|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
แห่งการงานอันเบิกบาน
สิ่งมีชีวิตในโลกมนุษย์จะแสดงธรรมชาติที่แท้จริงของมันในกระแสแห่งชีวิต การทำงานเป็นการแสดงการมีชีวิตและเป็นการแสดงถึงการมีส่วนร่วมอาศัยอยู่ในโลกนี้ งานจะเอื้ออำนวยเราให้ใช้ศักยภาพของเราอย่างเต็มที่ เพื่อเปิดโลกแห่งประสบการณ์อันกว้างขวางซึ่งซ่อนอยู่แม้ในกิจกรรมที่ลึกซึ้งละเอียดอ่อนที่สุด ในการทำงานเราเรียนรู้การใช้พลังงานของเราอย่างฉลาด ดังนั้น จึงมักมีคุณประโยชน์และอิ่มเอิบสมบูรณ์
ธรรมชาติของมนุษย์ คือ การมีชีวิตอย่างเป็นสุขและอิ่มเอิบ งานให้โอกาสแก่เราได้ประจักษ์ในความสุขนี้โดยการพัฒนาคุณภาพของธรรมชาติอันแท้จริงของเรา งานจะเป็นการแสดงออกอันราบรื่นและกลมกลืนของความแท้จริงของตัวเราตลอดจนเป็นวิธีการสร้างความกลมกลืนและความสมดุลภายในตัวเราและระหว่างเรากับโลก ในการทำงานเรานำพลังงานของเราให้เป็นคุณประโยชน์ต่อกระแสชีวิต เรานำร่างกายของเรา การหายใจและจิตใจของเราผลิตการกระทำที่สร้างสรรค์ในความสร้างสรรค์ของเรา เราเติมชีวิตของเราให้เต็มและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่บุคคลอื่นมามีส่วนร่วมด้วยความสุข
เราควรจะตระหนักถึงความสำคัญของงานที่มีต่อชีวิต เรารู้ว่างานสามารถนำเอาทุกส่วนของชีวิตของเราทั้งทางจิตใจทั้งทางความคิดและทั้งความรู้สึกต่าง ๆ มาใช้อย่างเต็มที่ แต่ความกลมกลืนกับงานอย่างลึกซึ้งเช่นนี้เป็นไปได้อย่างยากเหลือเกินในสังคมที่ซับซ้อนเช่นปัจจุบัน เราปราศจากความรู้ในวิธีการที่จะนำความสามารถต่าง ๆ มาใช้เพื่อนำเราไปสู่ชีวิตที่มีประโยชน์และมีความหมาย ในอดีต การศึกษามีบทบาทสำคัญมากในการถ่ายทอดความรู้ต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นในการผสมผสานการเรียนรู้ส่วนบุคคลและประสบการณ์ที่เขาได้รับ เพื่อหล่อหลอมให้ธรรมชาติภายในได้แสดงออกมาในทางที่เหมาะสม ในปัจจุบันความรู้ชนิดนี้ไม่ได้รับการถ่ายทอดมาอีกแล้ว ดังนั้นความเข้าใจในเรื่องงานและสาระของงานจึงคับแคบและตื้นเขิน ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่ค่อยได้สัมผัสกับความสุขอันลึกซึ้งซึ่งเกิดจากการทำงานอันแนบเนียนและชำนาญด้วยชีวิตจิตใจของเราทั้งหมด
และอาจเพราะว่าเราไม่ต้องใช้ความพยายามมากเพื่อตอบสนองต่อความต้องการพื้นฐานต่าง ๆ ของเรา เราจึงไม่ได้ให้ความคิดและหัวใจของเราทั้งหมดแก่งาน และเป็นความจริงไม่น้อยที่ความเชื่อที่ว่าทำงานให้แค่เสร็จ ๆ ไป ผ่าน ๆ ไปเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ยอมรับ คนส่วนใหญ่ไม่คิดจะชอบงานที่ตนเองทำ และยิ่งน้อยกว่านั้นคือความคิดที่จะทำงานให้ดีเยี่ยม เพราะเราจะมองกันเพียงแต่ว่างานนั้นเป็นจุดหมายปลายทางแล้ว ไม่ว่าจะมีอาชีพเช่นใดก็ตาม เราจะคิดเพียงแต่ว่างานเป็นสิ่งที่เราใช้ฆ่าเวลาเท่านั้น และเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้
หากมีแรงจูงใจเพียงพอให้เราทำงานหนัก เราก็อาจจะทำงาน แต่หากเราพิจารณาแรงจูงใจนั้นให้ชัดเจน เราก็จะพบว่าแรงจูงใจของเรามักจะแคบ และมุ่งไปสู่ตำแหน่งหรืออำนาจหรือเรื่องส่วนตัวเสีย หรือมุ่งไปสู่การปกป้องชื่อเสียงของตนเองและครอบครัวเท่านั้น แรงจูงใจโดยยึดเอาตนเองเช่นนี้ ทำให้เป็นการยากที่จะพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ให้เต็มที่ในงาน และแทนที่คนจะได้ดื่มด่ำกับคุณภาพอันประเสริฐของชีวิต สิ่งแวดล้อมในงานได้นำให้เกิดสิ่งไร้สาระ เช่น การแข่งขัน และความไม่จริงใจต่าง ๆ นานา
