บ้านรวมไทยหรือที่เรียกกันจนติดปากว่า “ปางอุ๋ง”
เป็นส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาตามพระราชดำริจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งขึ้นในปี
2527 ส่วนที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวอยู่บริเวณท้ายหมู่บ้าน
มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ รายล้อมด้วยป่าสนสามใบ และสนสองใบ
ซึ่งตอนเช้าบรรยากาศจะงดงามมากเป็นพิเศษเพราะบนผิวน้ำมีไอหมอกลอยเลียบผิว
น้ำ มีแสงแดดสาดส่องกระทบแนวต้นสน อากาศเย็นสดชื่น
จนบางครั้งถึงขั้นหนาวเลยทีเดียว
อีกทั้งยังมีหงส์ขาวแวะเวียนมาให้ถ่ายรูปอย่างไม่อายกล้อง
ปางอุ๋งมีที่กางเต็นท์ แค้มป์ปิ้งได้
หรือหากไม่สะดวกก็มีบ้านพักไว้บริการ ที่นี่สวยที่สุดช่วงเช้าและเย็น
หากไปผิดเวลาอาจไม่สวยเท่าที่ควร เที่ยวอ่างเก็บน้ำเสร็จแวะชิมชาในหมู่บ้าน
หรือเดินชมวิถีชีวิตชาวบ้าน อุดหนุนสินค้าท้องถิ่น ก่อนเดินทางไปหมู่บ้านรักไทย (แม่ออ)
หมู่บ้านสุดท้ายก่อนถึงชายแดนไทย – พม่า
ชาวบ้านเป็นชาวจีนอพยพมาจากตอนใต้ของประเทศจีนช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็น
ระบอบคอมมิวนิสต์ พวกเขายังคงรักษาวิถีชีวิต
และวัฒนธรรมท้องถิ่นไว้อย่างดีทั้งภาษาพูด ภาษาเขียน
การสร้างบ้านจากดินผสมฟางข้าว
และที่ขาดไม่ได้คืออาหารตำรับจีนยูนานทั้งก๋วยเตี๋ยว และขาหมูหมั่นโถ
นอกจากนี้ยังมีร้านขายชาอีกหลายร้านรอต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยไมตรีจิต
ก่อนกลับมาสู่ถนนเส้นหลัก (ทางหลวงหมายเลข 1095) แวะเที่ยวพระตำนักปางตอง ชมแปลงสาธิตการปลูกดอกไม้ ผลไม้
การเลี้ยงสัตว์ ซึ่งคุณสามารถชมการตัดขนแกะ ถ่ายรูปเล่นกับลูกแกะตัวจ้อย
หรือเลือกซื้อสินค้าจากขนแกะ แล้วเดินทางกลับมาทางอำเภอปาย เมืองเล็กๆ แต่อบอวลไปด้วยความอบอุ่น
เดินดูร้านขายของฝากเท่ๆ จิบชากาแฟยามบ่าย เที่ยวบ้านสันติชล
กินอาหารจีนยูนาน เล่นชิงช้าดอย
ตื่นเช้าหน่อยออกจากปายไปบ้านวัดจันทร์ เที่ยว
ป่าสนธรรมชาติผืนใหญ่ที่สุดของประเทศที่อุดมด้วยสนสามใบและสนสองใบ
แม้ทางขึ้นเขาคดเคี้ยวหลายช่วง แต่เห็นวิวทิวเขาสลับซับซ้อนสวยงาม
แถมหากขึ้นไปเช้าๆ อากาศดีจะมีทะเลหมอกให้ชมด้วย
ระหว่างทางไปป่าสนจะผ่านโครงการหลวงบ้านวัด
จันทร์ มีแปลงปลูกดอกไม้สวยงาม
ที่เห็นเด่นเป็นสง่าเต็มลานคือดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย
ซึ่งจะออกบานสะพรั่งเต็มไปหมดในช่วงต้นเดือนก.พ.
นอกจากนี้ด้านหลังโครงการยังเป็นแปลงปลูกสนขนาดใหญ่
มีเส้นทางจักรยานอย่างดีไว้ให้นักท่องเที่ยวขาปั่นเที่ยวได้รอบทั้งบริเวณ
ป่าสน เส้นทางอ่างเก็บน้ำ หรือถ้าแรง (ขา) ดีหน่อยจะไปถึงหมู่บ้านก็ได้
เดินทางมายาวไกลใกล้ถึงเวลากลับสักที
แต่ยังมีอีกสองสถานที่ที่อยากให้คุณไปเที่ยว คือ อุทยาน
แห่งชาติห้วยน้ำดัง ชมทะเลหมอกยามเช้าที่ดอย
กิ่วลม ซึ่งสวยงามไม่แพ้ที่ใด มองเห็นดอยหลวงเชียวดาวอยู่ไกลๆ
สัมผัสลมหนาวอากาศเย็น ถ้าจะให้ดีต้องนอนค้างสักคืน
ยิ่งไปกว่านั้นหากใครแน่จริงต้องลองอาบน้ำในฤดูหนาวที่ห้วยน้ำดัง
เพราะน้ำเย็นสะท้านใจจริงๆ
ถ้าเป็นคนขี้หนาวแนะนำให้ไปอาบน้ำแร่ที่น้ำพุ
ร้อนโป่งเดือด แทน ที่นี่เป็นน้ำพุร้อนแบบไกเซอร์ (Geyser)
คือน้ำพุร้อนที่น้ำพุ่งสูงจากพื้นดินเป็นระยะและมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ
อุณหภูมิของน้ำพุร้อนสูงราว 90-99 องศาเซลเซียส ทางอุทยานฯ
ได้สร้างห้องอาบน้ำแร่ไว้ให้นักท่องเที่ยวใช้บริการแบบราคาเป็นกันเอง
นอนแช่น้ำเล่นสักพักแล้วค่อยเดินทางกลับกันดีกว่า