บ้านที่มีความรักและความอบอุ่นคือจินตนาการของคนไทยยามนี้ !
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
1 กุมภาพันธ์ 2549
 
All Blogs
 
การทำงานด้วยหัวใจ(จบ)





เราอาจเชื่อว่าชีวิตคงจะมีความสุขมากกว่านี้ ถ้าเราไม่ต้องทำงานหนัก หรือหากเรามีเวลาว่างมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม แหล่งซึ่งก่อให้เกิดความไม่พอใจหรือหงุดหงิดนั้น ได้แก่การที่เราไม่ทุ่มเทอย่างเต็มที่แก่งานที่เรากำลังทำอยู่นั้น เมื่อเราไม่ทุ่มเททำงานด้วยหัวใจ เราจะขัดขวางพลังงานของเราเอง เราจะขัดขวางความสนใจของเราเอง และเราจะขัดขวางความใส่ใจของเราซึ่งเป็นคุณภาพที่ทำให้ชีวิตมีความกระปรี้กระเปร่าสดชื่น เราอาจจะยินยอมอย่างเฉื่อยชาเพื่อให้ชีวิตของเราทั้งหมดเลื่อนไหลไป มีความสำเร็จแต่เพียงเล็กน้อย มีความชำนาญอย่างแท้จริงแต่เพียงเล็กน้อย เปลี่ยนงานบ่อย ๆ กล่าวโดยสั้น ๆ ก็คือว่า เราปล่อยให้ชีวิตดำเนินผ่านไปโดยไม่มีความสุขอย่างลึกซึ้งจากการใช้พลังงานของเราทำงานอย่างเต็มที่เลย

เมื่อใดก็ตามที่ท่านรู้สึกว่าไม่เป็นสุขกับงานของท่าน ท่านอาจจะถือได้ว่ามันเครื่องหมายที่จะบอกแก่ท่านว่า ท่านไม่ได้ทำงานด้วยหัวใจ งานของท่านดูเหมือนว่าจะไม่สมบูรณ์พยายามวิเคราะห์สภาพที่เกิดขึ้น ท่านได้กำหนดเป้าหมายไว้ชัดเจนหรือไม่ และท่านได้กำหนดสิ่งซึ่งจะต้องทำเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้นชัดเจนหรือเปล่า ท่านได้ทำในสิ่งซึ่งจะต้องทำเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้นชัดเจนหรือเปล่า ท่านได้ทำในสิ่งซึ่งจะต้องทำหรือไม่ หรือว่าท่านผัดผ่อนงาน หรือเร่งให้มันเสร็จโดยเร็วที่สุด ท่านมัวแต่สนใจสิ่งอื่น ๆ หรือไม่ หรือว่าท่านได้ทุ่มเทพลังงานทั้งหมดให้แก่งานของท่าน ท่านตระหนักถึงวิธีการที่ท่านใช้เวลาหรือเปล่า

เมื่อท่านสังเกตตนเองตามแนวต่าง เหล่านี้ ท่านจะเริ่มเข้าใจทัศนคติที่มีต่องาน เมื่อท่านมองเห็นงานและสิ่งที่มันต้องการอย่างชัดเจน ท่านก็จะเริ่มใส่ใจและทุ่มเทกำลังใจให้งานมากขึ้น

การตระหนักถึงวิธีการทำงานและวิธีการที่เรามีความสัมพันธ์กับผู้อื่น และการมีความชัดเจนในการใช้พลังงานของตนเอง สามารถนำให้เรามีชีวิตที่มีความหมายและลึกซึ้ง เมื่อเราเผชิญกับปัญหาหรือข้อผิดพลาดต่าง ๆ ในขณะที่เรามีพลังงานอยู่เต็มที่ และมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เราสามารถจะอาศัยโอกาสที่เราเผชิญอยู่นี้เป็นแนวทางสำหรับจะสร้างความงอกงามให้เกิดขึ้นแก่ตน หากเรากลมกลืนตัวเราเองกับสิ่งซึ่งเราทำ และเราเรียนรู้ที่จะให้คุณค่ากับความก้าวหน้าที่ละขั้นตอนพอ ๆ กับผลซึ่งจะเกิดขึ้น เราจะรู้จักกับความสุขซึ่งเกิดขึ้นจากการทำงานอย่างถูกต้องและแท้จริง

การทำงานจากหัวใจ คือการทำงานอย่างเต็มหัวใจ ด้วยความสนใจของเราทั้งหมด ด้วยพลังงานของเราทั้งหมดทุ่มเทให้แก่มัน เราสามารถใส่ใจในงานอย่างเต็มที่และให้หัวใจของเราแก่งานทั้งหมด ผลที่เกิดขึ้นจะน่าพอใจ เมื่อเราทำงานด้วยลักษณะเช่นนี้ เรายินดีเผชิญกับการท้าทายซึ่งแต่ละงานได้เรียกร้องจากเรา และเรายินดีเผชิญกับมันอย่างเปิดกว้างและเต็มใจ เราสามารถเอาชนะอุปสรรคที่เราสร้างขึ้นซึ่งขัดขวางความก้าวหน้าของเรา มันไม่มีเหตุผลใด ๆ เลยที่เราจะต้องกลัวความผิดพลาด เพราะเมื่อเราเปิดใจกว้าง และใช้พลังงานของเราอย่างเต็มที่ เราจะประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอน แม้ว่าเราจะไม่บรรลุเป้าหมายที่เราตั้งไว้ แต่เมื่อเราทำงานด้วยหัวใจของเรา เราก็จะสัมผัสกับความสุขจากการที่ได้ใช้กำลังงานของเราอย่างเต็มที่

เราได้ใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั้งทางด้านวัสดุ ทั้งทางด้านกำลังคน สติปัญญา เวลา ความใส่ใจ และความรู้สึกของเราอยู่แล้ว เราไม่ต้องเร่งเร้าการกระทำของเราหรือกระตุ้นความคิดแก้ปัญหาอีก สิ่งเหล่านี้อาจจะช่วยในงานบางอย่าง แต่การทำงานด้วยหัวใจจะต้องประกอบไปด้วยการทุ่มเททั้งหมดของความคิด ของหัวใจ ของพลังงาน และของความใส่ใจ

