Group Blog
 
 
มิถุนายน 2548
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
15 มิถุนายน 2548
 
All Blogs
 
มาแล้วครับสัญญวิทยา (ตอน 1)





มาตามสัญญานะครับ กับเรื่องของการวิเคราะห์สื่อ สำหรับเรื่องแรกที่จะเอามาให้อ่านกันก็คือเรื่อง สัญญวิทยา (Semiology) ครับ

สัญญวิทยาเป็นวิชาในสาขาภาษาศาสตร์มาก่อนนะเดิมเขาก็เอาไปวิเคราะห์พวกวรรณกรรมกัน แต่เดี๋ยวนี้ได้รับความแพร่หลาย นำมาใช้ในงานหลาย ๆ ด้าน เช่น สังคมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ฯลฯ ส่วนที่ผมต้องการเจาะลงไปก็คือด้านสื่อสารมวลชนครับ แต่อย่างไรเรื่องนี้ก็ยังต้องผูกพันกับภาษาเหมือนทำบุญกันมาแต่ชาติปางก่อนนะครับ

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าไอ้เจ้าสัญญวิทยานี้มันคืออะไร ผมขอยกตัวอย่างเพลงนี้มาให้อ่านกันก่อน เพลงนี้ชื่อว่า ‘ความในใจ’ เป็นเพลงของใครผมก็จนปัญญาจะทราบได้ครับ เนื้อเพลงมันมีอยู่ว่า

“หากฉันจ้องมองตาเธอให้ลึกหน่อย อย่างน้อยอาจทำให้ต้องเฉลียวใจ ว่ามีความหมายใดซ่อนในดวงฤทัย บ่งบอกความในใจที่ดวงตา”

ว่าแล้วก็ชักอยากไปจ้องตาสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ กันบ้างแล้วใช่ไหม ที่ผมต้องการบอกก็คือสัญญวิทยาเขาสนใจเรื่องของสิ่งที่มองเห็น (เหมือนดั่งดวงตาในเพลง) ไปสู่ความหมายที่แฝงไว้ในสิ่ง ๆ นั้นครับ (ความในใจ) คงพอเข้าใจกันน่ะ



คราวนี้ก่อนไปถึงเนื้อหานั้นเราต้องมีจุดร่วมกันก่อน พ่อแม่พี่น้องครับ เชื่อไหมครับว่าทุกวันนี้ไม่มีสิ่งใดที่เกิดมาแล้วเป็นตัวของตัวเองเลย แต่มันเกิดขึ้นมาเพราะการประกอบสร้าง (Construct) ของมนุษย์ทั้งนั้น ผมพูดเลยไปถึงเรื่องนามธรรมอย่างการให้ความหมายและการกำหนดหน้าที่ต่าง ๆ ของมันด้วยนะครับ

ยกตัวอย่างง่าย ๆ สมมติผมมีผ้าเก่า ๆ มีเครื่องหมายถูกอยู่ตรงกลางผืนหนึ่ง ผ้าผืนนี้ก็จะกลายเป็นผ้าธรรมดาผืนหนึ่งที่ไม่มีค่าอะไร แต่วันหนึ่งมีคนบอกว่า เฮ้ย ไอ้เครื่องหมายถูกอันนี้มันไนกี้นี้หว่า อ้าวผ้าขี้ริ้วผมอัพเกรดตัวเองแล้ว เห็นไหมครับว่ามนุษย์เราประกอบสร้างความหมายขึ้นมาทั้งนั้น……

ถามว่าทุกวันนี้อะไรเป็นสัญลักษณ์ได้บ้าง บอกได้เลยครับว่าทุกอย่างบนโลกใบนี้เป็นสัญลักษณ์ได้หมด และก็ไม่เป็นสัญลักษณ์ก็ได้ แล้วแต่ว่าไอ้สิ่ง ๆ นั้นเราไปให้ความหมายกับมันว่าไง ถ้ามันอยู่เฉย ๆ ชาตินี้ไม่มีใครไปยุ่งกับมัน มันก็ไม่มีวันเป็นสัญลักษณ์ได้ครับ

สรุปทุกอย่างเป็นสัญลักษณ์ได้หมดเพราะเรามอบหน้าที่ภารกิจมัน ในขณะเดียวกันถ้ามันหมดหน้าที่มันก็ไร้ความหมาย กลายเป็นอะไรไปไม่รู้



