เตรียมตัวเดินป่ากับป้าบุ๋ม (เริ่มเขียน 20 Feb 2015) ตอนที่ 3
ก่อนเล่า ขอขอบคุณทุกคนที่คอมเมนท์ให้กำลังใจนาวิกโยธินหญิงคนนี้นะคะ (นามแฝงที่ จขบ ล้อเลียนตัวเองเล่นๆ) ไปเข้าคลาสรอบที่สองมาแล้ว รู้สึกว่าไม่ ได้ปวดเหมือนครั้งแรกค่ะ แต่ก็ยังปวดอยู่บ้างเพราะครูฝึกขึ้นท่าใหม่
การมีร่างกายแข็งแรงก็เหมือนมีของดีในมือนะคะ รู้เลยว่าการออกกำลังมันดีแบบนี้ ทำอะไรก็ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ (เพราะออกกำลังเหนื่อยกว่าไง) ทุกวันนี้ เวลาทำงานก็จะไม่นั่งแช่เก้าอี้ จะหาโอกาสลุก เดิน แม้กระทั้งขึ้นชั้นสูงก็ใช้บันได
เริ่มชอบการได้ออกแรง มันรู้สึกดีมากๆค่ะ วันหยุดที่ผ่านมาก็เลยไปออกแรง บวก ออกแดดมาอีก ครั้งนี้ไปที่ป่าชายเลนอ่างศิลาค่ะ
ตื่นเช้าทานอาหาร เตรียมกล้อง และน้ำดื่ม ขับรถออกจากบ้าน ใช้เวลาไม่ถึง 40 นาทีก็ถึงค่ะ
บางคนที่อยู่ชลบุรี อาจจะไม่รู้ว่าที่อ่างศิลามีป่าชายเลนนะคะ ที่นี่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่ แต่วันที่เราไปก็มีคนมาเที่ยวเรื่อยๆ ส่วนมากจะเป็นพ่อแม่ลูกที่พาลูกๆมาดูธรรมชาติ
มาถึงก็จะเห็นแผนที่ตรงทางเข้าค่ะ
เส้นทางไม่ซับซ้อนเลย เขาเขียนที่มุมซ้ายล่างว่าเป็นสะพานป่าชายเลนที่ยาวที่สุดในประเทศไทย โอ จริงหรือนี่ เคยไปเดินที่จันทบุรีมา ก็ว่ายาวแล้วนะคะ เลือกเส้นทางรอบนอกดีกว่า แต่จะไปทางไหนดีเอ่ย
ไปทางซ้ายดีกว่า ถือคติขับช้าอยู่ซ้าย
วันนี้แดดจัดมากค่ะ อากาศร้อนแต่เช้าเลย แต่ยังดีกว่าฝนตกน้า บอกตัวเองแล้วเดินต่อไป สายตาสอดส่ายตามสอง ข้างทาง มองต้นกล้าและต้นไม่กล้า(คือไรคะ...)ของต้นโกงกางที่มีนักอนุรักษ์นำมาปลูก
ส่องดูตามเลนจะเห็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างน่ารัก หัวโต ตัวเรียว มีครีบเล็กใช้เดิน บางตัวก็ลื่นไถลคล้ายกำลังโต้คลื่น ก็เจ้าปลาจุมพรวด หรือ ปลาตีนนั่นไง ตามันจะอยู่ที่หัวคล้ายกบเลยค่ะ แก้มป่องๆอีก มองไปมองมาก็น่ารักดี
นั่นมีนกยางสองตัวเกาะบนกิ่งไม้ด้วย เห็นไหมคะ (สองตัวนะ ตัวหนึ่งเห็นง่าย แต่อีกตัวหาเจอกันไหมเอ่ย)
เดินไปเรื่อยจะเข้าสู่ช่วงที่ป่าโกงกางรกครึ้มแล้วค่ะ บางครั้งเวลาที่เราเดินอยู่บนถนนแบบนี้ ถามตัวเอง ไหมคะะว่า ปลายทางนั้นจะมีอะไรรอเราอยู่ หนทางที่เดินจะสบายเหมือนตรงนี้ไหม แล้วจะพบเพื่อนร่วมทาง ข้างหน้าหรือเปล่า
ก็ไม่รู้อ่ะเนาะ รู้แต่ว่าต้องเดิน เดิน เดิน
