บ้านที่มีความรักและความอบอุ่นคือจินตนาการของคนไทยยามนี้ !
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
9 ธันวาคม 2548
 
All Blogs
 
แห่งการงานอันเบิกบาน







สิ่งมีชีวิตในโลกมนุษย์จะแสดงธรรมชาติที่แท้จริงของมันในกระแสแห่งชีวิต การทำงานเป็นการแสดงการมีชีวิตและเป็นการแสดงถึงการมีส่วนร่วมอาศัยอยู่ในโลกนี้ งานจะเอื้ออำนวยเราให้ใช้ศักยภาพของเราอย่างเต็มที่ เพื่อเปิดโลกแห่งประสบการณ์อันกว้างขวางซึ่งซ่อนอยู่แม้ในกิจกรรมที่ลึกซึ้งละเอียดอ่อนที่สุด ในการทำงานเราเรียนรู้การใช้พลังงานของเราอย่างฉลาด ดังนั้น จึงมักมีคุณประโยชน์และอิ่มเอิบสมบูรณ์

ธรรมชาติของมนุษย์ คือ การมีชีวิตอย่างเป็นสุขและอิ่มเอิบ งานให้โอกาสแก่เราได้ประจักษ์ในความสุขนี้โดยการพัฒนาคุณภาพของธรรมชาติอันแท้จริงของเรา งานจะเป็นการแสดงออกอันราบรื่นและกลมกลืนของความแท้จริงของตัวเราตลอดจนเป็นวิธีการสร้างความกลมกลืนและความสมดุลภายในตัวเราและระหว่างเรากับโลก ในการทำงานเรานำพลังงานของเราให้เป็นคุณประโยชน์ต่อกระแสชีวิต เรานำร่างกายของเรา การหายใจและจิตใจของเราผลิตการกระทำที่สร้างสรรค์ในความสร้างสรรค์ของเรา เราเติมชีวิตของเราให้เต็มและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่บุคคลอื่นมามีส่วนร่วมด้วยความสุข

เราควรจะตระหนักถึงความสำคัญของงานที่มีต่อชีวิต เรารู้ว่างานสามารถนำเอาทุกส่วนของชีวิตของเราทั้งทางจิตใจทั้งทางความคิดและทั้งความรู้สึกต่าง ๆ มาใช้อย่างเต็มที่ แต่ความกลมกลืนกับงานอย่างลึกซึ้งเช่นนี้เป็นไปได้อย่างยากเหลือเกินในสังคมที่ซับซ้อนเช่นปัจจุบัน เราปราศจากความรู้ในวิธีการที่จะนำความสามารถต่าง ๆ มาใช้เพื่อนำเราไปสู่ชีวิตที่มีประโยชน์และมีความหมาย ในอดีต การศึกษามีบทบาทสำคัญมากในการถ่ายทอดความรู้ต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นในการผสมผสานการเรียนรู้ส่วนบุคคลและประสบการณ์ที่เขาได้รับ เพื่อหล่อหลอมให้ธรรมชาติภายในได้แสดงออกมาในทางที่เหมาะสม ในปัจจุบันความรู้ชนิดนี้ไม่ได้รับการถ่ายทอดมาอีกแล้ว ดังนั้นความเข้าใจในเรื่องงานและสาระของงานจึงคับแคบและตื้นเขิน ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่ค่อยได้สัมผัสกับความสุขอันลึกซึ้งซึ่งเกิดจากการทำงานอันแนบเนียนและชำนาญด้วยชีวิตจิตใจของเราทั้งหมด

