...เรื่องกิน เรื่องเที่ยว เรื่องใหญ่สำหรับเรา...

1000MilesJourney
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 93 คน [?]




เรื่องกิน เรื่องเที่ยว เรื่องใหญ่สำหรับเรา

Group Blog
 
<<
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
11 กันยายน 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add 1000MilesJourney's blog to your web]
Links
 

 
เที่ยวไปในมหานครฉงชิ่ง (ChongQing) ประเทศจีน : ชวนชิมหม้อไฟเสฉวน

สถานที่ท่องเที่ยว : มหานครฉงชิ่ง, China
พิกัด GPS : 29° 29' 49.16" N 106° 43' 55.84" E




วันนี้มาปิดทริปมหานครฉงชิ่งให้จบซะที ไปเที่ยวตั้งแต่ปลายเดือนเมษาที่ผ่านมา ข้อมูลต่างๆ ก็เลือนๆ ไปบ้าง

ขอโทษสำหรับเพื่อนๆ ที่ถามเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเที่ยวแต่ละที่ด้วยนะคะ

ทริปนี้ไม่ได้ควักกระเป๋าจ่ายตังค์เอง เป็นทริปบินสบายๆ เที่ยวฟรีๆ สนับสนุนโดยเจ้านายใจดี 2 คน ก็เลยไม่มีข้อมูลด้านนี้ค่ะ

Smiley

 

การเดินทางครั้งนี้ของพวกเราใช้เวลา 4 วัน 3 คืน แต่จริงๆ วันที่ 4 ไม่ได้เที่ยวไหนเลย ต้องมาขึ้นเครื่องตั้งแต่เช้า

ตามโปรแกรมที่เจ้านายวางเอาไว้คือ

วันที่ 1 ช่วงบ่ายเดินเที่ยวเมืองโบราณ Ciqikou-อนุสาวรีย์ Jie Fang Bei-Cable car ชมวิวแม่น้ำแยงซี (Yangtze River)

วันที่ 2 ซื้อทัวร์กับทางโรงแรมไปเที่ยวเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติอู่หลง (Wulong) (ชมรีวิวย้อนหลังที่นี่)

วันที่ 3 ขึ้นรถบัสระหว่างเมืองไปเที่ยวเมืองมรดกโลกผาหินแกะสลักต้าจู๋ (Dazu) (ชมรีวิวย้อนหลังที่นี่)-ศูนย์การค้าหงหยาต้ง

Smiley   

 

การเดินทางในมหานครฉงชิ่งมีหลายรูปแบบ พวกเราเลือกนั่งแท็กซี่จากสนามบินมาที่โรงแรม

ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าแท็กซี่ 700 บาท (ถูกกว่าเมืองไทยอีก-จากชลบุรีไปสุวรณภูมิ เหมาแท็กซี่ก็ 1,000 บาทแล้ว)

แต่ก็ต้องทำใจกับสภาพภายในของแท็กซี่อยู่เหมือนกัน รู้สึกเหมือนเค้าไม่ค่อยได้ล้างรถ ดูเลอะๆ เขลอะๆ

Chongqing13

โรงแรมที่เราพักไม่มีรถไฟใต้ดินผ่าน จะไปไหนแต่ละทีก็เลยต้องอาศัยรถเมล์ (สะดวกสุด) หรือโบกแท็กซี่ (ไม่ค่อยมี)

ป้ายรถเมล์มีแต่ภาษาจีนเท่านั้น ตัวหนังสือสีแดงๆ คือสถานีรถไฟใต้ดินที่รถเมล์สายนั้นๆ ผ่าน

Chongqing14

ต้องขึ้นและจ่ายตังค์ด้านหน้า แต่ก็มีรถเมล์บางคันเหมือนกันที่มีกระเป๋ารถเมล์มาเก็บตังค์ตอนที่เรานั่งแล้ว

สังเกตตรงที่ถ้าขึ้นแล้วมีกล่องเก็บตังค์อยู่ข้างๆ คนขับ นั่นก็คือเราต้องจ่ายเงินตอนขึ้น ค่าโดยสาร 1-2 RMB

อย่าลืมเตรียมเหรียญให้พร้อม เค้าไม่มีเงินทอนให้ค่ะ

ช่วงชั่วโมงเร่งด่วนสภาพบนรถก็คงไม่ต่างจากบ้านเรา อัดแน่นกันเป็นปลากระป๋องเลย

ส่วนจะรู้ได้ยังไงว่าถึงป้ายที่เราจะลงแล้ว ก็ต้องคอยฟังเสียงประกาศ หรือดูป้ายข้างทาง ตรงป้ายรถเมล์จะมีเขียนชื่อสถานีอยู่

Chongqing15

ตอนไปเมืองจีนแรกๆ ก็สงสัยว่ามอเตอร์ไซค์พวกนี้คืออะไร บางทีเห็นเค้าเกาะกลุ่มกันเหมือนเด็กแว้นพร้อมลุยเลย

เพิ่งจะมาเข้าใจก็ตอนไปเมืองจีนครั้งก่อนว่าเป็น "มอเตอร์ไซค์รับจ้าง" นั่นเอง

เราก็มัวแต่ติดภาพมอเตอร์ไซค์รับจ้างบ้านเราว่าต้องใส่ยูนิฟอร์ม (เสื้อวิน) เหมือนกันตามแต่ละจุด

ลืมนึกไปว่าที่นี่เมืองจีนนะจ๊ะ ไม่ใช่เมืองไทยบ้านเราซะหน่อย

Chongqing16

ถ้าจะโดยสารรถไฟใต้ดินก็ให้มองหาป้ายเขียวๆ แบบนี้ ซึ่งบางทีก็หลบอยู่ตามหลืบตามมุม เดินหาซะตั้งนานแน่ะ

บางครั้งดูตามป้ายเล็กๆ บอกทางไปรถไฟใต้ดินก็ยังหาไม่เจอ เดินตามป้ายอยู่ดีๆ ป้ายก็หายไปเฉยๆ ซะงั้น

