ย้อนดูวันที่ 4 คลิ๊กเลย

พุธที่ 30 ก.ค.57 

วันนี้เราตื่นแต่เช้าเพื่อจะไปเก็บเชอรี่

โปรแกรมเดินทางเรา
- 6:30 น. : ออกจากโรงแรมไปขึ้นรถที่สถานี ซัปโปโร
- 7:05 น. : ขึ้นรถไฟ JR Hakodate Line SAPPORO(JR) – OTARU ไป otaru
- 7.50 น. : ถึง station : otaru
- 8:07 น. : ต่อรถไฟสาย JR Hakodate Line OTARU - OSHAMAMBE ลงที่ niki (station : niki)
- 8.37 น. : ถึง station : niki
รอรถฟาร์ม sakuranboyama (cherry farm) มารับที่สถานี

วันนี้เราใช้บัตรเบ่ง JR จากซัปโปโรไปโอตารุ ประมาณ 8.00 น.เราก็มาถึงโอตารุแล้วครับ











ถึงโอตารุก็ต่อรถด้วยหวานเย็น นั่งเพลินๆชมบรรยากาศสองข้างทางครึ่งชั่วโมง แป็บเดียวก็ถึง niki แล้วครับ









มาถึง niki เราก็โทรไปที่ ฟาร์มเชอรี่ เค้าจะส่งรถตู้มารับพวกเราที่สถานีเลย (ตู้โทรศัพท์ อยู่ข้างหน้าสถานีแต่ต้องเดินข้ามถนนไปนิดนึง) ฟาร์มเชอรี่ที่ผมไปจะมีเบอร์โทรอยู่หน้าสถานีเลย เบอร์บนนะครับ ส่วนเบอร์ล่างจะเป็นฟาร์มอื่น

จากป้ายจะเขียนว่า

ยินดีต้อนรับสู่เมืองนิกิ

ขอแนะนำช่วงเวลาการเก็บผลไม้ดังนี้
สตอร์เบอรรี่ = กลางมิถุนา - ต้นกรกฏา
เชอรรี่ = ปลายมิถุนา - ต้นสิงหา
พลัม = ต้นสิงหา - ปลายสิงหา
บลูเบอรรี่ = ปลายสิงหา - ต้นตุลา
องุ่น = ต้นกันยา - ปลายตุลา
แอปเปิ้ล = ปลายกันยา - ปลายตุลา

บริการรับส่ง เบอร์โทร สวนซากุรัมโบยะมะ 0135-32-2285





โทรไปได้ซักพักทางฟาร์มก็ส่งรถตู้มารับเรา

นี่ไงครับรถตู้ที่มารับเรา ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ลุงคนนี้ทั้งมารับและส่งที่สถานี







จากสถานีไปฟาร์มเชอรี่ประมาณ 15 นาทีก็มาถึงฟาร์มแล้วครับ



มาถึงก็จ่ายค่าเข้าสวนรวมค่ารถตู้รับส่งคนละ 1,050 เยน แต่เราได้พริ้นคูปองในเวป คลิ๊กเลย
จากเมืองไทยไปยี่น จะลดให้อีก 10% เราเลยจ่ายรวม 5 คนทั้งหมด 4,950 เยน







จ่ายตังค์เรียบร้อย ทางฟาร์มไม่ให้เราเอาสัมภาระต่างๆเข้าไป แต่มีล็อกเกอร์ฝากไว้ที่เคาเตอร์ นอกจากกล้อง และกระเป๋าตังด์เข้าได้แค่นั้น ส่วนทางฟาร์มจะให้กระป๋องหนึ่งใบไว้เก็บเชอรี่กลับบ้านได้คนละ 1 ขีด (ถ้าเก็บมาเกินก็จะคิดเงินเพิ่ม) ส่วนอยู่ในสวนก็เด็ดกินได้ไม่อั้น ไม่จำกัดเวลาด้วยครับ ฟินสุดๆๆๆๆๆๆๆ







