|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
'คำสาป' ติดตัวสำหรับคนที่เป็น 'นักวิจารณ์ + วิเคราะห์ภาพยนตร์'
มีหลาย ๆ คน โดยเฉพาะคุณ fakeplasticgirl เคยถามผมว่า 'เวลาดูหนังนี้ต้องคิดตลอดเลยหรอ ทำไมถึงได้เขียนอะไรออกมาได้เยอะแยะมากมาย'
ผมเองก็ไม่รู้จะตอบยังไงครับ ผมก็เลยบอกกลับไปว่า มันเป็น 'คำสาป' ที่ต้องแลกกับบางอย่างเพื่อให้ได้ทักษะในการวิจารณ์มา
ถ้าใครเคยอ่านหรือดูการ์ตูนเรื่อง Fell Metal Alchemist ซึ่งเป็นเรื่องของนักเล่นแร่แปรธาตุ เขาจะบอกหลักการสำคัญว่า การจะแลกเปลี่ยนอะไรสักอย่างนั้น ต้องใช้สิ่งที่มีคุณค่าพอ ๆ กันแลกมา
แล้ว 'คำสาป' ที่ว่านี้ก็ต้องแลกกับบางอย่างที่ธรรมดาสากลของมนุษย์
เปิดเรื่องมาเสียเครียดเชียว แต่ความจริงมันไม่ได้เครียดขนาดนั้นหรอกครับ
เรื่องมันมีอยู่ว่า ไอ้การวิจารณ์หนังเนี๊ยะความจริงมันเป็นสิ่งที่ติดตัวมนุษย์อยู่แล้ว อย่างพอเราไปดูหนังเรื่องไหนมา แล้วก็มาเมาท์กับเพื่อนว่า อุ๊ยชอบจัง พระเอกหน้าตาดี นางเอกหน้าตาน่ารัก ฯลฯ ไอ้เรื่องแบบนี้มันก็คือการวิจารณ์นั้นแหละ
การวิจารณ์เป็นการใช้ความรู้สึกของตัวเราเป็นเกณฑ์ในการตัดสินครับว่าอะไรดี ไม่ดี ดังนั้นไอ้เรื่องความดีความงามเนี๊ยะมันไม่มีเกณฑ์วัดว่าของกูดีกว่าของมึง ต้องใช้เกณฑ์กู เกณฑ์มึงนะผิด อะไรแบบนี้ มันไม่ใช่
คราวนี้บรรดานักวิจารณ์ทั้งหลายตามที่ต่าง ๆ เขาอาจจะตั้งกฎเกณฑ์ของเขาขึ้นมา เพื่อกำหนดว่าสำหรับเขาแล้วอันนี้คือดี อันนี้คือแย่ หรือมันควรเป็นตามจารีตน่ะ แหกออกไปยังใช้ไม่ได้ ก็แล้วแต่ว่ากันไป
อันนี้คือวิจารณ์
ส่วนวิเคราะห์นั้น (อ่านได้ในบล็อกของน้อง merveillesxx น้องเขาวิเคราะห์อะไรไว้เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นหนัง เพลง หรือแม้แต่มิวสิควิดีโอ หรือไม่งั้นก็อ่านคอลัมน์อ่านระหว่างบรรทัดของพี่เต้ ไกรวุฒิ ในไบโอสโคป) เป็นการดูสื่อต่าง ๆ หาประเด็นแนวคิดต่าง ๆ ที่แฝงอยู่ในสื่อนั้น ๆ ผ่านทฤษฎีต่าง ๆ อย่างที่เราคุ้นเคยก็เช่น ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ ทฤษฎีสัญญวิทยา ฯลฯ
ดังนั้นการวิเคราะห์จะอิงอยู่กับทฤษฎีนะครับ ไม่ใช่ความรู้สึกเหมือนการวิจารณ์ ซึ่งทั้งสองอย่างก็ทำหน้าที่ต่างกันไป ไม่ควรเอามาเปรียบว่าอะไรดีกว่าอะไรน่ะ
ผมเองได้มีโอกาสเรียนมาทั้งการวิจารณ์และวิเคราะห์ (วิเคราะห์มาเรียนจนอ้วกในระดับ ป.โท) สิ่งที่ได้รับการปลูกฝังแบบทายาทอสูรคือ เรื่องของตาปัญญา (ตาที่สาม แบบเจ้าหนูสามตา )