ทำเอาคนต่างถิ่นอย่างเรางงเลย @_@

Chongqing17

มีตู้ขายตั๋วรถไฟใต้ดินอยู่ข้างๆ สามารถเลือกได้ 2 ภาษา คือ ภาษาจีนและภาษาอังกฤษ

ใช้ได้ทั้งแบงค์และเหรียญ วิธีการก็ไม่ต่างแตกจากตู้ขายตั๋วโดยสารทั่วๆ ไป

Chongqing18

รถไฟใต้ดินที่นี่ดูใหม่มากๆ ขึ้น-ลงหลายสายแล้ว สภาพภายในไม่ต่างกันเลย

มีให้บริการแค่ 3 สาย และสถานียังไม่ถี่ซะเท่าไหร่ ตามป้ายข้างบนส่วนใหญ่เป็นสถานีในอนาคตทั้งนั้น

Chongqing19

หลังจากทะเลาะ แต่ยังไม่ถึงขั้นตบตีกับทางโรงแรม เราก็นั่งรถเมล์ออกมาเที่ยวเมืองโบราณ Ciqikou

(เรื่องที่ทะเลาะกับทางโรงแรมก็ไม่มีอะไรมาก

เพียงแค่พวกเราเข้าพักตรงกับช่วงวันหยุดยาว-วันแรงงาน และทางโรงแรมเรียกเก็บเงินเพิ่มอีก 20 RMB/ ห้อง/ คืน 

คืนละ 100 บาทอาจดูเหมือนไม่เยอะ แต่เป็นเรื่องที่เราไม่ควรจ่ายเพิ่ม เพราะเราจองโรงแรมผ่านอินเตอร์เน็ตมาเรียบร้อยแล้ว

ทะเลาะกันอยู่พักใหญ่ ทางโรงแรมก็ไม่ยอม พวกเราก็ไม่ยอมเหมือนกัน และบอกให้เค้าโทรไปสอบถามกับทางสำนักงานใหญ่

ตอนนี้ขอตัวออกไปเที่ยวก่อน เดี๋ยวตอนเย็นจะมาเอาคำตอบ ผลสรุปก็คือ ไม่ต้องจ่ายเพิ่มค่ะ)

Chongqing01

เมืองโบราณ Ciqikou เป็นหมู่บ้านอนุรักษ์วัฒนธรรม และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของมหานครฉงชิ่ง

ลักษณะก็คล้ายๆ กับตลาดเก่า ตลาดน้ำ หรือตลาดโบราณบ้านเรานั่นล่ะ

เป็นร้านค้าอาคารไม้สองชั้น (แอบคิดว่าไม่น่าใช่อาคารเก่าแก่ตั้งแต่สมัยโบราณอะไรหรอก เค้าน่าจะเพิ่งทำขึ้นมาใหม่มากกว่า)

Chongqing02

จริงๆ แล้วแถบนี้เป็นท่าเรืออันเลื่องชื่อด้านการค้าขายเครื่องลายครามตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง

เค้าก็เลยตกแต่งอาคารให้ออกมาในแนวโบราณๆ หน่อย มีพื้นที่ประมาณ 1.2 ตร.กม.

Chongqing03

เดินเข้ามาในเมืองโบราณ Ciqikou ตั้งแต่ร้านแรกก็เห็นคนมุงกันเพียบ แถวยาวเหยียดเลย เจ้านายเราก็ไปยืนต่อแถวกับเค้าด้วย

ขนมอันนี้เค้าเรียกว่า "หมาฮัว" แป้งทำเป็นเกลียวๆ แล้วทอด คล้ายๆ ขนมของบ้านเรานั่นล่ะ มีหลายรสชาติ หลายราคา

อย่างรสดั้งเดิม ราคา 12 RMB (60 บาท) รสน้ำผึ้ง12 RMB (90 บาท) รสเกลือพริกไทย 15 RMB (75 บาท) / ครึ่งกิโล

Chongqing04

ที่นี่มีขายของกินหลากหลายมาก แต่ไม่ได้ชิมอะไรสักอย่าง บอกตรงๆ ว่า ไม่กล้ากิน

ผลไม้เคลือบน้ำตาล แบบนี้ไปที่ไหนก็ต้องเห็น เคยซื้อกินครั้งหนึ่งที่ปักกิ่ง เหมือนกินน้ำตาลมากกว่าผลไม้ ครั้งเดียวเลิกเลย

Chongqing05

อันนี้คล้ายๆ ขนมสายไหมบ้านเรา แต่มีรูปทรงสวยๆ

เห็นวัยรุ่นสาวๆ เดินถือกินกันเป็นแถว

Chongqing08

ร้านขายอาหาร

แต่ไม่น่าจะใช่หน้าร้าน เห็นมีโต๊ะตั้งอยู่แค่ตัวเดียวเอง

Chongqing06

บางพื้นที่ก็ต้องเดินขึ้นเนินเตี้ยๆ ช่วงแรกๆ ยังมีแรงเดินอยู่ เดินกันทุกซอยเลย

แต่ตอนหลังๆ ไม่ไหวแล้ว ขาจะหลุด

Chongqing07

น่าจะเป็นของฝากขึ้นชื่อของที่นี่นะเนี้ย แต่คงไม่เหมาะที่จะซื้อกลับมาฝากคนบ้านเรา

ลักษณะคล้ายๆ พริกดอง เห็นเค้าเอาพริกสดๆ มาสับๆ แล้วก็ใส่โหลขาย

Chongqing09

อันนี้ลองชิมไปหน่อยนึง อร่อยดี

พริกแห้งคั่วใส่ถั่วลิสง พริกเค้าเม็ดใหญ่ดีจัง

ไม่ได้ซื้อกลับมาอีกเหมือนเคย เพราะสังเกตว่าถ้าเป็นขนมหรือของกินจากเมืองจีน ทุกคนต้องร้องยี้ แล้วส่ายหน้าตลอดๆ

Chongqing10

ร้านนี้มีขายเนื้อย่างหลายย่างเลย อันนี้น่าจะเป็นเนื้อแพะย่าง

สีสันดูน่ากินเชียว

Chongqing12

เดินมาจนสุดทางจะเจอท่าเรือ ซึ่งเมื่อก่อนเป็นเมืองท่าสำคัญ

ตรงนี้สายน้ำเจียเหลียงซึ่งจะไหลไปบรรจบกับแม่น้ำแยงซี

ด้านล่างมีขายอาหารและขนมอีกเยอะแยะเหมือนเคย ตรงนี้ที่รายการที่นี่หมอชิตเคยมาถ่ายทำรายการกัน

