เสาร์ที่ 2 ส.ค.57

เมื่อคืนเราออกจากสถานี ซัปโปโร เวลา 22.00 น.นั่งรถไฟสาย EXP.HAMANASU JR ไปเมือง Aomori เป็นขบวนหวานเย็น ที่เราไม่เลือกนั่ง shinkansenเพราะจะมาถึงเมือง Aomori ประมาณตีสามเร็วไป มาถึงสถานีแล้วไม่รู้จะไปไหนต่อ เลยเลือกนั่งขบวนนี้แทนครับ จะมาถึง Aomori เวลา 5.39 น.เช้ากำลังดี แต่อยากบอกว่ารถไฟที่นั่งแคบมาก ทั้งนั่ง ทั้งนอนไม่สะดวกเลย เรานึกว่าจะนั่งสบายเหมือน รถไฟทั่วไปตามมาตรฐานรถไฟญี่ปุ่นแต่ผิดคาด อย่างแคบเลยครับ ใครจะนั่งยาวบนรถไฟขบวนนี้แนะนำให้ซื้อแบบตู้นอนหรือชั้น 2 ดีกว่าครับ จะสบายกว่าชั้นประหยัดเยอะ

เรามาถึงเมือง Aomoriเวลา 5.39 น.





 เรานั่งขบวนสีน้ำเงินขบวนนี้ แต่ไม่ได้จองตู้นอน นั่งชั้นประหยัด ทรมารมาก








ถึงสถานีแล้วก็หาล็อกเกอร์ที่ฝากกระเป๋าก่อนเลยครับ มีให้บริการหลายเจ้า ทั้งหยอดเหรียญและไขกุญแจ

วิธีฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อกเกอร์ คลิ๊กเลย











หลังจากฝากกระเป๋าเสร็จแล้วก็เดินเล่นในเมือง Aomori ตอนเช้าเมืองเงียบดีจัง 

เดินข้ามถนนข้างหน้าสถานีจะมีสำนักงานย้ายกระเป๋า (แมวดำ) ด้วยครับ สนใจบริการแมวดำ คลิ๊กเลย

แท๊กซี่ จอดรอบริการนักท่องเที่ยว ไม่ได้กินเงินเราแน่ 






ถ้าเดินออกจากสถานีไปทางซ้ายเป็นท่าเรือ-สะพานแขวน Bay Bridgeและอ่าวมัตสึ



ส่วนเราเดินตรงไปในเมืองย่านชอปปิ้ง Amenity Street แต่ยังเช้าอยู่เลยไม่ค่อยมีอะไร







มื้อเช้าเราฝากท้องไว้ที่นี้ครับ ไม่รู้เรียกว่าอะไร จะเป็นเหมือน food court มีร้านอาหารเป็นล็อกๆแล้วก็โต๊ะอาหารตามจุด เราก็ซื้อคูปอง จะเป็นแสตมป์ 1 ชุดมี 10 ดวง หรือจะซื้อที่ละดวงก็ได้ครับ ได้แสตมป์แล้วก็เดินเลือกเอาเลย ชอบหน้าอะไร ร้านไหนก็เดินไปเลือกชี้ๆเอา แล้วก็จ่ายเป็นแสตมป์ 1 ดวงบ้าง 2 ดวงบางแล้วแต่อาหารที่เราเลือก

ข้างในตลาดจะไม่ใหญ่มีแค่ 3 บล็อก แต่ร้านอาหารเยอะมาก แถมบางร้านอาหารสดมาก เป็นปลาหมึกหั่นแล้วยังดิ้นอยู่เลย ส่วนปลาแล่เหลือครึ่งซีกปลายังดิ้นอยู่เหมือนกัน เคยดูในแต่คลิป เพิ่งเห็นของจริงก็ที่นี่แหละครับ แล่ปลาได้สุดยอดมาก

