พฤษภาคม 2553

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
ละครเด็กอันดามันสร้างสุขฯ











ไม่บ่อยครั้งนักที่จะมีโอกาสทำเพื่อคนอื่น...
และบางครั้งโอกาสก็เดินทางมาหาโดยไม่รู้ตัว
ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจว่าจะรับโอกาส
หรือก็ไม่แน่ว่าขึ้นอยู่กับโอกาสที่เลือกเรา...
และการเดินทางในครั้งนี้ก็ดูเหมือนโอกาสจะตั้งใจเลือกเราเป็นพิเศษ...













จากเมลล์แนบไฟล์รายละเอียดโครงการฯ จากโอ๋เพื่อนเจ้าของพื้นที่
ซึ่งดูแลโครงการเกี่ยวกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนชาวทะเล
อันดามัน รายละเอียดเรื่องโครงการคือ “ละครเด็กอันดามันสร้างสุข
ผ่านสื่อละครสร้างสิทธิ์” โดยองค์กรดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือ
ระหว่างศูนย์ประสานงานการจัดการทรัพยากรโดยชุมชน จ.ระนอง
และ สำนักงานการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ณ เกาะพยาม จ.ระนอง
ระหว่างวันที่ 28-30 พ.ค. 53















ใช้เวลาคิดไม่ถึงสองวันเพราะได้อ่านเมลล์วันที่ ๒๖ พ.ค.๕๓
การตัดสินใจจึงเกิดขึ้นหลังจากที่ชวนเพื่อนๆ แบบฉุกละหุก
จึงไม่มีใครพร้อมจะไปกับเราเลยสักคน...เย็นวันที่ ๒๖ พ.ค.
ก็มีสหายฟลาเนอร์ช่วยกันแบกหนังสือ สมุด ปากกา ดินสอมาให้ถึงบ้าน
เพื่อช่วยบริจาคสมทบฯ วันที่ ๒๗ พ.ค.ก็มีเพื่อนที่ทำงานช่วยแยกสิ่งของ
เพื่อนำไปบริจาคให้กับสองที่คือที่ระนอง ที่เราจะเดินทางไป และที่
นราธิวาส ที่เพื่อนอีกคนทำงานอยู่














เมื่อแพคของลงกระเป๋าเรียบร้อยแล้วตกเย็นก็จับแท็กซี่ไปที่สายใต้ใหม่
ตามเวลาในตั๋วมีเด็กหลง (กล) มาด้วยหนึ่งคนที่ต้องร่วม
ชะตากรรมเดียวกันครั้งนี้คือน้องมะมิวมะมิวเป็นเด็กรัฐศาสตร์
สาขาการทูตปี ๒ (นับอายุแล้วก็... ไล่ๆ กัน) มะมิวเคยเป็นเด็กค่าย
เคยเป็นครูอาสา และเป็นเด็กที่อยู่ง่ายกินง่าย เรานั่งรถไปด้วยกัน
แต่ไม่ได้นั่งด้วยกันเช้าของวันที่ ๒๘ พ.ค. เจ้าของโครงการฯ
ก็มารับที่ บขส. มีน้องที่ต้องร่วมขบวนการไปด้วยกัน
อีกคนชื่อลอยบู ลอยบูเป็นเด็กระนองมาแต่ชาติกำเนิดเกิดที่นั่น
และโตที่นั่น ลอยบูเรียน ปวช.ปี ๓ การโรงแรม อนาคตอยากเป็น
มิสอัลคาซ่า และตอนนี้ก็ฝึกร้องเพลงคู่แรดประกอบมิวสิกอย่างตั้งใจ...