Chongqing11

ช่วงปลายเดือนเมษาที่มาเที่ยวที่ฉงชิ่งนี้ อากาศกำลังสบายเลย  อุตส่าห์เตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย ไม่ได้ใช้เลย

แต่เห็นเค้าบอกว่า ช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม จะร้อนมาก อุณหภูมิสูงถึง 43 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว

ฉงชิ่ง ครองอันดับหนึ่งในฐานะ “เมืองเตาไฟ” ของจีน อีก 2  เมือง คือ อูฮั่น และนานกิง

ซึ่งทั้ง 3 เมืองตั้งอยู่สองฝั่งของแม่น้ำแยงซีทั้งสิ้น

Chongqing20

ย่านการค้าอีกแห่งหนึ่งที่คึกคัก คือ บริเวณลานอนุสาวรีย์ Jie Fang Bei ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางสำคัญ

อนุสาวรีย์ Jie Fang Bei เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะต่อผู้รุกรานในสงครามโลกครั้งที่สอง

ปัจจุบันรอบล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงภาพยนตร์ อาคารพาณิชย์มากมาย

Chongqing21

ขึ้นรถไฟใต้ดินที่สถานี Xiao Shen Zi เจ้านาย 2 คนช่วยกันดูแผนที่

พวกเราวางแผนกันไว้ว่า คืนนี้จะไปขึ้น Cable car ข้ามแม่น้ำแยงซี

จากสถานีนี้เดินไปไกลอยู่เหมือนกัน เดินซะจนไม่รู้ว่ามาถูกทางรึเปล่า มาถามตำรวจเอาตอนที่เจอป้ายพอดี

Chongqing22

จะไม่ให้งงได้ยังไงล่ะ

ภาพในหัวสมองของเราคือมันน่าจะคึกคักหรือครึกครื้นมากกว่านี้นะ แหม...จุดชมวิวแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นแม่น้ำสำคัญของจีนเลยนะ

แต่ตั้งแต่สถานีรถไฟใต้ดินจนมาถึงสถานีขึ้น Cable car แทบจะไม่มีไฟทางเลยมืดๆ สลัวๆ พิกล

ค่าขึ้น Cable car เที่ยวละ 5 RMB

เข้ามาข้างในก็เงียบเหงาเงียบเชียบเชียว อุตส่าห์วาดภาพไว้ซะสวยหรู

และ Cable car ที่จะพาเราข้ามฝั่งก็ไม่เลิศเลออะไรนะคะ ลักษณะเป็นแบบในภาพเลย

เหมือนตู้สินค้า และมีรอกดึงข้ามแม่น้ำมากกว่า

Chongqing23

ที่นั่งมีน้อย ที่ยืนมีเยอะ แต่ไม่ต้องแย่งกัน

ขนาดเป็นวันหยุดยาว คนยังโล่งซะขนาดนี้ ผิดหวังอย่างแรง!!!

Chongqing24

วิวยามค่ำคืนจากบน Cable car (ถ่ายภาพกลางคืนไม่ชัด แต่ยังกล้าเอามาลงให้ดูนะคะ)

นอกจากนี้ยังมีบริการล่องเรือชมวิวแม่น้ำแยงซีตอนกลางคืนด้วย

แต่ดูเงียบๆ ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ สู้ที่เซี่ยงไฮ้ไม่ได้

Chongqing25

Chongqing26

Chongqing27

อีกวันหลังกลับจากต้าจู๋เมืองแห่งหินผาแกะสลักแล้ว เราก็มาที่หงหยาต้ง (Hongyadong) อีกหนึ่งที่เที่ยวของฉงชิ่ง

ลักษณะภูมิประเทศของฉงชิ่งอยู่ในหุบเขา ทำให้อากาศขมุกขมัวแบบนี้ตลอดเวลา

ฉงชิ่งมีแม่น้ำสำคัญ 2 สาย คือ "แม่น้ำเจียหลิง" ที่ไหลมาจากจิ่วไจ้โกว มารวมกับ "แม่น้ำแยงซี"

ที่ฉงชิ่งมี "ล่องเรือสำราญชมทัศนียภาพของแม่น้ำแยงซี" เป็นอีก 1 โปรแกรมที่ไม่ควรพลาด

แต่ต้องมีเวลาอย่างน้อยๆ สัก 4 วัน 3 คืน ซึ่งจะไปสิ้นสุดตามเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่แอบตั้งเป้าหมายเอาไว้กับตัวเองว่า สักวันต้องมาเยือนให้ได้

Chongqing28

ที่หงหยาต้งมีร้านหม้อไฟเสฉวนชื่อดังอยู่ ตามเว็บของเมืองจีนจะแนะนำร้านนี้กันเยอะ

แต่สำหรับพวกเราแล้ว ไม่ถูกปาก ไม่ถูกใจ และไม่ถูกเงินด้วย ก็เลยขอไม่แนะนำดีกว่า

เอาแค่ภาพมาให้ชมกัน เดี๋ยวจะมีร้านอร่อยๆ และถูกตังค์มาแนะนำตอนสุดท้ายค่ะ

Chongqing30

น้ำจิ้มที่เราสามารถปรุงรสได้ตามใจชอบ

จริงๆ แล้วก็ไม่รู้หรอกว่าต้องใส่อะไร ยังไง เท่าไหร่ อาศัยมั่วๆ เอา แล้วลองชิมดู

ถ้าไม่ถูกใจก็ค่อยมาเติมมาปรุงทีหลัง

Chongqing29

หงหยาต้ง (Hongyadong) อาคารสูง 11 ชั้น ฝังตัวอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำแยงซี ที่นี่เคยเป็นป้อมปราการเก่าแก่มาก่อน

ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางค้าอีกแห่งหนึ่งของเมืองฉงชิ่ง และเป็นจุดถ่ายรูปที่สำคัญของนักท่องเที่ยว

แต่ที่เป็นเอกลักษณ์และแตกต่างจากศูนย์การค้าอื่นๆ คือ ภายในปราสาทโบราณนึ้มีร้านค้าขายอาหาร และสินค้าท้องถิ่น

ศูนย์วัฒนธรรม โรงละครพื้นเมือง ถ้ำหินเก่าแก่ และโรมแรมขนาดมาตรฐานที่ตกแต่งแบบจีน

มีภัตาคารและผับบาร์ทันสมัย

Chongqing31

สำหรับสินค้าพื้นเมืองหรือของที่ขายที่นี่ ก็คล้ายๆ กับที่เมืองโบราณ Ciqikou และตามที่ท่องเที่ยวทั่วไปนั่นล่ะ

ที่เมืองจีนเค้าเข้าใจเอาสถานที่สำคัญโบราณมาทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และปรับปรุงใหม่ให้ดูเก่าๆ (งงมั้ย?)