คราวนี้ไอ้เจ้าวิชานี้มันเข้ามามีผลบทบาทกับโลกใบนี้อย่างไร ผมก็จะเปรียบเทียบให้ดูนะครับว่ายุคสมัยก่อนที่วิชานี้จะฮิตกับวิชานี้ฮิตอยู่ มันแตกต่างกันอย่างไร

ยุคก่อนมีวิชานี้ นักปราชญ์สมัยนั้นบอกว่าภาษาของเรานั้นสะท้อนโลก คือสังคมเป็นอย่างไร ภาษาก็แสดงออกมาเช่นนั้น สังคมตอนนั้นจะทุกข์โศกเศร้าเหงารักอย่างไร ภาษาก็แสดงให้เห็นตามนั้น

แต่มายุคนี้ไม่ล่ะ นักปราชญ์ (สักท่าน) อีกเช่นเคยก็บอกว่าภาษาไม่ได้สะท้อนอะไร แต่ภาษาเป็นตัวสร้างต่างหากเล่า ถ้าพูดให้เท่ก็ต้องบอกว่าภาษาสร้างความเป็นจริงครับ

คุณผู้อ่านคงรู้ข่าวคราวภาคใต้เป็นอย่างดีใช่ไหมครับ ถามว่าเคยเห็นกับตาไหม ก็คงต้องบอกว่าไม่เคย แล้วรู้ได้ไง อ้าวก็ดูทีวี อ่านหนังสือพิมพ์ ฟังวิทยุนะสิ อะอะอะอ๊า เห็นไหมละครับ เราไม่เคยเห็นกับตาแต่เราก็สามารถมองเห็นเป็นภาพได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นในภาคใต้ขณะนี้ แถมยังเม้าท์กันได้แหลกลาญ ทั้งหมดนี้ก็เพราะสื่อที่ใช้ภาษาเป็นตัวสร้างภาพความคิดของเราขึ้นมาในหัว…..




อีกเรื่องหนึ่งที่แตกต่างคือ ในยุคก่อนหน้ามีสัญญวิทยา เขาบอกกันว่าภาษานี้ขึ้นอยู่กับความตั้งใจของผู้ส่งสาร จะอ่านหนังสือสักเล่มนี้ จะมัวมานั่งคิดเองเออเองว่ามันเป็นแบบนี้ไม่ได้ เพราะต้องคำนึงถึงสิ่งที่ผู้ส่งสารต้องการนำเสนอมา แต่เดี๋ยวนี้ขอเชิดใส่ คนอ่านบอกว่าฉันมีสิทธิ์คิดเองย่ะ ไม่ต้องมาสั่งฉัน ฉันจะคิดยังไงก็เรื่องของฉัน คนเขียนเธอเขียนเสร็จแล้ว หมดหน้าที่แล้ว นอนอยู่บ้านเถอะ อ่ะ!ก็ว่ากันไป

สุดท้ายพวกสัญญวิทยานี้เขาสนใจครับว่าคำต่าง ๆ มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ทำไมอยู่ดี ๆ ทำว่ากิ๊กถึงได้แปลว่ามากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน คำว่าแซ๊ปกับสกอยส์มาได้อย่างไร พวกนี้เขาสนใจในเรื่องนี้กันครับ

เอาหอมปากหอมคอให้อ้วกกันไปพอสมควร คราวหน้ามาพบกับนักคิดชื่อดังของสายนี้กันครับ รวมถึงแนวคิดเบื้องต้นของสัญญวิทยาครับ (เฮ้ยนี้ยังไม่แนวคิดเบื้องต้นอีกหรอ)

ส่วนของรางวัลซิงเกิลโคลเพลย์ คำตอบยังไม่ถูกใจเท่าไร (ไม่ใช่อะไรหรอก ผมมีอยู่แผ่นเดียว) ขอโทษนะครับ


Create Date : 15 มิถุนายน 2548
Last Update : 16 มิถุนายน 2548 16:07:51 น. 2 comments
Counter : 853 Pageviews.

 
มาตอบคำถามครับ

ตรงเสื้อ มี โลโกล้ X และมันสามารถมองเป็น ตัว Y ได้ด้วย วึ่งก็คือ ชื่ออัลบั้ม X & Y ของโคลเพลย์

ส่งของรางวัลมาได้ที่บล๊อกนะครับ


โดย: golfy (golfy_design ) วันที่: 16 มิถุนายน 2548 เวลา:10:24:28 น.  

 


โดย: pok IP: 161.200.255.163 วันที่: 16 มิถุนายน 2548 เวลา:19:25:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

I will see U in the next life.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add I will see U in the next life.'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.