ส่วนราคา 10 ดวง 1,080 เยนแถมข้าวให้ 1 ถ้วย ถ้า 5 ดวง 540 เยน แอบซื้อไปหนึ่งดวง

ทางร้านอาหารจะบอกวิธีการซื้ออาหารไปกินด้วยครับ

เราซื้อชุดละ 10 ดวง ต่างคนต่างเดินเลือกกันเอง ได้แล้วก็มานั่งชิมกัน ร้านไหนสด อร่อย ก็เดินไปซื้ออาหารเพิ่ม ชอบอ่ะ




วันนี้ที่ เมือง Aomori ตอนเย็นจะมีงาน เทศกาลโคมไฟยักษ์ Aomori Nebuta Matsuri ทางสถานีเลยประดับโคมไฟไว้อย่างสวยงาม เดี๋ยวเย็นๆเจอกัน

















ได้เวลาเดินทางไปดูศิลปะบนทุ่งนากันแล้วครับ

การเดินทาง จาก Shin Aomori ไปลงที่สถานี Hirosaki (25 นาที ) (LTD.EXP.Tsugaru) แล้วเปลี่ยนขบวนที่สถานี Hirosaki มาลงที่Tamboato (25 นาที Konan Line)

ผมมาถึงสถานี Hirosaki ประมาณห้าโมงเช้าครับ











ถ่ายรูปตารางเวลาเข้า-ออกที่สถานีมาให้ดู กันเหนียว (ผมอ่านไม่ออกหรอกครับ 555 ที่ถ่ายรูปไว้เผื่อจะมีประโยชน์สำหรับท่านอื่น)





วันนี้เราใช้บัตร JR ตลอดวัน คุ้มครับ ถึงเวลาเดินทางไปสถานี Tamboato รถไฟขบวนนี้มีแค่ 2 โบกี้เองครับ เราขึ้นเป็นสถานีต้นทางผู้โดยสารยังไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่






รถไฟมาจอดที่หน้าสถานี Tamboato เดินไม่ไกลประมาณ 300 ม.ก็ถึง Tanbo Art แล้วครับ





ที่ใกล้สถานีรถไฟเป็นไร่ที่ 2 นะครับ ต้องซื้อบัตรเข้าไปขมกันก่อนคนละ 200 เยน (ที่นี้มีศิลปะ 2 ที่ ไร่ที่ 2 จะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ ส่วนไร่ที่ 1 ห่างจากไร่ที่ 2 ประมาณ 7 ก.ม.)

ต่อคิวขึ้นไปขมศิลปะข้างบน





แต่ละปีจะปลูกต้นข้าวลายต่างๆกันไป ปีนี้ใช้ concept ว่า เอ่อ.. อ่า... ไม่รู้ครับ แต่ดูจากรูปขอเดาเอาว่านะจะเป็นครอบครัวหรรษาอะไรแนวนั้น มั่วไป 555

ในรูปเค้าจะบอกว่าข้าวแต่ละพันธุ์ที่นำมาปลูกด้วยครับ ว่าสีนี้ใช้ข้าวพันธุ์อะไร





ได้บัตรเข้าชมแล้วก็ขึ้นไปดูมุมกว้างข้างบนกันครับ ผมใช้เลนส์ธรรมดาเก็บไม่หมด ต้องใช้เลนส์ Wide ถึงจะเก็บได้หมด







ลองใช้มือถือถ่ายแบบพาโนราม่าดูบ้าง พอได้อยู่





นอกจากศิลปะบนทุ่งนาแล้ว ยังมีสวนสนุกเล็กๆไว้ให้เด็กๆปั่นจักรยานและเล่นเครื่องเล่นต่างๆได้อีกด้วย แต่อากาศวันนี้ร้อนมากกกกก ขอบายก่อนครับ