และอาจเพราะว่าเราไม่ต้องใช้ความพยายามมากเพื่อตอบสนองต่อความต้องการพื้นฐานต่าง ๆ ของเรา เราจึงไม่ได้ให้ความคิดและหัวใจของเราทั้งหมดแก่งาน และเป็นความจริงไม่น้อยที่ความเชื่อที่ว่าทำงานให้แค่เสร็จ ๆ ไป ผ่าน ๆ ไปเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ยอมรับ คนส่วนใหญ่ไม่คิดจะชอบงานที่ตนเองทำ และยิ่งน้อยกว่านั้นคือความคิดที่จะทำงานให้ดีเยี่ยม เพราะเราจะมองกันเพียงแต่ว่างานนั้นเป็นจุดหมายปลายทางแล้ว ไม่ว่าจะมีอาชีพเช่นใดก็ตาม เราจะคิดเพียงแต่ว่างานเป็นสิ่งที่เราใช้ฆ่าเวลาเท่านั้น และเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้






หากมีแรงจูงใจเพียงพอให้เราทำงานหนัก เราก็อาจจะทำงาน แต่หากเราพิจารณาแรงจูงใจนั้นให้ชัดเจน เราก็จะพบว่าแรงจูงใจของเรามักจะแคบ และมุ่งไปสู่ตำแหน่งหรืออำนาจหรือเรื่องส่วนตัวเสีย หรือมุ่งไปสู่การปกป้องชื่อเสียงของตนเองและครอบครัวเท่านั้น แรงจูงใจโดยยึดเอาตนเองเช่นนี้ ทำให้เป็นการยากที่จะพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ให้เต็มที่ในงาน และแทนที่คนจะได้ดื่มด่ำกับคุณภาพอันประเสริฐของชีวิต สิ่งแวดล้อมในงานได้นำให้เกิดสิ่งไร้สาระ เช่น การแข่งขัน และความไม่จริงใจต่าง ๆ นานา

และเพื่อเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ คนเราได้ปฏิเสธการทำงานอย่างสิ้นเชิง เมื่อเราคิดดังนี้ เราอาจเข้าใจว่าเรากำลังดำเนินไปสู่ความดีงามเพื่อเพิ่มพูนความสุขในชีวิต แต่มันจะกักขังศักยภาพของเรามากขึ้น และเราน่าจะเลือกทางอื่น ซึ่งทำให้เราพบความสมบูรณ์ได้มากกว่า เพราะการมีชีวิตอยู่โดยปราศจากการทำงานนั้น ทำให้เราถอยห่างออกจากกระแสแห่งชีวิตที่แท้ การปฏิเสธการแสดงพลังงานแห่งตนในการทำงานจะทำให้เราโกงตนเอง เราจะไม่ประจักษ์ถึงธรรมชาติอันแท้จริงของตน และการโกงตนเองเช่นนี้จะทำให้เราไม่สามารถทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมได้อย่างสมบูรณ์เต็มที่

ชีวิตให้คุณค่าและความหมายเมื่อเราอยู่กับกระแสชีวิตได้อย่างเต็มที่ แต่เรากลับลดคุณค่าและคุณภาพของความเป็นมนุษย์ อันได้แก่ สัจจะแห่งตน ความซื่อสัตย์ ความเชื่อถือตนเอง ความเป็นเจ้าของชีวิตตนเอง และการร่วมมือกับผู้อื่นซึ่งงอกงามอยู่โดยธรรมชาติ โดยการไม่กลมกลืนตนเองอย่างเต็มที่กับงานและชีวิต หากชีวิตเราปราศจากการนำทางโดยคุณค่าต่าง ๆ เหล่านี้ เราจะไม่มั่นคง จะหวั่นไหวและเกิดความไม่เป็นสุขต่าง ๆ เมื่อเราปราศจากความรู้ที่จะนำให้เราเกิดความดื่มด่ำในการงาน เราก็จะไม่พบหนทางใด ๆ อีกเลยในการแสวงหาคุณค่าอันลึกซึ้งของชีวิต

