|
|||
บัลลังก์แห่งคิเรบัส : บทที่ 19 บทที่ 19ทีนิสเดินจนแทบจะเป็นวิ่งไปยังท้องพระโรงเมื่อมีข้ารับใช้มารายงานให้เขาทราบว่าองค์หญิงรัชทายาทแห่งแคว้นดาร์ซีมาขอเข้าเฝ้าพร้อมกับของกำนัลจากองค์ราชาโลเอล หัวใจของเข้าเต้นโลดแรงด้วยความรู้สึกดีใจระคนตื่นเต้นที่จะได้พบเจอกับนางอีกครั้งทั้งที่คิดว่าคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก ******************************** ไบรโอเนีย รอข้าก่อนได้ไหม ทีนิสเรียกนางเมื่อวิ่งตามทันที่ตรงโถงทางเดินในปราสาท ก่อนจะฉวยข้อมือของนางเอาไว้ แล้วก็ลากนางไปที่ห้องทำงานของเขาเพื่อที่จะได้พูดคุยกันตามลำพังโดยไม่มีใครมากวน เจ้าจะขัดราชโองการของเสด็จพ่อเจ้าหรือไง นั่นหมายถึงชีวิตของเอ็ดการ์และเลโอน่าและคนอื่นๆ ที่ติดตามเจ้ามาถึงที่นี่ด้วยนะ ไบรโอเนียพยายามสลัดมือให้หลุดก่อนจะตอบ เสด็จพ่อทรงทำเกินไปแล้ว หม่อมฉันยอมรับไม่ได้หรอก สังหรณ์ใจแล้วเชียวว่าทำไมจู่ๆ ถึงได้ทรงมอบหมายให้หม่อมฉันเดินทางมาหาพระองค์ที่นี่ทั้งที่จริงๆ แล้วส่งแค่เอ็ดการ์หรือขุนนางคนอื่นๆ มาก็ได้ แล้วอะไรล่ะที่เจ้าบอกว่ายอมรับไม่ได้ เรื่องที่เจ้าถูกปลดหรือเรื่องที่จะต้องแต่งงานกับข้า ทีนิสถามนางเสียงห้วน ซึ่งนั่นก็ทำให้นางหยุดการดิ้นรนขัดขืนเขาโดยทันที เจ้าไม่รู้เหตุผลจริงๆ น่ะหรือว่าทำไมองค์ราชาโลเอลถึงได้ทำเช่นนี้ หรือพระองค์ทรงทราบ นางย้อนถามเขา ทีนิสถอนใจเมื่อดูเหมือนไบรโอเนียจะไม่ยอมเข้าใจอะไรง่ายๆ เอาเสียเลย เจ้าคิดหรือว่าเสด็จพ่อของเจ้าจะไม่รู้ว่าเราสองคนรู้สึกเช่นไรต่อกัน เพราะเหตุใดถึงได้ยอมปลดเจ้าออกจากตำแหน่งรัชทายาทเพื่อมาแต่งงานกับข้า เจ้าไม่เข้าใจถึงความรักของพระราชบิดาที่มีต่อเจ้าเลยหรือไง แต่นั่นมันก็เป็นสิทธิของหม่อมฉันที่จะเลือกทางเดินชีวิตของหม่อมฉันเองไม่ใช่หรือเพคะ ความดื้อรั้นของนางนั้นทำให้ทีนิสอยากเขย่าไหล่นางให้หัวสั่นหัวคลอนนักเผื่อว่านั่นจะช่วยทำให้นางเข้าใจอะไรให้มันง่ายขึ้นมาบ้าง ถ้าเช่นนั้นเจ้าฟังข้านะไบรโอเนีย เขากล่าวพลางกัดฟันแน่น ข้าทำงานอย่างหนักจนแทบไม่ได้กินไม่ได้นอนก็เพียงเพื่อที่จะได้ลืมไปว่าข้าไม่อาจมีเจ้าอยู่เคียงข้างข้าได้ แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อยามนอนหลับข้าก็ยังฝันถึงเจ้าเกือบทุกคืนและรู้ไหมว่ามันเจ็บปวดแค่ไหนเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าการที่ได้นอนหลับและมีเจ้าในอ้อมกอดของข้ามันเป็นเพียงแค่ฝัน เจ้าปฏิเสธข้าสิว่าสิ่งที่ข้าพูดมาน่ะไม่เคยเกิดขึ้นกับเจ้า ไบรโอเนียเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อได้สิ่งที่ทีนิสพูดมานั้นก็ไม่ได้ต่างกันกับที่นางเป็นอยู่มาโดยตลอดเลย