ไทจงเป็นเมืองน่ารัก :) สวัสดีค่าาา  เดือนที่แล้วมีโอกาสแวะไปเมืองไทจงถึง 2 ครั้งด้วยกัน ครั้งแรกแวะไปทำธุระส่วนตัว บวกกับแวะไปให้กำลังใจน้องกวาง "Siri" เจ้าของผลงาน "ไทเป- เวลาเหงา" ที่มาแสดงผลงานนอกประเทศครั้งแรก # น่าจะได้เห็นภาพที่โอโพสท์ลง Facebook ผ่านตากันบ้างแล้วเนอะ ^^= น้องกวางกับคุณคริส (คนไต้หวัน) # ผู้จัดงานนี้ ผลงานของน้องกวาง น่ารักสดใส้หมือนตัวเธอ :) ชายหนุ่มผู้อยู่เบิื้องหลัง กำลังใจสำคัญ  กวางมาบอกเล่าเรื่องราวเส้นทางการเป็น Illustrator ยกมือเห็นด้วย (^__^)/ กลายเป็นแฝดลายขวางแบบบังเอิญๆ # ติดตามผลงานของน้องกวางได้จาก Facebook Page "Siri" เลยค่ะ . . ครั้งที่ 2 ตั้งใจไปเพื่องาน TCFB (Taichung Int'l Tea, Coffee and Bakery Show) โดยเฉพาะ กาแฟของ "ไต้หวัน" ที่ว่าหายากๆ มางานนี้งานเดียวได้เกือบครบ  งานนี้จัดประจำทุกปี ถ้าใครสนใจเรื่องชาและกาแฟ เป็นอีกงานที่ไม่น่าพลาดค่ะ งานใหญ่จะจัดที่ "ไทเป" ช่วงปลายปี # ที่ "ไทจง" ถึงขนาดของงานจะไม่อลังเท่า แต่ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน # ปีนี้ในงานมีการจัดการแข่งขัน World Syphon Competition ด้วย . .  มาไทจงครั้งนี้มีโอกาสได้ไป พักที่ Box Design Hotel โรงแรมแห่งนี้มีขนาดเล็กแต่น่ารัก อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ (TRA) มากนัก # ต่อบัสมาแค่ไม่ถึง 10 นาที . .  สิ่งที่ประทับใจที่ได้จากการเข้าพักที่ Box design นอกจากห้องพักสะอาดสะอ้าน ราคาไม่แพงแล้วบริการของที่นี่ยังอบอุ่นเป็นกันเองมากอีกด้วย เจ้าหน้าที่ของ Box Design ล้วนแต่เป็นคนหนุ่มสาวไฟแรง ที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำแก่นักท่องเที่ยว อะไรใหม่ อะไรน่าสนใจแถบนั้นเค้ามีข้อมูลเพียบ . . มาดูหน้าต่างห้องกันดีกว่า บางห้องเป็นเตียงสองชั้น ดูแล้วสดใสน่ารักดี แต่ละชั้นของที่นี่ดีไซน์ไม่เหมือนกัน ไซส์ห้องมีตั้งแต่สำหรับ 2-4 คน # ถ้าใครอยากประหยัดค่าที่พัก ที่นี่มีห้องแบบ Dorm ด้วย อยู่รวมกัน แชร์ห้องน้ำ พื้นที่ห้องนั่งเล่นของห้องแบบ Dorm แยกต่างหากจากชั้นอื่นๆ ห้องน้ำโซนนั้น . .  