เป็นความบังเอิญที่เราได้มาอยู่ใต้ร่มหลังคาเดียวกัน
ปกติจขบ.เป็นสมาชิกชมรมคนรักน้องหมาอยู่แล้วค่ะ
ดังนั้นถ้ามีโอกาสจะพยายามหาโอกาสทำอะไรก็ได้ให้เพื่อนพ้องสี่ขาที่โดนทอดทิ้งมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ได้ข้อความจาก SPCA (องค์กรช่วยเหลือและป้องกันการทารุณสัตว์) ที่เป็นอาสาสมัครอยู่ เขาต้องการครอบครัวชั่วคราวให้น้องหมาที่เพิ่งไปช่วยเหลือมากว่า 20 ตัว
ช่วงนี้ยังไม่ได้แพลนจะเดินทางไปไหนไกลๆยาวๆ เลยตอบตกลงไป
เมื่อคืนวันอังคาร เราเลยได้ต้อนรับสมาชิกใหม่เข้าบ้านค่ะ
ลูกสาวคนใหม่ชื่อว่า "Dofu" ที่แปลว่าเต้าหู้ค่ะ -- ตัวสีน้ำตาลแท้ๆ ไม่รู้ทำไมเจ้าของเดิมถึงให้ชื่อนี้
เท่าที่ฟังประวัติจากเจ้าหน้าที่ "เต้าหู้" ไม่เคยได้ออกมาเดินมองโลกข้างนอกเลย ถูกขังอยู่ในคอกสกปรกๆตลอดระยะเวลา 3 ปี
*ภาพแรกเป็นภาพสภาพคอกของเต้าหู้ค่ะ ที่เห็นดำๆนั่นเป็นอุนจิหมากว่า 20 ตัวที่โดนขังอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่ดินนะคะ
ตอนนี้จขบ.ก็เลยต้องทำความรู้จักและให้เวลากับเจ้าเต้าหู้ปรับตัวเยอะหน่อย
แต่เชื่อไหมคะ แค่ 2 วันเจ้าเต้าหู้ก็เริ่มสดใสกว่าวันที่เจอกันครั้งแรกแล้ว
ตอนนี้อยากเปลี่ยนชื่อจาก "เต้าหู้" ให้เป็น "ตังเม" -- เพราะติดเจ้าของหนึบจริงๆ เอาไว้จะเอารูปมาให้ดูอีกค่ะ
มาเข้าเรื่องเที่ยวๆกันดีกว่า ...
2 เอนทรี่ก่อนหน้าพาไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์เก๋ๆและร้านนั่งชิลๆสไตล์ Danshui (ต้านสุ่ย) กันแล้ว วันนี้จะพาไปดูไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้หากมาเยือนย่านนี้
ถ้าใครเคยได้ยินได้อ่านประวัติศาสตร์ความเป็นมาของประเทศไต้หวันมาบ้าง จะทราบว่าไต้หวันเคยเป็นประเทศที่อยู่ใต้อานานิคมของต่างชาติมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเสปน ฮอลแลนด์หรือญี่ปุ่น
ดังนั้นสถาปัตยกรรมและศิลปะซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากต่างชาติยังคงมีให้เห็นกันอยู่เนืองๆ ย่าน Danshui ก็เช่นกัน
ที่แรกที่จขบ.ไปเดินเล่นคือ Fort Anthonio ซึ่งเป็นป้อมปราการที่ชาวเสปนได้สร้างไว้เมื่อปีค.ศ.1629
สีแดงเด่นตัดกับท้องฟ้าสีครามยามอากาศดี
บ้านพักของเจ้าหน้าที่กงสุลอังกฤษ สร้างเพิ่มขึ้นในปีค.ศ.1891 หลังจากป้อมปราการเปลี่ยนหน้าที่มาเป็นสถานกงสุลอังกฤษในปีค.ศ.1868
*โปรดสังเกตบนหัว-- ใครหนอช่างทำกับท่านเซอร์ได้ >.<
เดินดูข้างในว่าสมัยก่อนเขาอยู่กันอย่างไร ... ดูเป็นยุโรปๆสไตล์วิคตอเรี่ยนกึ่งจีน
ห้องน้ำวิวมหาสมุทร ... เป็นการปลดทุกข์อย่างมีศิลป์จริงๆ :P
อาคารก่อด้วยอิฐแดงทั้งหลัง ... ดูขลังดีจัง :)
รอบๆมีสวนให้เดินเล่น บรรยากาศดี (วันที่ไป ลมเย็นสบายมากๆ)
รองเท้าไม้ยักษ์ สัญลักษณ์ประเทศฮอลลแลนด์
ใช้เวลาเดินดูทั้งในและนอกตัวอาคาร รวมๆกันกว่าชั่วโมงเหมือนกัน
มองฟ้าแล้ว อีกไม่กี่นาทีพระอาทิตย์น่าจะลับขอบฟ้าแล้ว
ห่างจากป้อมปราการไปไม่ไกล เลี้ยวซ้ายแล้วเดินขึ้นเนินไปหน่อยก็จะเห็นตึกของมหาวิทยาลัย Tamsui Oxford College
มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดยคุณ George Leslie Mackay มิชชันนารี่ชาวแคนาดาผู้บุกเบิกนำความเจริญมาสู่ย่านต้านสุ่ย
คุณ Mackay อพยพมาอยู่ที่ไต้หวันในปีค.ศ.1871 แกมีความประทับใจในความเรียบง่ายและวัฒนธรรมของคนท้องถิ่น เลยตัดสินใจที่จะอุทิศตนทำประโยชน์ให้แก่พื้นที่แห่งนี้
นอกจากมหาวิทยาลัยแล้ว แกยังได้สร้างโบสถ์และโรงพยาบาลให้แก่ชาวต้านสุ่ยอีกด้วย
ตึกของมหาวิทยาลัย Oxford -- หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของไต้หวัน
ตึกสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ -- เข้าใจว่าเป็นตึกแรกที่สร้าง
หน้าตึกมีนกพิราบอยู่เต็มเลย ไม่กลัวคนซะด้วย ไม่รู้เป็นเพราะมีใครแอบให้อาหารรึเปล่า
โบสถ์ Presbyterian ที่อยู่ติดกัน -- หากใครชอบดูสถาปัตยกรรม ความสวยงามของการออกแบบอาคารแล้วล่ะก็ น่าจะ enjoy กับการเดินเล่นแถวนี้ค่ะ