พอไปถึงสำนักงานโครงการฯ เราก็ได้นั่งสนทนาถึงเนื้อหาโครงการ
และสิ่งที่พวกเราสามอาสาฯ จะต้องดำเนินการในระหว่างทำกิจกรรม...
คร่าวๆ ก็คือเราต้องจัดกลุ่มเด็กพี่อาสาฯ ๑ คนต่อเด็ก ๕ คน
เพื่อฝึกซ้อมให้เด็กเล่นละครในหัวข้อ "ความกตัญญู"
โดยพี่แก๊บคุณแม่ของน้องอันดามันได้แจกจ่ายบทให้เราพี่ๆ
ไปฝึกเพื่อจะได้เป็นเทรนเนอร์ให้กับน้องๆ ต่อไป














อากาศกำลังดี ฝนตกประปรายเรือเช้าออกไม่ได้ต้องรอเรือบ่ายสองโมง
เพื่อจะไปที่เกาะพยามระหว่างรอรัก เอ้ย...รอเรือ พี่แก๊บกับพี่โอ๋
ก็พาเราสามคนพร้อมด้วยน้องอันดามันไปเที่ยวน้ำพุร้อนที่ขึ้นชื่อ
ของเมืองระนอง อากาศเย็นๆ พอลงไปในน้ำอุ่นได้ก็แทบไม่อยากจะขึ้น
จากน้ำ...ตกเที่ยง เจ้าถิ่นพาเราไปลองลิ้มชิมขนมจีน "คนเมืองคอน"
สาขาเมืองระนอง ที่อร่อยมากเผ็ดมาก ราคาถูกมาก คนเยอะมาก
และอยากไปกินอีกมาก (หากมีโอกาส) บ่ายสองได้เวลาเรือออกจากท่า
เทวดาก็ส่งบททดสอบที่ ๑ มาให้ คือพี่โอ๋เจ้าของโครงการฯไม่สามารถ
เดินทางร่วมไปกับเราได้ ดังนั้นสามอาสาฯ จึงต้องไปตายเอาดาบหน้า
กันเอาเองเรือออกจากท่าได้สักพัก คุณป้าก็มาเก็บตั๋วปรากฎว่าพี่โอ๋
ลืมเอาตั๋วให้กับพวกเราสามคน...นั่นหมายความว่าคนที่ถือตั๋วเรือในมือ
ไม่ได้ลงเรือมาด้วย... เราจึงต้องโทรศัพท์ให้พี่โอ๋อ้อนวอนป้าคนเก็บตั๋ว
เพื่อไม่ให้ถีบพวกเราตกทะเล และพี่โอ๋จะตามมาเคลียร์ค่าเสียหายวันรุ่งขึ้น















สองชั่วโมงเต็มจากท่าเรือระนองถึงท่าเรือเกาะพยาม...
นี่เป็นครั้งที่สองของเราที่พาเท้าไปเหยียบบนเกาะพยามแห่งนี้
ครั้งแรกก็เมื่อคราวที่คลื่นยักษ์ ทสึนามิได้กลืนกินผู้คนลงท้องไป
เมื่อหลายปีก่อน เราเป็นอาสาฯ ตัวน้อยๆ ที่มาช่วยขนอิฐตัวหนอน
ขนกระเบื้อง แบกปูน ไปสร้างศาสนสถานให้กับพี่น้องมุสลิม
ที่เกาะหาดทรายดำกับเพื่อนๆ กลุ่มบริษัทแปลน
และได้มีโอกาสมาเที่ยวเกาะพยาม.. ขับวิน รับส่งเพื่อนๆ
ไปเที่ยวทั่วเกาะไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้มาที่นี่เป็นหนที่สองแถมยังได้
ซิ่งมอไซค์อีกครั้งระลึกอดีตอีกด้วย...