สำหรับใครที่แพลนจะไปเที่ยว Sun Moon Lake , Cingjing Farm, Monster Village หรือสถานที่เที่ยวนอกเมือง ที่นี่เค้ามีบริการรับจองแท็กซี่เหมารายวันด้วย # ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,200 ถึง 3,500NTD (ราคาขึ้นอยู่กับระยะทางและสถานที่ที่ไป) # รถเป็นแท็กซี่โตโยต้า Wish 6 ที่นั่ง # ให้เวลา 8 ถึง 10 ชั่วโมง ถ้ามาเที่ยวกันหลายคนนับว่าเป็นวิธีที่สะดวกอีกทางเลือกหนึ่ง เพราะไม่ต้องเสียเวลาไปรอรถประจำทางสาธารณะ ทำให้สามารถเที่ยวได้หลายที่ในเวลาหนึ่งวัน ประหยัดเวลาไปได้เยอะ . .  Box Design มีบริการอาหารเช้าแบบเป็นชุด สั่ง ล่วงหน้าก่อนเข้านอน มีให้เลือกด้วยกัน 4 ชนิด (มีชุดสำหรับคนทานมังสวิรัติด้วย) ในชุดเป็นอาหารเช้าง่ายๆ ขนมปัง แซนด์วิช สลัดและน้ำส้มหนึ่งแก้ว # ขนมปังอร่อย ^^= ถ้ายังไม่อิ่มไม่ต้องกังวล รอบตัวแถวนั้นมีทั้งร้านอาหารและห้างสรรพสินค้า ระยะเดินถึงทั้งหมด . .  ออกจากซอยเดินข้ามถนนมาไม่ถึง 5 นาทีจาก Box Design ก็จะถึง Chong Yo ห้างดังคลาสสิคของไทจง ห้าง Chung Yo เปิดให้บริการมากกว่าหลายสิบปี # สมัยก่อนนู้นมีทีมญี่ปุ่นเป็นคนบริหาร  ตอนหลังเป็นมือมาเป็นทีมไต้หวันเหมือนเดิม ห้างนี้ติดท็อปๆเรื่องความสวยงามและน่าสนใจประจำเมืองไทจงกันเลยทีเดียว นอกจากจะมีของให้เลือกช้อปมากมายแทบทุกประเภทแล้ว # เพราะมีพื้นที่ให้เดินกันถึงสามตึก # แต่ละตึกมีทางเชื่อมถึงกัน ไม่ต้องเดินออกมาด้านนอกให้เสียเวลา ทางเชื่อมลอยฟ้าระหว่างอาคาร เห็นวิวเมืองไทจงด้วย . . ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของสถาปัตยกรรมด้านในอีกด้วย เริ่มมาจากลิฟท์โดยสารก่อนเลย # เป็นดีไซน์คลาสสิคแบบสมัยก่อนอยู่ ที่เด็ดสุดต้องยกให้เรื่องการตกแต่งห้องน้ำของที่นี่ เพราะในแต่ละชั้นไม่ซ้ำกันเลยค่ะ! # มีความเพลิดเพลินกับการเดินเข้า-เดินออกแวะชมห้องน้ำของแต่ละชั้น 555 นี่แค่บางส่วนนะคะ จริงๆมีอีกเยอะมาก  . . แต่ที่ถูกใจโอที่สุด # มาไทจงทุกครั้งต้องแวะมา คือร้านหนังสือ Eslite ของที่นี่ เพราะนอกจากมีพื้นทีกว้างขวางแล้วยังสวยมากอีกด้วย ด้านในของร้านเป็นเพดานสูงเปิดโล่งสามารถมองลงมาทะลุได้ถึงสามชั้น รอบๆเขาทำเป็นระเบียงให้คนนั่งอ่านหนังสือ ตรงกลางเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ให้นักเขียน/ นักวาดมาพูดคุยแชร์ประสบการณ์กัน . . ช่วงวันที่โอไปคุณ Jimmy Liao เพิ่งออกหนังสือเล่มใหม่มาไม่นาน ตรงระเบียงอ่านหนังสือมีรูปภาพผลงานของคุณ Jimmy แขวนอยู่โดยรอบ ให้ความรู้สึกเหมือนเดินชม Gallery เลย . .  