048. ผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้าบริการภายใต้ข้อผูกพันการค้าบริการชุดที่ 8 ของไทยในอาเซี่ยนต่อภาคบริก
ประชุมระดมความคิดเห็น
ผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้าบริการภายใต้ข้อผูกพันการค้าบริการชุดที่ 8 ของไทยในอาเซี่ยนต่อภาคบริการของไทย
จัดโดย กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ณ ห้องประชุมภูเก็ต สำนักบริการวิชาการ ข้างหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
วันพฤหัสบดี ที่ 25 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 09.00 - 12.00 น.
---------------------------------------------------------------------- การจัดทำข้อผูกพันเปิดตลาดการค้าบริการชุดที่ 8 ของไทยภายใต้อาเซียน
ข้อผูกพันเปิดตลาดชุดที่ 8 คืออะไร
ข้อผูกพันเปิดตลาดชุดที่ 8 คือ ตารางข้อผูกพันที่มีการระบุธุรกิจบริการต่างๆ ที่ประเทศสมาชิกอาเซียนสัญญาว่าจะลดเงื่อนไขหรือกฎระเบียบบางประการที่จะเป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจบริการของผู้ให้บริการหรือนักลงทุนจากประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น การเรียกว่าชุดที่ 8 เพราะอาเซียนเริ่มมีการเจรจาลดข้อจำกัดด้านการค้าบริการระหว่างกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ซึ่งดำเนินการเจรจามาเป็นรอบๆ และมีการจัดทำข้อผูกพันเปิดตลาดมาแล้วทั้งสิ้นรวม 7 ชุด ซึ่งในแต่ละชุดก็จะมีการปรับปรุงข้อผูกพันโดย ลด/เลิก ข้อจำกัดภายใต้หลักการ การเปิดเสรีก้าวหน้าอย่างเป็นลำดับ (Progressive Liberalization) ดังนั้น ชุดนี้ซึ่งเป็นชุดที่ 8 ที่สมาชิกอาเซียนรวมทั้งประเทศไทยต้องจัดทำ โดยให้เป็นไปตามแผนงานไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC Blueprint ที่ผู้นำอาเซียนทุกประเทศได้ให้ความเห็นชอบไว้แล้ว
การผูกพันเงื่อนไขข้อจำกัดต่างๆไว้ในตารางข้อผูกพันก็คือการแสดงว่า ประเทศนั้นๆจะไม่เพิ่มเติมข้อจำกัดอื่นๆที่สร้างอุปสรรคทางการค้าบริการให้แก่ประเทศสมาชิกอื่นในอนาคตมากขึ้นไปกว่าที่ได้ระบุไว้ อย่างไรก็ตามประเทศสมาชิกยังคงสิทธิในการบังคับใช้กฎหมายในการกำกับดูแลธุรกิจบริการ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุประสงค์ด้านการควบคุมมาตรฐาน ความเป็นธรรมด้านการแข่งขัน ประโยชน์ของผู้บริโภค ความมั่นคงของชาติ ผลกระทบด้านวัฒนธรรมและประเพณี ผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยมีเงื่อนไขให้ใช้กฎหมายบังคับที่เท่าเทียมกันทั้งกับคนในชาติและคนต่างชาติ กรณีกฎหมายที่จำเป็นอย่างยิ่งหรือที่ทุกประเทศมีการใช้บังคับในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน สมาชิกก็อาจขอสงวนในตารางข้อผูกพันได้ โดยต้องมีการตกลงกับสมาชิกก่อน ในการประชุมคณะกรรมการประสานงานด้านบริการของอาเซียน (Coordinating Committee on Services: CCS) ซึ่งกฎหมายที่ไทยขอสงวนไว้โดยให้การประติบัติต่างระหว่างต่างชาติกับไทย อาทิเช่น ประมวลกฎหมายที่ดิน เป็นต้น
ความเป็นมาของ AEC Blueprint
