วันนี้อากาศเย็นๆ กันทั่วหน้า ทำให้นึกถึงบรรยากาศหนาวๆ ที่เมืองฮาร์บิ้น

กลับมาได้ 2 เดือนพอดิบพอดี แต่ยังอัพบล็อคไม่เสร็จเลย วันนี้ขอมาจัดการภารกิจสำคัญให้เรียบร้อยดีกว่า

---------------------------------------------------------------------------------------------------

วันสุดท้ายที่เมืองฮาร์บิ้น เริ่มต้นตอนเช้าด้วยการมาเดินเที่ยวที่ "โบสถ์เซนต์โซเฟีย" นิกายออร์โธดอกซ์

 สร้างขึ้นในปี 1907 ซึ่งชาวรัสเซียสร้างโบสถ์นี้ขึ้นเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับทหารรัสเซียที่มาประจำการที่นี่

เมืองฮาร์บิ้นมีพรมแดนติดต่อกับประเทศรัสเซีย เห็นว่า เมื่อก่อนเดินข้ามไปมาหาสู่กันได้สบายเลย

แต่ตอนหลังๆ มีปัญหามากมาย เลยต้องปิดพรมแดนตรงส่วนนี้ไป

เสียดายที่ตรงจุดนี้จอดรถนานไม่ได้ เค้าจีงมีเวลาให้พวกเราลงไปถ่ายรูปได้แค่แป๊บเดียว แล้วก็โดนเรียกขึ้นรถ

ส่วนหนึ่งของแม่น้ำที่กลายเป็นน้ำแข็ง สามารถลงไปเดินเล่นข้างล่างได้เลย

แต่ลองไปเดินดูแล้ว ไม่ไหว ต้องใช้ความระมัดระวังในการประคองร่างกายอย่างมาก ขออยู่ถ่ายรูปข้างบนดีกว่า

บนถนนจงหยางมีร้างรวงมากมาย แต่ละร้านจะตกแต่งสวยงามแบบนี้

ร้านนี้สีสันกินขาดเลย

สภาพตึกรามบ้านช่องแถวนี้เหมือนไม่ได้อยู่ในเมืองจีนเลย

จริงๆ แล้วเป็นเพราะเค้าได้รับอิทธิพลมาจากทางรัสเซียนี่ล่ะ

มื้อกลางวันไกด์บอกว่า จะพาไปกินสุดยอดเกี๊ยวต้ม (Jiao Zi) ของที่นี่

เรียกได้ว่า ถ้าใครมาถึงเมืองนี้แล้ว ต้องแวะมาชิมให้ได้เลย

โดยที่ทั้งร้านจะขายแต่เกี๊ยวต้มแบบนี้ล่ะ แต่มีหลายไส้นะ กินๆ ไปก็ไม่รู้หรอกว่าไส้ไหนคืออะไร

มื้อนี้พิเศษตรงที่พี่อุ๋ยไกด์สาวของเราต้มมาม่าให้กินแกล้มกับเกี๊ยวด้วย รสชาติจะได้ไม่จืดชืดเกินไป

ตอนบ่ายๆ มาเดินทิ้งทวนความหนาวกันต่อที่สวนสตาลินที่นี่มีการแกะสลักหิมะที่ยิ่งใหญ่

ไกด์ให้เลือกว่า จะเดินเข้าไปบริเวณที่จัดงานเอง หรือว่าจะนั่งรถเข้าไป

ด้วยระยะทางและความหนาวแล้ว ขอนั่งรถคันเล็กๆ ที่ปิดมิดชิดแบบนี้ดีกว่า

จะได้ออมแรงไปเก็บภาพสวยๆ กันได้อีก

อลังการมาก.....

หิมะกองโตมหึมา แล้วเอามาแกะสลักเป็นรูปร่างต่างๆ แบบนี้

กำลังลงมือกันอยู่เลย

มีป้ายเตือนให้ระวังน้ำลึกด้วย

แต่ตอนนี้กลายเป็นน้ำแข็งไปหมดแล้ว

บริเวณลานกว้างๆ ที่มีการแข่งประกวดแกะสลักหิมะจากประเทศต่างๆ

เห็นเขียนป้ายติดไว้ว่าประเทศไทยได้รางวัลที่ 2

ระหว่างกำลังเดินเล่นอยู่ เห็นเค้าตั้งขบวนแห่เล็กๆ

แต่คนที่มาเดินขบวนเป็นพวกสูงวัยทั้งนั้นเลย

ท่ามกลางความหนาวเย็น ก็ต้องมีความอบอุ่นอยู่นะ

มีแสงแดดส่องมาแบบรำไร

จะกระโดดกี่รอบๆ ก็ยังกระโดดไม่สูงสักที

สงสัยตัวจะหนักเกินไปซะแล้ว

ปิดท้ายทริปนี้ด้วยรูปหน้า "พระราชวังต้องห้าม (กู้กง)" ณ เมืองเป่ยจิง

วันนี้ต้องทำเวลาเป็นพิเศษ ต้องจบโปรแกรมนี้ภายใน 2 ชั่วโมง เพราะเดี๋ยวจะไม่ทันไปเช็คอินขึ้นเครื่อง

นับถือผู้ร่วมทริปในครั้งนี้เลย

บางคนอาจจะคิดว่าเมืองฮาร์บิ้นหนาว ติดลบตั้ง 30-40 องศา ไปไม่ไหวหรอก

แต่พวกลุงๆ ป้าๆ ที่ร่วมทริป อายุมากที่สุด 75 นอกนั้นก็ประมาณ 50-60 ปี แต่ก็สู้ไม่ถอย ไม่มีบ่นสักคำ

Create Date : 17 มีนาคม 2554
Last Update : 17 มีนาคม 2554 16:33:09 น.		59 comments
Counter : 3618 Pageviews.
Share Tweet