หลังจากที่ขนข้าวของประดามี อันได้แก่ ขนม นม หนังสือ สมุด ดินสอ
ปากกา และอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งเท่าที่เรี่ยวแรงของหนึ่งหญิงถึก หนึ่งหนุ่ม
น้อย และหนึ่งอยากสาว ช่วยกันแบก หาม มาจนถึงที่หมายคือร้านค้า
ที่มีครูใหญ่ของโรงเรียนเกาะพยามเป็นเจ้าของ นั่นก็คือ ครูสุเทพ
ซึ่งใจดีจัดแจงทุกอย่างให้เราทั้งเรื่องที่พักซึ่งเป็นบังกะโลของครูเทพเอง
พอพวกเราพักผ่อนหย่อนกายาให้หายอ่อนล้ากันสักพักแล้ว
ก็ดูเหมือนจะทำอะไรไม่ได้มากนัก เพราะอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน
เราจึงออกไปที่โรงเรียนเพื่อเขียนป้ายผ้าโดยมีครูหนึ่ง เจ้าของพื้นที่
ช่วยลงสีกันอย่างเมามัน เย็นวันนั้นสิ่งที่พวกเราได้มาคือป้ายผ้าคำว่า
"ละครเด็กอันดามันสร้างสุขฯ" เป็นอันจบผลงานรอบเย็นของวัน...















เมื่อตกกลางคืน.... คนที่มีปัญหามากที่สุดกลับเป็นคนที่ไม่น่ามีปัญหาที่สุด
นั่นก็คือ มะมิว สุดหล่อคนเดียวของทริป เพราะมีกันสามคน
จะต้องมีหนึ่งในนั้นที่นอนคนเดียว เราจึงยื่นข้อเสนอให้น้องว่า
"เลือกเอาระหว่างป้าระดังงาลนไฟ กับ ว่าที่มิสอัลคาซ่า
ในอีกไม่นานข้างหน้า" มะมิวส่ายหน้าไม่ขอเลือกใครยอมนอนคนเดียว
ในบังกาโลหลังที่น้ำไม่ไหล ไฟไม่มี ดีกว่าเป็นเหยื่อป้า เอ๊ย...
กะเทยหน้าแมนอย่างลอยบู มะมิวเป็นเด็กที่ไม่เคยกลัวอะไร
อยู่ไหนก็ได้ทั้งนั้นไม่มีกลัวอยู่แล้ว ไปเที่ยวมาทั่วประเทศชิลๆ
คนเดียวก็ไปได้ให้นอนคนเดียวก็ไม่กลัว แต่พอเงยหน้าขึ้นไปบนเพดาน
เจอเจ้าของบ้านคือตุ๊กแกตัวใหญ่มากกกกกกก มะมิวแทบลมจับ
และอยากจะกลับกรุงเทพฯ เสียเดี๋ยวนั้น จะแลกบ้านก็ไม่ได้
เพราะหลังที่มีน้ำ มีไฟมีตุ๊กแกสองตัว มะมิวเลยจำเป็น
ต้องเอาวอร์กแมนเสียบหูจนแบตหมด เพราะหวังว่าอย่างน้อย
ก็จะไม่ได้ยิน เสียงตุ๊กแก....











และเมื่อถึงตอนเช้างานที่รอเราอยู่ ก็คือ ต้องไปเทรนเด็กให้เล่นละคร
หลังจากแวะหาอาหารประทังชีวิตกันแล้วเราก็ไปที่โรงเรียนกัน
ซึ่งครูสุเทพ ได้นัดเด็กไว้ให้แล้ว ปรากฎว่าเด็กๆ ที่เราตั้งใจว่าจะมาเป็น
เทรนเนอร์ให้พวกเขาเล่นละครนั้น มีแต่เด็กตัวเล็กๆ ราว ๔๐ คน
ชั้นประถม ๑-๔ ชั้นประถม ๕ อีกสองสามคน และแปดสิบเปอร์เซ็น
เป็นเด็กพม่าที่เหลือเป็นเด็กไทย วันนั้นเด็กมอแกนไม่ได้ไปโรงเรียน
เพราะครอบครัวต้องออกทะเลพวกเขาจึงต้องตามครอบครัวไป
ปัญหาของการทำกิจกรรมกับเด็กในวันนั้นคือการ สื่อสาร เพราะพี่ๆ
ทั้งสามคน พูดภาษาพม่ากันได้คำเดียว "มิงกะลาบา" ครูพี่เลี้ยงที่คอยดูแล
เด็กมาทำกิจกรรมก็สุดยอด เพราะเธอพูดภาษาไทยไม่ได้ พูดได้แต่ภาษา
พม่ากับภาษาอังกฤษ จึงต้องมีครูอีกคนมาเป็นล่าม รวมแล้ววันนั้นมีคน
คอยแปลภาษาให้เด็กฟังถึง ๓ คน...