เดินเล่นจนห้างใกล้ปิดแต่ยังไม่ง่วง เลยเดินเรื่อยเปื่อยไปตลาดกลางคืน Yichung ที่อยู่ห่างไปไม่ไกล # หลายคนอาจจะเคยได้ยินแต่ชื่อตลาด FengJia แต่จริงๆแล้วในไทจงยังมีตลาดกลางคืนที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง # ถ้าไม่อยากเบียดกับคนเยอะๆไปตลาดอื่นก็สนุกไม่แพ้กันค่ะ ตลาด Yichung มีของอร่อยๆเมนูเด็ดๆรอให้ชิมเพียบ ถ้าเทียบกันแล้วราคาถูกกว่าตลาดกลางคืนที่ไทเปนิดหน่อย # Box Design Hotel เค้ามีแผนที่ร้านอร่อย ไม่ควรพลาดเตรียมไว้ให้สำหรับผู้มาพักด้วยนะคะ # ลองขอเจ้าหน้าที่ดูได้ . .  เก็บภาพร้านอร่อยเจ้าดังๆมาให้ดูบรรยากาศกัน . . นอกจากของกินแล้ว ร้านรวงโดยเฉพาะแฟชั่นรองเท้ากีฬาก็เยอะมาาาาก . . เดินกันจนหมดแรง กลับโรงแรมมาเพิ่งเห็นว่าติดกับ Box Design ก็เป็นตลาดกลางคืนขนาดย่อมๆ  # บรรยากาศดีเชียว . . ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีแขกของ Box Design แอบมาทำเซอร์ไพรซ์ขอคุณแฟนแต่งงานกันที่นี่ # อันนี้เจ้าหน้าที่แอบเล่าให้ฟัง # น่ารักเนอะ  # ถ้าใครจะดำเนินรอยตาม แนะนำให้รอช่วงอากาศเย็นหน่อย น่าจะโรแมนติกกว่าช่วงหน้าร้อนแบบนี้  # รายละเอียยดเพิ่มเติมของ Box Design แวะไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บนี้เลยค่ะ . . แล้วพบกันใหม่เอนทรี่หน้านะคะ # ยังมีลิสท์ยาวเหยียดแนะนำที่เที่ยว/ ที่หม่ำในไทจงมาเล่าสู่กันฟังอีกเยอะเลย # บอกแล้วว่าเมืองนี้เค้ามีดีจริง  ระหว่างนี้แวะไปพูดคุยกันได้ที่ Facebook เหมือนเดิม Have a nice weekend กันทุกคนค่ะ   Create Date : 05 สิงหาคม 2559     0 comment Last Update : 5 สิงหาคม 2559 10:58:17 น.     Counter : 2128 Pageviews.   Share Tweet

10 อย่างต้องมี!!! ถ้าอยากเที่ยว "ไต้หวัน" ให้สนุกหน้าร้อนนี้ สวัสดีค่าาา (^_^=)/ บ่นเรื่องอากาศมาหลายอาทิตย์ ล่าสุดไต้หวันก็ทำลายสถิติร้อนติดอันดับอีกแล้ว ~ ภาวะโลกร้อนทำให้อากาศแปรปรวนไปทุกที่  ปกติแล้วช่วงร้อนสุดของไต้หวันยังไงก็ไม่เกิน 30นิดๆองศา จะมีก็แค่ไม่กี่วันที่อาจจะมาแตะที่ 35+ แต่ปีนี้ทำลายสถิติเกินมาหลายวันจนเลิกนับตามแล้ว บ่นจนขี้เกียจบ่น.. ไหนๆก็สู้กับธรรมชาติไม่ได้ หันมาหาวิธีร่วมกันอย่างสันติดีกว่า # เพราะยังต้องอยู่ร่วมกันไปอีกเกือบ 2 เดือน  มาดูกันดีกว่าค่ะว่าคนไต้หวันมีตัวช่วยเพื่อรับมือกับอากาศร้อนๆ แดดจัดๆแบบนี้ยังไงบ้าง . . 