วันนี้เราพาเพื่อนสามขามาด้วย พบเพื่อนคนนี้ที่พาวเวอร์บาย เธอเข้ากับเราได้ค่ะ เพราะเธอ(ราคา)กันเอง จริงๆ มีสามขาอยู่แล้ว แต่เพิ่งรู้ว่าใช้กับกล้อง DSLR ไม่ได้ง่ะ ตอนนั้นซื้อพร้อมกล้องฟิลม์ (ตอนนั้นเมื่อสิบปีมาแล้วด้วย)
เดินไปก็สงสัยไป นี่ต้นอะไรหนอ
แล้วก็สงสัยอีกว่า เขาสร้างทางเดินไม้ยังไงไม่ให้เกิดความสูญเสียกับป่า หรือเกิดน้อยที่สุด ง้งงงค่ะ
เมื่อมองลงไปด้านล่าง รูเต็มๆ เลย รูปูก้ามดาบ เห็นแล้วน้ำลายไหล นึกถึงส้มตำ เดี๋ยวๆ มาเที่ยว ดูธรรมชาตินะ มองหาอาหารซะแล้ว
รากโกงกางที่ขึ้นมาจากดิน ทำให้เรานึกภาพว่าใต้ดินนั้นคงมีรากของมันเกี่ยวกันแตกขยายมากมายทีเดียว แล้วข้างใต้นั้นจะมีสิ่งมีชีวิตมากมายอาศัยอยู่ อย่างน้อยก็ปูส้มตำ (เอร๊ยยยย) ปูก้ามดาบค่ะ
พอๆ เดินต่อเถอะ ลืมเรื่องกินสักพัก
เธอเห็นใบไม้นั่นไหม ฉันถ่ายมาไว้ให้เธอ
คือนั่งพักสักครู่ค่ะ ถนนเป็นของเรา จะนอนก็ได้นะเออ เพราะคนน้อยมาก ทำอะไรก็ไม่อายคน เพราะมีแต่ปลาตีนกับปูก้ามดาบ แต่พอเดินไปอีกนิด จะมีศาลานั่งพักนะคะ แหมถ้ามากับครอบครัว เอาศาลาเป็นที่ปิคนิค นั่งกินอาหาร ชมความเขียวของป่า ฟังเสียงนกร้อง ดูปลาจุมพรวด หรือถ้าอาหารหมด จับปูส้มตำ (เอาอีกแล้วววว) เปล่าค่ะเปล่า ถ้าอาหารหมดก็เก็บกวาด เอาขยะใส่กระเป๋า ไปทิ้งด้านนอก แล้วเดินต่อค่า
อนาคตข้างหน้ามีแสงรำไร แสงนั้นเดินทางมาหาฉันด้วยความเร็วเท่าไหร่กัน แต่ฉันสิ จะอีกนานแค่ไหน ถึงจะเดินไปจนถึงปลายทางแสงนั้น ก็ดูเอาสิ มีอุปสรรคอันโตขวางฉันอยู่แบบนี้ (เวิ่นเว้อบ้าง)
โอ้ นี่ไงล่ะชายฝั่งป่าชายเลน ตรงนี้มีปลาจุมพรวดเต็มไปหมดเลยค่ะ ตัวเล็กตัวใหญ่ตัวน้อย ลมทะเลก็พัดดีเชียว
เดินต่อมาเรื่อย เจอทางแบบนี้ด้วย วะว้าว อารมณ์แอดแวนเจอร์เชียว ว่าจะไม่พูดนะ แต่ที่เสาของสะพาน มีใครบางคนจารึกลายมือเอาไว้ บ้างก็ว่ามาถึงแล้ว บ้างก็บอกรักกัน บ้างก็ประกาศว่าเรียนที่ไหน เอ๊ะหรือว่า มีใครรับสมัครงานที่นี่
มือบอนหรือเปล่า ก็ไม่แน่ใจนะคะ นึกถึงพวกภาพเขียนผนังถ้ำ เลยไม่แน่ใจว่าลายจารึกมีคุณค่า ทางประวัติศาสตร์หรือเปล่า คิดกันเล่นๆ นะคะ
คำกระซิบรักของปู่หมาน กับ คำสารภาพรักของวัยรุ่น ก รัก ข มาก หรือคำจารึกบอกว่ามาถึงแล้ว กับ อะไรดี แล้ว ช ลูกสถาบัน ต อืม อาจทำให้คนรุ่นหลังอีกสองหมื่นห้าพันปีรู้ว่า บรรพบุรุษมีการศึกษา
เอาเป็นว่า ช่างมันเถอะ คหสต ของ จขบ บ้าง "ไม่ชอบค่ะ" แต่อย่าเอามาใส่ใจให้อารมณ์ขุ่น
เดินต่อเถอะ
เวลาเดินก็มองทางดีๆ นะคะ ไม้บางอันขาด ผุก็มี ก็อารมณ์แอดแวนเจอร์ไงคะ
