Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
4 พฤศจิกายน 2548
 
All Blogs
 
'คำสาป' ติดตัวสำหรับคนที่เป็น 'นักวิจารณ์ + วิเคราะห์ภาพยนตร์'

มีหลาย ๆ คน โดยเฉพาะคุณ fakeplasticgirl เคยถามผมว่า 'เวลาดูหนังนี้ต้องคิดตลอดเลยหรอ ทำไมถึงได้เขียนอะไรออกมาได้เยอะแยะมากมาย'

ผมเองก็ไม่รู้จะตอบยังไงครับ ผมก็เลยบอกกลับไปว่า มันเป็น 'คำสาป' ที่ต้องแลกกับบางอย่างเพื่อให้ได้ทักษะในการวิจารณ์มา

ถ้าใครเคยอ่านหรือดูการ์ตูนเรื่อง Fell Metal Alchemist ซึ่งเป็นเรื่องของนักเล่นแร่แปรธาตุ เขาจะบอกหลักการสำคัญว่า การจะแลกเปลี่ยนอะไรสักอย่างนั้น ต้องใช้สิ่งที่มีคุณค่าพอ ๆ กันแลกมา

แล้ว 'คำสาป' ที่ว่านี้ก็ต้องแลกกับบางอย่างที่ธรรมดาสากลของมนุษย์

เปิดเรื่องมาเสียเครียดเชียว แต่ความจริงมันไม่ได้เครียดขนาดนั้นหรอกครับ

เรื่องมันมีอยู่ว่า ไอ้การวิจารณ์หนังเนี๊ยะความจริงมันเป็นสิ่งที่ติดตัวมนุษย์อยู่แล้ว อย่างพอเราไปดูหนังเรื่องไหนมา แล้วก็มาเมาท์กับเพื่อนว่า อุ๊ยชอบจัง พระเอกหน้าตาดี นางเอกหน้าตาน่ารัก ฯลฯ ไอ้เรื่องแบบนี้มันก็คือการวิจารณ์นั้นแหละ

การวิจารณ์เป็นการใช้ความรู้สึกของตัวเราเป็นเกณฑ์ในการตัดสินครับว่าอะไรดี ไม่ดี ดังนั้นไอ้เรื่องความดีความงามเนี๊ยะมันไม่มีเกณฑ์วัดว่าของกูดีกว่าของมึง ต้องใช้เกณฑ์กู เกณฑ์มึงนะผิด อะไรแบบนี้ มันไม่ใช่

คราวนี้บรรดานักวิจารณ์ทั้งหลายตามที่ต่าง ๆ เขาอาจจะตั้งกฎเกณฑ์ของเขาขึ้นมา เพื่อกำหนดว่าสำหรับเขาแล้วอันนี้คือดี อันนี้คือแย่ หรือมันควรเป็นตามจารีตน่ะ แหกออกไปยังใช้ไม่ได้ ก็แล้วแต่ว่ากันไป

อันนี้คือวิจารณ์

ส่วนวิเคราะห์นั้น (อ่านได้ในบล็อกของน้อง merveillesxx น้องเขาวิเคราะห์อะไรไว้เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นหนัง เพลง หรือแม้แต่มิวสิควิดีโอ หรือไม่งั้นก็อ่านคอลัมน์อ่านระหว่างบรรทัดของพี่เต้ ไกรวุฒิ ในไบโอสโคป) เป็นการดูสื่อต่าง ๆ หาประเด็นแนวคิดต่าง ๆ ที่แฝงอยู่ในสื่อนั้น ๆ ผ่านทฤษฎีต่าง ๆ อย่างที่เราคุ้นเคยก็เช่น ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ ทฤษฎีสัญญวิทยา ฯลฯ

ดังนั้นการวิเคราะห์จะอิงอยู่กับทฤษฎีนะครับ ไม่ใช่ความรู้สึกเหมือนการวิจารณ์ ซึ่งทั้งสองอย่างก็ทำหน้าที่ต่างกันไป ไม่ควรเอามาเปรียบว่าอะไรดีกว่าอะไรน่ะ

