เลี้ยงลูกให้มีความภาคภูมิใจในตัวเอง โดย หมอมินบานเย็น
เลี้ยงลูกให้มีความภาคภูมิใจในตัวเอง โดย หมอมินบานเย็น
เข็นเด็กขึ้นภูเขา
#เลี้ยงลูกให้มีความภาคภูมิใจในตัวเอง
“หมอครับ ที่เขาบอกว่า ควรเลี้ยงลูกให้ลูกมี Self-esteem นี่มันทำยังไง หมายถึงต้องชมลูกเยอะๆ ให้เขารู้สึกว่าเขาดีเขาเก่ง แบบนั้นมั้ย” หมอคิดว่าเป็นคำถามที่ดี เพราะเรื่องนี้สำคัญ บทความนี้จึงอยากมาเขียนถึงเรื่องที่คุยกันกับคุณพ่อท่านหนึ่ง เกี่ยวกับการปลูกฝัง Self-esteem ให้เด็กๆ เพื่อจะได้เป็นประโยชน์กับพ่อแม่ท่านอื่นๆ ด้วย . ความภาคภูมิใจในตัวเองหรือ Self-esteem นั้น ไม่ใช่คิดว่าตัวเองดีหรือเก่งกว่าคนอื่น แต่คือการมองเห็นคุณค่า ยอมรับในสิ่งที่เป็นตัวเอง ซึ่งอาจมีทั้งดีและบกพร่อง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์ทุกคน เป็นความสามารถรักตัวเองในสิ่งที่เป็น มีความภูมิใจในตัวตน ชื่นชมในจุดที่ทำได้ดีอย่างเหมาะสม ส่วนที่ทำได้ไม่ดีก็มีกำลังใจในการปรับปรุงพัฒนา มีความกล้าหาญที่จะทำสิ่งใหม่ๆ ไม่กลัวว่าจะผิดพลาด . การปลูกฝังให้เด็กมีความภาคภูมิใจในตัวเองทำได้โดย 1. ความรักความเอาใจใส่ในตัวลูก ให้ลูกรู้สึกว่าเขามีคุณค่าที่จะได้รับความรัก ไม่ใช่ทำให้เด็กรู้สึกว่า เขาจะต้องเรียนเก่ง สอบได้ที่หนึ่ง พ่อแม่จึงจะรัก แน่นอนพ่อแม่อยากให้ลูกเรียนเก่ง แต่ลูกควรรับรู้ได้ว่า สุดท้ายแล้วจะอย่างไรก็ตามพ่อแม่ก็รักเขาอย่างที่เขาเป็น
2. พ่อแม่ควรทำให้ลูกรับรู้ว่า พ่อแม่ยอมรับความเป็นตัวตนของลูก ที่ไม่ต้องดีเลิศไปหมด ลูกอาจจะทำผิดพลาดได้บ้าง ทำผิดต้องให้ลูกเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบ แต่ก็ควรสอนให้เข้าใจว่ามันเป็นธรรมดาที่ทุกคนจะทำผิดพลาดบกพร่อง แน่นอนทุกคนมีโอกาสที่จะปรับปรุงตัว
3. อย่าช่วยลูกไปหมดทุกเรื่อง ให้ลูกได้ทำอะไรเองบ้าง ตรงนั้นจะทำให้ลูกมีความมั่นใจและมองเห็นจุดดีๆของตัวเอง อย่าเลี้ยงดูด้วยการปกป้องเกินไป ให้ลูกได้เป็นตัวของตัวเองตามวัยที่เหมาะสม
4. มีเวลาคุณภาพที่มีให้กันและกัน เวลาคุณภาพ คือเวลาที่พร้อมจะรับฟังเด็กและรับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกเด็ก เด็กเข้าใจว่าผู้ใหญ่พร้อมจะรับฟังและอยู่ตรงนี้เพื่อเขา ทำให้เด็กมีความรู้สึกไว้วางใจ มองโลกในแง่ดี เสริมสร้างความรู้สึกอบอุ่นมั่นคง
5. ฝึกให้เด็กรู้จักอดทนรอคอยอย่างเหมาะสม ไม่ใช่ตามใจเด็กไปทุกเรื่อง เด็กที่อยากได้ก็ได้มาตลอด ไม่เคยต้องรอคอยอะไร เด็กจะมีความอดทนทางอารมณ์ต่ำ ขี้หงุดหงิด โวยวาย แต่ถ้าเด็กรู้สึกอดทนได้ ควบคุมตัวเองได้ ถ้าทำได้ เด็กจะเป็นที่ยอมรับของคนอื่นมากกว่าเด็กที่ไม่รู้จักรอคอย ตรงนั้นก็จะทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง ชื่นชมตัวเองได้
6. เวลาที่เด็กมีปัญหา ลองฝึกให้คิดแก้ปัญหาเองในเรื่องเล็กๆน้อยๆ ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่อันตราย เพราะทักษะการแก้ปัญหา (Problem-solving skill) มีความสำคัญ และถ้าได้เคยลองทำบ้าง เด็กจะมีความมั่นใจและกล้าที่จะทำสิ่งใหม่ๆ มากกว่าเด็กที่ไม่มีประสบการณ์ ระหว่างที่ให้เขาลองจัดการปัญหาเล็กๆ น้อย ก็ให้เด็กรู้ว่าพ่อแม่ไม่ได้ทิ้งเขาไปไหน
7. การชมเชยให้กำลังใจอย่างเหมาะสมจะทำให้เด็กมีความภาคภูมิใจ ทำให้เด็กมีกำลังใจ และรู้สึกถึงความมีคุณค่าของตัวเอง แต่ชมที่กระบวนการ มากกว่าผลลัพธ์ และชมด้วยภาษาท่าทางที่จริงใจด้วย
8. สอนให้เด็กรู้ว่าอารมณ์ความรู้สึกต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆนั้นเป็นเรื่องธรรมดา เข้าใจและยอมรับอารมณ์ เช่น ดีใจ โกรธ เสียใจ ผิดหวัง ฯลฯ เพราะเมื่อยอมรับได้ การจัดการอารมณ์ก็จะเป็นไปอย่างเหมาะสมมากขึ้น เช่น โกรธได้ แต่ไม่อาละวาด ไม่หงุดหงิดรุนแรง การจัดการอารมณ์จะช่วยให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองมีทักษะและศักยภาพ มีความภูมิใจ
9. เวลาที่เด็กทำผิด บอกว่าการกระทำอะไรของเขาที่ผิด คือ ตำหนิที่การกระทำ ไม่ตำหนิที่ตัวตนของเด็ก ไม่ใช้การเปรียบเทียบ ประชด ตีตรา ซึ่งทำให้เด็กรู้สึกสูญเสียคุณค่าและความภาคภูมิใจในตัวเอง
