คิดไปเขียนไปตามสไตส์...แม่บุญ.....
Welcome to my little world .....
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
27 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 

เจ้าพระยากับเมดิเตอร์เรเนียน 6





ญาติของฉันยอมลางานนั่งรถไฟมาส่งถึงเจนีวาเพราะกลัวว่าฉันจะมีปัญหาอีก แต่กลับไม่มีอย่างที่คิด ก่อนขึ้นเครื่องไปเอเธนส์เธอย้ำแล้วย้ำอีกว่า


" อย่าพูดกับคนแปลกหน้า แล้วก็อย่าไปไหนคนเดียวกลางคืน เพราะเธอเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียวมันอันตราย กลางคืนล็อกประตูห้องให้ดี ๆ ด้วยนะ "



" แหม่..สั่งเหมือนฉันเป็นเด็กๆ เลยนะ แล้วถ้าเกิดมีหนุ่มหล่อมาพูดด้วยแล้วฉันจะอดใจไหวไหมนี่ ...”


ฉันถามเย้าออกไป ทำเอาญาติของฉันค้อนให้หลายตลบ



" บอกดี ๆ แล้วยังมาย้อน..เดี๋ยวจะโดนดี "



" เจ๊..ฉันไปแล้วนะ เขาเรียกขึ้นเครื่องแล้ว ฉันกลัวเขาเปลี่ยนใจ เดี๋ยวตกค้างที่นี่อีก พอดีถูกไล่ออกจากงาน เดี๋ยวไม่มีคนเลี้ยงต้องเดือดร้อนเจ๊อีก ..."


" เออ..ไปเถอะ ขอให้โชคดี ฝากสวัสดีทุกๆ คนที่บ้านด้วย อย่าลืมที่สั่งหละ .."


ฉันกอดเธอด้วยความรักและเคารพ ไม่อยากให้เธอเห็นว่าน้ำตาเริ่มคลอที่ตา ฉันรีบผละออกและเดินเข้าภายในงวงที่ต่อกับตัวเครื่องโดยรวดเร็ว ที่นั่งที่ฉันได้เป็นที่นั่งติดหน้าต่าง ข้างๆ ว่าง แต่ถัดไปมีผู้ชายวัยกลางคนนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ก่อนแล้ว เขาลุกให้ฉันผ่านเข้าไปที่นั่งข้างหน้าต่างอย่างสุภาพ และอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ จนเครื่องออกจากสนามบิน ฉันอดที่จะมองดูภาพที่สวยงามเบื้องล่างไม่ได้ เพราะผืนดินที่ถูกปลกคลุมด้วยหญ้าสีต่างๆ ทั้งเขียวแก่ อ่อน น้ำตาล เหลือง ตัดพาดกันไปมาอย่างสวยงามเพราะเป็นช่วงฤดูร้อน เหมือนภาพที่เห็นตามโปสเตอร์สวยๆ ฉันโชคดีที่มีโอกาสมาสัมผัสด้วยตาตนเอง จนเครื่องบินเริ่มตั้งลำตรง สักพักใหญ่ๆ เจ้าหน้าทก็เข็นรถที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มต่างๆ มาบริการ


" จะดื่มอะไรดีค่ะ...มิส ? “


“ฉันขอกาแฟค่ะ "


ผู้ชายที่นั่งริมทางเดิน ส่งผ่านกาแฟมาให้ฉัน แล้วเริ่มบทสนทนาอย่างง่ายๆ ก็เริ่มขึ้น



" ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบการเดินทางหลายปีที่ผ่านมา ที่ฉันได้ที่นั่งติดกับสาวสวยชาวเอเชีย เพราะที่ผ่านมาส่วนมาก ถ้าไม่ใช่ผู้ชายด้วยกัน ก็กับผู้หญิงแก่และเด็ก "

ฉันไม่รู้จะพูดอะไรเลยยิ้มและตอบออกไป


" ฉันเดินทางไม่บ่อย ส่วนมากนั่งติดผู้หญิงเช่นกัน "


" คุณจะไปไหนหรือ “ เขาถามกลับมา


" ฉันจะกลับเมืองไทย แต่จะแวะเที่ยวที่เอเธนส์ก่อนสัก 2 วัน "