ผมเองได้มีโอกาสเรียนมาทั้งการวิจารณ์และวิเคราะห์ (วิเคราะห์มาเรียนจนอ้วกในระดับ ป.โท) สิ่งที่ได้รับการปลูกฝังแบบทายาทอสูรคือ เรื่องของตาปัญญา (ตาที่สาม แบบเจ้าหนูสามตา )

ปกติเราจะดูหนังด้วยตาเนื้อ ซึ่งก็คือดูเอาสนุกสนาน เฮฮา ขำก๊าก เหงาเศร้า อะไรแบบนี้ใช่ไหม แต่เมื่อโดนฝังตาปัญญาเข้าไป คุณจะเริ่มดูหนังด้วยท่าทีที่ว่า เฮ้ยไอ้ตรงนี้มันมีประเด็นนี้แฝงอยู่น่ะ เฮ้ยตรงนี้สตรีนิยมนี้หว่า เฮ้ยตรงโน้นมันเรื่องวาทกรรมนี้หว่า

หลายคนอาจจะยังไม่เป็น (ดีแล้วครับ) แต่ผมเป็นไปอย่างเต็มตัวแล้วครับ

มันเป็นความสนุกอีกรูปแบบหนึ่งนะครับที่ได้วิเคราะห์อไรแบบนี้ เพราะมันจะไม่ได้อิงอยู่กับเรื่องแค่ว่าหนังใช้กลวิธีไหน บทดีไหม ภาพสวยยังไง ฯลฯ แต่ไอ้ความสนุกแบบเดิม ๆ ที่เคยได้รับมันก็พลอยหายไปด้วย

มีอยู่พักหนึ่งผมหยุดการดูหนังไปเลย เพราะแค่เห็นก็อยากจะอ้วก ดูแล้วมันคิดตลอด ไม่ได้เสพอะไรที่มันสนุก ๆ ง่าย ๆ อีก (อ้วกแตก)

นี้แหละครับที่ผมเรียกว่า 'คำสาป' เป็นคำสาปที่ต้องแลกมา ได้มาสิ่งหนึ่งก็เสียไปอีกสิ่งหนึ่ง ผมกลับไปดูอะไรที่สนุกแบบไม่ต้องคิดมากแบบชาวบ้านไม่ได้แล้ว แต่ผมก็ได้อะไรบางอย่างที่ชาวบ้านคิดไม่ถึงมาเหมือนกัน

สุดท้ายแล้ว 'คำสาป' ที่ว่านี้จะทำให้ผมเสพสื่อได้อย่างมีความสุขต่อไปหรือไม่ ในแนวทางใดผมก็ไม่ทราบได้ แต่ตอนนี้ผมเพียงแต่ทราบว่า ผมไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป

'คำสาป' ฝังลึกอยู่ในวิญญาณผมแล้ว



Create Date : 04 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2548 13:56:39 น. 16 comments
Counter : 1140 Pageviews.

 
บางทีการคิดต่อเยอะๆ มันก็ทำให้หนังที่ตอนแรกไม่สนุกมันเกิดสนุกขึ้นมาได้เหมือนกันนะคะ

โดนสาปเหมือนกัน


โดย: rebel วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:13:10:58 น.  

 
ตอนสมัยเรียนเหมือนถูกสาปอย่างนี้เหมือนกันค่ะ

มีช่วงหนึ่งของชีวิตที่เลวร้ายมากจากความรัก ทำให้หนังก็ไม่ดู หนังสือก็ไม่อ่าน

คำสาปก็เลยคลายไปด้วย

ตอนนี้ต้องพยายามรื้อฟื้นใหม่ค่ะ

เพราะรู้สึกว่า เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยคิดอะไรได้อย่างสมัยก่อนแล้ว ซึ่งเหมือนกินข้าวแล้วกินกับข้าวไม่ครบน่ะค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:13:56:36 น.  