เมื่อก่อนเวลาบอกว่าจะไปเที่ยวเมืองโบราณที่จีน จะดีใจมาก แต่หลังจากที่ได้ไปเที่ยวมาแล้วหลายๆ ที่

ดูๆ ไปก็คล้ายคลึงกันไปหมด บางครั้งก็เห็นเค้ากำลังก่อสร้างเมืองโบราณ (ใหม่ๆ) อยู่

Chongqing32

มาถึง "หม้อไฟเสฉวน" ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เรารับปากเจ้านายทันทีทันทีว่าจะมาเที่ยวฉงชิ่งด้วย

ร้านนี้เจอโดยบังเอิญ อยู่ชั้นใต้ดินของอาคารที่เดินผ่านระหว่างจะไป Jie Fang Bei

"Ya Mi" ที่เลือกร้านนี้เพราะเห็นคนต่อคิวกันเยอะ แสดงว่าน่าจะอร่อยอยู่ล่ะ

เห็นร้านนี้อยู่ตามในเมืองด้วย คงจะเป็นแฟรนไชส์เหมือนสุกี้ชื่อดังบ้านเรา

Chongqing33

มีอาหารให้เลือกหลายชุด น้ำซุปก็มีให้เลือก 5 อย่าง

ประมาณ 150-200 บาทต่อชุด ราคานี้ถือว่าไม่แพงเลย กินได้ 1 อิ่มสบายๆ

 

สงสัยกันมั้ยว่า "หม้อไฟเสฉวน" แต่ทำไมถึงมีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองฉงชิ่งล่ะ

เมื่อก่อนฉงชิ่งเป็นหนึ่งในเมืองปกครองของมณฑลเสฉวน (ซื่อชวน) แต่เมื่อปี 1997 ได้แยกตัวออกมาขึ้นตรงกับรัฐบาลกลาง

1 ในหม้อไฟเสฉวนที่เค้านิยมกินกันคือ "หมาล่ากัว" หรือน้ำซุปที่มีส่วนผสมของพริกเสฉวนและยี่หร่า

ชาวเมืองฉงชิ่งและเสฉวนนิยมกินอาหารรสเผ็ดร้อน และชาลิ้น ซึ่งความเผ็ดนี้จะเผ็ดคนละอย่างกับบ้านเรา

Chongqing34

ด้วยความที่เป็นคนชอบกินผักต้มนิ่มๆ ก็เลยเอาผักใส่ลงไปก่อนเลย ต้มนานๆ จะได้นิ่มสมใจอยาก

แต่จะบอกว่า คิดผิดจริงๆ ที่ใช้วิธีการนี้กับหมาล่ากัว (น้ำซุปยี่หร่าและพริกเสฉวน)

เพราะน้ำซุปซึมเข้าไปในผักและเนื้อ ทำให้อมความเผ็ดร้อนไว้ข้างใน กินไปได้ไม่เท่าไหร่รู้สึกชาลิ้นจนกินต่อไปไม่เลย

ตอนแรกๆ ก็บอกกับตัวเองแล้วว่า ต่อไปจะไม่กินน้ำซุปแบบนี้อีกแล้ว เข็ดจนตาย

แต่ยังไม่ทันจบทริปเลย วันที่สองที่ได้ไปกินหม้อไฟเสฉวนกันอีก ก็ไม่วายสั่งหมาล่ากัวมาอีกรอบ กินให้คุ้นเคยกันไปข้างนึงเลย

Chongqing36

มาอ่านเจอวิธีการกินหม้อไฟให้ดีต่อสุขภาพในเว็บไซด์ของผู้จัดการรายวัน เค้าให้ข้อมูลเอาไว้ดังนี้

               Smiley ลำดับการรับประทานหม้อไฟหรือสุกี้สไตล์จีนแท้ เริ่มด้วยน้ำผลไม้ครึ่งถ้วยเล็ก ต่อด้วยผักและตามด้วยเนื้อ

Smiley เครื่องดื่มแนะนำ ได้แก่ น้ำผลไม้ต่างๆ น้ำมะพร้าว น้ำเมล็ดแอปปริคอต (น้ำสีขาว) บางแห่งก็เสิร์ฟหม้อไฟพร้อมนมเปรี้ยว

สำหรับชาจีน (แบบเย็น) ก็ช่วยแก้เลี่ยนได้ดี ส่วนเหล้าขาวและเหล้าองุ่นเหมาะกับหม้อไฟเนื้อแพะที่สุด 

บางคนดื่มน้ำอัดลมเพราะเชื่อว่าช่วยย่อยและขับลมดี 

Smiley แต่มีข้อห้ามว่า อย่าดื่มเบียร์ขณะกินหม้อไฟ เพราะอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคปวดตามข้อ (โรคเกาต์)

ที่รุนแรงกว่านั้นทำให้เป็นโรคปัสสาวะเป็นพิษ โรคนิ่วในไต
       
       Smiley นอกจากเนื้อสัตว์แล้วหม้อไฟเป็นแหล่งวิตามินที่สำคัญที่ได้จากผักสดนานาชนิด

เมื่อจะรับประทานจึงนำไปลวกอย่าปล่อยให้ต้มในหม้อนานเกินไป ส่วนเนื้อสัตว์ควรลวกอย่างน้อย 1 นาที

 

Smiley การกินหม้อไฟยังไม่ควรรับประทานรวมกับผักหลายชนิดเกินไป เพราะผักบางชนิดกินร่วมกันอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ

เช่น ผักกาดขาวไม่กินกับเห็ดหูหนู เห็ดหูหนูอาจทำให้เกิดอาการผิวหนังอักเสบ

Smiley มันฝรั่งซึ่งเป็นพืชที่นิยมใส่ในหม้อไฟ หลังรับประทานแล้วไม่ควรกินกล้วย เพราะอาจจะทำให้เกิดจุดด่างบนใบหน้า
       
