บ้านที่มีความรักและความอบอุ่นคือจินตนาการของคนไทยยามนี้ !
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
13 ธันวาคม 2548
 
All Blogs
 
จิตใจอันแจ่มใส(จบ)






เมื่อเครื่องมือการรับรู้ของท่านใสสะอาด และมีการเคลื่อนไหวอยู่ได้ตลอดเวลา การมีสมาธิจะช่วยให้ท่านกำหนดพลังไปใช้ในทิศทางที่ต้องการ การมีสมาธินั้น มิใช่การฝึกวินัยอย่างเข้มงวดกวดขันตายตัว แต่มันหมายถึงการผ่อนคลายและการทำให้ใจสงบอย่างธรรมชาติที่สุด ความมีสมาธิของท่านจะรวมตัวกันด้วยความรู้สึกสบายและผ่อนคลายอันเป็นคุณภาพอันอ่อนโยนไม่เข้มงวดตายตัว ท่านสามารถพัฒนาสมาธินี้ได้แม้ในการทำงาน โดยการทำงานทีละอย่าง และทุ่มเทให้ความสนใจทั้งหมดแก่งานชิ้นที่ท่านกำลังทำอยู่อย่างเต็มที่ และอย่างละเอียดถี่ถ้วน ใส่ใจอย่างต่อเนื่องจนงานนั้นเสร็จเรียบร้อย แล้วค่อยทำงานชิ้นอื่นต่อไปในลักษณะเดียวกัน ท่านจะพบว่าท่านมีความชัดเจนและความเข้าใจลึกซึ้งถี่ถ้วนขึ้น และมันจะเป็นกระแสธรรมชาติในทุกสิ่งที่ท่านทำ

ด้วยความสามารถที่จะมีสมาธิ สติก็จะเกิดขึ้น และท่านจะมีความละเอียดอ่อนที่จะรู้ถึงการไหวของความคิด อารมณ์และการกระทำของท่าน ความมีสติจึงเป็นการรวมตัวกันของสมาธิ ความชัดเจนใสสะอาดและความสำนึกในตน ซึ่งสามารถจะสัมผัสได้แม้กระทั่งความเล็กน้อยที่สุดของประสบการณ์และความรู้สึกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น หากปราศจากความมีสติแล้ว แม้ว่าท่านจะมีความใส่ใจและความชัดเจนใสสะอาดในการรับรู้ ท่านก็จะเป็นเหมือนเด็กเล็ก ๆ ซึ่งสร้างปราสาททราย โดยไม่ตระหนักว่าระลอกคลื่นจะทลายมันลงในเวลาอันรวดเร็ว

ความมีสติจะให้ความมั่นใจว่า ทุกสิ่งที่ท่านทำนั้น ท่านจะทำด้วยความสามารถและพลังของท่านอย่างเต็มที่ที่สุด ท่านสามารถจะพัฒนาความมีสติโดยการทุ่มเทความคิดพิจารณาอันชัดเจนให้แก่งานของท่าน ท่านลองสังเกตวิธีการที่ท่านทำงานว่าท่านเริ่มต้นอย่างไร แล้วท่านดำเนินไปอย่างไร ท่านเข้าใจแท้จริงหรือไม่ว่าท่านต้องการทำอะไร ท่านนึกล่วงหน้าถึงผลของงานที่มีต่อท่านหรือไม่ พิจารณาดูผลอันเกิดจากการกระทำของท่านในทัศนะที่กว้าง พร้อม ๆ กับพิจารณารายละเอียดในสิ่งที่ท่านทำ ท่านได้ตระหนักถึงผลแต่ละขั้นตอนในการกระทำของท่านหรือไม่

ในขณะที่ท่านพัฒนาความมีสติ ท่านจะเห็นว่าการขาดความใส่ใจนั้นมีผลต่อกระแสการทำงานของท่านหากท่านทำงานด้วยสติ กระแสความเคลื่อนไหวของท่านจะราบรื่นและงดงาม ความคิดของท่านจะชัดเจนและเป็นระบบ และการทำงานของท่านก็มีประสิทธิภาพ และเนื่องจากว่าท่านกลมกลืนอย่างสมบูรณ์กับแต่ละขั้นของงานและผลต่อเนื่องของแต่ละการกระทำ ท่านสามารถจะพยากรณ์ผลของมันได้ด้วย ท่านจะพบแรงจูงใจซึ่งซ่อนเร้นอยู่ภายใต้การกระทำของท่านนั้น และท่านจะไวต่อกระแสของการลืมและการกระทำที่ผิดพลาดไม่ถูกต้อง หากท่านมีความชำนาญในความมีสติ ท่านสามารถจะซาบซึ้งไปสู่ความเข้าใจอันถี่ถ้วนในตนเองและในการกระทำของตนเอง




