"ความสามัคคีปรองดอง เป็นกำลังอย่างสูงสุดของชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ความสามัคคีของคนในชาติ จะทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นอุปสรรค และทำให้สังคมไทย ร่มเย็นเป็นสุข" พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
สนใจลงโฆษณา ในพื้นที่ข้างบน ติดต่อ email : nana_sara1000@ymail.com
Home Lover’s Corner นานา สาระ๑๐๐๐ นานา สารพัด พระพุทธประวัติ ภาคพิเศษ
Travel Around the World Real Estate Buyer's Guide สุขภาพกาย สุขภาพใจ Pets & Animals
ปางพระพุทธรูปตามพุทธประวัติ Horoscope 12 ราศี พระพุทธศาสนา World of Beautiful Musics
พระพุทธประวัติ ตอนที่ ๑๓๘ :ทรงโปรดอสุรินทราหู

พระพุทธประวัติ ตอนที่ ๑๓๘ : ทรงโปรดอสุรินทราหู


ในสมัยหนึ่ง เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ในพระนครสาวัตถีครั้งนั้น อสุรินทราหู อุปราชแห่งท้าวเวปจิตติ อสุรบดินทร์ผู้ครองอสูรพิภพ ได้สดับคำสรรเสริญถึงพระเกียรติคุณของพระบรมศาสดาจากสำนักเทพยดาทั้งหลายว่า "พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ทรงเป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง ทรงเพียบพร้อมไปด้วยวิชชาและจรณะ ทรงรู้แจ้งโลก" เมื่ออสุรินทราหู ได้ฟังแล้ว ก็มีความปรารถนาใคร่ที่จะได้ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แต่มาหวนคำนึงว่า "พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นทรงเป็นมนุษย์มีพระวรกายที่เล็ก ถ้าเราจะไปเฝ้าก็ต้องก้มลงมอง เป็นความลำบากมาก ซึ่งตัวเราเองก็ไม่เคยก้มเศียรให้แก่ใคร" เมื่ออสุรินทราหูได้หวนคำนึงด้วยประการดังนี้แล้ว ก็ระงับการที่จะไปเฝ้าพระบรมศาสดา

แต่ครั้นได้เห็นเหล่าเทพยดาทั้งหลาย ที่พากันไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นจำนวนมาก ๆ ความคิดที่จะไปเฝ้าก็เกิดขึ้นอีก ทั้งยังได้ทราบพระคุณสมบัติของพระบรมศาสดาว่า "พระองค์ทรงมีพระพักตร์เบิกบานเสมอ ทรงมีการปฏิสันถารอันดี" ดังนั้น ณ เพลาราตรีหนึ่ง อสุรินทราหูจึงไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้ายังที่ประทับ ก่อนที่อสุรินทราหูจะไปเฝ้านั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบด้วยพระญาณเป็นอย่างดี ทั้งทรงทราบถึงความในใจของอสุรินทราหูด้วย ทรงรับสั่งแก่พระอานนท์ว่า "ดูกร อานนท์ เธอจงจัดสถานที่รับรองที่บริเวณพระคันธกุฏี อันเป็นสถานที่กว้างใหญ่ เธอจงลาดบรรจถรณ์ของตถาคตไว้ ณ ที่นั้น ด้วยตถาคตจะนอนรอรับอสุรินทราหู เพื่อให้โอกาสแก่อสุรินทราหูได้เห็นตถาคตอย่างใกล้ชิด และถนัดชัดเจน"













ครั้นแล้วพระผู้มีพระภาคเจ้าก็เสด็จบรรทม ณ พระแท่นที่ประทับ ทรงกระทำปาฏิหาริย์ เนรมิตพระวรกายให้ใหญ่กว่ากายของอสุรินทราหูหลายเท่า ซึ่งพระรูปนี้ จะปรากฏเฉพาะแต่อสุรินทราหูแต่ผู้เดียวเท่านั้น เมื่อได้เวลา อสุรินทราหูก็เข้าไปเฝ้า ครั้นเห็นพระวรกายของพระผู้มีพระภาคเจ้า ก็บังเกิดความอัศจรรย์ใจ กล่าวคือ แม้แต่เพียงพระบาททั้งสองข้างที่ซ้อนกันอยู่ ก็สูงและใหญ่กว่าตนเสียอีก อสุรินทราหูได้เข้าไปใกล้แล้ว ถวายอภิวาท แทนที่จะก้มลงดูพระผู้มีพระภาคดังที่คิดไว้แต่แรกนั้น กลับต้องแหงนหน้าชมพระพุทธลักษณะอันงดงาม นับแต่พื้นพระบาทจนถึงพระพักตร์ เมื่ออสุรินทราหูได้ยลพระรูปลักษณะแล้วก็บังเกิดความปลาบปลื้มเป็นยิ่งนัก


ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับสั่งปฏิสันถาร เพื่อให้เกิดความชื่นบานแก่อสุรินทราหูยิ่งขึ้น แล้วตรัสว่า "อสุรินทราหู บุคคลทั้งหลายเมื่อได้ทราบ ข่าวเล่าลือไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด ๆ หากยังไม่ได้เห็น ยังไม่พิจารณาให้ถ่องแท้แก่ใจตนแล้ว ไม่พึงติชมก่อน อสุรินทราหู ท่านคงเข้าใจว่า ท่านมีร่างกายใหญ่กว่าเทพยดาและอสูรทั้งหลาย จริงอยู่ บรรดาอสูรทั้งหลายในอสูรพิภพนั้นมีร่างกายเล็กกว่าท่าน แต่ท่านคิดหรือเปล่าว่า ในที่อื่นอาจมีร่างกายใหญ่กว่าท่าน เหมือนปลาใหญ่ในหนองคลองบึง มันอาจคิดว่าตัวมันโตกว่าปลาทั้งหมด ไม่มีปลาตัวใดจะเสมอได้ เพราะมันยังไม่ได้เห็นปลาในมหาสมุทร อสุรินทราหู แม้ท่านเองก็มีความรู้สึกเช่นนั้น ดูกร อสุรินทราหู บรรดาพรหมทั้งหลายในพรหมโลกชั้นบนทั้งหมด ล้วนมีร่างกายใหญ่กว่าท่าน ถ้าท่านมีความปรารถนาจะใคร่ชมพรหมเหล่านั้น ตถาคตจะพาท่านไป และไปชมได้ในขณะนี้ "


ครั้นอสุรินทราหูได้สดับพระพุทธดำรัสแล้ว จึงทูลขอประทานพระกรุณาให้พาไปชมพรหมทั้งหลายในพรหมโลก องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงกระทำปาฏิหาริย์พาอสุรินทราหูไปยังพรหมโลกทันทีทันใดนั้น เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จขึ้นไปปรากฎพระองค์ ณ พรหมโลกแล้ว บรรดาพรหมทั้งหลายต่างก็มาเฝ้าเป็นอันมาก บรรดาพรหมที่พากันมาเฝ้าเหล่านั้น ล้วนแต่มีร่างกายใหญ่กว่าอสุรินทราหูทั้งนั้น แต่พระผู้มีพระภาคเจ้ากลับมีพระวรกายปรากฏใหญ่กว่ามหาพรหมเหล่านั้นทั้งหมด


ส่วนอสุรินทราหูคงมีร่างกายเท่าเดิม จึงบังเกิดความหวาดกลัวตัวสั่นเทา ได้หลบอยู่เบื้องพระปฤษฎางค์ (หลัง) พระผู้มีพระภาคเจ้า ปรากฏเหมือนแมงมุมที่เกาะปลายจีวรแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าฉะนั้น ท้าวมหาพรหมได้ทูลถามพระบรมศาสดาว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ได้ทรงพระกรุณาพาเอาตัวอะไรขึ้นมาด้วยพระเจ้าข้า" พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตอบว่า "ดูกร ท้าวมหาพรหม ผู้นี้ คือ อสุรินทราหู ซึ่งเธอสำคัญตัวว่ามีร่างกายที่ใหญ่โต ใคร่อยากที่จะได้เห็นผู้ที่มีร่างกายใหญ่กว่าตนนี้ ยังจะมีอยู่หรือไม่ ตถาคตจึงได้พาเธอขึ้นมาบนพรหมโลกนี้ เพื่อที่จะให้เธอได้เห็นประจักษ์ด้วยตนเอง"


ท้าวมหาพรหมจึงกราบทูลสนองพระพุทธดำรัสว่า "เป็นจริงเช่นนั้นพระเจ้าข้า อันว่าธรรมดาวิสัยของคนที่มีทิฐิมานะอันกระด้าง ย่อมสำคัญตัวเองว่าเหนือกว่าบุคคลผู้อื่นอยู่เสมอ"
เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จประทับอยู่ ณ พรหมโลกพอสมควรแก่เวลา พระองค์ก็ตรัสอำลาท้าวมหาพรหม พระองค์ทรงพาอสุรินทราหู กลับลงมายังพระเชตวันมหาวิหาร ทรงทรมาน (แสดงธรรมโปรด) อสุรินทราหูให้ลดทิฐิมานะอันกระด้างลงได้ ครั้งนั้น อสุรินทราหูกลับมีใจเลื่อมใสในพระคุณของพระบรมศาสดา ได้เล็งเห็นวาจาของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นสรณะ แล้วกราบทูลลากลับที่อยู่แห่งตน