10. ผู้ใหญ่ควรจัดการกับความคาดหวังของตัวเองให้เหมาะสม เพราะบางครั้ง สิ่งที่พ่อแม่คิดว่าดีที่สุดสำหรับลูกอาจจะไม่ได้เหมาะสมกับลูกเสมอไป รับฟังความต้องการที่แท้จริงของลูก ปรับให้สมดุลกับความคาดหวังของผู้ใหญ่ . ทั้งนี้ทั้งนั้น เด็กจะเรียนรู้ได้ดีที่สุดจากการกระทำของผู้ใหญ่ที่เขารักและเคารพ ไม่ใช่จากคำพูดสอนว่าเขาต้องเป็นแบบไหนอย่างไร หากพ่อแม่ต้องการให้ลูกเป็นคนที่มีความภาคภูมิใจในตัวเอง พ่อแม่ก็ต้องแสดงออกว่าภาคภูมิใจ ยอมรับในสิ่งที่เด็กเป็น แม้ในวันที่เขาทำผิด พ่อแม่ควรตั้งสติ จัดการอารมณ์ ตักเตือนเด็กอย่างเหมาะสม ให้เด็กรู้สึกว่าถึงเขาจะผิดพลาด พ่อแม่ก็ยังมีความหวัง เชื่อมั่นในตัวเขา ตรงนั้นจะสร้างกำลังใจให้เขาปรับปรุงตัว และมีจิตใจที่เข้มแข็ง นำไปสู่ความรักและภาคภูมิใจในตัวเอง การที่คนหนึ่งมีความภาคภูมิใจในตัวเอง เมื่อมีอุปสรรคต่างๆเข้ามาในชีวิต ก็จะสามารถจัดการได้ มีสติ พร้อมยอมรับผลที่ออกมา ไม่ว่าจะดีหรือร้าย บางทีผลที่ออกมาอาจจะดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่เขาก็จะเข้าใจและยอมรับมันได้ มีความหวังและกำลังใจที่จะผ่านพ้นไป บนเส้นทางของชีวิต #หมอมินบานเย็น
เข็นเด็กขึ้นภูเขา #เลี้ยงลูกให้มีความภาคภูมิใจในตัวเอง หมอมินบานเย็น Education Blog/Klaibann Blog newyorknurse
Create Date : 18 สิงหาคม 2566 |
|
0 comments |
Last Update : 2 กันยายน 2566 18:05:28 น. |
Counter : 129 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
ราชบุรี .. New York ... United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [?]
|
เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553
ยินดีต้อนรับค่ะ
จขบ.บันทึกประสบการณ์ต่างๆ ระยะเวลาทำงานและระยะเกษียณ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ ้ จขบ.พยายามใช้ชีวิตเกษียณให้มีคุณค่า รักษาสุขภาพใจและกาย ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ ทำสวนดอกไม้ ออกกำลังกาย สมัครเป็นสมาชิก 24 Hrs Fitness เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณภาพ จะได้ไม่เป็นภาระกับคนที่รักและห่วงใย
จขบ.เพิ่มบล็อกสุขภาพ เพื่อจะได้นำสาระที่มีประโยชน์ เกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป
จขบ.หวังว่าข้อมูลต่างๆช่วยให้ ทุกท่านที่มาอ่าน รักษาสุขภาพ ไปตรวจเพื่อเป็นการป้องกัน และได้รับการรักษาเนิ่นๆ เพื่อ ชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพ
"A time to enjoy, a time to spend time with your family and a time to be with your friends all comes with retirement"
*****
"Live The Moment"
อยู่กับปัจจุบันขณะ หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขี้น ในอดีตและกลัวหรือกังวล สิ่งทีเกิดขี้นในอนาคต "วันนี้" และ "ขณะนี้" คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ !! ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาทีมีคุณค่า น่าจดจำเพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมา และผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และ หาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
*********
ขอบคุณ Bloggang ทำให้เราได้เขียนบล็อกต่างๆ ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวด ทุกๆคะแนน นะคะ
BG Popular Award # 19
BG Popular Award # 18
BG Popular Award # 17
BG Popular Award # 16
BG Popular Award # 15
BG Popular Award # 14
BG Popular Award # 13
BG Popular Award # 12
BG Popular Award # 11
BG Popular Award # 10
BG Popular Award # 9
BG Popular Award # 8
**********
ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2561 ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2560 ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
|
|
| |