Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
21 กุมภาพันธ์ 2549
 
All Blogs
 
แตกประเด็นจากบล็อกคุณพี่สาวไกด์ใจซื่อ -----------> คนรอบตัวส่งผลยิ่งให้รักการอ่านหนังสือ

จากบล็อกคุณพี่สาวไกด์ฯ เมื่อวาน //www.bloggang.com/viewblog.php?id=pakwan&date=20-02-2006&group=5&blog=1 ได้พูดคุยกันถึงเรื่องว่าทำไมถึงชอบการอ่านหนังสือ ซึ่งผมเองก็ได้ไปตอบไว้ แล้วยังมีประเด็นอะไรที่อยากเล่าขยายความเพิ่มเติม

หลาย ๆ คนในที่นี้ชอบอ่านหนังสือ และอีกหลาย ๆ คนก็ขอถอยห่างจากกิจกรรมเช่นนี้ ผมเองก็พึ่งได้รู้ความรู้สึกของคนที่ไม่อ่านหนังสือว่าเขารู้สึกกันอย่างไรเมื่อไม่นานมานี้

ก่อนหน้านี้ผมก็คิดว่าทุก ๆ คนคงมีทักษะการอ่านในระดับที่พอ ๆ กัน อาจจะมีอ่านเร็วอ่านช้ากว่าบ้าง แต่ก็ไม่ต่างกันสักเท่าใด ทว่าเมื่อได้คุยกันน้อง ๆ ที่รู้จักหลาย ๆ คน ไอ้ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นของผมก็พังทลายเสียสิ้น

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อสักปีที่แล้ว เหตุผลอันใดไม่ทราบผมได้กลับไปหยิบเอาเพชรพระอุมาภาคแรกกลับมาอ่านเป็นรอบที่สาม อาจด้วยความว่างไม่มีอะไรทำละมั้งครับ เลยทำให้เวลาให้ว่างเสียจนน่าเบื่อ เพชรพระอุมาเลยกลายเป็นยาลดความเบื่อได้อย่างชงัด อ่านวันสามเล่ม โอ้ย!!! มันมาก

กลางดึกคืนนั้น ผมนั่งแชท MSN กับน้องรู้จักกัน ก็คุยกันว่าผมอ่านเพชรพระอุมา ติดมาก (นี้ขนาดรอบที่สามนะ) อ่านได้วันละสามเล่ม ไอ้น้องผมมันก็ถามขึ้นมาว่า

"อ่านแบบนี้คงตาลายแย่เลยนะครับ"

ผมยอมรับว่าผมอ่านประโยคนี้แล้วผมงงครับ งงมากว่า ทำไมมันต้องตาลายว่ะ ก็คุย ๆ ไปเลยได้รู้ว่าน้องผมคนนี้ปกติไม่ค่อยได้อ่านหนังสือเท่าใด ส่วนใหญ่ที่อ่านก็เป็นการ์ตูนและหนังสือเรียน (ที่ถูกบังคับให้อ่าน) ผมก็เลยถึงบางอ้อเสียทีว่า อ่อ คนเรามันมีทักษะการอ่านไม่เท่ากัน

จากในบล็อกของคุณพี่สาวไกด์ฯ หลาย ๆ ความเห็นบอกว่าได้รับอิทธิพลมาจากพ่อแม่ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ตัวผมเอง มีแม่ที่ชอบอ่านหนังสือมาก ๆ มีหนังสือเต็มบ้านพอที่จะทำเป็นห้องสมุดเล็ก ๆ ได้เลยล่ะ ทุก ๆ เดือนอย่างน้อยจะมีนิตยสารเข้าบ้านประมาณ 3 เล่ม ผมก็เลยได้อ่านไปด้วย กับพวกคอลัมน์เด็ก ๆ นิทานต่าง ๆ

ผมอ่านโชคดีกว่าเด็กส่วนใหญ่ตรงที่ที่บ้านมีหนังสือให้อ่านเยอะ ประกอบผมเป็นเด็กแรดชอบอ่านอะไรไปเรื่อย โดยเฉพาะพวกวรรณคดี ผมไม่ได้เก่งเวอร์ขนาดอ่านเป็นกลอนอะไรหรอกนะครับ เป็นเด็กก็ต้องอ่านที่เขา edit แล้วล่ะ ผมก็เลยเป็นแฟนหนังสือของ 'มาลัย' ในนิตยสารกุลสตรี ที่จะเขียนเรื่องเกี่ยวกับ นางในวรรณคดี (มีรวมเล่มขาย) ตำนานเทวดา ฯลฯ อะไรประมาณนี้