       Smiley เนื้อแพะที่บางคนชอบรับประทานจิ้มกับน้ำส้มจิ๊กโช่หรือซอสเปรี้ยว ถึงแม้จะให้ความรู้สึกอร่อยชุ่มคอและกินได้มาก

ความจริงวิธีกินแบบนี้ไม่ถูกต้อง เนื่องจากเนื้อแพะเป็นเนื้อสัตว์ประเภทร้อน ช่วยกระตุ้นเลือดลม ทำให้ร่างกายอบอุ่น

แต่น้ำส้มรสเปรี้ยวที่อุดมด้วยวิตามิน โปรตีนและช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางชนิดได้ต้องกินควบคู่กับอาหารประเภทเย็น เช่น เนื้อปู 

ดังนั้นหากรับประทานกับเนื้อแพะนอกจากจะทำให้คุณประโยชน์ของอาหารทั้งสองชนิดลดลงแล้ว ยังอาจเป็นพิษต่อร่างกายได้

Smiley นอกจากนี้ การตุ๋นยาจีนกินกับหม้อไฟก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ต้องควรระมัดระวังอย่างมากเช่นกัน
       
      Smileyผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำอีกว่า ไม่ควรดื่มน้ำแกงในหม้อไฟ เพราะถึงแม้น้ำแกงยิ่งต้มนานๆรสชาติจะยิ่งเข้มข้น

แต่ก็มีระดับสารเคมีที่มีผลเสียต่อการทำงานของไตมากด้วยเช่นกัน

 Smiley และหลังรับประทานหม้อไฟอิ่มแล้วควรดื่มชาจีน เพื่อล้างความมันและเพิ่มความชุ่มคอ

Chongqing35

แนะนำว่า หากใครมาถึงเมืองฉงชิ่งแล้ว ลองชิมหม้อไฟเสฉวน แบบหมาล่าหั่วกัวดูนะคะ

โดยส่วนตัวชอบกินเนื้อแพะ รู้สึกว่าเนื้อแพะกินกับหม้อไฟแบบนี้รสชาติเข้ากั๊นเข้ากันที่สุดแล้ว

เป็นทริปแรกๆ ที่เล่าจนจบ จริงๆ ปีนี้มีโอกาสได้เดินทางหลายทริป แต่ยังเล่าไม่จบ หรือยังไม่ได้เอามาเล่าสู่กันฟัง

จะพยายามกระตุ้นความขยันส่วนบุคคลออกมาเยอะๆ จะได้ถ่ายทอดประสบการณ์การท่องเที่ยวให้ได้ชมกันค่ะ Smiley Smiley




Create Date : 11 กันยายน 2555
Last Update : 11 กันยายน 2555 12:56:43 น. 40 comments
Counter : 30605 Pageviews.

 
เจิมมมมมมม ก่อน เดี๋ยวค่อยพินิจพิศดูอีกรอบจ้ะ






โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 11 กันยายน 2555 เวลา:13:55:52 น.  

 
พีไม่มีโอกาสได้ไปแน่ ได้ไปเที่ยวกับน้องหนึ่งก็เอาละ

เคยได้ยินเหมือนกันจ้ะ ชมทัศนียภาพของแม่น้ำแยงซีเกียง เห็นเค้าว่าเหมือนเรือสำราญนอนในเรือเลยอะไรแบบนั้้น เป็นทริปในฝันของใครหลายคนเหมือนกันจ้ะ

หม้อไฟเสฉวน พี่เคยได้ยินชื่อแต่ไม่รู้เค้าหน้าตาแบบนี้

วันนี้มีไอคอนน่ารักๆ เยอะ น้องหนึ่งเขียนบล็อกรูปแบบใหม่ใช่มั้ย พี่ยังใช้ไม่เป็นเลย ตอนลงรูป เค้าบอกว่ารูปพี่เกิน 150 kb ตลอดเลย จริงๆ ไม่เกินนะ งงๆ จนเดี๋ยวนี้ เลยกลับไปใช้แบบเก่าจ้ะ





โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 11 กันยายน 2555 เวลา:14:24:06 น.  

 
มาเที่ยว ชอบจัง อธิบายละเอียดมากเลยอ้ะคุณหนึ่ง

โหวตให้แล้วน้าา

เดี๋ยวขอเอาไปแชร์หน้าเฟซหน่อยนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 11 กันยายน 2555 เวลา:14:29:33 น.  

 
อยากไปชิมด้วยนะค่า คุณ 1
ขอหาค่าตั๋วก่อนน่ะค่า



โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 11 กันยายน 2555 เวลา:16:25:34 น.  

 
มีแต่ของกินๆๆ อ้วนๆๆๆ


ขอดูหน้าเจ้าของบล็อคมั่งซิ อ้วนขึ้นป่าวเนี่ย


โดย: Nongpurch วันที่: 11 กันยายน 2555 เวลา:16:34:10 น.  

 
ได้ความรู้ดีจังค่ะน้องหนึ่ง เรื่องการกินหม้อไฟ
อ่านเพลินเลย ว่าแล้วก็อยากลองชิม


โดย: coji วันที่: 11 กันยายน 2555 เวลา:16:44:11 น.  

 
น้องหนึ่งเดินทางเยอะจริงๆครับ
ในแต่ละเดือนพี่ก๋าว่าน้องหนึ่งเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้เลย

พี่ก๋าเคยมีความฝันเรื่องกาเรดินทางท่องเที่ยว
แต่พออายุมากขึ้น
การเดินทางเปลี่ยนไป

พี่ก๋าอยากเดินทางด้านในมากกว่า

อยากให้ใจสงบ
อยากให้ชีวิตราบเรียบและราบรื่นครับ

สงสัยเป็นไปตามวัย 555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กันยายน 2555 เวลา:18:15:15 น.  

 
ตอนไปเสฉวนก็ทานเจ้าหม้อไฟนี้เหมือนกันค่ะ
เข็ดเลย เผ็ดมากและลิ้นชา


โดย: VELEZ วันที่: 11 กันยายน 2555 เวลา:20:15:28 น.  