"ไม้ผุก็ผุไป ไม่รู้หรอกว่าใครจะตกลงมาแต่ฉันมีบ้านอยู่ก็พอ" แมงมุมฝากบอก
ไม่ได้มีแต่ทางไม้นะเออ มีสิ่งปลูกสร้างแบบนี้ด้วย
เขาสร้างเพื่อให้เราเห็นสิ่งนี้
รากโกงกางไงคะ ดูกันให้เต็มตาไปเลย ว่างั้น
ที่สุดปลายทางของสะพานแขวนเป็นศาลาค่ะ ยื่นไปในป่าชายเลน ไม่ทราบว่าที่ตรงนี้จะเห็นอะไรเป็นพิเศษ อาจจะเป็นจุดดูนก แต่เราไม่ได้ใช้เวลานานมาก นั่งพักสักครู่ ฟังเสียงป่า ดัง เปาะ เปาะ เปาะ เปาะ เปาะ
สงสัยนะคะว่าเสียงอะไร พอกลับบ้านก็เร็วรี่เปิดอินเตอเนต ได้ความมาว่า เสียงที่ดัง เปาะ เปาะ เปาะ สังเกตปากค่ะ เปาะ เปาะ เปาะ เปาะ เป็นเสียงของปูก้ามดาบดีดก้ามข่มปูตัวอื่นว่าห้ามเข้ามานะ ถ้าเข้ามาฉันสู้
น่ารักดีนะคะ
นั่งนานก็ชักวังเวง เดินกันต่อเลยค่ะ
เดินดีๆ นะเธอ มัวแต่ชมนกชมไม้ เห็นไหมว่าทางมันขาด
ถ้าใครมากับแฟนหรือเพิ่งจีบกัน ที่นี่ช่วยคุณให้เพิ่มระดับความสวีทได้
คุณผู้ชาย "เธอจ๋า มามะ เราอุ้มเธอข้าม" คุณผู้หญิง "คิดอะไรกับเราหรือเปล่า แต่อุ้มก็อุ้ม"
แต่พอนานวันเข้า อยากจะขอห่างกันสักพัก เพราะเราไปกันไม่ได้
คุณผู้ชาย "เดินยังไงฟะ มีตาที่ตาตุ่มเสียเปล่า" คุณผู้หญิง "เดินเบาๆ สิยะ เดี๋ยวสะพานมันพังฉันจะตกไป"
ชีวิตก็มีหลายแบบต่างๆ นานา นะคะ แต่เราก็ยังเดินต่อ จะจูงมือกันเดิน หรือจะเดินคนเดียว ก็ต้องเดินต่ออยู่ดี
พอเดินมาจนเห็นเส้นทางสะพานไม้ตรงนั้น แสดงว่า เราใกล้ถึงทางออก คำถามคือ เส้นนั้นไปไหน ย้อนไป ดูแผนที่ อ๋อ เป็นทางลัดไงคะ สำหรับคนที่อยากเห็นทะเลไวๆ หรือ มาจนทะลุปรุโปร่ง รู้หมดแล้วทุกสิ่ง จำหน้า ปลาจุมพรวดได้ทุกตัว ซี้กับปูก้ามดาบจนเรียกพี่เรียกน้อง
แต่ก็อยากรู้นะว่า จะมีอะไรแปลกตาหรือเปล่า ถึงป็นทางลัด ก็เป็นอีกเส้นที่น่าลองนะ
เอาล่ะค่ะ สำหรับวันนี้ เดินกันไม่เมื่อยขาเลยค่ะ แต่ถ้าใครสนใจอยากมา เตรียมหมวกมาด้วยนะคะ ถ้าแดดร้อนล่ะก็แทบละลาย และเด็กๆ น่าจะชอบกัน แข่งกันนับปู นับปลาตีน เพลินดีนักแล
ปิดท้ายวันด้วยภาพถ่ายจากเกาะลอยค่ะ
ขอบคุณที่ร่วมเดินมาด้วยกันค่ะ
Create Date : 10 มีนาคม 2558 |
|
20 comments |
Last Update : 24 มีนาคม 2558 20:20:43 น. |
Counter : 1963 Pageviews. |
|
|
|
คุณแม่ลูกสองรึค่ะนี่ ยังงามพริ้งมากมาย ไม่บอกคิดว่ายังสาวสวยอยู่นะค่ะ
มุมมองและการเขียรเรื่องเล่าน่ารักมากคร้า....
ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆมาฝากกันค่ะ
ขอบคุณมากเช่นกันด้วยค่ะที่แวะทักทาย
ทักกันได้บ่อยๆนะคร้า....