ปกติเราจะดูหนังด้วยตาเนื้อ ซึ่งก็คือดูเอาสนุกสนาน เฮฮา ขำก๊าก เหงาเศร้า อะไรแบบนี้ใช่ไหม แต่เมื่อโดนฝังตาปัญญาเข้าไป คุณจะเริ่มดูหนังด้วยท่าทีที่ว่า เฮ้ยไอ้ตรงนี้มันมีประเด็นนี้แฝงอยู่น่ะ เฮ้ยตรงนี้สตรีนิยมนี้หว่า เฮ้ยตรงโน้นมันเรื่องวาทกรรมนี้หว่า
หลายคนอาจจะยังไม่เป็น (ดีแล้วครับ) แต่ผมเป็นไปอย่างเต็มตัวแล้วครับ
มันเป็นความสนุกอีกรูปแบบหนึ่งนะครับที่ได้วิเคราะห์อไรแบบนี้ เพราะมันจะไม่ได้อิงอยู่กับเรื่องแค่ว่าหนังใช้กลวิธีไหน บทดีไหม ภาพสวยยังไง ฯลฯ แต่ไอ้ความสนุกแบบเดิม ๆ ที่เคยได้รับมันก็พลอยหายไปด้วย
มีอยู่พักหนึ่งผมหยุดการดูหนังไปเลย เพราะแค่เห็นก็อยากจะอ้วก ดูแล้วมันคิดตลอด ไม่ได้เสพอะไรที่มันสนุก ๆ ง่าย ๆ อีก (อ้วกแตก)
นี้แหละครับที่ผมเรียกว่า 'คำสาป' เป็นคำสาปที่ต้องแลกมา ได้มาสิ่งหนึ่งก็เสียไปอีกสิ่งหนึ่ง ผมกลับไปดูอะไรที่สนุกแบบไม่ต้องคิดมากแบบชาวบ้านไม่ได้แล้ว แต่ผมก็ได้อะไรบางอย่างที่ชาวบ้านคิดไม่ถึงมาเหมือนกัน
สุดท้ายแล้ว 'คำสาป' ที่ว่านี้จะทำให้ผมเสพสื่อได้อย่างมีความสุขต่อไปหรือไม่ ในแนวทางใดผมก็ไม่ทราบได้ แต่ตอนนี้ผมเพียงแต่ทราบว่า ผมไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป
'คำสาป' ฝังลึกอยู่ในวิญญาณผมแล้ว
Create Date : 04 พฤศจิกายน 2548 |
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2548 13:56:39 น. |
|
16 comments
|
Counter : 1140 Pageviews. |
|
|
|
โดย: rebel วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:13:10:58 น. |
|
|
|
โดย: ขอบคุณโลกไซเบอร์ที่ทำให้เราเจอกัน IP: 161.200.19.99 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:14:45:55 น. |
|
|
|
โดย: PADAPA--DOO วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:57:38 น. |
|
|
|
โดย: lift IP: 58.147.33.213 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:17:15:13 น. |
|
|
|
โดย: cottonbook วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:23:18:23 น. |
|
|
|
โดย: เอสิดแจ๊ส IP: 210.246.74.18 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2548 เวลา:1:02:31 น. |
|
|
|
โดย: gelgloog IP: 61.47.113.239 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:26:21 น. |
|
|
|
โดย: Dark Secret วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:15:47:10 น. |
|
|
|
โดย: atihasita (atihasita ) วันที่: 2 ธันวาคม 2548 เวลา:16:09:35 น. |
|
|
|
|
|
|
I will see U in the next life.
|
|
|
|
|
|
โดนสาปเหมือนกัน