เมื่อเราทำงานด้วยหัวใจ ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจะมิใช่อุปสรรคใหญ่เลย เราจะให้คุณค่าอย่างลึกซึ้งแก่งานและผลของงานนั้น และทุกอย่างที่เราทำจะน่าสนใจอย่างแท้จริง เมื่อเราทำงานแต่ละขั้นได้สำเร็จลงไป เราก็จะพบว่างานของเรามีคุณค่ามากขึ้น เราจะกลมกลืนอยู่กับความก้าวหน้าและความสำเร็จ ซึ่งเกิดขึ้นจากการท้าทายซึ่งงานได้เรียกร้องจากเรา


แทนที่จะหลีกเลี่ยงการทำงาน เราจะหลีกสิ่งซึ่งดึงดูดความสนใจของเราไปจากงาน ความคาดหวังและความกระตือรือร้นจะให้สีสันแก่ทุกขณะ และจะผสมผสานชีวิตของเราเข้ากับความเบิกบานอันโปร่งใจ ทุกสิ่งที่เราทำจะสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจและความทุ่มเทของเราที่มีต่องาน และผลงานที่เกิดขึ้นจะให้ความสุขอย่างลึกซึ้ง งานจะสมบูรณ์เต็มที่เมื่อเราทำงานด้วยหัวใจของเรา เมื่อเราใช้แหล่งของการสร้างสรรค์ แหล่งของความถี่ถ้วนชัดเจน และแหล่งของความหมายแห่งชีวิตอย่างเต็มที่@@


................................................


คัดจาก "แห่งการงานอันเบิกบาน"

ผู้เขียน : ตาร์ถัง ตุลกู

ผู้แปล : โสรีช์ โพธิแก้ว

ขอขอบคุณองค์ความรู้ทั้งหมดที่ได้จากหนังสือเล่มนี้
















บล็อกเมื่อวาน คลิกที่นี่







Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 30 สิงหาคม 2552 7:28:38 น. 32 comments
Counter : 627 Pageviews.

 
ขอบตุณที่สรุปมาให้อ่านครับ ได้ใจความดี รูปในคอมเม้นท์ที่ไหน


โดย: ชายคา วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:11:04:57 น.  

 
บล๊อคหวานอะจะ นึกว่ามาผิดบล๊อคอะ


โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:11:27:37 น.  

 
เพลงประกอบบล็อก "เอื้องผึ้ง" ร้องโดย จรัล มโนเพ็ชร

สวัสดีครับคุณชายคา

ขอบคุณครับที่มาเยี่ยมกัน

รูปในกล่องคอมเม้นคือ หมู่บ้านกรูโบ ต.แม่จัน อ. อุ้มผาง จ. ตากครับ เป็นหมู่บ้านชาวกระเหรี่ยง

......................................

สวัสดีครับคุณปลา

เปิดบล็อกใหม่รึยังครับ ขอบคุณอมยิ้มสวย ๆ ที่คุณปลาอภินันทนาการมาให้ด้วยนะครับ


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:12:23:13 น.  

 
ขอบคุณที่เอาเรื่องราวดีดีมาฝาก...


โดย: ครีเอทีฟ หัวเห็ด วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:12:36:08 น.  

 
แก้ไขชื่อเพลงครับ "เอื้องผึ้ง จันผา"


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:12:41:05 น.  

 
เห็นรูปที่กล่องคอมเมนท์แล้วนึกถึงเมืองกาญจน์


โดย: ju (กระจ้อน ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:14:03:31 น.  

 
ฉันทะ..คำเดียว สิ่งหนึ่งสิ่งเดียงนี้... ขยายความได้ไพเราะงดงาม ค่ะ


โดย: samranjai วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:15:07:03 น.  

 
ต้องตัดใจจากการเล่นบล็อค ^^'



...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:15:27:41 น.  

 
อ่านประโยคแรกที่ไปเมนท์ที่บลอคแล้วตกใจ
นึกว่าป่วยต้องเข้า รพ.ซะอีก
พออ่านประโยคถัดมาค่อยโล่งใจหน่อย
แต่ขอให้ญาติหายป่วยโดยเร็วนะคะ..

เอื้องผึ้ง จันผา ไม่ได้ฟังนานเลยค่ะ...


โดย: ยัยบี๋ วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:16:25:46 น.  

 
แวะมาทักทายก่อนกลับบ้านค่ะ

วันนี้งานยุ่งมากๆเลย

ภาพในกล่อง comment สวยมากนะคะ

Image hosting by Photobucket


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:16:49:03 น.  

 
มาอ่านค่ะ

ช่วงนี้ลดพลังงานที่ทุ่มเทให้กับบลอกไปหน่อยละค่ะ


โดย: rebel วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:18:48:38 น.  

 
กอปปี้มาจากเวบไทยออก...www.thaioctober.com



พรรคแนวร่วมภาคประชาชนแหกกระแส ประกาศ ล้มทักษิณ ตั้งรัฐบาลประชาชน

ประชาไท—2 ก.พ. 2549 ท่ามกลางบรรยากาศขับไล่นายกทักษิณ โดยบุคคลหลายกลุ่มหลายองค์กร อาทิเช่น นายสนธิ ลิ้มทองกุล และนักวิชาการจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ พรรคแนวร่วมภาคประชาชนได้ออกแถลงการณ์ ‘ล้มทักษิณ!! ตั้งรัฐบาลภาคประชาชน!!’ ระบุ มีอีกหลายเหตุผลที่ต้องล้มทักษิณ โดยแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า

“แต่กลุ่มสนธิ พรรคประชาธิปัตย์ และพวกที่ตามกระแสสนธิ ไม่ได้คัดค้านรัฐบาลในประเด็นดังกล่าวเลย…และที่แย่กว่านั้นเขาพาเราไปขออำนาจเผด็จการมาแทนที่รัฐบาลทักษิณ เขาต้องการให้เรายอมรับนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่ประกอบไปด้วยนายทหาร นักการเมืองนายทุน และข้าราชการชั้นสูง ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง นี่คือความคิดทาสที่ลืมมรดกการต่อสู้ 14 ตุลา และพฤษภาทมิฬ

