋ยอยู่บนห้อง บอกให้ผมมาเซอร์เวย์ก่อน

เห็นป้ายติดตรงเสาถ่ายมาให้ดูสำหรับใครที่จะมาเอง

เดินสำรวจแถวหน้าโรงแรมเดินไปตามถนน เลาะลำธารไปเรื่อยๆ

เดินได้ซักพักก็กลับเข้าที่พัก

ขึ้นมาบนห้องตอนนี้นางแบบผมพร้อมลงไปถ่ายรูปแล้ว ดูวิวจากห้องพักยามเช้าบ้าง

ลงมาถ่ายรูปตรงหน้าโรงแรมบรรยากาศดีมาก

ม้าสำหรับพาเราขึ้นบนเขา มารอกันแล้ว

เวลายังเหลืออีกเยอะ เดินไปถ่ายรูปต่อ

ตรงลำธารนี้นางแบบได้รูปถูกใจไปเยอะมาก

เดินกลับมาที่พัก ม้าเริ่มมารอพร้อมบริการกรุ๊ปเราแล้ว

เก้าโมงได้เวลาอาหารเช้า เป็นบุฟเฟ่ต์อาหารอินเดียส่วนไกด์ไทยได้ทำข้าวต้มพร้อมกับข้าวเสริมให้กรุ๊ปเราครับ

ไข่เจียวอาหารเสริม

อาหารเสริม ข้าวต้ม ไข่เจียว ผักกาดดอง ไก่กระเทียมพริกไท ยำปลากรอบ ไกด์เราตื่นแต่เช้ามาทำให้ กินข้าวต้มร้อนๆกับอากาศ 8 องศา สวรรค์ชัดๆ

สี่โมงเช้าได้เวลาขี่ม้าขึ้นพาฮาลแกรมตรงนี้ทัวร์ออกค่าใช้จ่ายให้ เราแค่จ่ายค่าทิปให้กับเจ้าของม้าคนละ 200 รูปี ส่วนทัวร์อื่นถ้าขี่ม้าเราต้องจ่ายเองรวมทั้งทิป (ค่าขี่ม้าคนละ 600-800 รูปีแล้วแต่ตกลงราคากัน +ค่าทิปเจ้าของม้าอีกคนละ 200 รูปี)

ได้เวลาลุยแล้ว

จากหน้าโรงแรมไปถึงยอดเขาใช้เวลาเดินทางประมาณ1 ชั่วโมง

นางแบบผมสู้ตาย แต่สงสารม้าอ่ะ

เดินเป็นแถวตามถนน ข้ามสะพานไปก่อน

ข้ามสะพาน วิวสวยมาก

เริ่มไต่ระดับขึ้นเขาแล้ว

เดินตามๆกันเป็นขบวน

เจ้าของม้าเค้าจะเดินดูอยู่ใกล้ๆไม่ได้จูง แต่ช่วงที่แคบๆหรือเดินเลียบหน้าผา เจ้าของจะเข้ามาจูงม้าให้แอบเสียวนิดๆ แต่ได้ประสบการณ์ดี

ม้าแวะดื่มน้ำ

ความสวยงาม ไม่ได้อยู่ที่จุดหมายระหว่างทางมันมีอะไรให้น่าดูตลอดทาง

ความสวยงามต้องผ่านอุปสรรคบ้าง

เวลา 11.00 น.ก็ถึงบนยอดเขา

ม้าจะส่งเราลงตรงจุดนี้ แล้วรอรับกลับ

ไกด์ไม่ได้มากับเราด้วยรอทำอาหารให้เรากินมื้อเที่ยง อ้อ...ก่อนเข้าต้องซื้อบัตรเข้าคนละ 20 รูปี

ในกรุ๊ปเรามี 2 ท่านเดินผ่านแค่สะพานก็ขอกลับไปนอนรอที่โรงแรมเนื่องจากสุขภาพไม่ดีส่วนพวกเราขึ้นมาครบก็นัดเวลากลับกันเอง พร้อมแล้วก็แยกย้ายกันลุย

พาฮาลแกม (Pahalgam) หรือหุบเขาแกะเดิมเป็นหมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาอันสลับซับซ้อนอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,130 เมตรด้วยความงามของทุ่งหญ้าและป่าสนสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จึงเป็นโลเคชั่นยอดฮิตที่ภาพยนตร์หลายเรื่องนิยมมาถ่ายทำและมีความสำคัญต่อวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ พาฮาลแกมยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์ของอินเดีย”และนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนดินแดนแห่งนี้ต่างพร้อมใจกันเลือกให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย

ข้างบนมีห้องน้ำให้แต่ไม่สะอาดไม่มีน้ำราด แนะนำก่อนขึ้นทำธุระให้เสร็จจากโรงแรมก่อน แต่ถ้าไม่ไหวก็ทำใจไม่ต้องมอง

ส่วนรูปไม่เกี่ยวกับห้องน้ำครับ 555

กรุ๊ปเราตกลงอยู่บนนี้ 1 ชั่วโมงเที่ยงค่อยไปเจอกันที่จุดลงจากม้า

นางแบบของเราเพลินเลย

ระหว่างเดินทาง จะมีคนถ่ายรูปท้องถิ่นเดินมาถ่ายรูปเราตั้งแต่โรงแรมจนถึงข้างบนเขาแล้วให้เราดูว่าชอบรูปไหนบ้าง ถ้าชอบเค้าก็จะอัดรูปขนาดเล็กให้ คิดใบละ 100 รูปีโดนไป 10 ใบ ถ่ายไม่สวยอีกต่างหาก 555