การเกิดขึ้นของความชัดเจนใสสะอาดในการรับรู้ ความมีสมาธิและความสติจะเป็นการเรียนอย่างที่ไม่สามารถจะเกิดขึ้นในห้องเรียนได้เลย เพราะว่าสาระที่เราศึกษานั้นคือธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์ แต่ละการไหลของกระแสแห่งสติจะนำให้เกิดความรู้ในตนมากขึ้น มันจะนำให้เกิดคุณภาพของการสังเกตที่ชัดเจน ซึ่งนำไปสู่การค้นพบและรู้จักตนเองมากขึ้น

ความมั่นใจและความสำนึกในตนซึ่งเกิดขึ้นด้วยวิธีการนี้จะช่วยให้เราสามารถควบคุมและกำหนดทิศทางและเป้าหมายของชีวิตได้ การกระทำของเราจะสะท้อนให้เห็นความเบิกบานร่าเริง ชีวิตและงานจะให้ความรู้สึกอันปลอดโปร่งเบาใจซึ่งประคองทะนุถนอมเราในทุกสิ่งที่เราทำ ชีวิตได้กลายเป็นงานศิลปะ มันแสดงให้เห็นถึงกระแสแห่งความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายจิตใจ ความรู้สึกและประสบการณ์ในชีวิตแต่ละขณะ เราสามารถเชื่อถือและพึ่งตนเองได้ แม้ในการตอบสนองความต้องการที่ละเอียดอ่อนลึกซึ้งที่สุดของเรา และดังนี้ เราจึงมีความรู้สึกใสสะอาดอย่างแท้จริง ความรู้สึกใสนี้จะทำให้เราใช้ความคิดได้อย่างฉลาดและชัดเจน หากเราได้รู้จักความรู้สึกนี้ครั้งหนึ่งแล้ว เราก็จะมีความใสสะอาดและความเชื่อมั่นอยู่เสมอ

ความรู้สึกแจ่มใสและความอิ่มเอิบกระปรี้กระเปร่าจะมีสำหรับคนทุกคน เมื่อเราตระหนักถึงการเสริมสร้างพัฒนาความรู้สึกเสรีภายใน เราจะเริ่มต้นเปิดตนเองสู่ความสุขความมีอนามัย และความรื่นรมย์ในทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา การรู้จักและสำนึกในตนเองมากขึ้นจะนำให้เกิดความเห็นจริง ความเข้าใจ และความรู้สึกสงบ เราจะมีความงอกงามในทางร่างกายและจิตใจ ชีวิตการงาน ครอบครัว ความสัมพันธ์ของเรากับสรรพสิ่งก็จะมีค่ามีความหมายมากขึ้น เราสามารถจะมุ่งสู่เป้าหมายที่เรากำหนดได้อย่างง่าย ๆ และสะดวก เมื่อเราสร้างความรู้สึกเสรีภายในให้เกิดขึ้นได้ เราจะค้นพบกับความปิติอันล้ำลึกและยาวนานในทุกสิ่งที่เราทำ@

=================================


คัดจาก "แห่งการงานอันเบิกบาน"

ผู้เขียน : ตาร์ถัง ตุลกู

ผู้แปล : โสรีช์ โพธิแก้ว

ขอขอบคุณองค์ความรู้ทั้งหมดที่ได้จากหนังสือเล่มนี้




=================================

@@พบกับบทความของยุค ศรีอารยะ เรื่อง "หลังยุคทักษิโณมิกส์ ปฏิรูปการเมืองครั้งใหม่" ที่กลุ่มบล็อกปรัชญาการเมือง@@


คลิกที่นี่












Create Date : 13 ธันวาคม 2548
Last Update : 13 ธันวาคม 2548 22:05:46 น. 10 comments
Counter : 502 Pageviews.

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะ


โดย: rebel วันที่: 13 ธันวาคม 2548 เวลา:7:09:26 น.  

 
แวะมาอ่านค่ะ

สุขสันต์วันอังคารนะคะ


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 13 ธันวาคม 2548 เวลา:8:40:27 น.  

 
สวัสดีเช้าวันอังคารค่ะ


โดย: Black Tulip วันที่: 13 ธันวาคม 2548 เวลา:9:36:04 น.  

 
เรื่องสมาธิเป็นเรื่องเฉพาะตน ปฏิบัติเอง จึงจะเห็นผลค่ะ


โดย: ju (กระจ้อน ) วันที่: 13 ธันวาคม 2548 เวลา:9:58:54 น.  