ใครอยากเต็ดสดๆจากต้นเพื่อเอากลับไปกินที่บ้านก็สามารถเด็ดเอาไปชั่งแล้วจ่ายตังค์ที่จุดซื้อบัตรได้เลย ส่วนราคาก็ตามป้ายครับ




เราเลือกเข้าสวนเชอรี่ทางขวาที่มีโดมอยู่ ทีสำคัญเราไปตอนเช้ายังไม่นักท่องเที่ยวมาแจม สวนเลยเป็นของแกงค์เรา สบายไป อิอิ





เข้ามาได้ถ่ายรูปไป กินไป ขอยิงรูปที่ฟาร์มเชอรี่ยาว ไม่บรรยายให้รูปบรรยายแทนแล้วกัน
















































ลูกดกทุกต้น เลือกชิมไม่ถูกเลย



















ขอสมาชิกในฟาร์มเชอรี่บ้าง ถ่ารูปมาเยอะมากเดี๋ยวจะหาว่าไม่ได้มาจริง ถ้าเด็ดไม่ถึงในฟาร์มมีบันไดให้ปีนขึ้นไปเก็บได้อีกด้วย สุดยอด











ถ่ายรูปไป เดินชิมเชอรี่ไป ปลี้มปริ่มกันไป













หลังจากชิมเชอรี่จนหนำใจ ก็ได้เวลาไปเที่ยวโอตารุต่อ

ขากลับเราก็เด็ดมาคนละ 1 ขีด แต่เก็บเกินมาก็จ่ายตังค์เพิ่มไป ทางฟาร์มจะใส่กล่องมาให้เราอย่างดี





มีเด็กนักเรียนมาชมฟาร์ม น่ารักเชียว

ขากลับรถตู้ก็มาส่งที่สถานี niki

ตารางเวลาเข้า-ออก ที่สถานี niki เผื่อใครสนใจวางแผนไปเที่ยวเองจะได้คำนวนเวลาถูก

ตารางด้านซ้ายจะเป็นเวลาออกจากสถานี ส่วนด้านขวาจะเป็นเวลาถึงสถานี niki





เราออกจาก niki เวลา 13.02 น. มาถึง otaru เวลา 13.30 น.พอดี
หน้าตารถไฟขบวนนี้ที่เราจะกลับไป โอตารุ





มาถึงโอตารุ ตรงเวลาเป๊ะ.. ดูแผนที่กันก่อนว่าจะไปไหนดี







เดินมาถึงตรงนี้ Tanuki Koji Shopping Street ตลาดยังไม่เปิดหรือวันนี้หยุดหรือเปล่า ร้านยังเปิดไม่เยอะดูเงียบๆไปหน่อย

















เดินต่อไปเรื่อยๆ มาเจอร้านอาหารเจ้านี้ อย่าให้บอกพิกัดนะครับ บอกไม่ถูกเหมือนกัน ที่จริงเราตั้งใจหาถนนซูชิ Sushi Street แต่หาไม่เจอ หิวแล้วเจอร้านนี้ทางผ่านเลยเอาร้านนี่แหละ





หน้าตาอาหารที่ผมสั่งไป อิ่มแปร้ รอดตายไปอีกหนึ่งมื้อ















หลังจากนั้นก็เดินอีรุ่ยฉุยแฉก ตัดฉับมาถึงตรงนี้เลยแล้วกันครับ





ไม่ใช่คลองโอตารุนะครับ แต่น้ำทั้งใสทั้งสะอาดมาก

จากรูปข้างบน เดินตรงไปสุดคลองก็เลี้ยวซ้าย แล้วก็ถึงคลองโอตารุ อันโด่งดัง แต่กว่าจะเดินไปถึงคลองโอตารุ สมาชิกโดนร้านกระจุ๋งกระจิ๋งดักระหว่างทางตลอด ส่วนผมเดินเล่นถ่ายรูปแถวนั้นแหละครับ