มันสำคัญมากสำหรับเราที่จะเห็นว่า การมีชีวิตอยู่ได้ในความหมายที่กว้างที่สุดนั้น จะผูกพันอยู่กับความมุ่งมั่นและเต็มใจที่จะทำงานด้วยหัวใจและหัวสมอง ซึ่งหมายถึงการเข้าร่วมกับกระแสชีวิตอย่างเต็มอิ่มสมบูรณ์ และหนทางนี้เท่านั้นที่จะทำให้เราเข้าใจและประจักษ์แจ้งในคุณค่าของความเป็นมนุษย์ ซึ่งจะนำให้เกิดความกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวในชีวิตของเรา ในสังคมและในโลกมนุษย์ เราไม่สามารถจะเพิกเฉยต่อผลของแรงจูงใจอันเห็นแก่ตัวซึ่งก่อให้เกิดการแข่งขันและความไม่จริงใจอีกต่อไป เราจำเป็นต้องมีปรัชญาใหม่แห่งการทำงานซึ่งวางรากฐานอยู่บนความเข้าใจในธรรมชาติอันกว้างขวางของมนุษย์ เราจะต้องให้ความนับถือแก่ตนเองและผู้อื่น และใส่ใจกับความสำนึกในคุณภาพและแนวทางซึ่งจะก่อให้เกิดความสงบและสันติขึ้นในโลก อันได้แก่ ความสัมพันธ์ ความร่วมมือ และความรับผิดชอบ

สิ่งนี้มีความหมายว่าเราต้องเต็มใจที่จะรู้จักกับงานอย่างเปิดใจกว้าง รู้จักพิจารณาอย่างซื่อสัตย์ในความเข้มแข็งและ ความอ่อนแอของเรา และยินดีที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตให้มีค่ามากขึ้น หากเราทุ่มเทกำลังอย่างแท้จริง พัฒนาทัศนะต่อการงาน พัฒนาสิ่งที่มีค่าอย่างแท้จริงในตนเอง เราจะทำให้ชีวิตเป็นสุขอย่างแท้จริง ความชำนาญต่าง ๆ ที่เราเรียนรู้ในขณะทำงานจะกระตุ้นให้เกิดความงอกงามและนำทางให้เกิดความสุขความพอใจและความหมายในชีวิตทุก ๆ ขณะจิตทั้งของตนเองและผู้อื่น การทำงานเช่นนี้เป็นการทำงานอย่างคล่องแคล่วและเบิกบาน

=================================

คัดจาก "แห่งการงานอันเบิกบาน"

ผู้เขียน : ตาร์ถัง ตุลกู

ผู้แปล : โสรีช์ โพธิแก้ว

ขอขอบคุณองค์ความรู้ทั้งหมดที่ได้จากหนังสือเล่มนี้



=================================



ประมวลภาพงานทอดผ้าป่าส่วนที่เหลือ






ชาวบ้านที่บ้านพอกะทะที่ตั้งใจจะล่องแพน้ำจัน แต่ก็งดเพราะกลัวไม่ทันเวลา เที่ยวหน้าคงได้ล่องแน่ ๆ



"เอ้า ฟังผู้ใหญ่อบรมหน่อย"






ภาพบ้านของชาวปากะยอที่ยังคงความเป็นบ้านที่เรียบง่ายอย่างยื่ง....






เอ้า...ลุย ช่วงนี้แหละที่ลงไปซ่าและทำกล้องเปียกน้ำ น้ำลึกประมาณเหนือเข่านิดหน่อย



ลำห้วยที่ขับรถผ่านไป



หนู พาน้องมาให้ลุงดูหน่อย น้องอายุกี่เดือนแล้ว





1..2...3 ยิ้มหน่อย









ป่าริมทางช่วงเดินทางกลับมีลำน้ำจันขนานไปตลอดทางช่วงหนึ่ง






เก็บภาพขณะขับรถเข้าไป ดูลักษณะการแบกข้าวของชาวบ้าน แปลกดีไหม





เหนื่อยจริง ๆ ครับกว่าจะได้ภาพออกมา ต้องขอขอบคุณบุคคลที่มาช่วยเหลือการย่อไฟล์ภาพออกมาได้ และการติดตั้งวินโดว์ xp ก็ช่วยให้เสียงเพลงต่าง ๆไม่เป็นอุปสรรคในการฟังอีกต่อไป......