ในการประชุมสุดยอดอาเซียน เมื่อปี 2546 ผู้นำอาเซียนเห็นชอบให้มีการรวมตัวไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ภายในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) โดยมีเป้าหมายให้เป็นตลาดฐานการผลิตเดียวร่วมกัน (Single market and single production base) มีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน เงินทุน และแรงงานมีฝีมืออย่างเสรี
แนวทางดำเนินงานเพื่อนำไปสู่การเป็น AEC ในส่วนของการค้าบริการ มีการตั้งเป้าหมายการเจรจาเปิดเสรีการค้าบริการไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้การค้าบริการของอาเซียนเป็นไปอย่างเสรีมากขึ้น ตามที่ปรากฎในแผนงานการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Blueprint) ดังนี้
AEC Blueprint ได้กำหนดแผนงานด้านการค้าบริการไว้ในหัวข้อ Free Flow of Services ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการก้าวไปสู่ความเป็น Single Market and Production Base โดยสาระสำคัญคือ การดำเนินการต่อไปภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน (ASEAN Framework Agreement on Service: AFAS) (ซึ่งได้ดำเนินการอยู่แล้ว) แต่ได้เรียบเรียงขั้นตอนปฏิบัติขึ้นใหม่ให้อยู่ในรูปของแผนงานที่แสดงให้เห็นถึงวิธีดำเนินการและกรอบเวลาในการเปิดเสรีการค้าบริการในอาเซียนอย่างชัดเจน และสามารถปฏิบัติได้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ ข้อผูกพันเปิดตลาดชุดที่ 8 คืออะไร และ ความเป็นมาของ AEC Blueprint ได้ที่
Click://www.thaifta.com
------------------------------------------------------------------------ จาก //www.ryt9.com/s/beco/746788
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ พฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน 2552 13:33:32 น.
"พาณิชย์" ระดมสมองทำแผนเปิดเสรีบริการอาเซียนชุดที่ 8 หลังมีเป้าหมายชัดต้องเปิดเสรีใน 4 สาขาเร่งรัด คอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม สุขภาพ ท่องเที่ยวและขนส่งทางอากาศ ให้คนอาเซียนถือหุ้นได้ 70% ในปี 2553 และสาขาบริการที่เหลือปี 2558 ระบุการเปิดเสรีจะทำให้แพทย์ วิศวกร พยาบาล พ่อครัว แม่ครัว พนักงานสปา นวดแผนไทย ไปทำงานในอาเซียนได้เพิ่มขึ้น
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นในการจัดทำข้อผูกพันการเปิดตลาดการค้าบริการชุดที่ 8 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน (AFAS) เพราะตามกำหนดประเทศสมาชิกอาเซียนจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2553 โดยยึดตามกรอบเป้าหมายของแผนการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่กำหนดให้มีการเปิดเสรีในสาขาบริการเร่งรัด 4 สาขา ได้แก่ สาขาคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม (e-ASEAN) สาขาสุขภาพ สาขาท่องเที่ยว และสาขาขนส่งทางอากาศ