ถ้าหากเจ้าเป็นเหมือนที่ข้าเป็น แล้วคิดหรือว่าเสด็จพ่อของเจ้าจะทนเห็นเจ้ามีสภาพที่มีชีวิตแต่ก็เหมือนไม่มีหัวใจเช่นนั้นได้ แล้วทีนิสก็รั้งร่างนางมากอดแน่นพร้อมกับกระซิบถามนาง จะทรมานหัวใจของเจ้าเองและข้าไปถึงไหนกัน ไบรโอเนียเบิกตาโพลงกับการที่เขากอดนางแบบไม่ทันตั้งตัวและจู่ๆ ก็เหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างจุกอยู่ตรงที่ลำคอเมื่อรู้สึกได้ถึงไออุ่นที่แผ่ออกมาจากตัวของเขาจนทำให้กระบอกตาของนางร้อนผ่าวด้วยหยดน้ำตาที่ไหลเอ่อออกมา เปลือกนอกที่แข็งแกร่งที่นางสร้างเอาไว้เพื่อปกปิดความรู้สึกของตัวเองนั้นพังทลายลงในพริบตา ในวินาทีนี้นางเข้าใจตัวเองแล้วว่านางไม่สามารถทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับการที่จะต้องแยกห่างจากเขาได้อีกต่อไป เพราะเพียงแค่เขาโอบกอดนางเอาไว้เช่นนี้ หัวใจของนางที่เคยแห้งเหี่ยวราวกับต้นไม้ที่รอวันเฉาตายนั้นก็พลันเต้นโลดจนแทบกระดอนออกมานอกอก นางยกลำแขนขึ้นกอดเอวของทีนิสเอาไว้แน่นก่อนที่ริมฝีปากที่เม้มแน่นของนางจะสั่นระริกก่อนที่จะสะอื้นไห้ออกมาด้วยกลั้นความรู้สึกที่มันท่วมท้นในใจไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ข้าเคยคิดว่าถ้าหากเราไม่พบเจอกันเลย วันและเวลาที่ผ่านไปมันอาจจะช่วยให้ข้าลืมท่านได้ในสักวัน... แต่ดูเหมือนว่าข้าจะคิดผิด เพราะไม่มีวันไหนเลยที่ข้าไม่คิดถึงท่าน แม้กระทั่งเพียงแค่หลับตาข้าก็ยังเห็นใบหน้าของท่านลอยอยู่ในความคิดทุกครั้ง และแม้กระทั่งในความฝันก็เช่นกัน ถ้าหากคิดว่าหากเจ้าปล่อยให้เวลาผ่านเลยไปแล้วข้าจะลืมเจ้าได้ เจ้าคงคิดผิดแล้วล่ะไบรโอเนีย เพราะไม่ว่าข้าจะหลับหรือตื่น ข้าก็คิดถึงเจ้าอยู่ทุกลมหายใจ ทีนิสกระซิบบอกกับนางในขณะที่เขารัดวงแขนกอดรัดร่างของนางเอาไว้แนบแน่นเพื่อซึมซับเอาความรู้สึกที่เขาโหยหามาตลอดเวลาที่ผ่านมาเติมเต็มความอ้างว้างที่เขาโหยหายมานาน ทีนิสประคองใบหน้าของนางให้เงยขึ้นก่อนจะใช้ปลายนิ้วปาดไล้เช็ดหยดน้ำตาออกแต่มันก็ยังร่วงพรูออกมาอย่างไม่ขาดสายจนเขาอดหัวเราะออกมาไม่ได้ หากเสียงหัวเราะก็หายไปเมื่อเห็นสายตาของนางที่กำลังจับจ้องมองเขาอยู่ นางยกมือขึ้นแตะแก้มของอย่างอ่อนโยนก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอู้อี้จากการร้องไห้ ท่านผอมลงไปใช่ไหม ได้นอนหรือพักผ่อนบ้างหรือเปล่า ข้าจะนอนหลับสบายหรือเป็นสุขได้เช่นไรเมื่อไม่มีเจ้าอยู่ข้างกาย ทีนิสตอบพลางแนบแก้มกับฝ่ามือของนางแล้วหันไปจุมพิตกลางฝ่ามือของนางก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะแตะซับหยดน้ำตาที่อาบนองไปทั่วใบหน้างามก่อนที่จะหยุดนิ่งที่ริมฝีปากอิ่มอย่างดื่มด่ำ เนิ่นนานให้สมกับความคิดถึงที่เขามีต่อนางตลอดปีกว่าที่ต้องแยกจากกัน บอกข้าสิไบรโอเนียว่าเจ้ารักข้าไหม ทีนิสถามชิดริมฝีปากนาง ไบรโอเนียที่ถูกจุมพิตของทีนิสปล้นเอาเรี่ยวแรงไปหมดจนต้องเกาะบ่ากว้างไว้แน่นลืมตาขึ้นมามองเขาแล้วก็ต้องร้อนฉ่าไปทั่วทั้งใบหน้าด้วยเขินอายเมื่อเจอกับสายตาของเขาที่มองนางด้วยความรักใคร่หมดหัวใจ นางจึงพลิกหันหลังให้แก่เขาพร้อมกับพึมพำตอบ ข้าก็เคยบอกท่านไปแล้วนี่ ทีนิสโอบกระชับลำแขนนางจากทางด้านหลังแล้วเอาคางเกยไหล่ของนาง เจ้าไม่เคยบอกข้าเลยสักครั้ง นี่เจ้าจำไม่ได้หรืออย่างไรกัน นางรีบแย้งเขาทันที ทำไมข้าจะไม่เคย ก็ที่ข้า... แล้วนางก็หน้าแดงขึ้นมาอีกเมื่อนึกถึงการให้คำตอบของเขาด้วยการกระทำของนางในคืนนั้น ทีนิสยิ้มขันอาการเขินอายของนางก่อนจะหมุนตัวนางให้หันกลับมาหาเขาอีกครั้ง ข้ารู้ว่าเราต่างก็รักกันมากแค่ไหน แต่ว่าเจ้าช่วยพูดให้ข้าฟังสักครั้งหนึ่งไม่ได้เลยหรือ นางเม้มริมฝีปากแน่นเพื่อข่มความเขินอายก่อนจะสบสายตากับเขา ก่อนที่จะกล่าวออกมาช้าๆ หากมั่นคงสมเทียบเท่ากับความรู้สึกของนางที่มีต่อเขาในเวลานี้ ข้ารักท่าน ไม่ว่าท่านจะเป็นเพียงแค่เจ้าชายที่พลัดถิ่นหรือว่าท่านจะเป็นองค์ราชาของแคว้นคิเรบัสที่เกรียงไกรนี้ก็ตาม ทีนิสรู้สึกเหมือนหัวใจกำลังพองฟูจนแทบจะระเบิดออกมากับสิ่งที่นางกล่าว เขาโอบกอดร่างของนางเอาไว้แนบแน่นแล้วประทับริมฝีปากจุมพิตนางเนิ่นนานกว่าเมื่อครู่มากจนนางต้องทุบอกเขาเบาๆ เมื่อรู้สึกว่าตนกำลังหายใจไม่ออก ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาหัวเราะออกมาอีกครั้งแล้วกอดนางเอาไว้เฉยๆ อยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่เขาจะดันนางออกห่างเล็กน้อย ถ้าเช่นนั้นข้ามีเรื่องจะถามเจ้าอีกเรื่องหนึ่ง ท่านจะถามอะไรข้าอีก ไบรโอเนียขมวดคิ้ว แล้วนางก็อุทานด้วยความตกใจเมื่อเห็นเขาคุกเข่าลงต่อหน้านาง องค์หญิงไบรโอเนียแห่งแคว้นดาร์ซี เจ้ายินดีจะมาเป็นราชินีของแคว้นคิเรบัสได้หรือไม่ ทีนิส... ลุกขึ้นเถอะ ท่านเป็นกษัตริย์นะ ท่านไม่ควรจะทำเช่นนี้ นางบอกพร้อมกับพยายามดึงให้เขาลุกขึ้นแต่ทีนิสกลับส่ายหน้า ตอบคำถามของข้ามาก่อนสิว่าเจ้าจะยอมมาเป็นราชีนีของข้าได้หรือไม่ ไบรโอเนียมองเขาแล้วก็น้ำตารื้นขึ้นมาอีกครั้งด้วยความปลาบปลื้มใจ ด้วยไม่คิดว่าเขาจะยอมละทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อนางถึงเพียงนี้ ซึ่งนั่นก็แสดงให้นางเห็นว่าเขาสามารถยอมละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างได้เพื่อนาง