การเดินทางเข้าไปดูน้ำตกทีลอซูที่โหดที่สุดเที่ยวหนึ่ง แต่ก็ทำให้คนพิการคนหนึ่งได้เห็นน้ำตกทีลอซูที่สวยงามเป็นอันดับ 6 ของโลก....




Create Date : 09 ธันวาคม 2548
Last Update : 12 ธันวาคม 2548 3:30:54 น. 20 comments
Counter : 962 Pageviews.

 


คุณค่าของงานที่เราทำ...คงขึ้นอยู่กับว่า

เราทำงานโดยทุ่มเทพลังใจอย่างเต็มที่แล้วหรือยัง

.......มัชพยายามเตือนตัวเองแบบนี้ค่ะ


บางเวลาก็ลืมๆ คิด ปล่อยชีวิตเรื่อยเปื่อยไปบ้างเหมือนกัน


โดย: . มั ช . IP: 58.9.2.166 วันที่: 9 ธันวาคม 2548 เวลา:17:26:04 น.  

 
พี่คนเดินดิน สวัสดีค่ะ

ยังไม่อ่านนะคะ วันนี้มึนๆ เดี๋ยวจะมาตามอ่านย้อนหลังค่ะ


โดย: rebel วันที่: 9 ธันวาคม 2548 เวลา:20:29:21 น.  

 
หวัดดีค่า

ตอนนี้ก็พยายามทำใจให้เบิกบานกะการงานอยู่

ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันค่า


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 9 ธันวาคม 2548 เวลา:22:27:21 น.  

 
แปะยิ้มและอ่านอย่างช้าๆ ทำความเข้าใจกับความหมายค่ะ ขอบคุณบทความนี้ถ้าเข้าใจมันมีความหมายมาก ซึ่งสามารถพลิกความเห็นมุมมองในชีวิตและการทำงานที่เรามักจะแยกส่วนไว้ต่างหากกัน การทำงานอย่างให้ความสำคัญและเต็มศักยภาพของเรานั้นมีความหมายความสุขจริงๆ ..การได้มีโอกาสทำงานคือการได้เรียนรู้ ป่ามืดเคยให้กำลังใจเพื่อนๆหลายคน ซึ่งมักจะคิดว่า รายได้น้อยงานหนัก ..แต่ถ้าเรามองในอีกแง่มุมหนึ่ง เราได้เรียนรู้และได้เงินด้วย การจะเรียนรู้วิชาการอะไรสักอย่าง เราต้องจ่ายเงิน..ไปโรงเรียนต้องเสียค่าเล่าเรียนซึ่งไม่ได้ประสบการณ์จริงด้วยซ้ำ ..แต่การทำงานนั้น"ได้ความรู้ฟรีๆแล้วยังได้เงินกลับบ้านด้วย" การพลิกความหมายของความเหน็ดเหนื่อย ความตอบแทนที่สะสมเป็นประสบการณ์ที่จะอยู่กับเราเป็นประโยชน์กับเรา วันหนึ่งเราอาจจะเป็นเจ้าของกิจการ และมีเหตุผลอะไรล่ะที่จะไม่อยากทำงาน เราไม่ทำงานเวลาก็ผ่านไปอยู่แล้วจะนอนเฉยๆเวลาก็ไม่หยุดนอนกับเรา มีอะไรล่ะที่เราจะต้องสูญเสียความเหน็ดเหนื่อยนั้นได้ความรู้ประสบการณ์ที่ไม่ใช่สิ่งที่จะอ่านหนังสือแล้วได้ต้องได้ผ่านประสบการณ์จริง ..การทำงานอย่างมีความสุขนั้นเพียงเปลี่ยนความคิดจริงๆค่ะ..