หลาย ๆ คนคงมีพื้นฐานอย่างผมเช่นกันคือที่บ้านอ่านหนังสือ เวลาที่ผ่านมาผมเคยลองถามกับเด็กข้างบ้านว่า ชอบอ่านหนังสือกันไหม ผลส่วนใหญ่ก็ชอบวิ่งเล่นมากกว่าตามประสาเด็ก จะมีอ่านบ้างก็พวกการ์ตูน นิทานง่าย ๆ ที่สำคัญอ่านในห้องสมุด ที่บ้านไม่ค่อยได้อ่าน

เห็นแบบนี้แล้ว พ่อแม่และคนรอบตัวนี้สำคัญจริง ๆ

ความสุขของคนที่ชอบอ่านหนังสือ คนที่ไม่ชอบอ่านคงนึกภาพตามไม่ค่อยออก ในความรู้สึกผม การได้อ่านหนังสือสักเรื่อง เหมือนการได้ผจญภัยไปในดินแดนต่าง ๆ ที่เราไม่รู้จัก ยิ่งหนังสือที่เขียนด้วยภาษายอดเยี่ยมยิ่งชวนให้เราถลำลึกไปหาทางกลับไม่เจอ อย่างงานของ น้าชาติ กอบจิตติ นี้ผมหลงทางบ่อยครับ อย่างตอนอ่านพันธ์หมาบ้าหรือคำพิพากษา นี้หลงไปลึกพอหาทางออกเจอนี้ได้แต่อึ้ง ทึ่ง และสมองหนักไปทั่วทั้งหัว

อีกอย่างสำหรับข้อได้เปรียบของคนชอบอ่านหนังสือคือ เวลาเห็นความหนาแล้วมันไม่ท้อครับ 555 (เว้นพี่น้องคารามาซอฟไว้สักเล่ม ผมชอบนอนอ่านหนังสือ ถ้าอ่านเรื่องนี้สงสัยต้องไปซ้อมยกเวทก่อน) เพื่อนพี่น้องรอบตัวผมหลายคนแค่เห็นความหนาของแฮรี่ พอตเตอร์ก็อุทานออกมาว่า "เหี้ย กูอยากอ่าน แต่ชาตินี้กูจะอ่านจบไหมว่ะ หนาฉิบหาย" ในขณะที่ถ้าเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือต่างบอกว่านี้หนาแล้วหรอ โอ้ย!!! แค่นี้แป๊บ ๆ ก็จบ

ไอ้เรื่องความหนา หนาเท่าไรไม่เชื่อเรื่องสำคัญ สำคัญที่ว่ามันเขียนสนุกหรือเปล่าต่างหาก ถ้ายิ่งหนาและเขียนไปเรื่อยไม่สนุกนี้ คงมีหลายคนขอยอมแพ้

สุดท้าย ผมขอย้ำอีกทีว่าพ่อแม่และผู้ปกครองคือปัจจัยสำคัญเลยครับที่ทำให้เด็กคนหนึ่งรักการอ่าน ใครเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองอยากให้ลูกอ่านหนังสือก็ต้องย้อนมามองตัวท่านเองก่อนละกันครับว่าชอบอ่านหนังสือไหม ถ้าไม่ชอบแล้วยังไปเข็นให้ลูกอ่านแบบนี้ก็ไม่ไหว เดี๋ยวลูกมันจะบอกว่าดีแต่บังคับตัวเองยังไม่ทำเลย แล้วก็ให้อ่านไปเถอะ การ์ตูน ชอบบอกกันจังว่าการ์ตูนไร้สาระ มันมีคุณค่าทางวิชาการน้อย แต่สูงค่าในด้านการจินตนาการนะขอรับ

ฝากวันกันเท่านี้ เดี๋ยวจะไปอ่านหนังสือล่ะ 5555

ป.ล. วันนี้เอาเพลง ลั่นทม ของ goose มาให้ฟัง เพลงนี้มันค่อนข้างโหดอยู่นะครับ แต่ก็มีท่วงทำนองที่ไพเราะแฝงอยู่ เป็นเพลงที่ผมชอบที่สุดในอัลบั้มแล้วละครับ ความรู้สึกของคนไม่ชอบอ่านหนังสือเวลาเห็นหนังสือก็คงกลัว วิตก เหมือนเวลาฟังเพลงนี้แบบเผิน ๆ แต่ความจริงหนังสือมีความสนุกมากมายซ่อนเอาไว้ เหมือนกับเพลงนี้ที่ซ่อนเอาความงามเอาไว้เช่นกันครับ

