"ปากีสถาน" สวยจนตะลึง ตอน 3 : เส้นทางข้ามชายแดนสูงที่สุดในโลก-คุนจิราบพาส
จากที่เคยบอกไว้ว่า ทริปปากีสถานนี้เราเดินทางกันครบทุกรสชาติจริงๆ
ตั้งแต่นั่งรถบัส รถจิ๊บ ขี่ม้า ล่องเรือ และต่อเครื่องภายในประเทศอีก
เย็นนี้ (16/1/13) เราจะข้ามจากเมืองฮุนซ่า (Hunsa) ไปยังเมืองพัสสุ (Passu)
โดยนั่งเรือข้ามทะเลสาบอัตตาบัด (Attabad Lake) ซึ่งเกิดจากดินถล่มเพราะแผ่นดินไหวเมื่อปี 2009
ลงมากั้นแม่น้ำฮุนซ่า จนกลายเป็นทะเลสาบสีเทอควอยส์แบบนี้
ซึ่งทะเลสาบนี้มีความยาว 21 เมตร และความลึก 103 เมตร
ขาวๆ ตรงซ้ายมือ คือ ส่วนที่ดินถล่มลงมาปิดกั้นถนน แล้วทำให้เกิดเป็นเขื่อนเล็กๆ ขึ้นมา
จากเมื่อก่อนที่สามารถขับรถข้ามจากเมืองฮุนซ่าไปพัสสุได้ ตอนนี้ต้องเปลี่ยนมานั่งเรือแทน
เราใช้เวลานั่งเรือกันเกือบ 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ก่อนหน้านั้นจะไปขึ้นเรือใกล้กว่านี้ แต่ด้วยความที่ภูมิประเทศเปลี่ยนไป จึงต้องนั่งเรือออกไปไกลขึ้น
เมื่อโลกเปลี่ยนแปลง เราก็ต้องปรับตัวกันไป
สภาพตอนนั่งเรือ
เหมือนเป็นพวกผู้อพยพเลย
ขึ้นมาบนฝั่งพัสสุแล้ว ก็ต้องนั่งรถบัสตุเลงๆ กินฝุ่นกันมาอีกสักพักกว่าจะถึงที่พัก
วันนั้นกว่าจะได้หลับได้นอนกัน ก็ปาเข้าไปค่ำมืดดึกดื่นแล้ว
ตอนเช้าถึงจะได้มีเวลาออกมาสำรวจบรรยากาศรอบๆ ที่พัก
เป็นอะไรที่แปลกตาไปอีกแบบ
กับภูเขาสูงๆ ที่มีหิมะปกคลุมอยู่ ตรงนี้อากาศเย็นๆ ยังไม่หนาวมากเท่าไหร่
กระโดดวอร์มร่างกายกันหน่อย ก่อนที่จะเริ่มเดินทาง
โปรแกรมวันนี้เน้นนั่งรถเป็นส่วนใหญ่ ระยะทางประมาณ 80 กม.
โดยจะขึ้นไปที่คุนจิราบพาส (Khunjerab Pass) ที่มีความสูงประมาณ 4,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล
ซึ่งมีชายแดนติดต่อกับประเทศจีน
ถนนหนทางระหว่างทาง
เป็นอะไรที่แปลกหูแปลกตาสำหรับเรามากๆ
หลับตาไม่ลงเลย อยากเก็บภาพแบบนี้ให้อยู่ในความทรงจำนานๆ
และสิ่งที่เรียกร้องความสนใจของพวกเราทั้งรถ
ก็คือต้นเชอรี่บอสซั่มที่อยู่เต็มสองข้างทางไปหมดเลย
พอเห็นทำเลเหมาะๆ ก็บอกให้คนขับจอดรถทันที
วิวนี้ล่ะที่วาดฝันเอาไว้ตั้งแต่ก่อนเดินทาง
"อยากมาเก็บภาพดอกเชอรี่บอสซั่มที่มีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะตั้งตระหง่านแบบนี้"
เก็บรูปมาหลายภาพหลายมุมเลย กดชัตเตอร์ให้มันเต็มที่ เราไม่มีโอกาสได้เห็นภาพแบบนี้บ่อยครั้งแน่ๆ
รู้สึกฟินไปทั้งวันเลยอ่ะ
ถนนหนทางที่นี่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศจีน
ข้อดีก็คือ ทำให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น
แต่เรากลับไม่ชอบนะ เพราะทำให้ความเจริญเข้าถึงง่ายขึ้น และกลัวว่าธรรมชาติต่างๆ จะถูกทำลายลง
ระหว่างทางมีอะไรให้เราตื่นเต้นตลอดเวลาเลย
มองไกลๆ เห็นน้ำตกข้างทาง ที่อากาศเย็นถึงขนาดที่น้ำมันแข็งอยู่อย่างนั้น
ระหว่างถนนสายมิตรภาพจีน-ปากีสถาน เรายังผ่านเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า
โชคดีมากๆ ที่เห็นกวางมาร์โคโปโลออกมาเดินเล่นอยู่ข้างทาง
แต่เราเห็นไม่ชัดเท่าไหร่ ต้องอาศัยพลังเลนส์ซูมเท่านั้นถึงจะทำให้เก็บภาพนี้ได้