ดังนั้นเมื่อกลุ่มเป้าหมายไม่เป็นไปดังที่คาดหวัง เพราะนอกจากเด็ก
จะเล็กเกินจะจับมาเทรนการแสดงแล้วยังสื่อสารกันไม่รู้เรื่องอีก
ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนแผนกันเอาเดี๋ยวนั้น... แล้วว่าที่มิสอัลคาซ่าของเรา
ก็เริ่มด้วยการพาเด็กวาดรูประบายสี "บ้านของฉัน ทะเลของฉัน"
เด็กๆ จึงช่วยกันบรรเลงกันอย่างเมามัน แต่ทะเลของฉัน ในมุมมองของเด็ก
ไม่ว่าจะกี่ปี (กี่ชาติ) ก็ต้องมี ภูเขาสองลูก ต้นมะพร้าว พระอาทิตย์หัวกลม
กำลังตกทะเลและนกกำลังบินกลับรังอีกสี่ห้าตัว เหมือนกันแป๊ะ ทุกคน...
เว้นแต่ทะเลของเด็กบางคนเท่านั้นที่มี "ตึกสูง" เพิ่มมาพอจบจากการวาด
ภาพแล้ว พี่ลอยบูของเราก็หาเพลงมาให้เด็กๆ ร้องกัน... นั่นก็คือ....
แถ่น แทน แท๊น...

โอ้ทะเลแสนงาม ฟ้าสีครามสดใส มองเห็นเรือใบ แล่นอยู่ในทะเล
หาดทรายงามเห็นปู ดูซิดูหมู่ปลา กุ้งหอย นานา อยู่ในท้องทะเล














เมื่อเด็กพูดไทยไม่ได้ก็ย่อมร้องเพลงไทยไม่คล่อง...
ด้วยความอยากให้เด็กร้องเพลง พี่ลอยบูจึงให้ครูพม่า
เขียนเพลงนี้เป็นภาษาพม่า... และร้องเพลงนี้เป็นภาษาพม่า
ด้วยสำเนียงแบบพม่า.... ฟังไปฟังมาก็เข้าท่าเหมือนกันระหว่างเล่นเกม
ทำกิจกรรม ร้องเพลงไป ก็แจกขนม แจกของเล่น แจกมันทุกอย่างที่
สามารถแจกได้พอได้เวลาพักเที่ยง ทุกคนก็มานั่งล้อมวงกินข้าวด้วยกัน
และมีกิจกรรมตอนบ่ายอีกนิดหน่อยก่อนจะปล่อยกลับเพราะเด็กบางคน
พ่อแม่มารอรับกลับบ้านบ้างแล้ว สามพี่อาสาฯ ก็ได้เวลาหลั่นล้ากันแล้ว
ด้วยการซิ่งมอไซค์ซ้อนสามไปอ่าวเขาควายอย่างแม่นในเส้นทางของ
ลอยบู ปรากฎว่าทางที่ไปนั้นเป็นทางไปอ่าวใหญ่ พวกเราจึงตั้งใจจะข้าม
ทะเลไปอ่าวเขาควาย ซึ่งมีเวิ้งน้ำเชี่ยวแต่ตื้นอยู่ตรงกลางระหว่างทาง
ที่จะไป ลอยบูเลยซิ่งมอไซค์ข้ามทะเล รถจึงดับสนิทโดยพลัน
และสำลักแอ่กๆ อยู่อย่างนั้นไปพักใหญ่ดูแลท่าทางจะไม่รอดแน่
ก็เลยจูงมอไซค์มาหยุดที่บ้านสีเขียวซึ่งชาวบ้านกำลังอยู่ระหว่างสร้างบ้าน
อีกหลัง พี่เบิ๊ดช่างซ่อมรถไถ ประจำเกาะก็มาช่วยรื้อโน่น ซ่อมนี่
ผ่านไปเกือบชั่วโมงถึงซ่อมได้ ที่สำคัญกว่านั้นคือน้ำมันหมด...
ก็ได้พี่เจ้าของบ้านสีเขียวนั่นกับพี่ช่างซ่อมรถไถนั่นแหละช่วยชีวิต
เอาไว้ไม่ให้ต้องเดิน











