โคลัมบัสหน้าใหม่ตะลุยเกาะสิมิลัน


  
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดพังงา
ห่างจากชายฝั่งประมาณ 70 กิโลเมตร อาจดูเหมือนเป็นระยะทางไกลไม่น้อย
แต่การเดินทางด้วยเรือสปีดโบ๊ททำให้ใช้เวลาเดินทางแค่ 1
ชั่วโมงครึ่งก็ถึงเกาะสิมิลันแล้ว


  
การเดินทางครั้งนี้เราตั้งใจใช้ชีวิตแบบโคลัมบัสจึงพากันยกพลขึ้นฝั่งบนเกาะ
แปดที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่มากเท่าเกาะสี่
แต่เป็นเกาะใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะสิมิลัน บางคนอาจไม่คุ้นกับชื่อนี้
แต่ถ้าบอกว่าเกาะนี้เป็นที่ตั้งของหินเรือใบ สัญลักษณ์สำคัญของอุทยานฯ
คุณคงคุ้นหูคุ้นตากันบ้างไม่มากก็น้อย หลังจากชื่นชมความงามรอบๆ
ชายหาดของอ่าวเกือกและเลือกเต็นท์เหมาะๆ ได้แล้ว
เราจึงออกสำรวจเกาะเริ่มจาก จุดชมวิวหินเรือใบ
แม้หนทางไม่ไกลนักแต่ก็ต้องปีนป่ายพอสมควร เวลาจะขึ้นไปควรใส่เสื้อผ้า
รองเท้าให้รัดกุมสักนิดเพราะมีเส้นทางผ่านป่าเล็กๆ
ซึ่งมีต้นเตยทะเลหรือลูกไม้ที่มีหนามเกี่ยวเอาได้
แต่รับรองว่าหากขึ้นไปถึงบนยอดแล้วคุ้มค่าจริงๆ
เพราะมองเห็นวิวอ่าวเกือกและท้องทะเลอันดามันได้ทั้งหมด
อีกทั้งยังมองเห็นเกาะบางูที่อยู่ใกล้กันได้อีกด้วย


   ถัดจากจุดชมวิวหินเรือใบมีจุดชมวิวเล็กๆ อีกแห่งหนึ่งอยู่ไม่ไกล
เราเลยลองเดินขึ้นไปชมดูสักหน่อย
แล้วก็ต้องตื่นตะลึงไม่น้อยเพราะเบื้องล่างใต้ผืนน้ำสีฟ้ามีฝูงปลาฉลามกว่า
30 ตัวกำลังไล่กินปลาเล็กๆ อยู่ ด้วยความคิดที่ว่าอยากดูใกล้ๆ
เราจึงหาทางลงจากจุดชมวิวเพื่อเข้าไปใกล้ทะเลให้มากที่สุด
แต่ไม่ว่าจะลงไปทางไหนก็ติดต้นเตยทะเล
พวกเราจึงตัดใจย้อนกลับมาดูปลาฉลามล่าเหยื่อกันที่จุดชมวิวเดิม
ในใจก็คิดไปว่าในชีวิตนี้คงไม่บ่อยนักหรอกที่เราจะได้เห็นปลาฉลามครีบดำตัว
โตๆ รวมฝูงกันมากขนาดนี้



   นั่งพักดูปลาฉลามจนบ่าย เราก็ไปกินข้าวที่ร้านค้าสวัสดิการของอุทยานฯ
เป็นอาหารจานเดียวง่ายๆ รองท้องพออิ่ม นั่งเล่นจนข้าวเรียงเม็ดดีแล้ว
จึงเดินไปอีกฝั่งของเกาะแปด มีป้ายบอกทางไป จุดชมวิว
9 เกาะ
ระยะทางประมาณ 7 – 8 กิโลเมตร ในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง
จุดชมวิวนี้สามารถมองเห็นเกาะน้อยใหญ่ทั้ง 9 ได้อย่างชัดเจน
แต่ด้วยความที่อยู่กลางป่าลึกและไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวมากนัก
เส้นทางจึงไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร หากไปกันน้อยๆ ไม่แนะนำให้ไปชม
และที่สำคัญคือหากจะไปจุดชมวิวนี้ไม่ควรจะออกเดินทางบ่ายจนเกินไป
เพราะอาจกลับมาถึงที่พักค่ำมืด


   รุ่งขึ้นเป็น “วันมหกรรมดำน้ำแห่งชาติ” ที่พวกเราตั้งกันขึ้นเอง
เพราะตามโปรแกรมวันนี้เราจะดำน้ำสนอร์เกิลกันทั้งวัน
สำหรับคนที่กังวลใจว่าเหตุการณ์สึนามิจะทำให้ความสวยงามของท้องทะเลสิมิลัน
ลดลง ต้องบอกว่าแม้จะมีผลกระทบบ้าง
แต่ความสวยงามของที่นี่ยังมีให้ชมอีกหลายอย่างทั้งปะการังแข็ง ปะการังอ่อน
กัลปังหาและฝูงปลานานาชนิด
เพียงแต่ว่าคุณต้องตาไวขึ้นอีกนิดแล้วจะโชคดีเจอสัตว์น้อยใหญ่แอบซ่อนอยู่
ตามกองหิน ทั้งกุ้งมังกร ปลากระเบนจุดฟ้า และเต่าทะเล