เราขอประกาศว่าภาคประชาชน และฝ่ายซ้ายไม่ใช่ทาส ถ้าจะมีรัฐบาลชั่วคราวควรเป็นรัฐบาลของภาคประชาชนที่ประกอบไปด้วย นักสหภาพแรงงาน ผู้แทนเกษตรกรรายย่อย ผู้แทนขบวนการทางสังคม นักเอ็นจีโอ ผู้แทนของชนกลุ่มน้อย และนักวิชาการที่อยู่เคียงข้างประชาชน พรรคแนวร่วมภาคประชาชน และหนังสือพิมพ์เลี้ยวซ้าย”

ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวระบุเหตุผลที่ควรขับไล่รัฐบาลไทยรักไทยดังต่อไปนี้

- การแปรรูปรัฐวิสาหกิจและการใช้แนวกลไกตลาดแทนการบริการพลเมืองโดยไม่คิดกำไร

- การเซ็นสัญญา FTA ซึ่งมีผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้ที่ใช้ยารักษาโรคต่างๆ

- ความรุนแรงของรัฐไทยในภาคใต้ ที่ฆ่าและกดขี่พี่น้องชาวมุสลิม

- การละเมิดสิทธิมนุษยชนในสงครามยาเสพติด

- การที่รัฐบาลไม่เก็บภาษีก้าวหน้าจากคนรวย เช่นครอบครัวทักษิณเอง นายทุนต่างๆ รวมถึงสนธิ และเศรษฐีนักการเมืองจากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อสร้างรัฐสวัสดิการให้พลเมือง

- การที่รัฐบาลสนับสนุนการแย่งชิงที่ดินโดยกลุ่มทุนใหญ่ โดยเฉพาะในกรณีสึนามิ

- การที่รัฐบาลรักษาประเพณีจากรัฐบาลทุกชุดในอดีตในการโกงกิน

- การที่รัฐบาลนี้ขยายอิทธิพลของกลุ่มทุนใหญ่เพื่อครอบงำสังคม

- การที่รัฐบาลสนับสนุนมหาอำนาจต่างๆ ในการกดขี่ชาวโลก เช่นการสนับสนุนสหรัฐในอิรัก หรือการสนับสนุนจีนในกรณีธิเบตและไต้หวัน
--------------------------------------------------------------------------------
โดย : ประชาไท
วันที่ : 2/2/2549


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:11:57:04 น.  

 
แถลงการณ์ เครือข่ายพิทักษ์เจตนารมณ์เดือนตุลา


พี่น้องประชาชน ผู้รักชาติรักประชาธิปไตยที่เคารพรัก ตั้งแต่สมัยแรกของการเข้ารับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร เขาได้พร่ำบอกแก่ประชาชนชาวไทย ว่าจะยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตย จะปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และประชาชน จะแก้ปัญหาประเทศชาติด้วยการให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง เคารพสิทธิ เสรีภาพ สิทธิมนุษยชน ยึดมั่นในประชาธิปไตยและจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น แต่ตลอดเวลาที่เขาเข้ามาครองอำนาจในฐานะผู้นำรัฐบาลสองครั้ง เขากลับดำเนินการในสิ่งที่ตรงข้ามกับคำสัญญาที่ได้ให้ไว้กับประชาชน เริ่มตั้งแต่การเข้าครอบครองสื่อมวลชนด้วยวิธีการต่างๆโดยใช้อำนาจเงินและอำนาจรัฐเข้าดำเนินการ ปิดกั้น ริดรอนจำกัดการเสนอข่าวสาร สื่อมวลชน วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ไม่มีอิสระเสรีภาพในการเสนอข่าวสาร นักสื่อสารมวลชนที่ได้แสดงความคิดเห็นแตกต่างจากเขา หรือวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเขาจะถูกไล่ต้อน ไม่มีพื้นที่ให้ยืน เช่นเดียวกับองค์กรภาคประชาชนต่างๆได้ถูกจำกัดเวทีการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาทั้งของประเทศชาติและแม้แต่ของปัญหาประชาชนเอง

เขาได้เข้ายึดครองครอบงำองค์กรตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ กลไกรัฐทุกองคาพยพและแม้แต่รัฐสภา ก็ไม่อาจทำหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดได้อย่างอิสระ การดำเนินการดังกล่าวได้พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนแล้วว่า ประชาธิปไตยในความหมายของเขา ก็คือ การยอมให้ประชาชนใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง หลังจากนั้นก็หมดสิทธิและหน้าที่ รอเพียงให้เขาดำเนินนโยบายตามอำเภอใจ นโยบายประชานิยมของเขาไม่ได้ทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นตามที่แอบอ้าง แต่กลับทำให้ประชาชนต้องยากจนลง ในขณะที่ผลประโยชน์ทั้งหลายทั้งปวง ตกได้และสร้างความร่ำรวยให้แก่ธุรกิจของเขาและกลุ่มทุนที่รายล้อม การใช้อำนาจบริหารในการเสนอกฎหมายของเขา ทำให้ประเทศชาติและประชาชนต้องสูญเสียผลประโยชน์อย่างมหาศาล ทั้งๆที่รัฐได้ให้สิทธิประโยชน์แก่ธุรกิจของเขา ทั้งสัมปทาน ทั้งสิทธิประโยชน์ทางภาษี และอื่นๆ แม้กระทั่งวงโคจรดาวเทียมซึ่งเป็นผลประโยชน์สาธารณะของชาติ แต่เขากลับนำมันมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับหุ้นในบริษัทของเขาและครอบครัว และในที่สุดก็ขายมันออกไปนำมาซึ่งผลกำไรมหาศาลแก่เขาและครอบครัวโดยไม่ต้องเสียภาษีหรือผลประโยชน์แก่รัฐแม้แต่บาทเดียว