" แล้วคุณเคยไปเอเธนส์มาก่อนหรือเปล่า "


" ไม่เคยค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก "


" แล้วคุณพักที่ไหน ใครมารับหรือ "


" ฉันจะพักที่โรงแรมแมริออทค่ะ ไม่มีใครมารับ ฉันต้องไปเอง ฉันคิดว่าคงมีแท็กซี่ที่สนามบิน "


" แน่นอน...แต่ผมมีข้อเสนอ บ้านผมอยู่ทางไปโรงแรมพอดี หากคุณไว้ใจ เราจะนั่งแท็กซี่ไปด้วยกัน ผมขอแวะลงเอากระเป๋าไปเก็บที่บ้าน แล้วจะเลยไปส่งคุณที่โรงแรม "



" จะดีหรือค่ะ ..ฉันไม่ต้องการรบกวน อย่าเสียเวลาของคุณเลยค่ะ ฉันไปเองได้ "


" ไม่เป็นไร ในฐานะคนที่นี่ ผมขออนุญาตแนะนำบ้านเมืองผมก็แล้วกัน ไม่ต้องเกรงใจ ตกลงเราไปด้วยกันนะครับ "


แล้วเขาก็หยุดการสนทนา หันไปอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ จนกระทั่งเครื่องเริ่มลดระดับเพราะใกล้ถึงสนามบินกรุงเอเธนส์ เขาจึงเริ่มการสนทนาอีกครั้ง



" คุณเป็นคนไทยใช่ไหม ..ผมเคยไปเมืองไทย เพราะผมต้องเดินทางบ่อยๆ และต้องติดต่อลูกค้าทั่วโลก ผมเป็นตัวแทนติดต่อขายน้ำมันและเหล็ก ให้กับบริษัทที่นี่ ผมเคยไปพักที่โรงแรมโอเรียนเทลหลายครั้ง ผมมีรูปจะให้คุณดูด้วย ผมชอบเมืองไทยมาก ผู้คนอัธยาศัยดี มีน้ำใจ ไม่มีที่ไหนเหมือนเมืองไทย "



คำพูดของเขาทำเอาฉันอดยิ้มไม่ได้ และอดไม่ได้ที่จะพูดชมออกไปเช่นกัน



" บ้านเมืองของคุณก็สวย ฉันเองพึ่งมาเป็นครั้งแรก แต่ชอบอ่านนิตยสารท่องเที่ยวและอ่านมาพอสมควรเกี่ยวกับประเทศของคุณ ฉันชอบมากเช่นกัน "



เราจบการสนทนาเพียงแค่นั้นเพราะเครื่องบินเริ่มแตะรันเวย์ แล้วฉันก็มายืนอยู่ที่สนามบินที่ฉันมีปัญหาเมื่อตอนขามาอีกครั้ง หลังจากรับกระเป๋าเรียบร้อย เราก็ออกมาขึ้นแท็กซี่ด้วยกัน ช่วงที่ฉันเดินทาง เอเธนส์มีการปรับปรุงถนนหนทางและสนามบินใหม่เพื่อรับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิค 2002 การเดินทางจึงยาวนานเพราะรถต้องวิ่งอ้อมไปไกล นี่คือสิ่งที่เขาอธิบายหลังจากนั่งรถมาด้วยกันจนถึงบ้านของเขา


" เชิญคุณลงมาแวะดูสักครู่ ถ้าไม่รังเกียจ ภรรยาผมคงจะอยู่ข้างบน "


ฉันมองไปที่อพาตเม้นท์ขนาดใหญ่ตรงหน้า ตัดสินเดินก้าวตามหลังจากได้ยินประโยคที่ว่าภรรยาอยู่ข้างบน เพราะถึงอย่างไรฉันก็เป็นผู้หญิงไทย กับคนแปลกหน้าที่พึ่งรู้จักกัน ฉันไม่เคยไว้ใจใครเลย เรามาหยุดอยู่ที่ชั้นสูงสุดและก้าวออกมาจากลิฟท์



