ออกจากอุโมงค์มานั่งพักแป๊บนึง ก่อนเข้าไปดูไฮไลท์ของที่นี่กันต่อ
ทางเข้าของ Gold Building #มาไม่ผิดแน่ ทองอร่ามขนาดนี้ -*-
ชื่ออย่างเป็นทางการ
เดิมทีอาคารนี้เป็นออฟฟิศของเหมืองเหล็กเก่าแก่ของไต้หวัน
ไฮไลท์ของตึกนี้อยู่ที่ ทองแท่งยักษ์ระดับโลก!!!
หนักขนาดที่ Guinness World Record มาบันทึกเอาไว้
ที่สำคัญเขาให้ผู้มาเยี่ยมชมสัมผัสเจ้าทองแท่งนี้ได้ด้วย
ทองคำแท่งบริสุทธิ์ 99.99 หนัก 220.30 กิโลกรัม!!!
ด้านข้าง -- มีหมายเลขลำดับกำกับเอาไว้ด้วย #ทางพิพิธภัณฑ์ขอยืมมาจาก Reserve ของทางรัฐ
มีช่องเอาไว้ให้ลูบคลำ -- แอบเห็นหลายๆคนพยายามยก ขูด ถูอยู่หลายรอบ #ว่าแล้วทำตามบ้าง #เผื่อติดเล็บมาบ้าง 555
เขามีราคาทอง ณ วันนั้นๆโชว์เอาไว้ให้ดูด้วย
วันที่จขบ.ไปเที่ยว ราคาทองแท่งๆนี้มีมูลค่าเฉียด 330 ล้าน NT$
ดูมูลค่าแล้ว อดประหลาดใจกับมาตราการความปลอดภัยของสถานที่ไม่ได้
มองๆดูไม่เห็นมีกล้องวงจรปิดหนาแน่นเหมือนที่พิพิธภัณฑ์อื่นๆเลย แถมไม่มีเจ้าหน้าที่หรือพนักงานรักษาความปลอดภัยคอยคุมอีกต่างๆหาก
ดูชิลจนแอบสงสัยไม่ได้ว่านี่มันของจริงหรือของปลอม แต่ไปถามเจ้าหน้าที่ทีหลัง เขาก็ยืนยันว่าเป็นของจริง 100%
นอกจากทองยักษ์แล้ว อาคารทองแห่งนี้ก็ยังมีเรื่องราวอื่นๆที่น่าสนใจนำเสนออยู่ด้วย #แต่ไม่มีอะไรดึงดูดใจเท่าทองยักษ์อีกแล้ว 555
พี่คนนี้แกเป็นนักโขมยทอง แกลักลอบเข้ามาในเหมืองตอนกลางคืนแล้วแอบโขมยทองออกไปเรื่อยๆ #เก่งเนอะ มาเดี่ยวเลย
เครื่องทองที่ใช้ในพิธีแต่งงานในสมัยต่างๆ
บางช่วงของพื้นในอาคารเป็นพื้นใสๆ สามารถเห็นหน้าตาของพื้นสมัยก่อนตรงที่เป็นแหล่งเหมืองเก่า
หน้าตาอาคารด้านนอก ดูสมัยใหม่เชียว
ก่อนจบวัน แวะอีกหนึ่งจุด #เริ่มไม่รู้สึกถึงขาตัวเองแล้ว
๋บ้านพักรับรองเจ้าชายญี่ปุ่น Jinguashi Crown Prince Chalet
เท่าที่อ่านประวัติดู เห็นว่าสร้างขึ้นประมาณปีค.ศ. 1922 เพื่อรับรองเจ้าชาย Hirohito ซึ่งตอนหลังได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิขณะที่เดินทางมาดูงานเหมือง
บ้านไม้หลังนี้ผสมผสานสถาปัตยกรรมทั้งแบบตะวันตกและตะวันออกเอาไว้ด้วยกัน
ทางเหนือเป็นสวนญี่ปุ่น ทางใต้เป็นสนามกอล์ฟ!!!
เห็นความกว้างแล้วนึกเหนื่อยแทนคนทำความสะอาด
ดูร่มรื่น น่าอยู่ดีจริงๆ -- ตัวบ้านเป็นกระจกใสรอบด้าน
สวนญี่ปุ่นมีบ่อปลาด้วย
ก่อนกลับแวะเดินเล่นอีกหน่อย มีร้านขายของที่ระลึกและขนมจุกจิกอยู่ด้วย
ร้านนี้น่านั่งมาก ถ้าใครมาช่วงกลางวันแนะนำให้แวะทานอาหารกล่อง เขาทำน่ารักมากๆ >.<
หน้าตาเบ็นโตะ .. น่าเอ็นดูจริงๆ
แค่เห็นป้ายชวนก็อยากเข้าไปทานแล้ว
บรรยากาศบริเวณร้าน ถ้าอากาศดี นั่งข้างนอกก็ได้ฟีลไปอีกแบบ
เดินจากร้านลงมาเพื่อไปทางออก หันกลับไปดูเห็นต้นไม้ใหญ่ -- ฟอร์มสวยจริงๆ
สถานีตำรวจประจำพื้นที่ทางด้านหน้า เป็นสถานีที่คลาสสิคจริงๆ #เขาใส่ใจรายละเอียดเล็กๆเนอะ #ดูไม่ขัดกับบรรยากาศโดยรอบ
ดูด้านหน้าชัดๆอีกที
หมดครึ่งวันเต็มๆไปกับพิพิธภัณฑ์ทองแห่งนี้ แต่ถือว่าคุ้มค่ากับการมาเยี่ยมชมมากๆ
ด้วยบรรยากาศและความโปร่งโล่งของที่นี่ ไม่รู้สึกว่าแค่มาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แต่เหมือนมาเดินเล่นสูดอากาศ ปิคนิคบนภูเขามากกว่า
ตั้งใจเอาไว้ว่าวันไหนอากาศดีๆ จะกลับไปเดินเล่นอีก
คราวหน้าจะลองไปร่วมกิจกรรมร่อนทองกับเขาด้วย
#เผื่อจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับบ้าน อิอิ
แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ -- บ๊ายบาย