ยิ่งขึ้นสู่ที่สูง อากาศเริ่มหนาวเย็นลงเรื่อยๆ น่าจะถึงขนาดติดลบเลยล่ะ
ก็หิมะขาวโพลนตลอดสองข้างทางขนาดนี้
ไกด์ท้องถิ่นรีบหันมาเตือนให้ลูกทัวร์ใส่แว่นกันแดดทันที
เพราะแสงแดดตกกระทบกับสีขาวของหิมะอย่างนี้ เป็นอันตรายกับนัยน์ตาของเรามากๆ
ถึงแล้ว...... "ด่านพรมแดนที่สูงที่สุดในโลก"
เป็นจุดที่มีความสูงที่สุดของถนนหลวงลอยฟ้าคาราโครัมย์ไฮเวย์
สมัยก่อนเป็นเส้นทางสายไหมระหว่างประเทศจีน อินเดีย และอัฟกานิสถาน
รถบัสที่เราใชัระหว่างการเดินทางในเมืองพัสสุ
เป็นรถบัสที่หลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่คันเท่านั้น ตั้งแต่ตอนที่เกิดแผ่นดินไหวแล้วไม่สามารถขับกลับแผ่นดินใหญ่ได้
จีนกับปากีสถานตกลงสร้างเส้นทางนี้ขึ้นในปี ค.ศ. 1964
โดยมีเทือกเขาคาราโครัมเป็นเส้นแบ่งแนวตามธรรมชาติ
เมื่อปี 1979 จีนได้สร้างส่วนของตนเองเสร็จ ตั้งแต่เมืองคัชการ์ ถึงเมืองกุลมิท ประเทศปากีสถาน
และปากีสถานได้มาสร้างต่อจากเมืองกุลมิทตอนใต้ถึงเมืองราวัลพินดี แล้วเสร็จในปี 1982
ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 1982 จึงเปิดเป็นเส้นทางท่องเที่ยว
รวมภาพสมาชิกร่วมเดินทางซะหน่อย
ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะมีโอกาสได้มายืนอยู่ ณ จุดนี้
เราเพิ่งรู้ว่าปากีสถานมีอะไรน่าเที่ยวมากมาย เมื่อตอนที่ได้มาเห็นด้วยสายตาตัวเองนี่ล่ะ
ก่อนที่จะเดินทางกลับ สมาชิกในกลุ่มเรียกร้องจะปลดทุกข์
คนขับก็ดี๊ดี เห็นมุมเหมาะเจาะลงตัว ก็จอดรถให้เราได้ทำภารกิจกันเลย
ตั้งแต่เที่ยวแนวนี้ พวกเราไม่เคยมองหาห้องน้ำอีกเลย ขอแค่มีเกราะกำบังกันอุจาดตา
ที่ไหนเมื่อไหร่ ก็จัดการได้ทันที
และมุมนี้ก็เรียกได้ว่า เป็น สุขาสุดฟินอีกแห่งหนึ่งของเรา
พอจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อย ก็รีบวิ่งมาถ่ายรูปกันต่ออีก
เกือบลืมตัวไปแน่ะว่า ที่นี่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเกือบ 4,800 เมตร ต้องคอยระวังว่าจะเกิดอาการแพ้ความกดอากาศสูง
ต้องเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ไม่อย่างนั้นจะทำให้เวียนหัวได้
จุดสำคัญของการท่องเที่ยวแนวนี้คือ ต้องเป็นคนที่กินง่าย นอนง่าย และทำตัวง่ายๆ รู้จักยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์
ระหว่างเส้นทางท่องเที่ยวนี้ไม่มีร้านอาหาร หรือจุดแวะพักใดๆ
ไกด์จึงเตรียมโรตีมาให้กินคนละอันเป็นอาหารกลางวัน
แค่นี้ก็ทำให้พวกเราอยู่รอดไปอีก 1 มื้อแล้ว
แอบยืมภาพสวยๆ บางส่วนมาจากเพื่อนร่วมเดินทาง และไกด์ประจำทริป ขอบคุณนะคะ ^^
เที่ยวปากีสถานย้อนหลังกับเราได้ที่นี่ค่ะ
"ปากีสถาน" สวยจนตะลึง ตอน 1 : แฟรี่มีโดวส์ (Fairy Medows) (Click!!!)
"ปากีสถาน" สวยจนตะลึง ตอน 2 : พักกายในรังนกอินทรีย์ (Eagle's Nest Hotel) เมืองฮุนซ่า (Click!!!)
แล้วพบกันใหม่ในบล็อกต่อไปนะคะ
Create Date : 28 มกราคม 2557 |
|
39 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2557 12:04:31 น. |
Counter : 8439 Pageviews. |
|
|
|
พรุ่งนี้มีคิวโหวตให้น้องริน มะรืนมาโหวตให้นะคะคุณหนึ่ง
ขอเอาไปแชร์หน้าแฟนเพจหน่อยนะคะ