การที่เขาดำเนินการเป็นดังนี้ได้ ก็ด้วยอาศัยกลุ่มนักการเมืองที่แวดล้อม ข้าราชการที่ไม่รักศักดิ์ศรี และกลุ่มทุนต่างชาติที่ละโมบ ซึ่งในจำนวนนั้น มีคนที่เคยเคียงบ่าเคียงไหล่ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ประชาธิปไตยในเหตุการณ์ เดือนตุลาคมทั้งสองเหตุการณ์ในอดีตร่วมอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง

พวกกลุ่มคนเดือนตุลาเหล่านั้น ได้อาศัยชื่อเสียงเกียรติภูมิและบทบาทในการเคลื่อนไหวประชาธิปไตยอันยิ่งใหญ่ของประชาชนในเดือนตุลาโดยรวม มารองรับการไต่เต้าทางการเมืองของพวกเขา ละทิ้งจุดยืนเดิมด้วยการไปยืนเคียงข้างผู้มีการกระทำที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไปเป็นมือเป็นเท้า เป็นสมอง ไปคิดและทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งดีงามที่เคยทำมาในอดีต ที่วีรชนประชาชนเดือนตุลาคมได้ยอมสละเลือดเนื้อชีวิตเข้าต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิประชาธิปไตยที่แท้จริงของประชาชน มิหนำซ้ำยังบิดเบือนเจตนารมณ์เดือนตุลาไปสู่หนทางมืดดำ อ้างประชาธิปไตยอย่างข้างๆคูๆ ให้มีความหมายอย่างแคบ เพื่อปิดกั้นการแสดงออกของประชาชนในทุกทาง

การกระทำเช่นนี้นำความอดสูมาสู่พวกเราผู้ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 เป็นการทำลายเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของจิตวิญาณตุลาคม ด้วยแอบอ้างความเป็นคนเดือนตุลาไปรับใช้อำนาจเผด็จการ

เราจึงขอเรียกร้องเป็นครั้งสุดท้าย ในฐานะที่เคยมีจุดยืนเดียวกัน ขอให้อดีตคนเดือนตุลาเหล่านั้นถอยห่างจากการกระทำทั้งปวงของการเป็นมือเท้าให้กับผู้นำที่มีการกระทำอันเป็นเผด็จการ ซึ่งไม่เคารพสิทธิ เสรีภาพและประชาธิปไตยของประชาชนเสียเดี๋ยวนี้ และหันมาร่วมกับประชาชนเพื่อฟื้นฟูสิทธิเสรีภาพ ประชาธิปไตย ให้กับประชาชนไทยเหมือนอย่างที่เคยกระทำมา และขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจที่รักชาติ รักประชาธิปไตย รักความเป็นธรรม ขอจงร่วมกันพิทักษ์สิทธิ เสรีภาพ รวมตลอดถึงผลประโยชน์ของชาติและทรัพยากรอันมีค่าของชาติ ตามเจตนารมณ์เดือนตุลา ที่ได้เคยสร้างคุณูปการ เช่นนี้ไว้แก่ประเทศของเรา

เราเห็นร่วมกันว่า บัดนี้พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร ได้หมดความชอบธรรม ในการเป็นนายกรัฐมนตรี นับแต่วันที่เขามีผลประโยชน์ทับซ้อนอยู่กับนโยบายของรัฐบาลที่เอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของเขา และมันได้เผยธาตุแท้อย่างแจ่มชัด เมื่อเขาได้ขายหุ้นในธุรกิจของเขาและครอบครัวให้แก่ต่างชาติ ซึ่งในนั้นมีทรัพย์สมบัติของประเทศรวมอยู่ด้วย

ถึงเวลาแล้วที่เรา จะต้องพิทักษ์ดอกผลของการต่อสู้ตามเจตนารมณ์เดือนตุลา โดยไม่ให้ผู้ใดมาบิดเบือนนำผลพวงของการต่อสู้เดือนตุลาไปหาประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้อง เราหวังว่าแถลงการณ์นี้จะทำให้ผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย รักความถูกต้องเป็นธรรมทั้งหลาย รวมทั้งผู้คนที่เคยต่อสู้ร่วมกันในนาม เจตนารมณ์เดือนตุลา จะลุกขึ้นมาอีกครั้ง และจะร่วมกันต่อสู้ เรียกร้อง อย่างหยัดยืนทรนง ร่วมกันแสดงออกในทุกๆทางด้วยการไม่ยินยอมให้เสรีภาพ ประชาธิปไตย ที่เราและประชาชนแลกมาด้วยเลือดเนื้อ ชีวิตของวีรชนเดือนตุลา ต้องถูกทำลายลงไปด้วยน้ำมือของผู้นำรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมเช่นนี้




เครือข่ายพิทักษ์เจตนารมณ์เดือนตุลา
2 กุมภาพันธ์ 2549


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:12:28:02 น.  

 
^
^
^
ก็อปปี้มาจาก //www.THAIOCTOBER.com


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:12:35:38 น.  

 
^
^
หวังว่าคงไม่เกิดอะไรร้ายแรงนะคะ


ปล.ปกติเป็นคนไม่หวานอ่ะค่ะ เลยต้องทำบล็อคให้หวานๆ หน่อย ^^'...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:00:51 น.  

 





สวัสดีตอน บ่ายๆของ S.D. Avenue Holtel นะจ้า


' คิดถึง ห่วงใย..คำ..สองคำนี้ '
คือคำที่อยากสื่อไปให้ถึงเธอ
คำสองคำนี้ ค่ามันอาจไม่มากมาย
แต่สัมผัสได้จากใจฉันนาม..แสนซน.


** มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงเสมอนะจ้า **



โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:14:56:05 น.  

 
ทำลิ้งกระทู้ที่เกี่ยวข้อง "แถลงการณ์เครือข่ายพิทักษ์เจตนารมณ์เดือนตุลา"

คลิกที่นี่


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:16:44:35 น.  

 
บีจีสีแสบตาดีจังค่ะ


โดย: Black Tulip วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:17:03:35 น.  