ห้องที่เห็นใหญ่มากเพราะเป็นชั้นบนสุด มีระเบียงทอดยาวออกไป มองออกไปเห็นทะเลเมติเตอร์เรเนียนลิบๆ ที่ผนังมีรูปภาพหลายรูปติดอยู่ พร้อมกับรูปของเขาและพนักงานต้อนรับที่โรงแรมโอเรียนเทลที่เขาพูดถึง




" ผมอยู่ชั้นนี้คนเดียว ภรรยาผมไม่ค่อยสบาย เธออยู่ชั้นล่างถัดจากชั้นนี้ ส่วนมากผมจะทำงานและนอนที่นี่ นอกจากเวลาทานข้าวที่ผมจะลงไปทานกับเธอทุกวัน "



เขาอธิบายอย่างช้าๆ และชี้ให้ดูรูปภรรยา และรูปต่างๆ ที่เมืองไทย ฉันอดที่จะขอเดินชมวิวอันสวยงามที่ระเบียงไม่ได้ แสงแดดอุ่น ๆ สาดส่องท้องน้ำทำให้เกิดภาพไหวระยิบระยับ ฉันได้แต่อุทานว่าสวยงามเหลือเกิน หลังจากนั้นเราก็ออกมาขึ้นรถ เพื่อไปที่โรงแรมที่ฉันจองไว้ เขาแย่งจ่ายค่าแท็กซี่ให้โดยที่ฉันไม่มีเวลาคัดค้านเพราะมัวแต่ห่วงูกระเป๋า จากนั้นเขาก็พาไป เช็คอิน ที่เคาร์เตอร์เขาพูดภาษากรีกกับพนักงานอย่างรวดเร็ว ไม่ช้าฉันก็ได้ห้องพัก



" พรุ่งนี้คุณมีโครงการทำอะไรมิส ? " เขาถามฉันเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย




" ฉันมีเวลาแค่ 2 วัน ฉันอยากไปเที่ยวอโคโปลิส แล้วก็ตลาดเมืองเก่าค่ะ ฉันจะไปกับทัวร์ที่เขามีบริการอยู่ภายในโรงแรม "


" งั้นเราไปดูกัน เผื่อผมจะแนะนำอะไรคุณได้บ้าง "


เขาพูดและแตะข้อศอกใหฉันเดินอย่างสุภาพ ไปที่เคาร์เตอร์ทัวร์ หลังจากฟังอธิบายจากชายท่าทางใจดี ฉันก็ตัดสินใจเลือกเที่ยวครึ่งวัน เพราะอีกครึ่งวันฉันอยากเดินดูอย่างอิสระมากกว่าไปกับทัวร์



" เท่าไหร่ค่ะ มิสเตอร์ " ฉันถามพร้อมกับเตรียมหยิบเงิน



" ให้ผมออกให้คุณนะ ถือว่าให้ในฐานะเจ้าของบ้านก็แล้วกัน ผมอยากตอบแทนคนไทยที่มีน้ำใจกับผมบ้าง "



" แต่ฉันไม่เคยทำอะไรให้คุณนี่คะ อย่าเลย ฉันไม่ชอบและไม่สบายใจด้วย คุณจ่ายค่าแท็กซี่ให้ฉัน แล้วยังมาส่งฉัน อย่าให้ฉันรู้สึกไม่ดีมากไปกว่านี้เลยค่ะ "


" แต่คุณเป็นคนไทย และผมอยากจะออกให้ ผมไม่ยอมให้คุณจ่ายหรอก "

พูดแล้วเขาก็หันไปส่งภาษาเร็วปรือกับเจ้าหน้าที่ พร้อมกับจ่ายเงินทันที ฉันได้แต่กล่าวขอบคุณเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรได้มากกว่านั้น


" ผมขอตัวกลับก่อนเพราะมีงานที่ต้องรีบทำอีกเยอะ พรุ่งนี้เย็นถ้าคุณไม่ว่าอะไรผมจะมาทานอาหารเย็นด้วย "


" ได้ค่ะ ถ้าคุณให้ฉันเลี้ยง "