ทั้งนี้ ในการเปิดเสรีสาขาเร่งรัดดังกล่าว ในปี 2553 ประเทศอาเซียนจะต้องอนุญาตให้ผู้ให้บริการมีสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนอาเซียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 และยกเลิกข้อจำกัดการเข้าสู่ตลาดทั้งหมด และได้เพิ่มสาขาโลจิสติกส์ ในปี 2556 ส่วนสาขาบริการที่เหลือ ต้องอนุญาตให้ต่างชาติจากประเทศสมาชิกอาเซียนมีสิทธิถือหุ้นในนิติบุคคลที่เข้ามาประกอบธุรกิจในไทยได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 51 และร้อยละ 70 ในปี 2558 และลดข้อจำกัดการเข้าสู่ตลาดอื่นๆ ให้หมด
สำหรับข้อจำกัดอื่นๆ ที่มีการดำเนินการอยู่ในปัจจุบันนี้ เช่น การจำกัดจำนวนผู้ให้บริการ การจำกัดมูลค่ารวมทั้งหมดของธุรกรรมทางการค้าบริการ ข้อกำหนดเรื่องสัดส่วนผู้ให้บริการที่เป็นบุคลากร การกำหนดสัญชาติและถิ่นที่อยู่ของผู้บริหาร และการกำหนดเรื่องทุนขั้นต่ำ เป็นต้น
ตามกำหนดแผนงานการเปิดเสรีการค้าบริการของอาเซียน ได้กำหนดให้มีการเจรจาเปิดเสรีอย่างต่อเนื่องเป็นรอบๆ รอบละ 2 ปี จนถึงปี พ.ศ. 2558 ขณะนี้กำลังดำเนินการจัดทำข้อผูกพันชุดที่ 8 โดยการเปิดตลาดการค้าบริการที่ผ่านมาในชุดที่ 7 ไทยเปิดเสรี 143 รายการ เช่น วิชาชีพ คอมพิวเตอร์การวิจัยและพัฒนา อสังหาริมทรัพย์ การเช่า บริการธุรกิจ โทรคมนาคม โสตทัศน์ ก่อสร้าง การจัดจำหน่าย การศึกษา สิ่งแวดล้อม สุขภาพ ท่องเที่ยว นันทนาการ ขนส่งทางน้ำระหว่างประเทศ ขนส่งทางรถไฟ ขนส่งทางบก และธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่ง โดยทุกรายการข้อผูกพันเป็นไปตามกรอบกฎหมายไทยกำหนด
นางนันทวัลย์ กล่าวว่า ในการเปิดเสรีการค้าบริการจะเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการวิชาชีพต่างๆ ของไทย เช่น วิศวกร สถาปนิก แพทย์และพยาบาล รวมถึงแรงงานไทยที่มีฝีมือ เช่น พ่อครัว แม่ครัว พนักงานสปา พนักงานนวดแผนไทย เป็นต้น ที่จะสามารถเข้าไปให้บริการในประเทศสมาชิกอาเซียนได้ง่ายยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องแรงงานไร้ฝีมือไม่อยู่ในแผนการเปิดเสรีของอาเซียน ดังนั้นการเปิดเสรีจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาแรงงานต่างด้าวประเภทกรรมกรหรือรับจ้างทั่วไป รวมถึงแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
"ไทยมีศักยภาพในการแข่งขันในธุรกิจบริการในภาพรวมเป็นอันดับ 2 รองจากสิงคโปร์ หากมองในแง่ของการลงทุนไทยไม่เสียเปรียบหรือหากจะมองในแง่ของการให้บริการวิชาชีพต่างๆ เช่น แพทย์ พยาบาล วิศวกร เป็นต้น ข้อผูกพันก็ได้กำหนดเงื่อนไขและข้อจำกัดที่เป็นไปตามกฎหมายไทย ซึ่งไม่อนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยโดยไม่มีใบอนุญาต และปัจจุบันกฎหมายก็ไม่อนุญาตให้วิชาชีพซึ่งกำหนดภายใต้กฎหมายการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551 เข้ามาทำงาน" นางนันทวัลย์กล่าว
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630
---------------------------------------------------------------
จาก //www.ryt9.com/s/beco/722426
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ พฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2552 15:05:45 น.