จากเรื่องราวดังกล่าว จะเห็นได้ว่า พระราหู หรืออสุรินทราหู นั้น ไม่ได้เป็นผู้ที่มีจิตใจหยาบช้า หรือ แข็งกระด้าง เกินกว่าที่พระพุทธองค์จะทรงโปรดได้ และเมื่อพระราหูได้มีโอกาสฟังพระธรรมของพระพุทธองค์บ่อยครั้งเข้า (เมื่อคราวขึ้นมาไล่จับพระอาทิตย์ และ พระจันทร์ อมเล่น) ก็มีจิตน้อมนำให้ใฝ่ในธรรม










พระพุทธรูปปางโปรดอสุรินทราหู เป็นพระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถ นอนตะแคงขวา พระบาททั้งสองซ้อนทับเสมอกัน พระหัตถ์ซ้ายแนบไปตามพระวรกาย พระหัตถ์ขวาตั้งขึ้นรับพระเศียรและมีพระเขนย ( หมอน ) รองรับ บางแบบพระเขนยวางอยู่ใต้พระกัจฉะ ( รักแร้ ) เราจะพบพระพุทธรูปปางนี้ ได้หลายๆแห่ง ที่เรามักเรียกกันว่าพระนอน ที่จริงแล้ว พระนอนยังมีปางอื่นๆอีกหลายปางมาก แต่ปางที่นิยมสร้างให้ใหญ่โตมากๆ ก็จะเป็นปางนี้ เพื่อเป็นการแสดงความศรัทธาที่มีต่อ พระพุทธองค์ ในการโปรดอสุรินทราหูนั่นเอง






Create Date : 23 กรกฎาคม 2552
Last Update : 23 กรกฎาคม 2552 0:47:46 น. 0 comments
Counter : 4448 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

travelaround
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]





ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะเข้ามาชม blog มีข้อคิดเห็น เชิญ comment มาได้นะครับ ถ้าตอบได้ จะตอบให้ทันทีครับ แต่ถ้าไม่ทราบ ต้องขอเวลา จะค้นคว้ามาให้อ่านกัน ท่านที่จะถามคำถาม หรือติดต่อเรื่องบทความ ได้ทาง Email :- d_sign_place@yahoo.com ครับ


เรื่องต่างๆที่ผมได้เขียนหรือรวบรวม เรียบเรียงมานี้ ยินดีให้ทุกท่านได้อ่านเป็นวิทยาทานและเพื่อการศึกษา ถ้าจะนำไปโพสต่อใน website สาธารณะ หรือ website อื่นใดที่ไม่ใช่ทางพาณิชย์ กรุณาระบุที่มา คือ https://www.travelaround.bloggang.com และนามปากกาผู้เขียนคือ TraveLArounD ด้วย

แต่ขอสงวนสิทธิ์สำหรับการนำไปใช้ ในเชิงพาณิชย์ หรือโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง จะถูกดำเนินคดี ตามกฏหมายลิขสิทธิ์

ส่วนบทความหรือภาพถ่ายใดๆ ที่ได้นำมาจาก website อื่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบเรื่องนั้นๆ เป็นการถ่ายทอดจากวิจารณญาณแล้วว่า มีความถูกต้องเป็นจริง มากที่สุด และได้นำมาจาก website ที่เป็นสาธารณะ ถ้าเรื่องราวหรือภาพของท่านที่ได้นำมาถ่ายทอดนี้ ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของท่าน กรุณาแจ้งมาทาง email :– nana_sara1000@ymail.com ผมจะทำการลบข้อมูลหรือภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ออกทันที

Acknowledges that I try to write or report accurately but postings may contain fact , speculation or rumor. I find images from the Web that are believed to belong in the public domain. If any stories or images that appear on the site are in violation of copyright law, please email to :- nana_sara1000@ymail.com and I will remove the offending information as soon as possible.


Website counter
: Users Online









ที่ดินเชียงใหม่ ทางไปแม่ริม ใกล้ศาลากลาง และสนามกีฬา 700 ปี ติดน้ำปิง ในหมู่บ้านเพชรริมปิง พื้นที่ 667 ตารางวา @ 14,000.- บาท สภาพแวดล้อมดี สนใจติดต่อ โทร. 0859559950



DESIGN PLACE CO.,LTD. รับออกแบบ และตกแต่งภายใน บ้านพักอาศัย ในแบบไทย และไทยร่วมสมัย



มรดก ฉบับที่ 1

มรดก ฉบับที่ 2

มรดก ฉบับที่ 3

มรดก ฉบับที่ 4

มรดก ฉบับที่ 5

มรดก ฉบับที่ 6

มรดก ฉบับที่ 7

ช่วยสนับสนุนการจัดทำ BLOG ด้วยการซื้อหนังสือ "มรดก" 1ชุด 7เล่ม (หนังสือเก่า) ในราคาชุดละ 700 บาท (รวมค่าส่งทางไปรษณีย์)

สนใจสั่งซื้อทาง E-mail :- nana_sara1000@ymail.com



New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add travelaround's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.