เย็นนั้นโอ๋ เจ้าของโครงการตามมาสมทบ และพาพวกเราไปที่หมู่บ้าน
มอแกน ซึ่งก่อนจะไปถึงโอ๋ก็พาแวะบ้านพี่ที่รู้จัก ซึ่งดูแลเรื่องสร้างถนน
เข้าสู่หมู่บ้านมอแกน ตอนนี้พวกเขาเหลือระยะทางอีกร้อยกว่าเมตร
ที่จะทำถนนไปสู่ทางเข้าหมู่บ้าน แต่งบประมาณที่ได้รับจาก อบต.นั้น
สร้างได้ไม่ถึงหมู่บ้านมอแกน วันนั้นจึงได้คุยกันว่า อาจจะระดมทุน
จากผู้มีจิตศรัทธาอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ที่กำลังอ่านบันทึกนี้อยู่ขณะนี้
ช่วยกันบริจาคปูนคนละถุงสองถุง เพื่อที่จะทำถนนได้สำเร็จ...
และในตอนค่ำก็ได้ออกมานั่งคุยกับชาวบ้านมอแกนบางส่วน
ซึ่งบนเกาะพยามเหลือชาวมอแกนอยู่ไม่มากนัก ส่วนใหญ่ย้ายไป
อยู่ที่หมู่เกาะสุรินทร์ และหมู่เกาะช้างในละแวกใกล้เคียงกัน ที่เหลือ
ก็ราวๆ ๑๐๐ กว่าคน ส่วนมากก็อยู่ทะเลจะกลับฝั่งก็เฉพาะวันอาทิตย์
เพื่อเข้าโบสถ์ ซึ่งก่อนหน้านี้มอแกนจะไม่นับถือศาสนาใด แต่พอหลัง
ทสึนามิ มิชชันนารีก็เข้ามาดูเล สร้างโบสถ์ สร้างบ้านให้พวกเขาใหม่













การให้... บางครั้งก็ต้องทำให้คนรับเห็นคุณค่าของสิ่งของที่ให้
ไม่ใช่ให้ข้าวของราคาแพงๆ มาพวกเขาไม่รู้ว่ามันมีค่า มีราคาก็ขายไป
ของบางอย่างที่ให้ แต่ไม่ได้ใช้หรือใช้ไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ได้แต่ทิ้งขว้างไปเปล่า การทำอะไรให้ใคร หรือให้อะไรใครไป
บางครั้งก็ต้องพิจารณาดีๆ ว่าไม่ได้ให้ในสิ่งที่เหลือ หรือกำลังจะทิ้ง
และไม่ได้คำนึงถึงผู้รับว่าใด้ไปแล้ว เอาไปทำอะไรได้บ้าง