ป.ล. 2 อยากรู้จริง ๆ ว่ามีใครฟังจนจบเพลงไหมหนอ

ป.ล. 3 ท่านต้องมี real player นะครับถึงจะฟังได้




Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2549 10:18:35 น. 23 comments
Counter : 1171 Pageviews.

 
ลืมบอก เพลงจาก Coolvoice.com ครับ

แนะนำอีกเวบสำหรับใครที่ยังไม่รู้ต้องการหา source เพลง เวบนี้มีบริการ //www.bzro.net/getcode/ ลองเข้าไปใช้ดูนะครับ สะดวกดี มีเพลงจากคูลวอยซ์ให้ใช้ด้วย (แต่ใส่โค้ดยากนิดหนึ่งนะ)


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:18:55 น.  

 
แงๆๆๆ พิมพ์ตั้งเยอะ หายหมดเลยยยย




เฮ้อ...








จะบอกว่า เรื่องทักษะการอ่านของคนที่ไม่เท่ากันนี่รู้มานานแล้ว เพราะโตมากับกลุ่มเพื่อนที่ไม่ค่อยอ่านหนังสือกันเลยซักคน


อย่างตอนมอต้นอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น เพื่อนต้องถามว่า "แกอ่านหรือดูรูปเฉยๆ เนี่ย?" เพราะเราอ่านจบแล้วมันยังอ่านไม่ถึงสิบหน้าเลย


แต่ทักษะการอ่านได้ไวนี่หายไปตอนที่ซาๆ การอ่านน่ะแหละ (ประมาณมหาลัยปีแรกๆ หละมั้ง)





แต่คนที่ไปตอบที่บล็อกพี่ ก็มีทั้งสภาพแวดล้อมมีผล กับ เป็นธรรมชาติของเค้าเองนะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:22:13 น.  

 
อ้อ..แล้วก็เพชรพระอุมา พี่จำไม่ได้อ้ะ ว่าอ่านได้วันละกี่เล่มอะนะ


รู้แต่ว่าอ่านแล้วติด ทำอะไรไม่ได้เลย ต้องอ่านให้จบ ให้ครบให้ได้


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:27:03 น.  

 
คิดว่าพ่อแม่มีที่ทำให้รักการอ่านนะครับ
ตัวผมเอง ตอนเด็กๆ วันๆ นึงก็จมอยู่แต่กับกองหนังสือที่บ้าน เพราะพ่อกับแม่ชอบซื้อหนังสือมาวางๆ ทิ้งไว้ เดือนนึงหลายสิบเล่ม ผมก็ไปตามอ่านครับ

ตอนสมัยนั้นไม่ค่อยมีของเล่นให้เล่นด้วย เพราะว่าที่บ้านไม่รวย ถ้าจะออกไปเล่นก็เล่นกับเพื่อนมากกว่า ส่วนกลับบ้านมาก็มีเพื่อนเป็นหนังสืออย่างที่บอกไปครับ

แล้วอย่างที่บอกไปว่าบ้านไม่รวย ตอนเด็กๆ ถ้าร้องจะเอาของเล่นจะขอยากมากครับ ยิ่งของแพงๆ ยิ่งแล้วใหญ่ เป็นปีเลยกว่าจะได้แต่ละชิ้น ทีนี้เลยเปลี่ยนมาขอหนังสือแทน เพราะแม่จะบอกไว้เลยว่า อยากได้เล่มไหน ไม่ว่าจะแพงแค่ไหนก็จะซื้อให้ทุกเล่ม เพราะหนังสือเก็บไว้อ่านได้เรื่อยๆ แม่อยากให้ลูกรักการอ่านครับ ถือว่าดีมากเลย เพราะโตมาก็อ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า แถมทำงานหนังสืออีกอย่างหาก สมใจคุณแม่เลยครับ 55

ปล. วันนี้ฟังเพลงในบล็อคนี้ได้ ดีใจจัง ;)


โดย: BAYROCKU วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:32:21 น.  