 
Image Hosted by ImageShack.us
ตอนนี้ต้องพักก่อน ดูจนเวียนหัวแล้วอ่ะค่ะ


โดย: erol วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:19:03:36 น.  

 
เอารอยยิ้มมาฝากค่ะ

Image hosting by Photobucket


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:23:52:19 น.  

 
เพลงเพราะมากค่ะ...
ฟังเพลงพร้อมอ่านบทความทำให้รู้สึกมีความสุขกับการทำงานขึ้นมาทันที


โดย: บุษบามินตรา วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:9:38:13 น.  

 
คุณสนธิก้าวเร็วไปค่ะ สำหรับความคิดจุ


โดย: ju (กระจ้อน ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:11:06:15 น.  

 




สวัสดีตอนเที่ยงของ S.D. AVENUE Bang Phlat นะจ้า


ทฤษฎีของ...ความคิดถึง
คือคนนึงส่งใจไปหาอีกคนนึง
แล้วได้คำตอบของทฤษฎีนั้นว่า
กรุณาส่ง..ความคิดถึง..กลับมาถึงกัน


** มีความสุขมากๆในวันท้ายของการทำงานนะจ้า **



โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:12:11:47 น.  

 


โดย: Lookpat (LooKPat ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:51:57 น.  

 
พรุ่งนี้ ไปที่พระรูปฯกะเค้ารึเปล่าคะเนี่ย


โดย: Black Tulip วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:15:10:09 น.  

 
^
^
กะมาถามเหมือนคุณจุ๊บเลยค่ะ ^^



...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:15:46:18 น.  

 
ไปครับ กะจะไปช่วงเย็น
แต่ประเมินดูแล้วคงต้องใช้เวลาครับ
ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบพฤษถาทมิฬ
แต่อยากให้การปฏิรูปการเมืองรอบสองเกิดจากจิตสำนึกของบรรดานักการเมืองที่ผูกขาดการเมืองมานานและอากให้สังคมช่วยกันรณรงค์ในเรื่อง "จริยธรรมทางการเมือง"ให้มากกว่านี้ เพราะการเมืองระดับท้องถิ่น,ภูมิภาค ก็มีปัญหานี้เช่นกัน...

ประเทศด้อยพัฒนาที่มีปัญหาจริยธรรมอย่างมากมายในยุคบริโภคนิยมและเข้ามาทำงานการเมืองด้วยวัตถุประสงค์แอบแฝงไม่ใช่ด้วยอุดมการณ์และความเสียสละอย่างแท้จริง แม้จะเกิดเหตุการณ์แบบ 14ตุลาอีกกี่ครั้ง ก็ไม่มีหลักประกันอะไรกับการพัฒนาประชาธิไตยไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์.......

ปัญหาก็คือว่าเราจะเดินหน้ากันต่อไปอย่างไร จะทำอะไรก่อนอะไรหลัง คงเป็นเรื่องที่น่าใคร่ครวอย่างยิ่งขององค์กรประชาชนที่ลงมาเคลื่อนไหวความคิดในเรื่องเหล่านี้

พูดง่าย ๆ คือ คงต้องระดมความคิดกันให้มากขึ้นหากจะยังยืนยันที่จะเดินไปในเส้นทางสายนี้...


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:16:06:39 น.  

 


แถลงการณ์ ฉบับที่ 1


รัฐบาลทักษิณ สิ้นความชอบธรรมในการบริหารประเทศชาติแล้ว


ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าเรื่องเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด CTX 9000 ที่ สนามบินสุวรรณภูมิ, เรื่องโกงสต๊อคลำใยที่ลำพูน, เรื่องกล้ายางซีพี, เรื่องโคล้านตัว เป็นต้น การคอรัปชั่นเชิงนโยบายเช่น ลดค่าสัมปทานมือถือ, ลดภาษีนำเข้าโทรศัพท์มือถือ, แปรรูปองค์การโทรศัพท์ แล้วกำกับให้ไป ลงทุนโครงข่ายที่ไม่คุ้มทุนเพื่อประชานิยม ทำให้คู่แข่งของมือถือ AIS อ่อนแอลงจนไม่มีทางสู้, แปรรูปการสื่อสารแห่งประเทศไทยคู่แข่งอีกรายหนึ่ง แล้วกำกับให้ยกเลิกการประมูลสัมปทานมือถือระบบ CDMA เฟส 2 ที่เอกชนรายอื่นชนะประมูล แล้วให้ กสท. ลงทุนเอง จนรายได้ลดลงและอ่อนแอจนไม่มีทางสู้อีกราย, เก็บภาษี สรรพสามิตกิจการโทรคมนาคม กีดกันคู่แข่งรายใหม่, ยกเว้นภาษีรายได้จากดาวเทียม IP STAR 16,459 ล้านบาทต่อปี, ทำ FTA กับออสเตรเลียเพื่อเปิดตลาดให้ดาวเทียม กิจการโทรคมนาคม และรถยนต์จากไทยแลกกับความล่มสลายของเกษตรกรจำนวนมาก, ปล่อยเงินกู้ของรัฐให้พม่าเพื่อให้ดาวเทียมของชินคอร์ปได้ประโยชน์, ลดค่าสัมปทานและปรับผัง ITV ให้เพิ่มรายการบันเทิงหารายได้หลังถูกกลุ่มทุนชินคอร์ปซื้อไปแล้ว, กำกับให้การบินไทยแบ่งเที่ยวบินที่มีกำไรให้สายการบินแอร์เอเซียจนการบินไทยเริ่มขาดทุน ฯลฯ รวมทั้งการเร่งแปรรูปขายรัฐวิสาหกิจสำคัญ ๆ ทั้งไฟฟ้า ประปา พลังงาน เข้าตลาดหลักทรัพย์โดยไม่ฟังเสียงคัดค้าน เพื่อสร้างมูลค่าปั่นราคาในตลาดหุ้นและควบคุมขูดรีดคนไทยได้ทั้งประเทศ ตลอดจนการรวมกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนวายุภักษ์ และกองทุนประกันสังคม มูลค่ารวมกัน 57,500 ล้านบาท ซึ่งเงินส่วนใหญ่เป็นของพี่น้องผู้ใช้แรงงานและข้าราชการปลดเกษียณ เข้าไปเสี่ยงเป็นผู้เล่นซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ โดยเฉพาะการเข้าไปซื้อหุ้นทั้งมือถือ AIS และชินคอร์ป ฯลฯ ซึ่งผลของการคอรัปชั่นเชิงนโยบายเหล่านี้ ทำให้มูลค่าของชินคอร์ป ในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มจาก 29,663 ล้านบาทในปี 2545 เป็น 147,200 ล้านบาทในปี 2548 หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่าภายในเวลาเพียงแค่ 3 ปีเศษ กำไรมหาศาลที่งอกเงยขึ้นมานี้ ส่วนใหญ่ได้มาจากการผูกขาดสัมปทาน และต้นทุนทางสังคมที่ลดภาษี ลดค่าสัมปทาน รวมทั้งกอบโกยขูดรีดไปจากประชาชนทั่วประเทศที่ต้องใช้มือ ถือในการติดต่อสื่อสาร