ไบรโอเนียกล้ำกลืนก้อนสะอื้นที่ขึ้นมาจุกอกก่อนจะตอบเขาด้วยเสียงสั่นเครือ เพคะ หม่อมฉันยินดีที่จะเป็นราชินีของพระองค์ รอยยิ้มแห่งความยินดีจุดสว่างไปทั้งใบหน้าของทีนิส เขาลุกขึ้นยืนแล้วยกมือของนางขึ้นมาแตะตรงหน้าอกข้างซ้ายของเขาก่อนจะกล่าวคำสัญญาให้กับนาง ข้าให้สัญญาแก่เจ้าว่าข้าจะรักและดูแลเจ้าให้ดีที่สุดด้วยความรักทั้งหมดของข้า ไบรโอเนียยิ้มให้กับเขาทั้งน้ำตา ทีนิสยกมือของนางขึ้นแตะริมฝีปากเพื่อตอกย้ำคำมั่นที่เขามีให้ต่อนางแล้วดึงนางมากกอดเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมายาวเหยียดด้วยความรู้สึกเป็นสุขใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เห็นทีว่าข้าคงจะต้องตามเจ้ากลับไปที่ดาร์ซีเพื่อพูดคุยกับสเด็จพ่อของเจ้าให้เป็นเรื่องเป็นราวและสั่งให้คนเตรียมพิธีอภิเษกสมรสให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะข้าจะไม่ยอมปล่อยให้เจ้าไปอยู่ไกลห่างจากข้าอีกแล้ว ไบรโอเนียยิ้มขันกับคำพูดของเขาก่อนที่จะถอนหายใจออกมาบ้างเมื่อนึกถึงอีกเรื่องขึ้นมาได้ ถ้าหากข้าไม่อยู่ดาร์ซี เสด็จพ่อต้องทรงเหงาแน่ๆ เลย เขาก้มลงมองนางแล้วก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องห่วงหรอก รับรองว่าถ้าเราแต่งงานกันแล้วข้าจะรีบสร้างรัชทายาทให้กับแคว้นของเราทั้งคู่โดยไม่ต้องรอให้เสด็จพ่อของเจ้าต้องเหงาอยู่นานนักหรอก ไบรโอเนียหน้าแดงซ่านก่อนจะถองที่อกของเขา ท่านนี่พูดอะไรออกมาน่ะ ไม่อายปากตัวเองบ้างเลยหรือไงกัน ทีนิสหัวเราะชอบใจแต่ก็ไม่ได้นำพาต่ออาการเขินอายของนางแล้วจุมพิตศีรษะของนางก่อนจะกระซิบบอก ข้ารักเจ้านะไบรโอเนีย ไบรโอเนียกระชับวงแขนเรียวที่โอบเอวเขาแล้วซบหน้ากับบ่ากว้างของเขาพลางถอนลมหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเป็นสุขอย่างที่ไม่มีมาก่อน ข้าเองก็เช่นกัน
Be Continued เรื่องคลี่คลายหมดแล้ว พระเอกนางเอกก็เข้าใจและรักกันแล้ว ตอนหน้าก็ึเป็นตอนจบแล้วล่ะค่ะ แล้วติดตามตอนจบในตอนหน้านะคะ ^ ^
++ รักคนอ่านค่ะ ++ ยกสองนิ้วโป้งให้เลยค่ะ ราชาโลเอล ไม่งั้นคงจบไม่ลงแน่
แต่อย่างว่า ถึงมีราชโองการ ถ้าทีนิสไม่ดึงไบรโอเนียไว้ ก็คงยุ่งต่อ ไบรโอเนียดื้อเหลือเกินนี่ ขนาดพ่อเปิดทางให้ขนาดนี้แล้ว ยังโมโหพ่อซะอีก รออ่านตอนจบค่ะ โดย: goldensun IP: 61.91.4.2 วันที่: 25 พฤษภาคม 2558 เวลา:15:06:36 น.
|
ตัว(Z)
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] ลมหนาว ฟ้าใส หาดทราย ใบไม้เปลี่ยนสี Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
ใครเล่าจะกล้าขัดราชโองการ