 
แต่เราว่า ภาพยนตร์บางเรื่องถ้าไม่พื้นทฤษฏีบางอย่างก็ดูไม่รู้เรื่องนะ อย่างเราดู City of God ถ้าไม่เรียนสัญญะวิทยากับเศรษฐศาสตร์การเมืองไป ก็ไม่รู้ว่า เป็นการปราบปัญหาอาชญากรรม ความรุนแรงเลวร้ายของสลัม (ปืน) ด้วยวิธีการไม่รุนแรงคือสื่อมวลชน (กล้องถ่ายรูปของพระเอก) ที่เป็นตัวคลี่คลายเรื่องตอนท้าย เรื่องนี้เขายกความดีให้สื่อมวลชนเลยแหละ


โดย: ขอบคุณโลกไซเบอร์ที่ทำให้เราเจอกัน IP: 161.200.19.99 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:14:45:55 น.  

 
โอ้ ข้างบนนี้ท่าทางคำสาปจะแรง


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:25:24 น.  

 
สงสัยว่าค้างคาวจะไม่โดนคำสาป

เวลาดูหนังก็ดูเรื่อยๆ

ชอบหนัง action แต่ไม่ชอบแบบเลือดท่วมจอ

สุขสันต์วันหยุดนะคะ


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:41:02 น.  

 
มีแต่ตาเนื้ออ่ะค่ะ

บางทีอยากมีตาปัญญาบ้าง

แต่ก็ไม่รู้ว่ามั่วไปเองรึเปล่า

ไม่รู้ว่าจะรู้ได้ไง ว่าอันไหนจริง

อันไหนมั่วเอง

ลึกลับซับซ้อนเหลือเกิน


โดย: PADAPA--DOO วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:57:38 น.  

 
ผมโดนสาป...ให้หน้าตาดี...ว้า แย่จัง.....พูดเล่นนะคับ ...


โดย: lift IP: 58.147.33.213 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:17:15:13 น.  

 
เราว่ามันคงตื่นเต้นดีถ้าได้รู้ว่ามันมีอะไรแฝงอยู่ในหนังที่ไม่ใช่คำพูดโต้งๆ
เหมือนถอดรหัสได้อะไรเงี้ย
เราก็คงดูแบบขำๆของเราต่อไป อิอิ

ปล.เรื่องซีดีอ่ะค่ะ เราเอานะคะ
แต่แบบว่าเรายังไม่เอาตอนงานแฟตนี้อ่ะคะ
เพราะว่าช่วงนี้ใช้เงินเยอะมั่กๆ
เดี๋ยวเราจะบอกอีกที คงประมาณเดือนหน้า
ต้องขอโทษเพื่อนคุณด็องด้วยนะคะ
แต่ถ้ามีใครจะซื้อก่อนก็ให้เพื่อนคุณด็องขายไปก่อนก็ได้น๊า
ขอบคุณคุณด็องที่เป็นธุระให้ค่า เกรงใจจัง
เจอกันงานแฟตเด้อ


โดย: oporr (fakeplasticgirl ) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:22:02:33 น.  

 
บอกตามตรงว่า รู้สึกดีใจที่ไม่โดนคำสาปนั้น
แต่ชอบอ่านบทวิเคราะห์หนังค่ะ เพราะเราก็จะได้ความรู้ไปด้วย
แต่ถ้าเราดูหนัง ขอเราเอาความรู้สึกเป็นตัวตัดสินอย่างเดียวเลยดีกว่า



โดย: cottonbook วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:23:18:23 น.  

 
ขอบคุณเน่อกับบัตรFatFest

แล้วเจอกันในงาน


โดย: เอสิดแจ๊ส IP: 210.246.74.18 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2548 เวลา:1:02:31 น.  

 
ขอเข้ามาติดตามด้วยคนนะครับ

ชอบตอนทีเขียนถึงแก๊งค์สามช่านะครับ กระตุ้นหยักดี

วันหลังช่วยเขียนประเด็นเรื่องเศรษฐศาสตร์การเมืองกับการวิเคราะห์สื่อหน่อยสิครับ ผมว่าน่าสนใจดีนะ(ผมเองก็สนใจด้วย 55)

ว่างๆก็เข้าไปเยี่ยม blog ผมที่ //gelgloog.blogspot.com ได้เลยนะครับ

แล้วจะแวะเข้ามาใหม่ครับ


โดย: gelgloog IP: 61.47.113.239 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:26:21 น.  