ฉันตอบตกลงพร้อมข้อแม้ เขาพนักหน้ารับแล้วลากลับไปทันที



ฉันกลับขึ้นมาที่ห้องพักขนาดไม่ใหญ่และไม่เล็กเกินไป เตียงนอน 2 เตียงดูจะใหญ่เกินกว่าที่จะนอนคนเดียว ถ้ามีเพื่อนมากันอีกสัก 1-2 คนคงจะดีกว่านี้ฉันคิด แต่ฉันเป็นคนแปลกที่ชอบเดินทางคนเดียวมาตลอดเพราะความรู้สึกอิสระ ทำอะไรโดยที่ไม่ต้องรอปรึกษาหารือ อยากจะไปไหนเมื่อไหร่ก็ไปได้ทันทีคือสิ่งที่ฉันติดป็นนิสัยแม้แต่ที่เมืองไทยฉันก็ทำเช่นนั้นมาตลอด



ฉันล้างหน้าเก็บของที่จำเป็นใส่กระเป๋าใบเล็กที่ใช้ติดตัวตลอด พร้อมกล้องถ่ายภาพที่ฉันต้องมีทุกครั้งที่เดินทางแล้วก็ล็อคห้อง เดินไปขอแผนที่จากพนักงานต้อนรับแล้วเริ่มวางแผนเดินเที่ยวรอบๆ ด้วยตัวเอง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ดั่งใจ เพราะโรงแรมที่ฉันพักห่างจากตัวเมืองมาก บริเวณรอบๆ มีเพียงตึกที่ทำงานและโรงแรมเล็กๆ อีก 1-2 แห่งเท่านั้น สุดท้ายฉันก็ใช้บริการรถเมล์นั่งรถเข้าตัวเมืองซึ่งใหญ่โต เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องสมัยใหม่เต็มไปหมดไม่ต่างจากเมืองใหญ่ๆ ทั่วไป



บ้านหลายหลังที่เดินผ่านสร้างไม่เสร็จ ส่วนมากจะเหลือตรงบริเวณหลังคาที่ดูเหมือนรอการต่อเติม วันต่อมาไกด์ได้อธิบายให้ฟังว่า เพราะภาษีบ้านที่นี่แพงโดยเฉพาะบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว ประชาชนเลยเลี่ยงภาษีโดยการสร้างให้เสร็จแค่ครึ่งเดียว เออ..แบบนี้ก็มีด้วย ฉันเดินเข้าออกตามซอกซอยต่างๆ จนเกือบค่ำถึงได้นั่งรถกลับโรงแรม เพราะตอนเช้าต้องตื่นแต่เช้าไปเที่ยวกับทัวร์ คืนนั้นฉันหลับเป็นตายเพราะความเหนื่อยที่เดินทั้งวัน




 

Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2554
0 comments
Last Update : 7 ตุลาคม 2563 14:30:05 น.
Counter : 935 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Maeboon
Location :
กรุงเทพฯ Belgium

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 87 คน [?]




แม่บุญ..เป็นหญิงไทยอายุเลยวัยรุ่นไปไกล จับพลัดจับพลูได้สามีเป็นฝรั่งแล้วก็หอบผ้าตามกันไปอยู่เมืองนอกเมืองนา พอได้เวลาหยุดงานก็กระเตงกันไปเที่ยวตามประสาตายาย ไม่มีลูกกวนตัวกวนใจ แม่บุญนั้นชอบเขียน ชอบเล่า ชอบถ่ายรูป เป็นที่สุด จะเก็บไว้คนเดียวก็กระไรอยู่ เอามาแบ่งบันกันให้ลูก ๆ หลาน ๆ ได้อ่าน ได้ดูกันดีกว่า ส่วนฝีมือด้านอื่น ๆ นั้นก็พอจะมีอยู่บ้าง เช่น ทำอาหาร ก็เอามาแบ่งปันกันอีกนั่นแหละ ค่อย ๆ รู้จักกันไป รู้จักกันแล้วก็อย่าลืมเข้ามาคุยกันนะ


ปล....รูปภาพต่าง ๆ หากต้องการนำไปใช้ช่วยบอกที่มาที่ไปด้วยนะคะ เป็นการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งสังคมไทยเราค่อนข้างมองข้ามในเรื่องนี้ค่ะ

free counters
New Comments
Friends' blogs
[Add Maeboon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.