1) ผ้าเย็น อ๊ะๆ.. อย่าพึ่งรีบบอกว่าบ้านเราก็มี ผ้าเย็นที่พูดถึงไม่ใช่ผ้าเย็นไก่กาแบบที่แจกตามร้านอาหารนะคะ ผ้าเย็นที่พูดถึงนี้เป็นผ้าเย็นที่มีส่วนผสมพิเศษเย็นจัดมาก เช็ดแล้วเย็นติดทนนาน อารมณ์คล้ายกับแป้งเย็นของบ้านเรา แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องคราบแป้งจะเกาะตัวหรือเสื้อผ้า ร้อนเมื่อไหร่หยิบขึ้นมาเช็ดได้ทุกที่ทุกเวลา ดูเก๋ๆอีกต่างหาก ที่สำคัญหลังเช็ดยังรู้สึกลื่นๆที่ผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ แถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วย มีทั้งสำหรับใบหน้าและตัว (แผ่นเช็ดตัวจะใหญ่กว่า) เลือกระดับความเย็นได้ด้วย . . 2) สเปรย์ดับร้อน สเปรย์นี้คล้ายกับผ้าเย็นที่พูดถึงในข้อแรก แต่ถ้าจะพกเอาไว้ใช้ในบ้านหรือเวลาออกกำลังกาย แบบนี้ประหยัดกว่าเยอะ ขวดนึงใช้จนลืม มีทั้งแบบสเปรย์อัดแก๊สและหัวฉีดธรรมดา แบบแก๊สจะเย็นกว่าเวลาฉีดแต่ห้ามเก็บไว้ในที่ร้อน . . 3)โลชั่นกันแดด แดดเปรี้ยงขนาดนี้แน่นอนว่าต้องรักษาผิวกันหน่อย โลชั่นกันแดดของไต้หวันราคาไม่แพง มีให้เลือกทุกขนาดทุกแบบ ทั้งแบบสเปรย์หรือโลชั่น ทั้งเนื้อข้นเนื้อใส มีแบบทาแล้วเย็นสบายไม่เหนียวหนืดด้วย ลองเลือกกันดูให้เหมาะสมตามกิจกรรมที่ทำค่ะ อันนี้ไม่เหนียวดีค่ะ ทาใหม่เย็นๆที่ผิวด้วย . . 4)ผ้าพันของสาวสก๊อยส์ สังเกตให้ดีช่วงนี้จะเห็นสาวไต้หวันใส่กระโปรงยาวขี่มอเตอร์ไซค์เยอะกันเป็นพิเศษ จริงๆแล้วส่วนมากเป็นแค่ผ้าพันค่ะ ด้านในคุณสาวๆยังเปรี้ยวใส่กางเกงขาสั้นหรือมินิเสกิ๊ตรับลมร้อนกันอยู่ . . พูดถึงกางเกงขาสั้น ปีนี้ไต้หวันร้อนมาก ทำให้แฟชั่นกาเกงขาสั้นกลับมาฮิตสุดๆ ยิ่งร้อนความยาวของกางเกงก็ยิ่งลดลง ถึงกับมีแฟชั่นกางเกง "屁股蛋" (屁股 = ก้น 蛋 =ไข่) หรือกางเกงที่สั้นระดับโชว์ความโค้งเว้าของแก้มล่างของสาวๆออกมากันเลยทีเดียว Cr: ภาพประกอบจาก nowmews.com  ใครหนอช่างคิดคำเรียกกางเกงแบบนี้.. ครีเอทจริงๆ # แต่มองไปก็เหมือนไข่ต้มโผล่ออกมาจากขอบกางเกงจริงๆน่ะแหล่ะ . . 5)ถุงมือและปลอกแขน อันนี้ส่วนมากเป็นออปชั่นเสริมของสาวสก๊อยส์ แต่คนที่ทำกิจกรรมนอกบ้านเช่นออกกำลัง ปั่นจักรยาน หรือคุณแม่บ้านที่ต้องออกไป Shopping ช่วงแดดจัดๆก็ใช้กัน มีหลากสีหลายแนวให้เลือก ทั้งสีหวานสีเข้ม ลายกุ๊กกิ๊ก ส่วนวัสดุที่ใช้ก็มีให้เลือกหลายผ้าไม่ว่าจะเป็นแบบระบายความร้อนได้รวดเร็ว หรือแบบผิวสัมผัสนุ่มเป็นพิเศษ . . 