สวัสดีค่ะ ... วันหยุดที่ผ่านมาไปทำอะไรกันมาบ้างคะ
ได้ไปลองออกกำลังสมองกันโรคอัลไซเมอร์กันด้วยการไปหาอะไรแปลกใหม่ทำกันรึเปล่า
สารภาพค่ะ ว่าเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาจขบ.ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรแปลกใหม่เลย
มัวแต่ชิลๆสบายๆกับโลกใบเดิมๆของตัวเอง
ประสบการณ์แปลกใหม่ก็เห็นจะมีแต่เรื่องกิน ประเภทหาขนมใหม่ๆแปลกๆลอง -- อันนี้เห็นจะเอาไปนับรวมไม่ได้
อ่ะ เข้าเรื่องกันดีกว่า --
[คราวที่แล้ว]พาไปเที่ยวเปิดสมองกันที่ Huashan1914 Creative Park หลังจากไปเดินดูข้างนอกกันเยอะแล้ว วันนี้จะไปดูข้างในกันบ้างค่ะ
ร้านรวงของที่นี่ถ้าไม่นับร้านอาหารหรือร้านกาแฟเก๋ๆแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายของดีไซน์หรือของทำมือซะเยอะ
มีอยู่ร้านนึงที่จขบ.ชอบมากๆ ชื่อร้าน Wind Music
อ่านดูจากชื่อแล้วตอนแรกนึกว่าเป็นร้านขายโมบายที่เอาไว้แขวนเล่นตามช่องลมหรือไม่ก็เครื่องดนตรีประเภทสายต่างๆ
เดินตามป้ายขึ้นไปดู ร้านอยู่บนตึกชั้นสอง
ดูเหมือนเป็นร้านใหม่กิ๊กเพิ่งเปิด ดอกไม้แสดงความยินดียังอยู่เลย
#ความต่างของวัฒนธรรมจริงๆ หน้าตาดอกไม้แบบนี้ ถ้าที่เมืองไทยจะนึกถึงพวงหรีด
เข้ามาด้านในถึงได้รู้ว่าเป็นร้านขายซีดี ตกแต่งได้ธรรมชาติ สบายตามากๆ
ร้าน Wind Music นี้ไม่ใช่ร้านขายซีดีธรรมดาๆแต่เป็นร้านขายซีดีที่เกี่ยวกับดนตรีบำบัดในเกือบทุกแขนง เดินสำรวจดูมีตั้งแต่เพลงบรรเลงจากเครื่องดนตรีที่เราคุ้นเคยอย่างเช่นไวโอลิน เปียโน แซกโซโฟน หรือดนตรีที่ไม่ค่อยคุ้นเคยอย่างพวกลำนำขับร้องของชาวเขาหรือชนเผ่าต่างๆ
นอกจากนี้ยังมีดนตรีที่ดีไซน์เอาไว้เพื่อกิจกรรมต่างๆโดยเฉพาะเช่นดนตรีสำหรับสปา เล่นโยคะ หรือแม้แต่นั่งสมาธิ
นอกจากนี้แล้วยังมีบทสวดมนต์จากศาสนาต่างๆ อย่างทางพุทธก็จะมีบทสวดแบบทางทิเบต ทางคริสต์ก็จะเป็นบทเพลงสรรเสริญพระเจ้า
ทางร้านมีดนตรีในแนวต่างๆเป็นตัวอย่างเอาไว้ให้เราฟังด้วย
เสตชั่นเยอะขนาดนี้ เลือกฟังกันตามสบาย
มีที่นั่งเอาไว้ให้อย่างดี พนักงานก็ไม่มากดดันอยู่ใกล้ๆ สามารถใช้เวลาหาดนตรีในแนวทางที่เราชอบได้อย่างเต็มที่
ดนตรีและธรรมชาติบำบัด มีอโรมาเธอราพีรวมอยู่ด้วย
ที่จขบ.แปลกใจก็คือหนึ่งทางเลือกของเสียงหรือดนตรีบำบัดนี้เป็นเสียงของเด็กค่ะ -- ประเภทเด็กร้องเพลงหรือเสียงของเด็กหัวเราะ
#อืมมม เดาว่าเหมาะกับคนรักเด็กมากๆ
หลังจากกลับมาที่บ้าน เอาข้อมูลเกี่ยวกับการบำบัดด้วยเสียงที่ได้มาจากทางร้านมาอ่าน เจอข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจและคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับน้องๆหลายๆคนที่ยังเรียนหนังสืออยู่ เขาบอกเอาไว้อย่างนี้ค่ะ --
มีการทำการวิจัยเอาไว้ ว่าการเลือกดนตรีที่มีคลื่นความถี่ที่เหมาะสมเปิดคลอเบาๆระหว่างเราอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิจะทำให้เราจดจ่อได้ดียิ่งขึ้น
เพราะดนตรีที่มีทำนองไพเราะ จังหวะช้า/เบาหรือเพลงที่มีเสียงคล้ายกับเสียงของธรรมชาติเช่นเสียงนกร้อง เสียงน้ำตกเหล่านี้มีคลื่นเสียงที่ไปคล้ายกับคลื่นอัลฟ่า ซึ่งคลื่นอัลฟ่านี้จะส่งผลให้เรามีอารมณ์ที่สงบ สบายใจ และมีสมาธิมากขึ้น ปรากฎการที่เกิดนี้ผู้เชี่ยวชาญเขาเรียกว่าปฏิกริยา "อัลฟ่าเอฟเฟ็ค" ค่ะ
รู้อย่างนี้แล้ว รีบหาซีดีเพลงบรรเลงมาเปิดคลอกันดีกว่า
#เขียนเอนทรี่นี้ก็เปิดเพลงบรรเลงไปด้วยอยู่เหมือนกัน