ส่วนหนึ่งของ “ความไม่พอใจต่อรัฐบาลทักษิณ” ที่สะสมปริมาณมากขึ้นอยู่ตลอดเวลานี้ ได้เปลี่ยนเป็น คุณภาพใหม่ เมื่อชินคอร์ปของ “กลุ่มทุนทักษิณ ชินวัตร” และครอบครัวประกาศขายหุ้นทั้งหมดของตนให้กับกลุ่มทุน Temasek Holding ของรัฐบาลสิงคโปร์ ด้วยเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ “เป็นเรื่องของทางลูก ๆ ที่อยากให้ พ่อทำงานให้บ้านเมืองเต็มที่ จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงถูกกล่าวหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เรื่องอะไรต่ออะไร” แต่ลูกชายกลับบอกว่า “เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ หากผู้ใหญ่ขายก็คงจะขายตาม”

ที่น่าสนใจก็คือ การขายหุ้นที่มีมูลค่าสูงถึง 73,271.2 ล้านบาทเมื่อวันจันทร์ที่ 23 มกราคมนี้ มีข้อพิรุธน่าสงสัยหลายประการ เนื่องจากรัฐบาลทักษิณเพิ่งจะแก้ไขกฎหมายเปิดทางให้ต่างชาติถือหุ้นเพิ่มจาก 25% เป็น 49% เมื่อวันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2549 เพียงชั่วข้ามวันทำการเท่านั้น พวกเขาก็ใช้สิทธิถือหุ้นถึง 49.6 % โดยที่ยังไม่รวมการถือหุ้นผ่านตัวแทนในชื่ออื่น แสดงให้เห็นถึงความจงใจใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ ให้กับการขายหุ้นที่ได้กำไรมหาศาลของตนอย่างน่ารังเกียจ

ที่สำคัญ การขายหุ้นครั้งนี้ยังได้นำสัมปทานตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมของประเทศไทย รวมทั้งคลื่น ความถี่ทั้งที่ใช้กับมือถือและโทรทัศน์ซึ่งเป็นสมบัติของประชาชนไทย ไปขายเอากำไรมหาศาลให้กับสิงคโปร์ (นายหน้าของจักรพรรดินิยมอเมริกา) อย่างแยบยล

การขายหุ้นครั้งใหญ่นี้ยังเต็มไปด้วยความคลุมเครือและเงื่อนงำสลับซับซ้อน มีการโยกย้ายถ่ายเทหุ้นไป ๆ มา ๆ ระหว่างพ่อ-ลูก-พี่-น้อง ในบริษัท Ampple Rich Investment ของนายกทักษิณที่จดทะเบียนบังหน้าไว้บนเกาะบริติช เวอร์จิ้น ซึ่งอยู่ไกลถึงทะเลแคริเบียน ในทวีปอเมริกากลาง ตามแบบฉบับของนักฟอกเงินทั่วโลก เพื่อใช้ช่องว่างทางกฎหมายหลบเลี่ยงภาษีทุกวิถีทางจนไม่ต้องเสียภาษีแม้แต่บาทเดียว แถมยังให้คนรับใช้ บรรดาศักดิ์ นักเลี่ยงภาษีระดับชาติ ออกมาแถลงย้ำเย้ยว่า พวกเขา “ทำถูกกฎหมายทุกประการ” ประสานเสียงด้วยกลไกอำนาจรัฐที่มักจะขูดรีดเลือดเนื้อเอาเป็นเอาตายกับคนยากคนจนอย่าง กรมสรรพากร รวมทั้งคณะ กรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่างก็ออกมาแถลงรับรองความถูกต้องชอบธรรมในการขายหุ้นครั้งนี้ของกลุ่มทุนผูกขาดแห่งรัฐ “ทักษิณและครอบครัว” ย้ำเตือนให้รำลึกถึงบทกวีที่ว่า “ชนชั้นใดร่างกฎหมาย ก็แน่ไซร้เพื่อชั้นนั้น”

เราจึงขอคัดค้านและประณามการขายหุ้นพ่วงขายชาติของกลุ่มทุนผูกขาดแห่งรัฐ “ทักษิณและครอบ ครัว” ในครั้งนี้ ตลอดจนการคอรัปชั่นทุกรูปแบบที่ผ่านมาของพวกเขาและบริวารอย่างถึงที่สุด

เราขอคัดค้านและประณาม “ความถูกต้องตามกฎหมาย” ที่กลุ่มทุนผูกขาดแห่งรัฐ “ทักษิณและครอบครัว” ใช้อ้างถึงในการสร้างความร่ำรวยด้วยความเห็นแก่ตัว ไร้จริยธรรม ไม่คำถึงความเสียหายของประเทศชาติ เป็นการกระทำที่เผยให้เห็นโฉมหน้าและความเลวร้ายที่ซ่อนเร้นภายใต้หน้ากากนักบุญของพวกเขาที่ชอบอ้าง รัฐบาลธรรมาภิบาล บรรษัทธรรมาภิบาล แต่เบื้องหลังก็คือเนื้อแท้ของกลุ่มทุนที่ทำทุกอย่างเพื่อเอารัดเอาเปรียบสังคม หาทางกอบโกยทุกวิธีการ ตราและคงไว้ซึ่งกฎหมายที่รับใช้ชนชั้นนายทุนพวกเดียวกันอย่างไร้ยางอาย

เราจึงเห็นว่านับจากนี้ไป รัฐบาลทักษิณ สิ้นความชอบธรรมในการบริหารประเทศชาติแล้ว !

อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งทางการเมืองที่ค่อนข้างแหลมคมในขณะนี้ ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว กลุ่มชนชั้นที่เคยมีอำนาจกำลังใช้สถานการณ์ที่สับสนนี้ช่วงชิงความได้เปรียบและต้องการจะเปลี่ยนแปลงรัฐบาลไปตามวิธีการของพวกเขาโดยอาศัยประชาชนเป็นเครื่องมือ รวมทั้งอาจฉวยโอกาสสร้างความรุนแรงขึ้นเพื่อบรรลุเจตจำนงที่แฝงเร้น เฉกเช่นเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองหลายครั้งในอดีต ดังกรณีเหตุการณ์ 14 ตุลา 6 ตุลา และพฤษภาทมิฬ เป็นต้น เราถือว่าการชุมนุมเรียกร้องโดยปราศจากอาวุธเป็น สิทธิอันชอบธรรมของประชาชนไทยตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ กลุ่มชนชั้นปกครองไม่ว่าฝ่ายใดไม่มีสิทธิจะใช้ ความรุนแรงกับประชาชนอย่างเด็ดขาด

เราจึงต้องประเมินสถานการณ์ครั้งนี้อย่างสุขุมรอบคอบและมีสติ, ยืนอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งแย่งชิงอำนาจของกลุ่มชนชั้นปกครองด้วยความเป็นอิสระทางการเมือง คำนึงถึงผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นหลัก ถ้าขับไล่รัฐบาลทักษิณแล้วไม่สามารถรักษาระบอบประชาธิปไตยเอาไว้ได้ ประชาชนก็จะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เราจะไม่ยอมแบกเกี้ยวหามใคร ไม่ยอมสูญเสียเลือดเนื้อเพื่อให้ใครกลับขึ้นมาเป็นใหญ่ แล้วใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงประชาชนอีกต่อไป

เราจึงไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาวิกฤติทางการเมืองด้วยการ “คืนพระราชอำนาจ” หากแต่เห็นด้วยและสนับสนุนให้ “คืนอำนาจให้ประชาชน” ตามวิถีทางประชาธิปไตย ก่อนที่วิกฤติการณ์ทางการเมืองจะลุกลามบานปลาย สร้างความเสียหายให้กับทุกฝ่ายและประเทศชาติบ้านเมืองอย่างรุนแรง

รัฐบาลทักษิณต้องลาออก เพื่อให้รัฐสภาสรรหาผู้นำประเทศคนใหม่ หรือไม่ก็ต้องยุบสภา

กองบรรณาธิการ “ไฟลามทุ่ง”
2 กุมภาพันธ์ 2549

...................................................................................

ลิ้งกระทู้ "จะร่วมกับสนธิหรือไม่"จากเวบไซด์ไฟลามทุ่ง //www.firelamtung.com

คลิกที่นี่





โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:17:29:16 น.  

 
บล็อคสวย
เนื้อหา สาระ แน่น
ขอชม ครับ


โดย: ลำน้ำ C วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:22:47:45 น.  

 
บล็อคสวย
เนื้อหา สาระ แน่น
ขอชม ครับ


โดย: ลำน้ำ C วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:22:47:53 น.  

 
ขอบคุณสาระดีดีนะคะ


โดย: prncess วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:9:58:04 น.  

 


พี่ชาย
วันนี้ ฤกษ์ ดีนะคะ

4 กุมภาพันธ์ วันรักชาติ


โดย: ประกายดาว วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:10:23:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนเดินดินฯ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








ปณิธาน

การเดินทางของชีวิตของทุกผู้คน
ทุกคนต่างต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่จะมีสักกี่คนที่จะก้าวไปถึง
เมื่อเราก้าวถึงจุดนั้น
ขออย่าลืมการแบ่งปันและเจือจาน
แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม

เราจะเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน
เพื่อสร้างสรรค์สังคมใหม่ที่ดีงาม

เพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลัง
ได้ใช้ชีวิตของเขา
ตามศักยภาพและความตั้งใจของเขา
ตราบเท่าที่เขาต้องการ







เดินไปสู่ความใฝ่ฝัน


ชีวิตหนึ่งร่วงหล่นไปตามกาลเวลา
คลื่นลูกใหม่ไล่หลังคลื่นลูกเก่า
นั่นคือวัฏจักรของชีวิตที่ดำเนินไป

เยาว์เธอรู้บ้างไหม
ว่าประชาราษฎรนั้นทุกข์ยากเพียงใด
เสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่เหลืออยู่
เธอเคยมีความใฝ่ฝันที่แสนงามบ้างไหม

สักวันฉันหวังว่าเธอจะเดินไปตามทางสายนี้
ที่อาจดูเงียบเหงาและโดดเดี่ยว
แต่ภายใต้ฟ้าเดียวกัน
ฉันก็ยังมีความหวัง
ว่าผู้คนในประเทศนี้
จะตื่นขึ้นมา
เพื่อทวงสิทธิ์ของพวกเขา
ที่ถูกย่ำยีมาช้านาน
และฉันหวังว่าเธอจะเดินเคียงคู่ไปกับพวกเขา

เพื่อสานความใฝ่ฝันนั้นให้เป็นความจริง
สัญญาได้ไหม
สัญญาได้ไหม
เยาว์ที่รักของฉัน


***********



ขอมีเพียงเธอเป็นกำลังใจ




ทอดสายตามองออกไปยังทิวทัศน์ข้างหน้า
แลเห็นต้นหญ้าโบกไสว
เห็นดอกซากุระบานอยู่เต็มดอย
ความงามที่อยู่ข้างหน้า
เป็นสิ่งที่ฉันจะเก็บมันไว้
ยามที่จิตใจอ่อนล้า...