เที่ยงลงจากพาฮาลแกรมมาถึงโรงแรมบ่ายโมงพอดีสภาพแต่ละท่านเละไปด้วยโคลน เช็ดรองเท้า กางเกงเสร็จ เช็คเอาท์ ได้เวลากินข้าวในโรงแรมเป็นอาหารอินเดีย บุฟเฟ่ต์ มีแกงแพะ (ทำดีไม่มีเหม็นสาบอร่อยอีกต่างหาก) ผักต่างๆ โรตี นาน ซุปมะเขือเทศ ผมชิมไปนิดเดียว ส่วนผัดผัก อบวุ้นเส้น กระเพราไก่ ไข่ดาว น้ำพริกปลาดุกฟู ไกด์ไทยเข้าครัวทำให้กินเอง มื้อนี้ฟินมากกก

อิ่มเสร็จ เวลา 14.30 น.เดินทางกลับศรีนาคาแวะร้านขายของ+เขาห้องน้ำประมาณครึ่งชั่วโมง ออกจากร้านขายของเวลา16.50 น.

ระหว่างทางดูวิถีชีวิตบ้านเค้าไปเรื่อยๆทหาร ตำรวจ จะยืนตามรายทางตลอด ไม่ต้องตกใจนะครับ

ระหว่างทางผ่านทุ่งมัสตาดไม่ยอมจอดให้ถ่ายรูป ถ่ายในรถก็ได้ แอบเคืองมากกกก

ตามโปรแกรมกลับจากพาฮาลแกรมช่วงบ่ายแวะสวนทิวลิป สวนโมกุล แต่เรามาเก็บวันที่ 2 แล้ว วันนี้เลยไม่ต้องรีบกลับเข้าที่พักนอนพักผ่อน

ใกล้ถึงที่พักแล้ว

เวลา 18.00 น. ถึง Houseboats ที่พักเราแล้วครับ

ผมได้เรือลำที่ 2 ชื่อเรือ มหาราช อยู่ทะเลสาบดาล

เอาของเก็บในห้องเสร็จก็เดินออกนั่งท้ายเรือถ่ายรูปเล่นเรื่อยเปื่อย

นั่งชมพระอาทิตย์ตกกับบรรยากาศแสงยามเย็นตรงท้ายเรือที่เราพัก

Houseboats เจ้าเดียวกัน

นั่งเล่นท้ายเรือซักพักจะมีสินค้าพายเรือมาขายตลอด เค้าจะขึ้นมาขายของบนเรือเลยครับ ตรงท้ายเรือหรือถ้ามาหลายเจ้าก็ขึ้นมาในห้องรับแขกไม่ต้องตกใจครับ เค้าจะไม่มารบกวนเราถึงในห้องอาหารและห้องนอนเรา

นี่คือห้องรับแขกพ่อค้าเค้าจะมาขายของตรงนี้หรือไม่ก็ท้ายเรือ

Houseboats จะมีพ่อบ้าน 1 คนและลูกมืออีก 1 คน คอยดูแลเรา ทำกับข้าว จัดบ้าน เก็บที่นอนให้เราเราอยากได้อะไรบอกพ่อบ้านได้

ได้เวลามื้อเย็นพ่อบ้านเตรียมอาหารไว้ให้ที่โต๊ะ พร้อมกินแล้ว วันนี้มีกระเพราไก่ ผัดผักถัวแขกไข่ดาว ชุดนี้ไกด์ไทยทำเสริมให้เรา ส่วนแกงแพะคล้ายมัสมั่น อร่อยดี เนื้อเปื่อยมากไม่เหม็นคาวเลย แล้วก็อาหารอินเดียอีกสองอย่าง ตบท้ายด้วยส้มอินเดียกับกล้วย รสชาติไม่ค่อยหวาน

เรือที่ผมพักจะมีทั้งหมด 3 ห้อง นอน 2 ครอบครัว ทั้งหมด 7 คน ผมกับแฟนนอนห้องแรก สองห้องอีกครอบครัวพ่อ-แม่-ลูก

ครอบครัวพี่.. ขอปิดใบหน้าและชื่อนะครับเพราะยังไม่ได้ขอพี่เค้าว่าจะเอามาลงบล็อก

สำหรับวันนี้ไม่เหนื่อยมากแต่ประทับใจตอนขี่ม้าขึ้นพาฮาลแกรม คืนนี้ฝันดีครับ

พรุ่งนี้ไปเล่นหิมะที่ กุลมาร์ค (Gulmarg) กันครับ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nongmalakor&month=04-2017&group=12&date=25&gblog=64

สรุปค่าใช่จ่ายวันอังคารที่ 11เม.ย.60

***ออกส่วนตัว นอกนั้นรวมอยู่ในค่าทัวร์ตามโปรแกรม

-ค่าเข้าพาราแกรม 40 รูปี (คนละ 20)

-ทิปเจ้าของม้า 400 รูปี(คนละ 200 รูปี)

-ทิปให้คนม้าต่างหาก 100 รูปี

-รูปถ่าย 1,000 รูปี (10 รูป /รูปละ 100รูปี)

-เมล็ดดอกไม้ 300 รูปี (3 แบบ ซองละ 100 รูปี)

Create Date : 24 เมษายน 2560
Last Update : 26 เมษายน 2560 14:43:00 น.		5 comments
Counter : 2013 Pageviews.
Share Tweet