 
^
^
^

อารมณ์เดียวกับผมเลยครับ คุณเบย์

คือที่บ้านผมเป็นชนชั้นกลางไม่ร่ำรวยอะไรนักหรอก พ่อเป็นตำรวจ แม่เป็นคุณครูสอนภาษาอังกฤษ ดีที่ว่าซื้อหนังสืออะไรก็ได้ (ยกเว้นการ์ตูน)


ส่วนพี่สาวไกด์ฯครับ ผมว่าเป็นด้วยตัวเองนี้เก่งมากนะครับ แสดงว่าต้องมีแรงบันดาลใจให้อยากอ่านอยู่เสมอ มิฉะนั้นคงทำ ๆ หยุด ๆ แน่



โดย: I will see U in the next life. วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:36:54 น.  

 
เห็นด้วยว่าที่บ้านมีส่วนสำคัญ
สมัยเด็ก ๆ
มีพี่ชายที่ชอบพาน้องสาวไปห้องสมุดประชาชนน่ะ
แถมพี่ยังอ่านหนังสือ (การ์ตูน ) ให้น้องฟังอีก
(ตอนนั้นตัวเองยังอ่านหนังสือไม่ออก)
ไม่ค่อยได้วิ่งเล่น เท่าไร

เลยกลายเป็นคนชอบกลิ่นอายของหนังสือมาโดยตลอด


โดย: grappa วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:40:59 น.  

 
ได้อิทธิพลมาจากคุณพ่อ เหมือนที่ตอบใน Blog พี่ไกด์ค่ะ
คิดว่าคนรอบๆตัวมีผลอย่างมากๆค่ะ

อืมและหนังสือที่อ่านก็น่าจะสำคัญค่ะ คือถ้าหนังสือเล่มแรกๆที่ได้อ่านมันกระตุ้นให้เด็กสนใจ หรือ ตรงกับความสนใจที่มีอยู่เดิม ก็น่าจะทำให้ยิ่งชอบอ่านนะคะ

ส่วนตัวคิดว่าหนังสือเป็นเหมือนเพื่อน และเวลาอ่านหนังสือเหมือนเราไปเที่ยวสถานที่ใหม่ๆกับเพื่อนที่น่าสนใจซักคนน่ะค่ะ


โดย: ที่ได้พบกับเธอ นั่นคือโชคชะตา วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:46:05 น.  

 
อืมม์..พี่ก็ว่า มันไม่ใช่เรื่องเก่งหรือไม่เก่งหรอก สำหรับคนที่ชอบอ่านโดยธรรมชาติน่ะนะ (แต่พี่เองนี่ที่บ้านมีส่วนสำคัญมากๆ เลย) แต่อาจจะเป็นพื้นฐานนิสัยเค้าที่อยู่กับอะไรที่นิ่งๆ ได้น่ะค่ะ



อย่างที่ไปตอบก็มีคุณยาคูลท์น่ะ ทั้งที่บ้านแล้วก็เพื่อนไม่มีใครชอบอ่านเลย แต่เค้าก็ชอบอ่านหนังสือมากๆ น่ะจ้ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:54:44 น.  

 

แม่นละค้าบ ขอบคุณอีกครั้งนะฮะสำหรับการติว
ฟ้าเชื่อใจพี่สุดๆ เนี่ย เลยไม่ได้อ่านเพิ่มอีกซักตัว( ก๊ากก เลวแล้ว >_<)
ซัก 1500 คงออกบ้านไปสอบแล้ว .. แล้วจะมารายงานผลเน่อ


+++

555 มาสารภาพว่าฟังไม่จบเพลง
หูฟังยังไม่ได้หยิบมาใส่ด้วยซ้ำ วางไว้ข้างๆ คีย์บอร์ด
เสียงดังอย่างกะมีลำโพงเลย หุหุ

ชอบอ่านหนังสือทุกประเภทที่ไม่เศร้าตอนจบ
และที่สำคัญ ... ไม่ใช่หนังสือเรียน (แป่ว)


โดย: สาวแว่นเลี้ยวซ้าย วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:14:24:39 น.  

 
จริงค่ะ พ่อแม่พี่น้องสำคัญเลย ติดการอ่านหนังสือได้ก็เพราะมีตัวอย่างให้เราได้เห็น

เรื่องเพชรพระอุมานี่ก็เพราะว่าพ่อนั่นล่ะค่ะแนะนำ แล้วพอเราอ่านก็ไม่ผิดหวัง อ่านตอนนี้สามาภาคไปแล้ว 3 รอบ ก็ยังมีแนวว่าจะหามาอ่านอีกรอบเหตุเพราะว่ามันสนุกดีค่ะ ... อ่านแล้วอยากเดินป่าเชียว


โดย: JewNid วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:14:39:56 น.  

 


มาเยี่ยมบ้าน


โดย: Mr.Vop วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:15:10:03 น.  

 
อ่านหนังสือเพราะตอนเด็กๆ ไม่มีใครเล่นด้วยอะ...

เวลาไปรอพ่อหรือแม่เลิกงาน ก็เข้าห้องสมุดที่โรงเรียนพ่อหรือแม่ ยิ่งอ่านยิ่งติดพัน อาจเพราะเราเจอหนังสือที่ "เข้าทาง" ด้วยล่ะมั้งเลยยังไม่วางเพราะความเบื่อไปเสียก่อน

ทีนี้ พออ่านออก ก็เลยเลิกเล่นกับเด็กๆ คนอื่นไปเลย ก๊ากๆๆ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:15:47:22 น.  

 
พ่อเราชอบอ่านหนังสือ ชอบซื้อแมกกาซีน เป็นสมาชิกอะไรต่างๆ นานา นั่นทำให้พอเราโตขึ้น เราเริ่มหาหนังสือแบบที่เราชอบบ้าง เจอพวกแมกกาซีนสำหรับเด็ก เราชอบส่งไปเล่นเกม หรือเขียนเรื่องส่งไปลง หรือเริ่มสมัครสมาชิกบ้าง ...ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นมั้ง...

พอเข้ามหา'ลัย รู้สึกว่าห้องสมุดและร้านหนังสือเป็นเหมือนสวรรค์ มันดื่มด่ำไปเอง เพราะเพื่อนเราส่วนใหญ่ไม่มีใครอ่านหนังสือ (นอกจากหนังสือเรียน) แต่ก็ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเท่าไหร่ เพราะมีหนังสือเป็นเพื่อนแล้ว โชคยังดี ที่เราได้ไปรู้จักกับคนข้างนอก ที่วันนึงก็บังเอิญให้ไปรู้จักพวกเค้าเหล่านั้นที่รักการอ่านมากๆ เลยพลอยทำให้เราสนุกสนานกับการอ่านเข้าไปใหญ่

ปัจจุบัน เราอาจจะชอบอ่านหนังสือเฉพาะแบบที่ตัวเองสนใจมากๆ เป็นความสนใจเฉพาะด้าน แต่ก็ไม่เคยคิดว่ามีความสุขกับการอ่านลดน้อยลงเลย


โดย: foneko (fonkoon ) วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:15:53:27 น.  

 
....แม่เราไม่ผลในเรื่องการอ่านของเราเลย

แม่ไม่เคยยุให้อ่าน(ยกเว้นหนังสือเรียน)
แต่แม่ก็ไม่เคยห้ามเวลาอ่านหนังสืออื่นๆ

แต่เรามักเจอคนรายทาง บอกเล่าว่าเรื่องนั้นดี เรื่องนี้สนุก ตั้งแต่เด็ก มีพี่ๆ น้าๆ หลายคนชอบให้หยิบยืม

เคยได้รู้จักคนคนนึงอยู่4-5 เดือน เมื่อปี 2002 เค้าเข้ามาในชีวิตแนะนำ ให้อ่าน "ขุมทรัพย์ที่ปลายฝัน"ของ เปาโล แล้วก็ไม่เจอเค้าอีกเลย เราเชื่อว่าเค้าคือป้ายๆหนึ่งที่ช่วยชี้ทางให้ชีวิตเรา เพราะหลังจากอ่านจบ เรารู้จักชีวิตมากขึ้น...ขอโทษค่ะ พร่ำมากไปหน่อย


โดย: แผล (J'aime l'amour... ) วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:16:45:08 น.  