6)หมวกกันแดด ครั้งแรกที่เห็นหมวกแบบนี้คือแถวสนามกอล์ฟเมื่อหลายปีก่อน ผู้นำแฟชั่นส่วนใหญ่เป็นสาวญี่ปุ่นและเกาหลี มาปีนี้หมวกนี้ได้รับความนิยมอย่างมากที่ไต้หวัน เห็นทรงเรียบๆแบบนี้แต่จริงๆแล้วเวิร์คมากเลยนะคะ ดีไซน์ของหมวกนี้เป็นกึ่งที่คาดผม แค่เสียบเข้าไปช่วงหน้าผากก็สามารถกันแดดได้แล้ว ไม่ทำให้ผมเสียทรง แถมปีกหมวกก็ยาวกว่าปกติกันแดดได้มากกว่าหมวกแก๊บธรรมดาๆ วัสดุทำด้วยพลาสติกเลยล้างทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย ของเด็กก็มีนะคะ . . 7)พัดลมมือถือ พัดลมมือถือที่ไต้หวันมีหลายแบบให้เลือก ทั้งใช้แรงมือหมุน ใช้ถ่านหรือใช้แชร์แบตเตอรี่กับมือถือก็ได้ ราคาส่วนใหญ่อยู่ที่หลักสิบ สีลูกกวาดเห็นแล้วอยากซื้อมาตั้งเล่นซักอันสองอันทุกที แต่ที่โอชอบมากเป็นพิเศษคือแบบที่ถอดใบพัดแยกออกมาได้ เพราะพกพาไปไหนด้วยสะดวกกว่าเยอะ #ยี่ห้อ Mi ก็มีทำออกมานะคะ มีหลายสีแถมราคาไม่แพง # ร้าน Mi ที่ไต้หวันเดินทางไปง่าย เคยรีวิวไว้แล้ว ตามไปอ่านได้ที่ ลิงค์นี้ เลยค่ะ ประกอบร่างแล้วออกมาเป็นแบบนี้ ตรงด้ามปรับงอได้ #แต่ถ้าของ Mi จะเป็นปลั๊กแบบยูเอสบีใช้กับ iPhone ไม่ได้นะคะ # อันนี้พัดลมส่วนตัวที่ใช้ประจำ สปอนเซอร์โดยจากพี่สาวใจดี  (ขอบคุณค้าาาบ..) . . 8)สารพัดเครื่องดื่มคลายร้อน เครื่องดื่มคลายร้อนของไต้หวันมีหลายสิบชนิดหลายร้อยยี่ห้อให้เลือก แถมยังมีเครื่องดื่มที่ออกมาให้เราได้ชิมกันเฉพาะฤดูร้อนอีกต่างหาก เลือกมาเฉพาะที่เด่นๆ พอเป็นน้ำจิ้มให้อยากบินมาชิมกัน #ไหนๆก็ไม่ต้องขอวีซ่าแล้วนิ . .  ประเภทน้ำสมุนไพรที่มีสรรพคุณคลายความร้อนต่างๆเช่นน้ำมะระ ชาธัญพืช บวบ ฟัก หน่อไม้ฝรั่งหรือเฉาก๊วย ชาธัญพืช มะระ (ไม่ขมน้าาา..) ปกติไม่ทานมะระ ขมปี๋  เฉาก๊วย ฟัก หน่อไม้ฝรั่ง . . แต่ถ้าไม่อยากหวือหวาอยากทานน้ำผลไม้ธรรมดาแนะนำน้ำฝรั่ง ~ น้ำฝรั่งของไต้หวันรสชาติต่างจากของที่ไทย ส่วนตัวโอว่าหอมกว่าลองชิมกันดูค่ะ # โต๊ะจีนของที่นี่นิยมนำน้ำฝรั่งมาผสมกับน้ำส้มในสัดส่วน 1:1 ใครอยากลองทำตามก็ไม่ว่ากันนะคะ วันก่อนเห็นน้ำผลไม้ยี่ห้อดอยคำมาวางขายถึงที่นี่ด้วย #น่าภูมิใจเป็นที่สุด . . ถัดมาคือเมนูโปรดของโอ "กาแฟเย็น" ปีนี้ร้านสะดวกซื้อ FamilyMart ออกกาแฟปั่นผสมโอริโอ้มา อร่อยมาาาก ช่วงแรกมีโปรโมชั่นแก้วละ 49NTD ฮ็อตกันจนของขาดตลาด ตอนนี้กลับมาขายที่แก้วละ 60 อยากทานเมื่อไหร่ก็หาได้ไม่ยากแล้ว ถ้าใครเป็นคอกาแฟช่วงนี้มาไต้หวันอย่าลืมหากาแฟ Ice-Dripped หรือ Cold-Brewed ดื่มกันนะคะ ช่วงหน้าหนาวหาไม่ได้น้าาาา ตัวอย่างรีวิวคาเฟ่ที่เคยเขียนไว้ [คาเฟ่1] [คาเฟ่2] เลยค่ะ และที่ขาดไม่ได้คือคือชานมไข่มุกที่ช่วงนี้จะขยันออกเมนูแปลกๆมาเยอะเป็นพิเศษ ส่วนมากมักมีส่วนผสมของผลไม้หน้าร้อนเช่นมะม่วง ลิ้นจี่หรือเสาวรส . . 9)ไอติมและน้ำแข็งใส อีกหนึ่งเมนูต้องลองเวลามาเที่ยวไต้หวันช่วงหน้าร้อนคือน้ำแข็งใส รสคลาสสิคสุดคือน้ำแข็งใสมะม่วง แต่ถ้าใครไม่ชอบมะม่วงจะเลือกผลไม้ตามฤดูกาลก็ได้ ไม่ผิดกติกา Crภาพ: จากร้าน Ice Monster . . แต่ถ้าอยากอร่อยแบบไม่เปลืองงบแนะนำ ไอติมแท่งผลไม้จากร้านสะดวกซื้อ FamilyMart ราคาไม่แพง หอมหวานอร่อยชื่นใจไม่แพ้กัน (มีรสมะม่วงเช่นกัน) บางทีมีขนมหน้าตามุ้งมิ้งให้ได้ surprise อีกต่างหาก อันนี้เป็นพานาคอตต้าคุณไข่ขี้เกียจที่บังเอิญเดินไปเจอเมื่อวันก่อน . .  ร้านขนมหวานที่มาแรงของปีนี้ต้องยกให้ร้านนี้เลย "Yellow Lemon" เมนูสุดฮิตคือเมนูชื่อน่ารัก "ปิคนิค" -- ซึ่งเชฟหนุ่มหล่อยิ้มหวาน Andrea เค้าเนรมิตจัดโต๊ะให้เราได้รู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางสนามหญ้า แถมมีขนมอร่อยๆ โน่นนิดนี่หน่อยให้ได้ชิมเพลินๆระหว่างสังสรรค์กันอีกด้วย มีข้อแม้ว่าต้องมาอย่างน้อยสองคนราคาต่อคนคือ 600NTD ค่ะ Crภาพ: Yellow Lemon . . 10)เบียร์ไต้หวัน *ข้อนี้สำหรับเพื่อนๆที่อายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไปนะคะ ใครชอบดื่มเบียร์มาเที่ยวอย่าลืมชิม Taiwan Beer กันดู เพราะนอกจากเบียร์ธรรมดาแล้วยังมีเบียร์ผลไม้อีกด้วย หาซื้อง่ายมีทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป มีให้เลือกตั้งแต่รสองุ่น สับปะรด มะม่วงและน้ำผึ้ง บางทีมีรสพิเศษเช่นพีชและลิ้นจี่ . . อีกยี่ห้อที่อยากแนะนำให้ลองชิมกัน เพราะมีเฉพาะที่ไต้หวันคือ Taiwan Ale Brewery ยี่ห้อนี้ผลิตเอลเบียร์ค่ะ (Ale) โดยเอลของเค้าพิเศษตรงที่ มีการนำผลไม้ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นของไต้หวันผสมเข้าไปในการหมักด้วย มีให้เลือกตั้งแต่เอลส้มโอ มะม่วง ลำไย มันเทศ ข้าวและกาแฟ #3 รสแรกเหมาะมากสำหรับการดื่มในหน้าร้อน หอมกลิ่นผลไม้มาาาาก  ยี่ห้อนี้ถ้าใครต้องการซื้อมีวางขายที่ห้าง ShinkongMitsukoshi แผนกซุปเปอร์มาเก็ต ห้าง HOLA และ City Super ค่ะ . .  