 
โห วันนี้มาแปลก
บล็อกยาวเป็นพิเศษ แถมเล่าแบบหนักหน่วง
ต้องเพียรพยายามอ่าน เหมือนท่องทำเป็นอย่างมาก 555
จะจำได้มั้ยเนี่ย

สวดยอดเลย แบคแพคเมืองจีน
พี่ขอไปแบบทั่วดีกว่า ขนาดทัวร์อยู่ดีกินดี
ยังที่กินที่เที่ยวต้องแย่งกัน
เข้าห้องน้ำที อั๊ยยะ

ยิ่งพูดจีนไม่ได้อีก ตาย ๆๆ
ว่าแต่หนึ่งจะไปอีกเมื่อไหร่อ่ะ ปายด้วย ฮี่

หม้อไฟเสฉวน แบบหมาล่าหั่วกัว เนี่ย
ที่ปักกิ่งมีมั้ย เดือนหน้าจะไปชิม อิอิ

หนึ่งจำเดือนปีที่เราเจอกันครั้งแรกได้ด้วยเหรอ
ความจำเป็นเลิศ พี่จำไม่ได้แล้วอ่า
รู้แต่ว่า ตื่นเต้นมาก ภาพที่ขึ้นในบล็อกพี่
เป็นภาพครั้งแรกที่เจอกันเลย จำได้แค่เนี่ย 555

อั่นแน่ อยากไปนอนแถวแม่แจ่มละสิ
รึจะไปนอนบนดอยแม่อูคอ ช่วงตุลากำลังพีค
เส้นทางเดียวกันเลย มาดิๆๆๆ
อยากไปด้วย แต่จะทิ้งลูกได้ปล่าวไม่รู้นี่สิ

วันนี้เจ้าแต๊งค์ก็ล้มหัวโนเท่าลูกมะนาวไปแล้วอะ
หัวใจแม่มันจะวาย ยายคว้าตัวไม่ทัน
กึ่งเดิน กึ่งวิ่ง ยายก็ซอยเท้าวิ่งตาม
เดินผ่านที่ล้างมือ ลูกค้าล้างแรง น้ำกระเด็ดทำให้พื้นแฉะ
เจ้าแต๊งค์เลยเป็นเหยื่อ เฮ้อ..

ให้ยาแก้ปวด กับ เอาาเบตาดีนใส่แผลให้
นี่ท่าแตกอีก คงเข้า รพ.เป็นว่าเล่นเดือนนี้
หัวแตกคราวที่แล้ว พี่ที่ดูแลยังไม่เอาเงินเคลมมาให้เลย

ช่วงนี้ปรับปรุงร้าน ทั้งด้านหน้าด้านหลัง
หนึ่งมาอีกที อาจเห็นร้านใหม่ อิอิ




โดย: JinnyTent วันที่: 11 กันยายน 2555 เวลา:21:23:23 น.  

 
สวัสดีตอนดึกๆ ครับคุณหนึ่ง ขอบคุณที่แวะไปชวนมาเที่ยวฉงชิ่งต่อครับ .....

บล็อกเอนทรี่นี่ เีขียนได้ยาวอย่างที่คุณจินบอกจริงๆ เข้าใจว่าตั้งใจให้จบทริปในบล็อกนี้สินะครับ ....

ดูภาพเมืองฉงชิ่งแล้ว บ้านเมืองเขามีตึกสูงๆ อยู่เยอะเหมือนกันนะครับ
ดูเจริญมาก ผิดกับภาพเมืองจีนสมัยก่อนๆ ที่เคยเห็นเลย
ไม่แปลกใจเลยที่เขาบอกกันว่า จีนมุ่งมั่นจะเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลก ....

หม้อไฟเสฉวน คล้ายๆ พวกชาบู ชาบู ในบ้านเรานะครับ
แต่คงจะต่างกันที่น้ำซุปและน้ำจิ้ม
อ่านเทคนิคการทานหม้อไฟแล้ว รู้สึกว่าแค่จะทานให้อร่อย มันต้องมีเทคนิคซับซ้อนขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย .....



โดย: NET-MANIA วันที่: 11 กันยายน 2555 เวลา:22:00:13 น.  

 
สวัสดีค่ะ แวะมาทักทายค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ


โดย: นู๋หนึ่ง (DDD1987 ) วันที่: 11 กันยายน 2555 เวลา:22:08:58 น.  

 
อิ๊ยะ เชื่อแล้วจร้า ความจำดีเป็นเลิศ
อ่านที่หนึ่งเล่า ความทรงจำเก่า ๆ กลับมาโม๊ดดดเลย
ไม่รู้ไปหลบมุมอยู่ทีไหน หนึ่งสะกิด
พรั่งพรูมาเลย แหะ แหะ

ยังไม่นอนอีก
ไป ๆ นอนได้แล้ว พี่นะ ดึกจนชิน
เพราะกำลังปิดและเก็บร้าน
ไปแระ ดูเด็ก ๆ ก่อน


โดย: JinnyTent วันที่: 11 กันยายน 2555 เวลา:22:18:16 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องหนึ่ง






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 กันยายน 2555 เวลา:6:11:41 น.  

 
หนึ่งจ๊ะ เยี่ยมมาก จัดสรรเวลามาอัพบลอกให้ได้อ่านอย่างสนุก

ไว้จะมาอ่านอย่างละเอียดลอออีกรอบนะ ภาพสวยเหมือนเดิมจ้ะ อ่านหลายๆรอบ กระตุ้นให้เราอยากเดินทางอีก รู้สึกว่างเว้นมานานไปแล้ว



โดย: รักแรกคลิก IP: 204.136.218.8 วันที่: 12 กันยายน 2555 เวลา:7:52:51 น.  

 
หวัดดีครับคุณหนึ่ง...

หลังจากอ่านจากบล๊อกคุณหนึ่งเกี่ยวกับ
มหานครฉงชิ่งแล้ว...ก้ไปเจอตามทีวีอีกหลายที่
เมืองนี้เขากำลังมีปัญหาเรื่องแม่น้ำแยงซีกลายเป็นสีแดง
เห็นแล้วน่ากลัว..แต่เขาบอกว่ามาจากทรายภูเขา..

เมืองนี้น่าสนใจมากโดยเฉพาะเรื่องหินแกะสลักที่ภูเขา
สุดยอด และอลังการจริงๆ
จีนนี่ทำอะไรที่คนชาติอื่นทำไม่ได้มากมายนะครับ...