ชีวิตยามนี้แม้ผ่านมาหลายโมงยาม
แต่จิตใจข้างในยังคงดูหงอยเหงา
หลายครั้งอยากมีเพื่อนคุย
หลายครั้งอยากมีคนปรับทุกข์
และหลายครั้งต้องนั่งร้องไห้คนเดียว

รางวัลสำหรับชีวิตที่ผ่านมา
มันคืออะไรเคยถามตัวเองบ่อย ๆ
ความสำเร็จ...เงินตรา...เกียรติยศชื่อเสียง
มันใช่สิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า
ถึงจุดหนึ่งชีวิตต้องการอะไรอีกมากไปกว่านี้

หลายชีวิตยังคงดิ้นรนต่อสู้
เพื่อปากท้องและครอบครัว
มันเป็นความจริงของชีวิตมนุษย์
ที่ต้องดำรงชีพเพื่อความอยู่รอด
มีทั้งพ่ายแพ้ มีทั้งชนะ
แต่ชีวิตต่างต้องดำเนินไป
ตามวิถีทางของแต่ละคน

ลืมความทุกข์ ลืมความหลังที่เจ็บปวด
มองออกไปข้างหน้า
ค้นให้พบตัวตนของตนเองอีกครั้ง
แล้วกลับไปสู้ใหม่
การเริ่มต้นของชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป
จะต้องดำเนินต่อไป

ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต....




@@@@@@@@@@@




การเดินทางของความรัก

...ฉันเดินไปด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า
สมองได้คิดใคร่ครวญ
ความรักในหลายครั้งที่ผ่านมา
ทำไมจึงจบลงอย่างรวดเร็ว

ฉันเดินไปด้วยสมองอันปลอดโปร่ง
ความรักทำให้ฉันเข้าใจโลก
และมนุษย์มากขึ้น
และรู้ว่าความแตกต่าง
ระหว่างความรักกับความหลงเป็นอย่างไร?

ฉันเดินไปด้วยดวงตาที่มุ่งมั่น
บทเรียนของรักในครั้งที่ผ่าน ๆ มา
มันย้ำเตือนอยู่เสมอว่า
อย่ารีบร้อนที่จะรัก
แต่จงปล่อยให้ความสัมพันธ์
ค่อย ๆ พัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เรียนรู้และทำเข้าใจกันให้มากที่สุด

ก่อนที่จะเริ่มบทต่อไปของความรัก...




*******************



จุดไฟแห่งศรัทธาและความมุ่งมั่น

เข้มแข็งกับอ่อนแอ
สับสนหรือมุ่งมั่น
จะยอมแพ้หรือลุกขึ้นท้าทาย
กับชีวตที่เหลืออยู่
ทุกสิ่งล้วนอยู่ที่ใจเราจะกำหนด

ไม่ใช่เพราะอิสระเสรี
ที่เราต้องการหรอกหรือ?
ที่มันจะนำทางชีวิต
ในห้วงเวลาต่อไป
ให้เราก้าวทะยานไป
สู่วันพรุ่งที่สดใส

มีแต่เพียงคนที่รู้จักตนเองอย่างดีพอเท่านั้น
จะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
เมื่อผ่านการสรุปบทเรียน
จากปัญหาต่าง ๆ ที่ประสบ
เราก็จะมีความจัดเจนกับชีวิตมากขึ้น
และการเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ
ในอนาคตก็จะเป็นเพียงปัญหาที่เล็กน้อยสำหรับเรา
ในการที่จะก้าวผ่านไป



ด้วยศรัทธาและความมุ่งมั่นที่มีอยู่ในใจ
ที่จะต้องย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอ
หนทางในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
ย่อมอยู่ไม่ไกลห่างอย่างแน่นอน

*********************



ก้าวย่างที่มั่นคง

บนทางเดินแคบ ๆ ที่เหลืออยู่
หากขาดความมั่นใจที่จะก้าวเดินต่อไป
ชีวิตก็คงหยุดนิ่งและรอวันตาย
แม้ทางข้างหน้าจะดูพร่ามัว
และไม่รู้ซึ่งอนาคต
แต่สิ่งที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
คือก้าวย่างไปอย่างมั่นคง
และมองไปข้างหน้าอย่าเหลียวหลัง
เก็บรับบทเรียนในอดีต
เพื่อจะได้ระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาดอีกในอนาคต

"""""""""""""""""""""""""""""""""



ใช้สามัญสำนึกทำงาน

ไม่มีแผนงานที่สวยหรู
ไม่มีปฏิบัติการใดที่สมบูรณ์แบบ
ในยามนี้มีเพียงการทำงานด้วยการทุ่มเท
ลงลึกในรายละเอียดเท่านั้น
จึงจะสามารถคลี่คลายปัญหาของงานลงได้
บางครั้งโจทย์ที่เจออาจยากและซับซ้อน
แต่เมื่อลงไปคลุกคลีอย่างแท้จริง
โจทย์เหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

""""""""""""""""""""""""""""""""



เรียบ ๆ ง่าย ๆ


อย่ามองสิ่งต่าง ๆ ด้วยแว่นสีที่ซับซ้อน
เพราะในโลกนี้มีเพียงสิ่งสามัญที่เรียบง่าย
สำหรับคนที่สงบนิ่งเพียงพอเท่านั้น
จึงจะแก้โจทย์และปัญหาต่าง ๆ
ด้วยกลวิธีที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ
ไม่ซับซ้อนและตรงจุดได้อย่างเพียงพอ

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ใจถึงใจ

บนหนทางไปสู่ความสำเร็จ
บนหนทางของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
มีเพียงคนที่เข้าใจในสภาพจิตใจของคนทำงานเท่านั้น
จึงจะสามารถนำทีมงานไปสู่เป้าหมายได้
อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน








Friends' blogs
[Add คนเดินดินฯ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.