 
สติกับสมาธิ ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองสินะ


โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 13 ธันวาคม 2548 เวลา:10:26:07 น.  

 
สวัสดีคร้าบ..............


โดย: ครีเอทีฟ หัวเห็ด วันที่: 13 ธันวาคม 2548 เวลา:13:36:03 น.  

 
จะให้เขียนอะไรได้ค่ะเนี้ย
อ่านแล้วก็ อ่อ..เห้นดีเห็นงามด้วย


โดย: erol วันที่: 13 ธันวาคม 2548 เวลา:20:29:26 น.  

 
แวะมาราตรีสวัสดิ์ค่า


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 13 ธันวาคม 2548 เวลา:22:30:14 น.  

 
หวัดดีคับ มาโหวตให้ดีเด่นสาขา การเมือง-สังคม


โดย: me2you วันที่: 14 ธันวาคม 2548 เวลา:0:54:27 น.  

 
Image Hosted by ImageShack.us


โดย: erol วันที่: 14 ธันวาคม 2548 เวลา:1:16:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนเดินดินฯ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








ปณิธาน

การเดินทางของชีวิตของทุกผู้คน
ทุกคนต่างต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่จะมีสักกี่คนที่จะก้าวไปถึง
เมื่อเราก้าวถึงจุดนั้น
ขออย่าลืมการแบ่งปันและเจือจาน
แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม

เราจะเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน
เพื่อสร้างสรรค์สังคมใหม่ที่ดีงาม

เพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลัง
ได้ใช้ชีวิตของเขา
ตามศักยภาพและความตั้งใจของเขา
ตราบเท่าที่เขาต้องการ







เดินไปสู่ความใฝ่ฝัน


ชีวิตหนึ่งร่วงหล่นไปตามกาลเวลา
คลื่นลูกใหม่ไล่หลังคลื่นลูกเก่า
นั่นคือวัฏจักรของชีวิตที่ดำเนินไป

เยาว์เธอรู้บ้างไหม
ว่าประชาราษฎรนั้นทุกข์ยากเพียงใด
เสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่เหลืออยู่
เธอเคยมีความใฝ่ฝันที่แสนงามบ้างไหม

สักวันฉันหวังว่าเธอจะเดินไปตามทางสายนี้
ที่อาจดูเงียบเหงาและโดดเดี่ยว
แต่ภายใต้ฟ้าเดียวกัน
ฉันก็ยังมีความหวัง
ว่าผู้คนในประเทศนี้
จะตื่นขึ้นมา
เพื่อทวงสิทธิ์ของพวกเขา
ที่ถูกย่ำยีมาช้านาน
และฉันหวังว่าเธอจะเดินเคียงคู่ไปกับพวกเขา

เพื่อสานความใฝ่ฝันนั้นให้เป็นความจริง
สัญญาได้ไหม
สัญญาได้ไหม
เยาว์ที่รักของฉัน


***********



ขอมีเพียงเธอเป็นกำลังใจ




ทอดสายตามองออกไปยังทิวทัศน์ข้างหน้า
แลเห็นต้นหญ้าโบกไสว
เห็นดอกซากุระบานอยู่เต็มดอย
ความงามที่อยู่ข้างหน้า
เป็นสิ่งที่ฉันจะเก็บมันไว้
ยามที่จิตใจอ่อนล้า...

ชีวิตยามนี้แม้ผ่านมาหลายโมงยาม
แต่จิตใจข้างในยังคงดูหงอยเหงา
หลายครั้งอยากมีเพื่อนคุย
หลายครั้งอยากมีคนปรับทุกข์
และหลายครั้งต้องนั่งร้องไห้คนเดียว

รางวัลสำหรับชีวิตที่ผ่านมา
มันคืออะไรเคยถามตัวเองบ่อย ๆ
ความสำเร็จ...เงินตรา...เกียรติยศชื่อเสียง
มันใช่สิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า
ถึงจุดหนึ่งชีวิตต้องการอะไรอีกมากไปกว่านี้

หลายชีวิตยังคงดิ้นรนต่อสู้
เพื่อปากท้องและครอบครัว
มันเป็นความจริงของชีวิตมนุษย์
ที่ต้องดำรงชีพเพื่อความอยู่รอด
มีทั้งพ่ายแพ้ มีทั้งชนะ
แต่ชีวิตต่างต้องดำเนินไป
ตามวิถีทางของแต่ละคน

ลืมความทุกข์ ลืมความหลังที่เจ็บปวด
มองออกไปข้างหน้า
ค้นให้พบตัวตนของตนเองอีกครั้ง
แล้วกลับไปสู้ใหม่
การเริ่มต้นของชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป
จะต้องดำเนินต่อไป

ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต....