ขอบคุณสำหรับข้อมูล... จะเก็บเอาไว้เผื่อได้ไปครับ


โดย: wicsir วันที่: 12 กันยายน 2555 เวลา:8:53:48 น.  

 
ทักทายสวัสดีกับคุณหนึ่งครับ

ชมภาพสวยๆ กันอย่างประทับใจ
ไว้มีโอกาสจะตามไปย้อนรอยบ้างครับ


โดย: ถปรร วันที่: 12 กันยายน 2555 เวลา:13:09:34 น.  

 
ทั้งเที่ยวทั้งกิน จุใจจริงๆเลยน้องหนึ่ง


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 12 กันยายน 2555 เวลา:13:49:58 น.  

 
มาแล้วค่าคุณหนึ่ง
เห็นมอไซด์บ้านเค้าแล้วก็คิดว่า ใครจะใช้บริการกันนะ่อิอิ
เพราะที่นั่งแทบไม่มีเลยค่ะ
แต่มีที่แบบว่า ไว้บรรทุกของซะมากกว่า

ไม่มีเสื้อวินด้วย ทำให้ดูยากว่าบ้านเรา พอดีเราติดตากับกลุ่มเสื้อวินก็งี้ อิอิ



หม้อไฟเสฉวน อาหารต้องลองเพราะการันตีจากคุณหนึ่งแล้ว
อิจฉาน้อมีเจ้านายใจดี ใจป้ำออกค่าตั๋วค่าที่พักชวนไปเที่ยวอย่างนี้
ไม่ใช่เจ้านายคนไทยใช่ป่าวค่า หายากแท้ อิอิ





โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 12 กันยายน 2555 เวลา:14:53:50 น.  

 
นอกจากจะเห็นภาพแล้วอยากอาหาร และอยากชิมหม้อไฟ
ดูบ้างแล้ว ยังทำให้แบบว่าได้ความรู้มากมายเลยเหมือนกันนะค่ะ
สำหรับการกินหม้อไฟที่ถูกต้อง และก็ทางแก้สำหรับ
อาหารกินไปแล้วต้องดื่มอะไรบ้างไปแก้ลำกัน ..

ว่าไปแล้ว "ชา" ที่เราเห็นว่ามันก็คือชา
มันช่วยเรื่องของสุขภาพหลายอย่างเน๊าะ


อ่านเรื่องนี้แล้ว ต้องศึกษาเพิ่มเติมสำหรับประโยชน์
และโทษของอาหารบางอย่างแล้วก็ต้องจัดการยังไงในระดับ
หยิบ-หยางที่ถูกต้อง ... น่าศึกษาจริงๆ ค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 12 กันยายน 2555 เวลา:16:58:35 น.  

 
นึกว่ามาไม่ทันหม้อไฟเสฉวนซะแล้ว
วันนี้น้องหนึ่งเขียนบล๊อกได้เยี่ยมมาก มาเที่ยวพากินแบบละเอียดเชียว
เมืองโบราณน่าสนุกดีนะคะ พี่ชอบเดินบรรยากาศแบบนี้มากกว่าเดินห้างอีก

รีวิวหม้อไฟหัวกัวเพิ่งรู้ว่ามีวิธีกิน มีข้อห้ามหลายอย่างด้วย
พี่รู้แต่ว่าไปกินหัวกัวต้องสั่งเนื้อแพะ อร่อยสุด
ส่วนน้ำจิ้มแบบที่มีส่วนผสมให้ผสมเองเห็นลูกน้องที่เป็นคนเสฉวนเคยบอกว่า
เป็นน้ำจิ้มสไตล์ไต้หวัน ถ้าดั้งเดิมจริงๆ จะเป็นน้ำจิ้มแบบงาบด
เพราะจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย
แต่พี่ก็ชอบแบบส่วนผสมหลายอย่างนะ ตอนปรุงน้ำจิ้มสนุกดี
น้ำซุปแบบสีแดงใส่หมาล่า เมื่อก่อนไม่ชอบอย่างมาก
แต่คงแบบหนึ่งมั๊ง ทานบ่อยๆ ให้ชิน ตอนสมัยทำงานที่ปักกิ่ง
เข้าร้านหัวกั่วก็เลือกเอาน้ำซุปแบบใสและเอาน้ำจิ้มสุกี้ทำเองแบบไทยไป
แต่ตอนหลังไปอยู่บ้านเขาก็ต้องหลิ่วตาตาม กินไปกินมา เออ...อร่อยดีเนาะตอนนี้อยากกินก็ไม่ได้กิน คิดถึงน้ำซุปเผ็ดซ่าลิ้นของหมาล่า
ถึงเดี๋ยวนี้มีน้ำซุปซองขายให้ทำกินที่บ้าน แต่ไม่เหมือนนั่งกินที่้ร้าน
กินสุกี้ต้องแย่งกันจ้วงถึงอร่อย

ขนมแป้งทอดเกลียวเห็นบ่อยคงเป็นขนมยอดนิยม
บางทีทอดมาจนพูนรถสามล้อ เห็นคนมุงซื้อกันแยะ
แต่พี่ไม่เคยกิน ดูแล้วไม่น่ากิน กลัวไม่อร่อย
เพราะขนมเมืองจีนจะจืดๆ ชืดๆ ยิ่งของทอดจะอมน้ำมันมาก
แต่ที่พี่ชอบก็เนื้อแพะเสียบไม้ย่าง เห็นที่ไหนต้องพุ่งเข้าซื้อทุกครั้ง
เป็นแพะย่างใส่เครื่องเทศยี่หร่าแบบแขกมาจากทางซินเจียง
พริกแห้งเป็นท่อนๆ เอามาทำผัดไก่อร่อยมากค่ะน้องหนึ่ง
เป็นเมนูดังของทางเสฉวนเลยนะ

มาเม้นท์มีแต่เรื่องกิน 55....








โดย: narellan วันที่: 12 กันยายน 2555 เวลา:17:11:18 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 กันยายน 2555 เวลา:6:21:20 น.  

 
ชอบเมืองโบราณเค้าจังเลยค่ะ
ดูโราณจริงๆ ของกินก็เยอะ

เห็นด้วยค่ะที่ไม่ยอมจ่ายเงอนเพิ่ม
ความถูกต้องย่อมากก่อน

ปล เห็นข้อแนะนำและข้อห้ามของการกินหม้อไฟแล้วแล้วลังเลเลยค่ะว่าควรจะกินไหม


โดย: AdrenalineRush วันที่: 13 กันยายน 2555 เวลา:14:37:17 น.  