 
คำสาบนี้ก็ทำให้คุณ I willฯ มีความสุขนี่ครับ เเหะๆ เเซวเล่นครับ

เรื่องของหนัง มันมีอะไรให้เราต่างคนต่างขบคิด ถึงประเด็น
เเฝงที่ซ่อนอยู่เยอะทีเดียว ไม่เเปลกเลยครับ ที่บางคนจะคิดตาม
เเต่ผมมันเป็นประเภทพันธุ์ทาง คือดูหนังไม่ค่อยได้คิดอะไร
คือดูไปเรื่อยๆ จะสนใจในส่วนของการเล่าเรื่อง เเล้วก็มีเสียง
ดนตรีประกอบช่วงไหนยังไงมากกว่า หนังถือเป็นศาสตร์ชั้นสูง
ขั้นหนึ่งของศิลปะเลยครับ ยอมรับนับถือจริงๆสำหรับคนที่มีความรู้
ทางด้านนี้ เพราะเป็นความรู้ที่สอนกันไม่ได้ ทุกอย่างเกิดมาจาก
เเรงบัลดาลใจส่วนตัว โดยที่อาจจะมีเเรงบัลดาลใจอื่นๆประกอบด้วย

ชื่นชมคนที่รักในเรื่องราวของหนังทุกท่านครับ
เเล้วจะมารออ่านงานวิจารณ์ของคุณ I willฯ เรื่อยๆครับ


โดย: Dark Secret วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:15:47:10 น.  

 
แวะมาทักทาย ใกล้เลิกงานอ่าค่ะ อิๆๆ


โดย: แมวน้อยของเสี้ยวเทียน วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:20:46 น.  

 
โชคดีจัง ยังไม่โดนสาป

...ส่วนตัวแล้ว การดูหนังแล้วได้คิดไปด้วย ทำให้สนุกมากขึ้น หนังเรื่องหนึ่งขึ้นอยู่กับการมองด้วยตาที่มองต่างกันของแต่ละคน ตาที่แตกต่างทำให้ได้อะไรที่แตกต่างและทำให้การพูดคุยหลังหนังจบได้อะไรมากขึ้น


โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 2 ธันวาคม 2548 เวลา:15:09:45 น.  

 
อา จริง
จะหนังก็ดี หนังสือก็ดี ผู้ใดที่ใฝ่ศึกษาให้ลึกซึ้งย่อมต้องคำสาป
อ่านหนังสือไป ดูหนังไป ก็คอยแต่สะกิดใจ ทั้งที่อยากอ่านเพลิน ๆ สบาย ๆ แต่กลับคอยแต่ เฮ้ย นี่เลย เฮ้ย อธิบายได้เป็นฉาก ๆ เลย ..อยู่เรื่อย

บางทีเวลาอ่านการ์ตูนที่ชอบก็พาลจะประนามว่า ต๊าย นี่ฉันชอบนวนิยายจังค์หรือเนี่ย


โดย: atihasita (atihasita ) วันที่: 2 ธันวาคม 2548 เวลา:16:09:35 น.  

 
อ่า ขอบคุณที่พี่โปรโมตบล็อก แบบว่าอ่านแล้วเขิน หงิหงิหงิ

นั่นสิ ผมมีคำสาปติดตัวแล้ว แต่โชคดีนะยังไม่เป้นกับหนังทุกเรื่องง่ะ

อย่างเช่น ดู Aeon Flux นี่แบบดูเอามันส์อย่างเดียวเลย พอวันนั้นพี่เต้ ถามว่า "เห็นซิมโบลิกใน Aeon Flux มั้ย" ไอ้เรางงแดกเลย

ว่าแล้วพี่แกก็เลคเชอร์สัญลักษณ์ในหนังเรื่องนี้ให้เราฟังเป็นฉากๆ (หลายฉากด้วย) อึ้งแดกอีกรอบ

แสดงว่าคำสาปของเรายังไม่เฮี้ยนมาก ฮ่าๆ


โดย: merveillesxx วันที่: 10 ธันวาคม 2548 เวลา:15:15:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

I will see U in the next life.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add I will see U in the next life.'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.