@@@@@@@@@@@




การเดินทางของความรัก

...ฉันเดินไปด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า
สมองได้คิดใคร่ครวญ
ความรักในหลายครั้งที่ผ่านมา
ทำไมจึงจบลงอย่างรวดเร็ว

ฉันเดินไปด้วยสมองอันปลอดโปร่ง
ความรักทำให้ฉันเข้าใจโลก
และมนุษย์มากขึ้น
และรู้ว่าความแตกต่าง
ระหว่างความรักกับความหลงเป็นอย่างไร?

ฉันเดินไปด้วยดวงตาที่มุ่งมั่น
บทเรียนของรักในครั้งที่ผ่าน ๆ มา
มันย้ำเตือนอยู่เสมอว่า
อย่ารีบร้อนที่จะรัก
แต่จงปล่อยให้ความสัมพันธ์
ค่อย ๆ พัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เรียนรู้และทำเข้าใจกันให้มากที่สุด

ก่อนที่จะเริ่มบทต่อไปของความรัก...




*******************



จุดไฟแห่งศรัทธาและความมุ่งมั่น

เข้มแข็งกับอ่อนแอ
สับสนหรือมุ่งมั่น
จะยอมแพ้หรือลุกขึ้นท้าทาย
กับชีวตที่เหลืออยู่
ทุกสิ่งล้วนอยู่ที่ใจเราจะกำหนด

ไม่ใช่เพราะอิสระเสรี
ที่เราต้องการหรอกหรือ?
ที่มันจะนำทางชีวิต
ในห้วงเวลาต่อไป
ให้เราก้าวทะยานไป
สู่วันพรุ่งที่สดใส

มีแต่เพียงคนที่รู้จักตนเองอย่างดีพอเท่านั้น
จะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
เมื่อผ่านการสรุปบทเรียน
จากปัญหาต่าง ๆ ที่ประสบ
เราก็จะมีความจัดเจนกับชีวิตมากขึ้น
และการเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ
ในอนาคตก็จะเป็นเพียงปัญหาที่เล็กน้อยสำหรับเรา
ในการที่จะก้าวผ่านไป



ด้วยศรัทธาและความมุ่งมั่นที่มีอยู่ในใจ
ที่จะต้องย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอ
หนทางในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
ย่อมอยู่ไม่ไกลห่างอย่างแน่นอน

*********************



ก้าวย่างที่มั่นคง

บนทางเดินแคบ ๆ ที่เหลืออยู่
หากขาดความมั่นใจที่จะก้าวเดินต่อไป
ชีวิตก็คงหยุดนิ่งและรอวันตาย
แม้ทางข้างหน้าจะดูพร่ามัว
และไม่รู้ซึ่งอนาคต
แต่สิ่งที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
คือก้าวย่างไปอย่างมั่นคง
และมองไปข้างหน้าอย่าเหลียวหลัง
เก็บรับบทเรียนในอดีต
เพื่อจะได้ระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาดอีกในอนาคต

"""""""""""""""""""""""""""""""""



ใช้สามัญสำนึกทำงาน

ไม่มีแผนงานที่สวยหรู
ไม่มีปฏิบัติการใดที่สมบูรณ์แบบ
ในยามนี้มีเพียงการทำงานด้วยการทุ่มเท
ลงลึกในรายละเอียดเท่านั้น
จึงจะสามารถคลี่คลายปัญหาของงานลงได้
บางครั้งโจทย์ที่เจออาจยากและซับซ้อน
แต่เมื่อลงไปคลุกคลีอย่างแท้จริง
โจทย์เหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

""""""""""""""""""""""""""""""""



เรียบ ๆ ง่าย ๆ


อย่ามองสิ่งต่าง ๆ ด้วยแว่นสีที่ซับซ้อน
เพราะในโลกนี้มีเพียงสิ่งสามัญที่เรียบง่าย
สำหรับคนที่สงบนิ่งเพียงพอเท่านั้น
จึงจะแก้โจทย์และปัญหาต่าง ๆ
ด้วยกลวิธีที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ
ไม่ซับซ้อนและตรงจุดได้อย่างเพียงพอ

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ใจถึงใจ

บนหนทางไปสู่ความสำเร็จ
บนหนทางของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
มีเพียงคนที่เข้าใจในสภาพจิตใจของคนทำงานเท่านั้น
จึงจะสามารถนำทีมงานไปสู่เป้าหมายได้
อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน








Friends' blogs
[Add คนเดินดินฯ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.