ช่วงระหว่างรอสมาชิกช้อป ผมก็เดินไปคลองโอตารุ

Welcome to Otaru





ตรงคลองจะมีประชาสัมพันธ์ไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย วันนี้ร้อนมากกกก 30.6 องศา ขนาดสี่โมงเย็นแล้วนะ สมาชิกขอตัวไปเดินช้อปแถวไหนก็ไม่รู้ ส่วนผมขอเดินเล่นแถวคลองดีว่า อีกชั่วโมงค่อยมาเจอที่คลอง




หลังจากนั้นผมก็เดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ













ที่ประชาสัมพันธ์จะมีที่ประทับตราเมืองโอตารุด้วย ถ้าใครชอบหรือสะสมตราประทับ แนะนำให้ซื้อสมุดประทับตราไปด้วย เพราะทุกที่เค้าจะมีที่ประทับตราประจำสถานที่นั้นๆ





เดินอ้อมไปขางหลังบ้าง













แล้วก็เดินวนมาหลังคลองอีกด้านนึง





ฝั่งนี้จะเป็นท่าเรือให้นักท่องเที่ยว นั่งเรือชมคลองโอตารุ ผมไม่ทราบราคาครับ เห็นมันใกล้วนแป็บเดียวไป-กลับเองเลยไม่ได้ถามราคา แต่ก็เห็นมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการตลอดเหมือนกัน





























ไม่อยากบอกว่าผมอยู่ที่คลองโอตารุประมาณ 4 ชั่วโมงได้ ไม่รู้สึกเบื่อเลยครับ เหนื่อยนักก็นั่งพักปล่อยอารมณ์ไม่ต้องคิดอะไร นั่งดูลุงวาดรูปตรงหัวสะพานก็เพลินดีเหมือนกัน







แดดร่ม ลมตก ได้เวลาสมาชิกมาสมทบ เราอยู่กันถึงประมาณเกือบหนึ่งทุ่ม ก็ได้เวลากลับแล้ว ขอลาโอตารุกับสมาชิกด้วยภาพนี้แล้วกัน

เราอยู่กันถึงหกโมงกว่าๆ ก็เดินกลับไปสถานีโอตารุ เดินผ่านแถวนี้ ไม่รู้ถนนอะไร รู้แต่ว่าร้านขนม LeTAO เยอะมาก แต่ช่างเถอะ แค่นี้ผมก็เต็มอิ่มกับคลองโอตารุแล้วครับ

























เดินมาถึงสี่แยกเลี้ยวขวาก็เจอเจ้าแมวตัวนี้ ถ่ายมาเป็นที่ระลึกหน่อยแล้วกัน





หลังจากนั้นก็เดินตรงไปถึงสี่แยกเลี้ยวซ้ายเดินตรงไปอีกหน่อยสถานีจะอยู่ทางขวามือ อยากบอกว่าชอบเมืองโอตารุมาก ถ้ามีโอกาสจะมาใหม่อีก

นั่งรถไฟมาถึงซัปโปโรเกือบสามทุ่ม ก็เดินดูของนิดหน่อยแล้วก็เข้าที่พัก APA Hotel Sapporp Susukino อีกคืน

อ้อ..ก่อนเข้าที่พัก เราแวะกินราเมงแถวซูซูกินโนะ แต่จำไม่ได้ว่าร้านไหน ไม่มีอารมณ์ถ่ายรูปร้าน อาหารเลย เพิ่งรู้ว่าทั้งเหนื่อย ทั้งหิว รูปนี้ก็ถ่ายจากมือถือ ไม่งั้นจำไม่ได้ว่ากินอะไรไป 555





ประมาณสี่ทุ่มได้เวลากลับที่พัก วันนี้เป็นวันที่ทั้งเหนื่อย ทั้งหิว แต่ก็ประทับใจทั้งสองที่ เดินถ่ายรูป เดินชมสวน ชมคลอง ชมบ้านเมืองอิ่มใจมาก

พรุ่งนี้เราเช่ารถขับไปเที่ยวที่เมือง Biei  //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nongmalakor&month=16-08-2014&group=12&gblog=33  คืนนี้ขอนอนพักเอาแรงก่อนครับ