คืนที่ ๒ บนเกาะ ความกลัวตุ๊กแกยังไม่หายไปจากใจของมะมิว
แต่อย่างน้อยก็มีพี่โอ๋อยู่เป็นเพื่อน ก็ยังสบายใจว่าตุ๊กแกมีตัวเลือกที่จะ
กระโดดลงมาเกาะตอนเช้าของวันอาทิตย์ เรากับลอยบูต้องกลับเข้าฝั่ง
เพราะมีภารกิจรออยู่ เราไม่ได้ลงเรือโดยสารจากเกาะแต่เราลงเรือหางยาว
ของครูเทพมาขึ้นฝั่ง สองชั่วโมงเท่ากัน และอาจจะเร็วกว่านิดหน่อย
จบทริปด้วยการไปเที่ยวพระราชวังรัตนรังสรรค์จำลอง
โดยพี่แก๊บกับน้องอันดามัน















หากครั้งนี้เป็นเรื่องของโอกาส ก็ต้องบอกว่า โอกาสได้เป็นฝ่ายเลือกเรา
ให้ได้ใช้เวลาสามวันทำเพื่อคนอื่นบ้าง... อย่างน้อยที่สุด แม้จะเป็นเพียง
สิ่งเล็กๆ ในมุมเล็กๆ ของโลก ก็ทำให้เราได้รู้ว่าคุณค่าของเรานั้นอยู่ตรงไหน
ประสบการณ์จากการเป็นครูบ้านนอกกับกระจกเงา(ยุคแรก) กับการเป็น
อาสาสมัครสอนหนังสือเด็กตาบอดในเวลาต่อมา กับการไปค่ายสร้างฯ
และกิจกรรมที่เกาะพยามในครั้งนี้ อาจจะเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ เมื่อเทียบกับ
เรื่องใหญ่ๆ ที่ใครๆ ทำแต่ถ้าคนหลายคน ทำสิ่งเล็กๆ เพื่อคนอื่นอยู่เรื่อยๆ
ก็จะกลายเป็นสิ่งใหญ่ๆ ให้กับคนอื่นๆ











** ทริปนี้ต้องขอบคุณ หญิงพี่พิมฯ (ช่วยแพ็คของ)
ต้อมต้อม กับ นายนาย (ช่วยแบกของมาส่ง พาไปจองตั๋วและกินนมมนต์)
โอ๋ ก๊อบแก๊บ อันดามัน (ช่วยทำให้รู้สึกอบอุ่น)
มะมิว, ลอยบู (ช่วยทำให้มีผู้ร่วมชะตากรรม)
ครูสุเทพ หนึ่ง พี่ช่างซ่อมรถไถ พี่เจ้าของบ้านสีเขียว ครูพี่เลี้ยง
และทุกๆ คนที่ยิ้มให้ เป็นกำลังใจให้...
ขอบคุณเกาะพยาม ขอบคุณระนอง - -






Create Date : 31 พฤษภาคม 2553
Last Update : 31 พฤษภาคม 2553 22:47:47 น.
Counter : 2119 Pageviews.

11 comments
  
สุดยอดครับ
ขออนุโมทนาความใจดีของพี่ๆทุกๆท่านเลย

อ่านแล้วอบอุ่นจัง

อรุณสวัสดิ์ครับ ^^
โดย: พระจันทร์ของคุณ (Great_opal ) วันที่: 1 มิถุนายน 2553 เวลา:6:34:33 น.
  
อิจฉา ได้ไปใหนต่อใหน ได้ทำอะไรเพื่อคนอื่น จำได้ว่าอาจารย์ตอน ม ปลาย เคยสั่งสอนว่าให้ทำตัวเหมือนต้นไม้ซื่งตั้งแต่เกิด โต ตาย ก็เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นตลอดเวลา มีใบ มีดอก มีผล มีต้น มีร่มรื่น มีร่มเงา
แต่เราเวลานี้ทำทุกอย่างเพื่อตัวเองทั้งนั้น สอนไม่จำ..
โดย: รายารีย์ วันที่: 5 มิถุนายน 2553 เวลา:23:59:11 น.
  