ภาพดอกโมก ..ขอบคุณค่ะ มันสวยงามโดยคุณไม่ต้องกังวลเลยค่ะ รู้สึกดีจริงๆ

ว่าแล้วเหมือนจะไม่จบง่ายๆเลยค่ะ เริ่มดอกโมกก็จะเริ่มเรื่องใหม่อีกละ ฮ่า ๆ ๆ ..เกรงใจไว้ก่อนนะคะ ..ฝันดีนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ..


โดย: ป่ามืด วันที่: 9 ธันวาคม 2548 เวลา:22:55:01 น.  

 

คนเราจึงควรทำงานที่รัก และรักในงานที่ทำไงคะ


โดย: p_tham วันที่: 10 ธันวาคม 2548 เวลา:2:35:10 น.  

 
หวัดดีตอนเช้าค่ะ

วันนี้ก็เป็นวันทำงาน.......หัวร้าวอีกทั้งวันแน่ๆ

สดชื่นกะวันหยุดนะคะ


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 10 ธันวาคม 2548 เวลา:9:53:14 น.  

 
ขอบคุณที่ตักเตือนเรานะค่ะ


โดย: erol วันที่: 10 ธันวาคม 2548 เวลา:10:02:53 น.  

 


โดย: Black Tulip วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:1:16:13 น.  

 


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:1:38:04 น.  

 
ฝันดีนะคะ
เพลงประกอบเพราะมาก ^^


...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:1:58:07 น.  

 
หมู่บ้านปากะญอที่ไหนหนอ....
เหมือนจะคุ้นแต่ไม่แน่ใจ....


โดย: สเลเต วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:2:03:50 น.  

 
สรุปมาดีอยู่แล้วนะพี่
อ่านแล้วก็นำไปใช้


โดย: erol วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:13:02:53 น.  

 



โดย: p_tham วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:13:10:26 น.  

 
จับแนวๆถูกหล่ะพี่ฯ


โดย: erol วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:17:58:50 น.  

 
เห็นเค้าว่ากันว่า จขบ บล็อกนี้ชอบไปเม้นท์แต่บล็อกสาวๆ


โดย: me2you วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:19:37:36 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ



โดย: yadegari วันที่: 12 ธันวาคม 2548 เวลา:2:54:29 น.  

 

แวะมาหาคุณเดินดินเพราะความเป็นห่วงค่ะ ห่วงเพื่อนในโลกบล็อกแก๊งค์
คุณเป็นเพื่อนเราคนหนึ่งนะ ไม่ว่าคุณจะเจอคนแบบไหน หรือสถานการณ์ไหนมา
มันก็แค่สถานการณ์และคนๆเดียว ใช่ว่าคุณจะเจอแบบนั้นอีกในทุกๆครั้งนี่คะ

หามุมสนุกและสุขกับบล็อกต่อดีกว่าค่ะ

อะไรไม่หนุกก็ตัดทิ้งไปซะ เหมือนผ่าตัดเนื้องอกน่ะค่ะ


โดย: p_tham วันที่: 12 ธันวาคม 2548 เวลา:2:55:04 น.  

 


อรุณสวัสดิ์ค่ะ


โดย: rebel วันที่: 12 ธันวาคม 2548 เวลา:5:43:22 น.  

 
หมู่บ้านปากะยอที่แม่จัน อุ้มผางครับ


โดย: คนเดินดินฯ (คนเดินดินฯ ) วันที่: 7 กรกฎาคม 2559 เวลา:9:15:30 น.  