ลงมาดูข้างล่างกันบ้าง









ป้ายโปรเตอร์บอกวันที่จัดงาน




หลังจากนั้นเราก็ไปไร่ที่ 1 กันต่อ จะมีรถตู้คอยบริการให้ฟรี แต่รอคิวนาน เราเลยขอนั่งแท็กซี่ไปดีกว่า ทางไร่จะบริการเรียกรถแท็กซี่ให้เรา 2 คันครับ เพราะกฏหมายเค้าให้นั่งได้ไม่เกิน 4 คน เรามา 5 เลยต้องเรียก 2 คัน พอดีเจอกรุ๊ปคนไทยเค้าก็จะไปแท๊กซี่เหมือนกัน เลยแชร์คนพอดี สรุป คันแรกที่ผมไปกับแฟนแชร์กับกรุ๊ปคนไทย 1,110 เยน (กดมิเตอร์) ระยะทางประมาณ 7 ก.ม. แชร์คนละครึ่ง ส่วน 3 สาว นั่งมาอีกคัน 1,150 เยน (แอบติดไฟแดง 1 แยก)

แล้วเราก็มาถึงไร่ที่ 1 ใหญ่กว่าไร่ที่ 2 นักท่องเที่ยวก็เยอะตามไปด้วย ครั้งนี้จะขึ้นไปชมวิวมุมกว้างข้างบนต้องจองคิวเป็นรอบๆ เสียค่าเข้าคนละ 200 เยนเหมือนเดิม แต่ถ้าไม่ขึ้นไปชมวิวข้างบนก็ไม่ต้องเสียครับ สามารถดูข่างล่างได้ เราได้เข้ารอบ 12.45 ครับ ส่วนเวลา 12.30 น. - 12.45 น.เค้าให้เราไปรอเข้าคิวขึ้นไปชมข้างบน

ช่วงรอเวลาขึ้นไปชมศิลปะข้างบน ก็ถ่ายรูปข้างล่างไปพรางๆก่อนแล้วกัน




































ใครไปช่วงนี้ อากาศร้อนมาก ร้อนกว่าเมืองไทยอีกครับ อย่าลืมพกร่ม พกหมวกติดไปด้วยแล้วกัน

ร้อนนักก็แวะกินไอติม ที่สวนเค้าจะตั้งร้านอาหารเป็นเต้นท์ๆไว้ให้นั่งกินอาหารด้วยครับ และมีบ่อแช่เท้าฟรีอยู่ข้างๆสวน







ใกล้เวลาเราก็ไปเข้าคิวรอขึ้นไปชมศิลปะบนทุ่งข้าวแล้วครับ







ระหว่างเดินขึ้นยังลิฟต์ ก็จะมีการจัดแสดงรูปภาพ ประวัติการปลูกข้าวศิลปะแต่ละปี มีการส่งประกวดรูปแบบที่จะปลูก มีกรรมการคอยคัดเลือกรูป มีชาวบ้านมาช่วยกันปลูก ดูแล้วก็ชื่นใจคนญี่ปุ่นแถวนั้น รักและสามัคคีกันดีจัง









ที่สวนจะปลูกข้าวแต่ละพันธุ์ไว้ ให้นักท่องเที่ยวรู้ว่าใช้ข้าวพันธุ์อะไรบ้าง เจ๋งอ่ะ ชอบทั้งสองไร่เลย




ชื่นชมเสร็จได้เวลากลับ เรารอรถตู้มารับไปส่งที่เดิม มาถึงก็เดินไปที่สถานีรอประมาณ 20 นาทีรถไฟก็มารับ เรากลับเส้นเดิมเพื่อจะไปเมือง Aomori

ก่อนกลับมีป้ายประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวใกล้ๆเมือง

สถานี Tamboato เป็นสถานีเล็กๆ ใครมาก็ดูป้ายด้วยนะครับอย่านั่งเพลินละ





รวบรัดตัดตอน เรามาถึงที่ สถานี Aomori เวลาประมาณห้าโมงเย็น.ก็เดินหาของกินเล่นตรงบริเวณสะพานแขวน Bay Bridge เค้าจะออกร้านอาหารไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มางาน Nebuta Matsuri กันครับ