 
โตมากะหนังสือเหมือนกันค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ก็ไม่ถึงกับเป็นนักอ่านตัวยงนะคะ แต่ก็พอจะมีหนังสือไว้รอบๆ บ้านให้เราได้หยิบได้จับกันมาตลอดเหมือนกัน

เด็กๆ ติดหนังสือมาก มีเงินเมื่อไหร่ก็ซื้อแต่หนังสือตลอด จนคุณแม่บอกว่า จะอ่านอะไรกันนักหนา (อ้าว ไม่ชอบที่ลูกสาวชอบหนังสือเหรอเนี่ย ) แต่จริงๆ เค้าคงอยากให้เราอ่านพวกหนังสือเรียนมีความรู้อะไรพวกนั้นมากกว่า จริงๆ คือเราได้มาก็อ่านจบไปตั้งแต่ยังไม่เปิดเทอมแล้วล่ะค่ะ เวลาว่างๆ ก็อยากอ่านพวกวรรณกรรมเยาวชน หรืออื่นๆ มากกว่า

พี่น้องทุกคนก็ชอบอ่านหนังสือหมดเลยค่ะ แต่คุณพ่อไม่ค่อยชอบให้อ่านการ์ตูนกับนิยายประโลมโลกเท่านั้นเอง


โดย: เดอะ กั้ง วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:17:42:59 น.  

 
เรื่อง ขุมทรัพย์ที่ปลายฝัน ผมก็เคยแนะนำให้เพื่อนร่วมวิชามนุษย์และการสื่อสารได้อ่านเช่นเดียวกันครับ


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:19:37:16 น.  

 
พ่อสอนให้อ่านหนังสือค่ะ
และก็พบอะไรบางอย่างที่ตามหาในหนังสือมาเรื่อยๆ
ก็เลยยังคงอ่านหนังสือต่อไปเรื่อยๆค่ะ


โดย: rebel วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:20:52:48 น.  

 
อย่างที่บอกในบล็อคคุณสาวไกค์นะคะ
ต้องขอบคุณพ่อกับแม่ที่ปลูกฝังการอ่านหนังสือให้

ตอนนี้อ่านหนังสือเรียนมากกว่าวรรณกรรม
แต่ถ้าว่างก็จะพยายามอ่านหนังสือหลายๆประเภท



โดย: keyzer วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:22:06:47 น.  

 
อ่านแต่ text book กับเงาสีขาว (นับไม่ถ้วนรอบแล้ว)
นี่ถ้าthesisไม่มีปัญหาจะอ่าน พี่น้องคารามาซอฟ (อาฆาตกันมานาน)

เอ่อ สมัยยังเยาว์เคยอ่านเพชรพระอุมาอาทิตย์เดียวจบเพราะไม่กลัวความหนา กลัวแต่ว่าแม่จะไม่ให้อ่าน


โดย: อนารยชนโรแมนติก IP: 61.91.96.79 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:22:51:22 น.  

 

อ่านหนังสือดีค่ะ อ่านเถอะ หนังสืออารัยก้อดีท้างนั้นค่ะ

อ่านแล้วประเทืองปัญญา เอาเป็นว่าชอบแบบไหนอ่านแบบนั้นค่ะ

รักในสิ่งที่ทำ ก้อพอค่ะ มีความสุขมาก ๆ นะค่ะ ฝันดีนะค่ะ


โดย: NinG_CDC วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:1:20:21 น.  

 
มีกระทู้แตกประเด็นด้วยวุ้ย ส่วนเรื่องที่ว่า พ่อแม่มีส่วนใหม๊ ผมก็คิดว่าคงมีส่วนนะ ในการปลูกฝัง แต่จะมากจะน้อยนี่ผมไม่รู้นะ


โดย: joblovenuk วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:2:32:04 น.  

 
อ่านเพชรพระอุมามาสี่ปีแล้ว ยังไม่จบซักที (ตอนนี้เหลืออีกแค่ 8 เล่มเองครับ) เพราะเดี๋ยวติดโน่นติดนี่

ผมว่ารักการอ่านหรือไม่ น่าจะขึ้นกับหนังสือด้วยมั้งครับ ถ้าเริ่มอ่านแนวที่โดนๆ ก่อน ก็น่าจะมีแนวโน้มทำให้รักการอ่านมากขึ้น แต่ถ้าไปเริ่มไอ้ที่มันน่าเบื่อ ก็อาจจะทำให้เข็ดจนไม่กล้าอ่านเล่มอื่นอีกเลย


โดย: strawberry machine gun วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:10:23:20 น.  

 
สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยมค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะที่ไปทักทายเมื่อวานน่ะค่ะ


โดย: Malee30 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:3:10:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

I will see U in the next life.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add I will see U in the next life.'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.