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ รุกหนักจัดสัมมนาทั่วประเทศ หวังสร้างความรู้ความเข้าใจให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากการเปิดตลาดการค้าบริการในอาเซียน พร้อมระดมความคิดเห็นจากผู้ประกอบการ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำข้อผูกพันเปิดตลาดการค้าบริการชุดที่ 8 ของไทยภายใต้อาเซียน ก่อนเปิดอาเซียนถือหุ้นไม่น้อยกว่า 70% ใน 4 สาขา นำร่อง คือ ท่องเที่ยว สุขภาพ ขนส่งทางอากาศ และสาขาโทรคมนาคม และคอมพิวเตอร์ มีผล 1 มกราคม 2553
นายนพดล สระวาสี รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ตามที่ผู้นำอาเซียนได้ลงนามในแผนงานการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC Blueprint เพื่อทำให้อาเซียนมีการรวมกลุ่มกันเองอย่างเข้มแข็ง และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งมีผลภายในปี พ.ศ. 2558 นั้น ประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงประเทศไทยมีข้อตกลงที่ต้องเปิดตลาดการค้าบริการ มีการเคลื่อนย้ายเงินทุน สินค้า บริการ การลงทุนและแรงงานฝีมืออย่างเสรีมากขึ้น เพื่อนำไปสู่การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวของอาเซียน ในปี 2553 ไทยจะต้องเปิดโอกาสให้นักลงทุนอาเซียนเข้ามาถือหุ้นในธุรกิจบริการของไทยได้ไม่ต่ำกว่า 51% ในทุกสาขาบริการที่ผูกพันไว้ ขณะเดียวกันนักลงทุนไทยก็สามารถเข้าไปลงทุนในธุรกิจบริการในประเทศอาเซียนอีก 9 ประเทศ ได้ไม่ต่ำกว่า 51% โดยได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันระหว่างสมาชิกอาเซียนและคนชาติอาเซียนนั้น
สำหรับเป้าหมายการเปิดตลาดในสาขาบริการต่าง ๆ ภายใต้ AEC Blueprint มีการเร่งรัดเปิด 4 สาขาบริการนำร่อง ประกอบด้วย ท่องเที่ยว สุขภาพ ขนส่งทางอากาศ สาขาโทรคมนาคม และคอมพิวเตอร์ ซึ่งสมาชิกอาเซียนสามารถถือหุ้นอย่างน้อย 70% และยกเลิกข้อจำกัดการเข้าสู่ตลาดอื่น ๆ ทั้งหมด โดยมีผลในปี 2553 หรือหลังจากที่มีการลงนาม นอกจากนี้ปี 2556 จะต้องเปิดให้อาเซียนถือหุ้นอย่างน้อย 70% ในสาขาขนส่งโลจิสติกส์ ส่วนสาขาบริการอื่น ๆ ต้องเปิดให้สมาชิกอาเซียนสามารถถือหุ้นได้อย่างน้อย 70% ในปี 2558 เช่น ด้านการสื่อสาร การก่อสร้าง จัดจำหน่าย การศึกษา การเงิน บริการธุรกิจ อาทิ วิชาชีพ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมเจรจาฯ ตระหนักดีว่า การดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายสู่ AEC จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน จึงเร่งจัดสัมมนาในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ รวมถึงระดมความคิดเห็นจากผู้ประกอบการ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
ในการจัดทำข้อผูกพันเปิดตลาดการค้าบริการชุดที่ 8 ของไทยภายใต้อาเซียน กรมเจรจาฯ ได้เลือกจัดสัมมนาที่หัวหินก่อนที่จะมีการประชุมผู้นำอาเซียนในวันที่ 23-25 ตุลาคม 2552 เพื่อแจ้งความคืบหน้าการเจรจาและชี้แจงประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการเจรจาให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัดใกล้เคียงได้รับทราบ เพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน เพื่อนำมาประกอบการเจรจาต่อไป ทั้งนี้กรมเจรจาฯ มีโครงการจัดสัมมนาการจัดทำข้อผูกพันเปิดตลาดการค้าบริการ ชุดที่ 8 ของไทยภายใต้อาเซียนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด สำหรับผู้ประกอบการ หรือผู้สนใจ สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ โทร. 02-507-7555 และเว็บไซต์ //www.dtn.go.th
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630
-------------------------------------------------------
Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2553 16:04:27 น. |
|
0 comments
|
Counter : 700 Pageviews. |
|
|
|
|
|