|
ไปเที่ยวเมือง My Son เมืองเก่ามรดกโลก
27 มีนาคม 2550
เมื่อคืนหลับสบายไร้เสียงรีเชฟชั่น มิน่าราคาห้องถึงได้ถูก ดีแล้วที่เปลี่ยนทันก่อนห้องเต็ม ไม่งั้นคงได้ออกมาร่วมวงคุยกันให้หายมึนไปเลย ตื่นกันตั้งกะตีห้า ก็นอนกันสามทุ่มตามประสาคนแก่ นอนหัวค่ำตื่นเช้านั่นแหละ คุยกันว่าจะไปดูตลาดเช้าเสียหน่อย เมื่อวานเดินดูลาดเลาแล้วว่าจะไปยังไง เลยเช่าจักรยานไว้ ตอนนี้จอดรออยู่หน้าห้องพัก
ว่าสองผู้เฒ่าก็ล้างหน้า แปรงฟันปั่นจักรยานไปที่ท่าเรือทันที ไม่ไกลหรอกปั่นยังไม่เหนื่อยก็ถึงแล้ว มองหาที่จอดราชรถแถว ๆ นั้นล็อคเรียบร้อยก็แยกย้ายกัน...อ้าว..ไหนว่ามาด้วยกันไง ? ใช่จ้า แต่เราสองคนชอบดูไม่เหมือนกันไง มองต่างมุม ๆ นี้แม่บุญว่าสวย มิเชลบอกไม่ชอบ ตกลงแยกทางกัน...ชั่วคราว หามุมถ่ายรูปตามใจตัวเองแล้วค่อยมาเจอกันทีหลัง ตลาดมันไม่ได้กว้างมากมายเดินเดี๋ยวเดียวก็หันหลังชนกันแล้ว
ขึ้นชื่อว่าตลาด...ที่ไหน ๆ ก็คงเหมือนกันไปหมด ความจอแจ วุ่นวาย เสียงต่อรองราคา เสียงเป็ด ไก่ หมู หมา ..รวมทั้งเสียงพูดที่ไม่ใช่ภาษาไทย ฟังดูเพราะไปอีกแบบ เรือหาปลาที่พึ่งเข้ามาเทียบท่า แม่ค้า...ใช่จ้า เพราะหาผู้ชายไม่มีสักคน ผู้หญิงทั้งนั้นเฮโลกันไปที่เรือ เลือกซื้อปลามากมายหลายอย่าง แม่บุญต้องคอยหลบให้ดี ๆ เพราะเขาโยนเข่ง โยนตะกล้าข้ามหัวไปมา พื้นก็แฉะไปด้วยน้ำ เดินถ่ายรูปแทบทุกซอกทุกมุม เดินไปเดินมาก็มาเจอมิเชลกำลังเล็งชัดเตอร์หามุมอยู่ พยักหน้าเป็นอันรู้กันว่ากลับเถอะ ไปหากาแฟซดกันดีกว่า
7 โมงเช้ากินอาหารเช้าที่โรงแรม กาแฟ ขนมปังปิ้ง เท่านั้นแหละ วันนี้เราจองทัวร์ไปเที่ยวเมืองเก่ากัน ชื่อ My son ไม่ใช่ ลูกชายฉันนะ ชื่อเมืองต้องออกเสียงเป็นภาษาเวียดนาม เป็นเมืองเก่าแก่มรดกโลก คล้ายที่เขมร เราออกเดินทางด้วยรถ ขากลับ ๆ ทางเรือ เปลี่ยนบรรยากาศ
ไปถึงเมืองเก่า เดินกันเหงื่อหยดติ๋ง ๆ เพราะร้อนมาก ร่มก็เอาไม่อยู่ ประมาณเดือนเมษาบ้านเราเลย ไกด์...ไม่พูดฝรั่งเศส ไม่ค่อยอธิบายอะไรเลย ผิดกับอีกทัวร์ที่เผอิญได้ยินเขาอธิบายยืดยาวเป็นภาษาฝรั่งเศสให้มิเชลต้องคอยเงี่ยหูฟังไปพลาง ๆ ตอนขากลับลูกทัวร์หลายคนเลยต่อว่าไกด์ ๆ ยิ้มแบบอาย ๆ แต่ไม่พูดอะไร
เที่ยงกว่าเขาก็พาขึ้นเรือร่องตามแม่น้ำกลับทางเดิม บนเรือมีข้าวผัด กับผัดผักรวมมิตร น้ำเปล่า โค้ก เท่านั้นเอง แล้วก็พาแวะตามทางให้ไปดูที่ขายของที่ระลึกตามฟอร์ม ลูกทัวร์ทั้งหลายก็ดูกันจริง ๆ ดูเฉย ๆ โดยไม่มีใครซื้ออะไรเลย นอกจากน้ำเพราะร้อนตับแลบ มิเชลบอกว่านึกว่าอากาศที่เมืองไทยร้อนแล้ว ที่นี่ดูจะร้อนกว่าอีก ..
บ่ายสามเรือพามาส่งถึงท่า แล้วก็ให้กลับกันเอง ดีแต่ว่าเป็นเมืองเล็ก ๆ เดินกันไม่นานก็ถึงโรงแรม เราสองคนกระโดดอาบน้ำก่อนเพราะร้อนสุด ๆ 5 โมงเย็นพากันออกเดินเล่นรับลม เพราะเริ่มอากาสเย็นบ้างแล้ว นัดกันกับนิโคร์ลว่าจะกินข้าวด้วยกันตอนหนึ่งทุ่ม ที่ร้านอาหารริมแม่น้ำ ลองสั่ง Fried Wanton มากิน แต่ไม่อร่อยเท่าร้านพื้นเมืองเมื่อวาน คุยกันสัพเพเหระแลกเปลี่ยนกันว่าใครไปทำอะไรมาบ้าง เกือบสามทุ่มก็พากันกลับที่พัก ...นอน..
Create Date : 24 มกราคม 2554 |
|
3 comments |
Last Update : 24 มกราคม 2554 21:46:51 น. |
Counter : 887 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Maeboon 25 มกราคม 2554 16:10:55 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Belgium
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 87 คน [?]
|
แม่บุญ..เป็นหญิงไทยอายุเลยวัยรุ่นไปไกล จับพลัดจับพลูได้สามีเป็นฝรั่งแล้วก็หอบผ้าตามกันไปอยู่เมืองนอกเมืองนา พอได้เวลาหยุดงานก็กระเตงกันไปเที่ยวตามประสาตายาย ไม่มีลูกกวนตัวกวนใจ แม่บุญนั้นชอบเขียน ชอบเล่า ชอบถ่ายรูป เป็นที่สุด จะเก็บไว้คนเดียวก็กระไรอยู่ เอามาแบ่งบันกันให้ลูก ๆ หลาน ๆ ได้อ่าน ได้ดูกันดีกว่า ส่วนฝีมือด้านอื่น ๆ นั้นก็พอจะมีอยู่บ้าง เช่น ทำอาหาร ก็เอามาแบ่งปันกันอีกนั่นแหละ ค่อย ๆ รู้จักกันไป รู้จักกันแล้วก็อย่าลืมเข้ามาคุยกันนะ
ปล....รูปภาพต่าง ๆ หากต้องการนำไปใช้ช่วยบอกที่มาที่ไปด้วยนะคะ เป็นการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งสังคมไทยเราค่อนข้างมองข้ามในเรื่องนี้ค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|