   เราพักกินข้าวเที่ยงกันที่เกาะสี่
ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
ต้องบอกว่าหลังจากดำน้ำมาเหนื่อยๆ พอขึ้นเกาะก็เหมือนได้เจอสวรรค์
เพราะที่นี่มีร้านค้าสวัสดิการ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก บ้านพัก
และเต็นท์คอยให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน


   กินข้าวกลางวันเรียบร้อยก็ถึงเวลาตามหาสัตว์หายากกันต่อ แต่อะไรๆ
ก็เกิดขึ้นได้เพราะเรื่องที่คิดว่ายากกลับไม่ยากเลย
เพียงเดินผ่านลานกางเต็นท์มาได้นิดเดียว เราก็เจอกับ
นกชาปีไหน

ที่กำลังเดินขุ้ยเขี่ยหาอาหารอยู่บริเวณนั้นอย่างไม่เกรงใจไทยมุงที่รุมถ่าย
รูปกันอย่างตั้งใจ เบื่อจากถ่ายรูปนกมองไปบนยอดไม้ก็เจอ ค้างคาวแม่ไก่ นางอาย และกระรอก
ต้องยอมรับว่าป่าของหมู่เกาะสิมิลันมีความสมบูรณ์มากจริงๆ
จนเป็นบ้านหลังใหญ่ของสัตว์นานาชนิดได้ แม้เราจะไม่เห็นปูไก่ อีกหนึ่งสัตว์หายากตัวเป็นๆ ก็ตาม


   ส่องสัตว์กันจนหนำใจแล้ว เราเดินไปหาดเล็ก
ซึ่งอยู่อีกฝั่งของเกาะ ชายหาดฝั่งนี้มีความสวยงามมากๆ
ทรายเป็นสีขาวละเอียดราวกับแป้ง น้ำทะเลก็เป็นสีฟ้าสดใส
และใสสะอาดจนมองเห็นพื้นด้านล่าง เราเล่นน้ำกันอีกพักใหญ่จึงขึ้นไปชมวิวบน จุดชมวิวลานข้าหลวง
แม้จุดชมวิวจะไม่ต่างจากที่อื่นๆ มากนัก
แต่ความสนุกระหว่างทางที่ต้องปีนป่าย ไต่เขาเป็นระยะๆ
ก็ช่วยให้เราสนุกสนานกันมากขึ้น


   หลังจากดำน้ำกันอีกแห่ง เรือของอุทยานฯ จึงมาส่งเราที่เกาะแปด
อาบน้ำกันเรียบร้อยแล้วจึงออกมานั่งเล่นริมชายหาดรอชมพระอาทิตย์ตกดิน
คุยถึงสัตว์บกและ สัตว์น้ำต่างๆ
ที่ได้เจอในวันนี้อย่างสนุกสนานก่อนจะเข้านอนโดยมีดวงดาวมากล่าว
ราตรีสวัสดิ์ เป็นการจบทริปสำรวจเกาะอย่างสวยงาม







Free TextEditor







































































































 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 5 พฤษภาคม 2553 7:35:30 น.
Counter : 160 Pageviews.  

สุดสัปดาห์กับเจ้าตัวเปี๊ยก


สวัสดีจ้าต้นหอม


   เฟียตมาเที่ยวกับปาป๋า และแม่ที่ทอง
สมบูรณ์ คลับ
จ้ะ ปาป๋าขับรถออกจากบ้านใช้เวลาแค่ 2
ชั่วโมงก็ถึงปากช่องแล้ว ก่อนจะเข้าไปเที่ยวสวนสนุก
เราเช็คอินเก็บกระเป๋าเข้าที่พักด้านหน้าฟาร์มก่อน
ที่นี่เขามีที่พักหลายแบบทั้งเกวียนคาวบอย เกวียนสวีท กระโจมอินเดียน
เรือนคาวบอย แคมเปอร์ และบังกะโลที่เราจะนอนกันคืนนี้


   เก็บของเสร็จปุ๊บก็เดินมาดูโซนกิจกรรมกันมีซุ้มถ่ายภาพสไตล์คาวบอย
สอนขี่ม้า และโรดิโอ เป็นเครื่องเล่นทำเป็นรูปวัวกระทิงให้คนขึ้นไปนั่ง
แล้ววัวก็จะโยกซ้ายโยกขวาให้คนตกลงมา ดูหน้าหวาดเสียวจริงๆ