และเพื่อเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ คนเราได้ปฏิเสธการทำงานอย่างสิ้นเชิง เมื่อเราคิดดังนี้ เราอาจเข้าใจว่าเรากำลังดำเนินไปสู่ความดีงามเพื่อเพิ่มพูนความสุขในชีวิต แต่มันจะกักขังศักยภาพของเรามากขึ้น และเราน่าจะเลือกทางอื่น ซึ่งทำให้เราพบความสมบูรณ์ได้มากกว่า เพราะการมีชีวิตอยู่โดยปราศจากการทำงานนั้น ทำให้เราถอยห่างออกจากกระแสแห่งชีวิตที่แท้ การปฏิเสธการแสดงพลังงานแห่งตนในการทำงานจะทำให้เราโกงตนเอง เราจะไม่ประจักษ์ถึงธรรมชาติอันแท้จริงของตน และการโกงตนเองเช่นนี้จะทำให้เราไม่สามารถทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมได้อย่างสมบูรณ์เต็มที่
ชีวิตให้คุณค่าและความหมายเมื่อเราอยู่กับกระแสชีวิตได้อย่างเต็มที่ แต่เรากลับลดคุณค่าและคุณภาพของความเป็นมนุษย์ อันได้แก่ สัจจะแห่งตน ความซื่อสัตย์ ความเชื่อถือตนเอง ความเป็นเจ้าของชีวิตตนเอง และการร่วมมือกับผู้อื่นซึ่งงอกงามอยู่โดยธรรมชาติ โดยการไม่กลมกลืนตนเองอย่างเต็มที่กับงานและชีวิต หากชีวิตเราปราศจากการนำทางโดยคุณค่าต่าง ๆ เหล่านี้ เราจะไม่มั่นคง จะหวั่นไหวและเกิดความไม่เป็นสุขต่าง ๆ เมื่อเราปราศจากความรู้ที่จะนำให้เราเกิดความดื่มด่ำในการงาน เราก็จะไม่พบหนทางใด ๆ อีกเลยในการแสวงหาคุณค่าอันลึกซึ้งของชีวิต
มันสำคัญมากสำหรับเราที่จะเห็นว่า การมีชีวิตอยู่ได้ในความหมายที่กว้างที่สุดนั้น จะผูกพันอยู่กับความมุ่งมั่นและเต็มใจที่จะทำงานด้วยหัวใจและหัวสมอง ซึ่งหมายถึงการเข้าร่วมกับกระแสชีวิตอย่างเต็มอิ่มสมบูรณ์ และหนทางนี้เท่านั้นที่จะทำให้เราเข้าใจและประจักษ์แจ้งในคุณค่าของความเป็นมนุษย์ ซึ่งจะนำให้เกิดความกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวในชีวิตของเรา ในสังคมและในโลกมนุษย์ เราไม่สามารถจะเพิกเฉยต่อผลของแรงจูงใจอันเห็นแก่ตัวซึ่งก่อให้เกิดการแข่งขันและความไม่จริงใจอีกต่อไป เราจำเป็นต้องมีปรัชญาใหม่แห่งการทำงานซึ่งวางรากฐานอยู่บนความเข้าใจในธรรมชาติอันกว้างขวางของมนุษย์ เราจะต้องให้ความนับถือแก่ตนเองและผู้อื่น และใส่ใจกับความสำนึกในคุณภาพและแนวทางซึ่งจะก่อให้เกิดความสงบและสันติขึ้นในโลก อันได้แก่ ความสัมพันธ์ ความร่วมมือ และความรับผิดชอบ
สิ่งนี้มีความหมายว่าเราต้องเต็มใจที่จะรู้จักกับงานอย่างเปิดใจกว้าง รู้จักพิจารณาอย่างซื่อสัตย์ในความเข้มแข็งและ ความอ่อนแอของเรา และยินดีที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตให้มีค่ามากขึ้น หากเราทุ่มเทกำลังอย่างแท้จริง พัฒนาทัศนะต่อการงาน พัฒนาสิ่งที่มีค่าอย่างแท้จริงในตนเอง เราจะทำให้ชีวิตเป็นสุขอย่างแท้จริง ความชำนาญต่าง ๆ ที่เราเรียนรู้ในขณะทำงานจะกระตุ้นให้เกิดความงอกงามและนำทางให้เกิดความสุขความพอใจและความหมายในชีวิตทุก ๆ ขณะจิตทั้งของตนเองและผู้อื่น การทำงานเช่นนี้เป็นการทำงานอย่างคล่องแคล่วและเบิกบาน
=================================
คัดจาก "แห่งการงานอันเบิกบาน"
ผู้เขียน : ตาร์ถัง ตุลกู
ผู้แปล : โสรีช์ โพธิแก้ว
ขอขอบคุณองค์ความรู้ทั้งหมดที่ได้จากหนังสือเล่มนี้
=================================
ประมวลภาพงานทอดผ้าป่าส่วนที่เหลือ
ชาวบ้านที่บ้านพอกะทะที่ตั้งใจจะล่องแพน้ำจัน แต่ก็งดเพราะกลัวไม่ทันเวลา เที่ยวหน้าคงได้ล่องแน่ ๆ
"เอ้า ฟังผู้ใหญ่อบรมหน่อย"
ภาพบ้านของชาวปากะยอที่ยังคงความเป็นบ้านที่เรียบง่ายอย่างยื่ง....