เราชอบรูปเด็กที่ทาแป้งพม่ามาก

ทาซะเหมือนแบบว่า พรุ่งนี้ โลกจะแตก ไม่ได้ทาอีกแล้ว

ดูปุ๊บ ยิ้มทันที
โดย: Kala_mydog วันที่: 6 มิถุนายน 2553 เวลา:6:16:14 น.
  
อยากทำเพื่อคนอื่นเหมือนกัน แต่่ตัวเองยัวเอาไม่รอดเยย อิอิ....
โดย: Kessarin IP: 124.182.177.59 วันที่: 7 มิถุนายน 2553 เวลา:9:25:41 น.
  


แวะมาทักทายในวันทำงาน ..

โดย: หน่อยอิง วันที่: 7 มิถุนายน 2553 เวลา:10:07:42 น.
  
มายิ้มปลื้มมมม..

ภูมิใจแทนทุกคนเลยนะเนี่ย
โดย: i'm not superman วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:19:54:30 น.
  
ดูรูปไป อ่านไปแล้วมีความสุขจัง ^_^

อยากไปมั่ง แต่คงทำอารายไม่ได้เยอะ
(เพราะถ้าไปคงจะเมาตั่งแต่รู้ว่าจะลงเรือแหระ)

ที่เงียบหายไปนี้แอบไปทำกิจกรรมมานี้เองงงงงง
โดย: ช่อกุหลาบสีส้ม IP: 222.123.24.68 วันที่: 11 มิถุนายน 2553 เวลา:10:54:15 น.
  
ดีจังเลยค่ะ การได้ทำสิ่งเล็กๆ สำหรับคนให้ แต่ยิ่งใหญ่สำหรับคนรับ และ ยิ่ง อนาคตของชาติ
โดย: เกดจัง วันที่: 16 มิถุนายน 2553 เวลา:0:33:34 น.
  
สุขสันต์วันเกิดคุณพ่อย้อนหลังด้วยนะครับ

ขอให้ท่านสุขภาพแข็งแรงมีความสุขมากๆนะครับ


อรุณสวัสดิ์ครับ ^^
โดย: พระจันทร์ของคุณ (Great_opal ) วันที่: 21 มิถุนายน 2553 เวลา:6:04:12 น.
  
เอาความสดชื่นยามเช้าหลังฝนตกมาฝากครับ


อรุณสวัสดิ์ครับ ^^
โดย: พระจันทร์ของคุณ (Great_opal ) วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:5:42:44 น.
  
ขอเบอร์ติดต่อกลับด้วยนะครับ หมวดเม หรือติดต่อกลับมาที่ 0811018181 ครับผม
โดย: โอ๋ อันดามัน ก๊อบแก๊บ IP: 182.93.218.249 วันที่: 4 ธันวาคม 2556 เวลา:11:50:26 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาริกามณี
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



Just Do it :


* มีอีกชื่อว่า หญ้าเจ้าชู้

* เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์บทประพันธ์
รักข้ามรั้ว (หญ้าเจ้าชู้)
ลุ้นสุดฤทธิ์ พิชิตรัก (หญ้าเจ้าชู้)
ภารกิจรักพิทักษ์เธอ (หญ้าเจ้าชู้)
ปีกแห่งฝัน (ดาริกามณี)

* เป็นสาวก 'รงค์ วงษ์สวรรค์
* เป็นแฟน คาราบาว
* เป็นกิ๊ก เฉลียง
* ฝืนอะไรที่เป็นอื่น ฝืนอัตตา
สูงเทียมฟ้าก็มิเท่า เป็นเราเอง

* การปรากฎตัวของคนคนหนึ่ง
อาจเปลี่ยนใครอีกคนไปทั้งชีวิต

* หากต้องการอ่านนิยายที่ใส่รหัส,
รบกวน "ฝากข้อความหลังไมค์" จ่ะ