 
ชีวิตที่เหลือคืองานเกษตรอินทรีย์และการทำสวนป่า ที่สามชุก สุพรรณครับ


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 7 กรกฎาคม 2559 เวลา:9:17:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนเดินดินฯ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








ปณิธาน

การเดินทางของชีวิตของทุกผู้คน
ทุกคนต่างต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่จะมีสักกี่คนที่จะก้าวไปถึง
เมื่อเราก้าวถึงจุดนั้น
ขออย่าลืมการแบ่งปันและเจือจาน
แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม

เราจะเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน
เพื่อสร้างสรรค์สังคมใหม่ที่ดีงาม

เพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลัง
ได้ใช้ชีวิตของเขา
ตามศักยภาพและความตั้งใจของเขา
ตราบเท่าที่เขาต้องการ







เดินไปสู่ความใฝ่ฝัน


ชีวิตหนึ่งร่วงหล่นไปตามกาลเวลา
คลื่นลูกใหม่ไล่หลังคลื่นลูกเก่า
นั่นคือวัฏจักรของชีวิตที่ดำเนินไป

เยาว์เธอรู้บ้างไหม
ว่าประชาราษฎรนั้นทุกข์ยากเพียงใด
เสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่เหลืออยู่
เธอเคยมีความใฝ่ฝันที่แสนงามบ้างไหม

สักวันฉันหวังว่าเธอจะเดินไปตามทางสายนี้
ที่อาจดูเงียบเหงาและโดดเดี่ยว
แต่ภายใต้ฟ้าเดียวกัน
ฉันก็ยังมีความหวัง
ว่าผู้คนในประเทศนี้
จะตื่นขึ้นมา
เพื่อทวงสิทธิ์ของพวกเขา
ที่ถูกย่ำยีมาช้านาน
และฉันหวังว่าเธอจะเดินเคียงคู่ไปกับพวกเขา

เพื่อสานความใฝ่ฝันนั้นให้เป็นความจริง
สัญญาได้ไหม
สัญญาได้ไหม
เยาว์ที่รักของฉัน


***********



ขอมีเพียงเธอเป็นกำลังใจ




ทอดสายตามองออกไปยังทิวทัศน์ข้างหน้า
แลเห็นต้นหญ้าโบกไสว
เห็นดอกซากุระบานอยู่เต็มดอย
ความงามที่อยู่ข้างหน้า
เป็นสิ่งที่ฉันจะเก็บมันไว้
ยามที่จิตใจอ่อนล้า...

ชีวิตยามนี้แม้ผ่านมาหลายโมงยาม
แต่จิตใจข้างในยังคงดูหงอยเหงา
หลายครั้งอยากมีเพื่อนคุย
หลายครั้งอยากมีคนปรับทุกข์
และหลายครั้งต้องนั่งร้องไห้คนเดียว

รางวัลสำหรับชีวิตที่ผ่านมา
มันคืออะไรเคยถามตัวเองบ่อย ๆ
ความสำเร็จ...เงินตรา...เกียรติยศชื่อเสียง
มันใช่สิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า
ถึงจุดหนึ่งชีวิตต้องการอะไรอีกมากไปกว่านี้

หลายชีวิตยังคงดิ้นรนต่อสู้
เพื่อปากท้องและครอบครัว
มันเป็นความจริงของชีวิตมนุษย์
ที่ต้องดำรงชีพเพื่อความอยู่รอด
มีทั้งพ่ายแพ้ มีทั้งชนะ
แต่ชีวิตต่างต้องดำเนินไป
ตามวิถีทางของแต่ละคน

ลืมความทุกข์ ลืมความหลังที่เจ็บปวด
มองออกไปข้างหน้า
ค้นให้พบตัวตนของตนเองอีกครั้ง
แล้วกลับไปสู้ใหม่
การเริ่มต้นของชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป
จะต้องดำเนินต่อไป

ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต....




@@@@@@@@@@@




การเดินทางของความรัก

...ฉันเดินไปด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า
สมองได้คิดใคร่ครวญ
ความรักในหลายครั้งที่ผ่านมา
ทำไมจึงจบลงอย่างรวดเร็ว

ฉันเดินไปด้วยสมองอันปลอดโปร่ง
ความรักทำให้ฉันเข้าใจโลก
และมนุษย์มากขึ้น
และรู้ว่าความแตกต่าง
ระหว่างความรักกับความหลงเป็นอย่างไร?