เอ้า...ลุย ช่วงนี้แหละที่ลงไปซ่าและทำกล้องเปียกน้ำ น้ำลึกประมาณเหนือเข่านิดหน่อย
ลำห้วยที่ขับรถผ่านไป
หนู พาน้องมาให้ลุงดูหน่อย น้องอายุกี่เดือนแล้ว
1..2...3 ยิ้มหน่อย
ป่าริมทางช่วงเดินทางกลับมีลำน้ำจันขนานไปตลอดทางช่วงหนึ่ง
เก็บภาพขณะขับรถเข้าไป ดูลักษณะการแบกข้าวของชาวบ้าน แปลกดีไหม
เหนื่อยจริง ๆ ครับกว่าจะได้ภาพออกมา ต้องขอขอบคุณบุคคลที่มาช่วยเหลือการย่อไฟล์ภาพออกมาได้ และการติดตั้งวินโดว์ xp ก็ช่วยให้เสียงเพลงต่าง ๆไม่เป็นอุปสรรคในการฟังอีกต่อไป......
การเดินทางเข้าไปดูน้ำตกทีลอซูที่โหดที่สุดเที่ยวหนึ่ง แต่ก็ทำให้คนพิการคนหนึ่งได้เห็นน้ำตกทีลอซูที่สวยงามเป็นอันดับ 6 ของโลก....
Create Date : 09 ธันวาคม 2548 |
Last Update : 12 ธันวาคม 2548 3:30:54 น. |
|
20 comments
|
Counter : 962 Pageviews. |
|
|
|
โดย: . มั ช . IP: 58.9.2.166 วันที่: 9 ธันวาคม 2548 เวลา:17:26:04 น. |
|
|
|
โดย: rebel วันที่: 9 ธันวาคม 2548 เวลา:20:29:21 น. |
|
|
|
โดย: ป่ามืด วันที่: 9 ธันวาคม 2548 เวลา:22:55:01 น. |
|
|
|
โดย: p_tham วันที่: 10 ธันวาคม 2548 เวลา:2:35:10 น. |
|
|
|
โดย: erol วันที่: 10 ธันวาคม 2548 เวลา:10:02:53 น. |
|
|
|
โดย: Black Tulip วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:1:16:13 น. |
|
|
|
โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:1:38:04 น. |
|
|
|
โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:1:58:07 น. |
|
|
|
โดย: สเลเต วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:2:03:50 น. |
|
|
|
โดย: erol วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:13:02:53 น. |
|
|
|
โดย: p_tham วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:13:10:26 น. |
|
|
|
โดย: erol วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:17:58:50 น. |
|
|
|
โดย: me2you วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:19:37:36 น. |
|
|
|
โดย: yadegari วันที่: 12 ธันวาคม 2548 เวลา:2:54:29 น. |
|
|
|
โดย: p_tham วันที่: 12 ธันวาคม 2548 เวลา:2:55:04 น. |
|
|
|
โดย: rebel วันที่: 12 ธันวาคม 2548 เวลา:5:43:22 น. |
|
|
|
โดย: คนเดินดินฯ (คนเดินดินฯ ) วันที่: 7 กรกฎาคม 2559 เวลา:9:15:30 น. |
|
|
|
โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 7 กรกฎาคม 2559 เวลา:9:17:13 น. |
|
|
|
|
|
|
|
คุณค่าของงานที่เราทำ...คงขึ้นอยู่กับว่า
เราทำงานโดยทุ่มเทพลังใจอย่างเต็มที่แล้วหรือยัง
.......มัชพยายามเตือนตัวเองแบบนี้ค่ะ
บางเวลาก็ลืมๆ คิด ปล่อยชีวิตเรื่อยเปื่อยไปบ้างเหมือนกัน