พวกเราก็เดินเลือกชิมอาหาร+ขนมกันอย่างเพลิดเพลิน









เดินเล่นได้ซักพัก ชักไม่ค่อยดีแล้ว ดูจะชิมไปเกือบทุกร้าน สมาชิกต่างเห็นแล้วว่าควรจะหาอาหารมื้อเย็นเป็นเรื่องเป็นราวไปเลยดีกว่า แบบว่าจัดเต็มไป

พวกเราก็เลยเดินเข้าไปในส่วนที่เค้าจัดงานตรงบริเวณย่านชอปปิ้ง Amenity ระหว่างทางเดินก็เริ่มเห็นชาวญี่ปุ่นใส่ชุดคล้ายๆกิโมโน (ขอโทษด้วยครับไม่รู้เรียกว่าชุดอะไร) มางานกันแล้วครับ

*** แอบไปถามเรื่องชุดที่ห้องบลู คุณ Ssachiy บอกว่าชื่อชุด ハネト衣装 ha-ne-to-i-shou ขอบคุณครับ หายข้องใจแล้วคลิ๊กเลย

ยิ่งใกล้จัดงาน ยิ่งคึกคัก

เรามากินร้านอาหารใกล้ๆกับตลาดเมื่อตอนเช้าครับ อยู่ถนนเดียวกัน 

จากหน้าสถานี ให้เดินตรงมาตามถนนจะเจอห้างสีแดงอยู่ข้างหน้า (ไม่รู้ชื่อห้างอะไร จะอยู่ตรงสี่แยกไฟแดง เราเลี้ยวขวาตรงมุมตึกแดง แล้วตรงไปประมาณ 60 ม.ก็ถึงร้านแล้วครับ ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ)

ห้างนี้แหละครับ เห็นเด่นสง่ามาแต่ไกล




เรากินอาหารร้านนี้ครับ





อาหารจะเป็นพวกปิ้งๆ ย่างๆ อร่อยดีครับ มีทั้งลิ้นวัว เนื้อ หมู ไก่ ปลาหมึก แล้วแต่เราจะสั่ง

ร้านอาหารมื้อนี้เป็นอาหารเกาหลี มาญี่ปุ่นกินอาหารเกาหลี อืมมม.. แต่อร่อยดีครับ













อิ่มแล้วประมาณหนึ่งทุ่มงานก็เริ่มพอดี เค้าจะปิดถนนทั้งบล็อกเลยครับ มีประดับโคมไฟเยอะมาก



















อยากบอกว่าตราตรึงกับงานนี้มาก

งานนี้จัดได้ยิ่งใหญ่มาก หนึ่งล้านรูปก็ไม่สามารถบรรยายได้ ต้องไปดูด้วยตัวเองครับ ดูคนที่เข้ามาร่วงงานเค้าแสดงเต็มที ฟังแล้วฮึกเฮิมมากผมดูแล้วยังอยากจะลงไปร่วมงานด้วยเลย

ที่จริงผมถ่ายคลิปงานนี้มาเยอะมาก แต่ยังไม่ได้ลงยูทูป ขอลงยูทูปคนอื่นมาลงแทนแล้วกัน ขออนุญาตเจ้าของยูทูปตรงนี้ไว้เลยครับ






แนะนำใครมางานนี้ควรนอนที่ Aomori แต่ที่เราไม่ได้นอนที่ Aomori เพราะโรงแรม ที่พัก เต็มล่วงหน้าไปก่อน 2 เดือนแล้ว ที่ว่างก็แพงเกินสู้ราคาไม่ไหว ใครจะไปงานนี้แนะนำให้เตรียมตัว วางแผนให้ดีๆ รู้สึกว่าตอนกลางคืนจะจุดพลุฉลองที่ริมแม่น้ำด้วย เสียดายๆ

พรุ่งนี้ไปเที่ยว Sendai แล้วนอนที่ Ueno คืนนี้ฝันดีครับ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nongmalakor&month=08-2014&date=21&group=12&gblog=36