   เฟียตได้ลองขี่ม้าด้วย
นะตอนแรกก็รู้สึกกลัวเหมือนกัน แต่โชคดีที่มีพี่ๆ
เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด และเจ้า “โรดิโอ” ม้าที่เฟียตขี่ก็เชื่องมาก
ทำให้หายกลัวและสนุกมากๆ เลย พอขี่ม้าเสร็จ
เราซื้ออาหารเลี้ยงโรดิโอแล้วจึงนั่งรถลากเข้าไปเที่ยวในฟาร์ม
ระหว่างทางผ่านทุ่งหญ้าสีเขียวกว้างสุดลูกหูลูกตา
มีกลิ่นหอมของต้นหญ้าลอยมากับลมทำให้รู้สึกสดชื่นจริงๆ
แถมบนรถก็มีเพลงคันทรี่ให้ฟังด้วย
ยิ่งทำให้รู้สึกคึกคักอยากให้ถึงที่หมายเร็วๆ


   ในฟาร์มมีเครื่องเล่นหลายอย่าง เช่น ล่องแก่ง เรือยางมหาสนุก โรลิ่ง
บอล (Rolling Ball) รถโกคาส กระเช้าลอยฟ้า เพ้นท์บอล และลูจ (Luge)
หรือที่เราเรียกกันว่ารถแข่งชาวเขาก็มีให้เล่นกับเขาด้วย จริงๆ
แล้วเฟียตอยากเล่นทุกอย่างเลย
แต่ปาป๋าบอกว่าเฟียตยังเป็นเด็กอยู่เล่นไม่ได้ ปาป๋าเลยพาไปเล่นดรายสเลดจ์ (Dry Sledge)
เป็นที่นั่งในห่วงยาง แล้วยกพื้นให้ห่วงยางไหลลงไปตามทาง เราใจหายวูบเลยนะ
แต่ก็สนุกมาก



   จากนั้นก็ไปเล่นล่องแก่ง กับ ไอ
ซ์สเก็ต
เราชอบไอซ์สเก็ตมากเพราะเล่นนานแค่ไหนก็ได้
แถมมีเพื่อนๆ อีกหลายคนมาเล่นสเก็ตด้วย มีน้องคนหนึ่งอายุแค่ 6 ขวบเองนะ
แต่ก็เล่นได้เพราะมีพี่เจ้าหน้าที่คอยช่วยดูแล
ปาป๋ากับแม่เห็นเรามีเพื่อนแล้วเลยไปนอนนวดแผนไทยรอเราเล่นสเก็ตสบายไปเลย


   เล่นไอซ์สเก็ตยังไม่ทันเหนื่อยเลย ปาป๋าก็มาชวนไปขับรถ ATV กับนั่งกระเช้า
ลอยฟ้า

มีพี่เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นกระเช้าลอยฟ้าแห่งแรกของเมืองไทยเลยนะ
ด้านล่างของกระเช้าเป็นสนามลูจคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา มีพี่ๆ
หลายคนขับรถแข่งกันลงมา เราเห็นแล้วอยากเล่น
เลยให้พี่เจ้าหน้าที่เป็นคนบังคับรถให้เพื่อความปลอดภัย


   ที่นี่เขามีระบบรักษาความปลอดภัยดีมาก ของเล่นอะไรที่อาจมีอันตราย
พี่ๆ เจ้าหน้าที่จะให้ใส่หมวกกันน็อค สนับแข้ง และถุงมือด้วย
ยิ่งเป็นเกมเพ้นท์บอลยิ่งต้องระวังมากเป็นพิเศษ เราเห็นพี่ๆ
ที่มาเล่นกันต้องใส่ทั้งเสื้อแขนยาว และหน้ากากด้วย
คงป้องกันไม่ให้เป็นแผลนั่นเอง


   เราอยู่ในสวนสนุกจนเย็นจึงนั่งรถลากกลับมาบ้านพัก
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวแล้ว ปาป๋าก็ขับรถพาไปกินข้าวที่ร้านบ้านไม้ชายน้ำ
ร้านนี้นอกจากจะมีอาหารอร่อยหลายอย่างแล้ว ยังมีของเก่า
ของสะสมให้ดูอีกมากมาย ทั้งถ้วยชาม ของเล่นโบราณ ปิ่นโต กระป๋องแป้ง เตารีด
เครื่องแก้ว เรียกว่าคนที่ชอบของเก่าเห็นแล้วต้องใจละลายแน่นอน
แต่ที่เฟียตชอบที่สุดเป็นไขโหลลูกไข่ เล่นจนหมดเงินไปตั้ง 20 บาทแน่ะ


   อืม...ดึกมากแล้วเฟียตไปนอนก่อนนะ
แล้วถ้าไปเที่ยวไหนจะเขียนจดหมายมาเล่าให้ต้นหอมฟังอีก


   คิดถึงจ้า


   ด.ญ. ณิชศีล ฤกษ์วาณิชย์กุล (เฟียต)


   ป.ล. เราวาดรูปโรดิโอมาให้ต้นหอมด้วย ดูสิน่ารักไหม






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 5 พฤษภาคม 2553 7:33:56 น.
Counter : 181 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.