ฉันเดินไปด้วยดวงตาที่มุ่งมั่น
บทเรียนของรักในครั้งที่ผ่าน ๆ มา
มันย้ำเตือนอยู่เสมอว่า
อย่ารีบร้อนที่จะรัก
แต่จงปล่อยให้ความสัมพันธ์
ค่อย ๆ พัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เรียนรู้และทำเข้าใจกันให้มากที่สุด

ก่อนที่จะเริ่มบทต่อไปของความรัก...




*******************



จุดไฟแห่งศรัทธาและความมุ่งมั่น

เข้มแข็งกับอ่อนแอ
สับสนหรือมุ่งมั่น
จะยอมแพ้หรือลุกขึ้นท้าทาย
กับชีวตที่เหลืออยู่
ทุกสิ่งล้วนอยู่ที่ใจเราจะกำหนด

ไม่ใช่เพราะอิสระเสรี
ที่เราต้องการหรอกหรือ?
ที่มันจะนำทางชีวิต
ในห้วงเวลาต่อไป
ให้เราก้าวทะยานไป
สู่วันพรุ่งที่สดใส

มีแต่เพียงคนที่รู้จักตนเองอย่างดีพอเท่านั้น
จะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
เมื่อผ่านการสรุปบทเรียน
จากปัญหาต่าง ๆ ที่ประสบ
เราก็จะมีความจัดเจนกับชีวิตมากขึ้น
และการเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ
ในอนาคตก็จะเป็นเพียงปัญหาที่เล็กน้อยสำหรับเรา
ในการที่จะก้าวผ่านไป



ด้วยศรัทธาและความมุ่งมั่นที่มีอยู่ในใจ
ที่จะต้องย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอ
หนทางในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
ย่อมอยู่ไม่ไกลห่างอย่างแน่นอน

*********************



ก้าวย่างที่มั่นคง

บนทางเดินแคบ ๆ ที่เหลืออยู่
หากขาดความมั่นใจที่จะก้าวเดินต่อไป
ชีวิตก็คงหยุดนิ่งและรอวันตาย
แม้ทางข้างหน้าจะดูพร่ามัว
และไม่รู้ซึ่งอนาคต
แต่สิ่งที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
คือก้าวย่างไปอย่างมั่นคง
และมองไปข้างหน้าอย่าเหลียวหลัง
เก็บรับบทเรียนในอดีต
เพื่อจะได้ระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาดอีกในอนาคต

"""""""""""""""""""""""""""""""""



ใช้สามัญสำนึกทำงาน

ไม่มีแผนงานที่สวยหรู
ไม่มีปฏิบัติการใดที่สมบูรณ์แบบ
ในยามนี้มีเพียงการทำงานด้วยการทุ่มเท
ลงลึกในรายละเอียดเท่านั้น
จึงจะสามารถคลี่คลายปัญหาของงานลงได้
บางครั้งโจทย์ที่เจออาจยากและซับซ้อน
แต่เมื่อลงไปคลุกคลีอย่างแท้จริง
โจทย์เหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

""""""""""""""""""""""""""""""""



เรียบ ๆ ง่าย ๆ


อย่ามองสิ่งต่าง ๆ ด้วยแว่นสีที่ซับซ้อน
เพราะในโลกนี้มีเพียงสิ่งสามัญที่เรียบง่าย
สำหรับคนที่สงบนิ่งเพียงพอเท่านั้น
จึงจะแก้โจทย์และปัญหาต่าง ๆ
ด้วยกลวิธีที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ
ไม่ซับซ้อนและตรงจุดได้อย่างเพียงพอ

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ใจถึงใจ

บนหนทางไปสู่ความสำเร็จ
บนหนทางของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
มีเพียงคนที่เข้าใจในสภาพจิตใจของคนทำงานเท่านั้น
จึงจะสามารถนำทีมงานไปสู่เป้าหมายได้
อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน








Friends' blogs
[Add คนเดินดินฯ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.