 
ใช้หม่ำๆ อาหารแบบนี้ น่าชิมไปหมดเลยค่ะคุณหนึ่ง
กำลังกายพร้อมลุย ชมบ้านชมเมืองเลยค่ะ
คุยไปก็หิวววว ไปค่ะ อยากยกน้ำจิ้มกลับด้วยค่ะ อิอิ


โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 13 กันยายน 2555 เวลา:18:23:44 น.  

 
อาหารที่ไหนก็คงสู้ที่บ้านเราเมืองไทยไม่ได้ค่ะคุณหนึ่ง
ขอบคุณที่พาไปเที่ยวและที่แวะไปเยี่ยมกันนะคะ



โดย: หอมกร วันที่: 13 กันยายน 2555 เวลา:23:00:56 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องหนึ่ง







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:6:09:31 น.  

 
เจ้านายใจดีอีกแล้ว..
หนึ่งไปจีนบ่อยเนาะ.. จนคล่องเลย พี่ไม่เคยไปเลย อาศัยเที่ยว จากเพื่อน อ่า..
ขนม พี่ว่าออกจะหนักไปทางน้ำตาล ..ไม่ชอบนะ อาหาร การกิน สำหรับ พี่ คงแปลกไปเลย ..

อืม ..มีเทคนิคการกิน อาหาร มาฝากด้วย ข้อมูลดีจัง แฮะ..

มะเฟือง.. เห็นเขาว่าเหมือนกัน แต่พี่ไม่ค่อยได้กิน ตอนมีลูก มากๆ เข้าคงได้กินเยอะ อิอิ..
แต่ ต้องหาข้อมูล..



โดย: tifun วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:17:33:25 น.  

 
อาหารเสฉวนมักมีรสเผ็ดกว่าส่วนอื่นของจีน ใช่ป่ะ
ฟังคนอื่นเค้าบอกน่ะครับ น้องหนึ่ง

ยกคั่วกลิ้งมาฝากด้วย


ฝ่าฝนมาเลยเพิ่งจะถึง กินแล้วไม่ต้องกลิ้งเน้อ



โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:17:49:28 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 กันยายน 2555 เวลา:6:19:39 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 กันยายน 2555 เวลา:6:19:23 น.  

 
ตามมากินหม้อไฟจร้า
นึกว่าจะเหลือแต่หม้อแล้วอะน้องหนึ่ง
น่าทานจัง พี่เองก็เป็นคนชอบทานหม้อไฟ สุกี้อะไรประเภทนี้
คราวนี้รู้แล้วว่าไปฉงชิ่งไปทำอะไรดี 555
เพราะคราวที่เส้นทางใหม่หางแดงเปิดมีคนมาชวน
คิดไม่ออกว่าไปเที่ยวดูไรดีอะ...

ไปกินหม้อไฟนี่แหละ เวริ์คเลย หุหุ


โดย: mutcha_nu วันที่: 16 กันยายน 2555 เวลา:11:56:08 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กันยายน 2555 เวลา:6:24:06 น.  

 
น่าไปเที่ยวมาก 555 ขอให้มี นายเป็นสปอนเซอรมั่ง
ได้ก็ดี

ดูแล้วคนเยอะจัง


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 17 กันยายน 2555 เวลา:14:53:28 น.  

 
ขอบคุณที่ไปชมดอกไม้ที่บล๊อคเรานะคะ


โดย: Suessapple วันที่: 17 กันยายน 2555 เวลา:17:41:57 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องหนึ่ง








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 กันยายน 2555 เวลา:6:25:55 น.  

 
เจ้านายน่ารักอ่ะ ชวนไปเที่ยวด้วย...
หม้อไฟแซบๆแบบนี้น่ำหม่ำดีแท้จ้า...
ชอบหนังไก่หรือค่ะ กลัวว่าหนังอย่างเดียวจะไม่อิ่มอ่ะค่ะ
เลยยกมาฝากทั้งชุดเลยดีกว่าจ้า...
มาอร่อยด้วยกันจ้า


โดย: phunsud วันที่: 18 กันยายน 2555 เวลา:13:02:14 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ
ของน้องหนึ่งเมื่อเดือนเมษา
แต่ของพี่ตั้งแต่ปีที่แล้วยังอัพบล้อกไม่จบเลยค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 18 กันยายน 2555 เวลา:14:03:20 น.  

 


ตามน้องหนึ่งมาเที่ยวต่อจ้ะ
หลังจากหยุดพักไปเกือบครึ่งปี

สบายดีนะจ๊ะ คิดถึง


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 19 กันยายน 2555 เวลา:4:59:40 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องหนึ่ง







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 กันยายน 2555 เวลา:6:29:48 น.  

 
สวัสดีจ้า น้องหนึ่ง

ตามมาเที่ยว กับตามมากินหม้อไฟ "หมาล่าหั่วกัว" ด้วยคน (แหม๊....ตกใจ นึกว่าจะกินหมาจริงๆ)

แต่จะว่าไป ก็มีข้อจำกัดในการกินเยอะเหมือนกันเนอะ เป็นพี่คงไม่รู้เรื่องคงจิ้มๆกินอย่างที่เราชอบ ใครจะรู้เนี่ย ว่ามีข้อควรปฎิบัติในการกินด้วย....

ผลไม้แช่อิ่ม สีสดๆที่ดูน่ากิน ข้างนอกนะน้ำตาลทั้งนั้นเลย เลยซื้อหนนึง กินได้คำเดียว...เลิก ไม่เอาอีกแล้ว ให้สวยแค่ไหนก็เหอะ หวานสยอง มันไม่เข้ากับผลไม้เลยอ่ะ


โดย: hi hacky วันที่: 19 กันยายน 2555 เวลา:9:51:38 น.  

 
น้องหนึ่ง

สนุกอ่ะ อ่านเเล้วอยากตามเลย ถ้ามี deal ดีๆ ของ AA พี่อาจจะตามรอยมั่ง ดูเเล้วบ้านเมืองเค้าโอเคเลยจ้ะ (เเอบกลัวเมืองจีนนิดๆอ่ะ)


โดย: ellie@aggie วันที่: 19 กันยายน 2555 เวลา:10:11:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.