ป.ล. ออกตัวไว้ก่อนเลยนะคะว่าไม่ใช่ขาดื่ม เลยไม่สามารถวิจารณ์อะไรได้มาก แต่ขนาดไม่ใช่คนชอบดื่มยังรู้สึกว่าเบียร์และเอลผลไม้ของไต้หวันอร่อยเลยค่ะ  . . เห็นไหมคะว่าหน้าร้อนก็มีข้อดี -- ถ้ารักจะเที่ยว เตรียมตัวให้พร้อม ฤดูไหนก็สนุกจริงมั้ยคะ ตอนนี้ไต้หวันประกาศให้นักท่องเที่ยวที่ถือพาสปอร์ตไทยสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า (อยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน) เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2016 (เปิดเป็นระยะทดลองหนึ่งปี) ตั๋วเครื่องบินราคาไม่แพง วีซ่าก็ไม่ต้องขอ-- แถมเที่ยวได้ตลอดปีแบบ นี้ไม่มา "ไต้หวัน" เดี๋ยวตกเทรนด์นะคะ  . . แล้วพบกันใหม่เอนทรี่หน้า ระหว่างนี้แวะไปพูดคุยทักทายกันได้ที่ Facebook เหมือนเดิม Have a nice weekend กันทุกคนค่ะ ^^=   Create Date : 22 กรกฎาคม 2559     0 comment Last Update : 22 กรกฎาคม 2559 10:22:44 น.     Counter : 2218 Pageviews.   Share Tweet

:: ฝันหวานบนปุยเมฆ.. ไปกับ Airline Inn :: สวัสดีค่าาาา  อาทิตย์ที่ผ่านมาโอได้มีโอกาสแวะเวียนไปที่เมือง "ไทจง" ค่ะ เมือง "ไทจง" เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของไต้หวัน รองมาจากไทเปและเกาสง ใช้เวลาเดินทางจากไทเปประมาณไม่เกิน 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว # จะด้วยรถยนต์ รถไฟหรือรถไฟความเร็วสูงก็ได้ สะดวกมากๆ มาถึงปุ๊บ.. ฝนตกต้อนรับทันที  มาเที่ยวไทจงครั้งนี้ ตั้งใจเอาไว้ว่าต้องเข้าพักที่โรงแรม Airline Inn ให้ได้ เพราะแอบสนใจตั้งแต่ได้เห็นภาพหน้าตาห้องของโรงแรมในแมกกาซีน  ที่นี่เค้ามีธีม "เครื่องบิน" เป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่ง # Airline Inn มีสาขาที่ Ximending ด้วย # สาขาที่ไทจงชื่อเต็มคือ Airline Inn Green Park Way ทุกครั้งที่อยู่ในบรรยากาศของ "เครื่องบิน" โอมักรู้สึกตื่นเต้นและรื่นเริงกว่าปกติ อาจเป็นเพราะด้วยประสบการณ์ที่เชื่อมโยงระหว่างเครื่องบินกับการเดินทาง เลยทำให้ชอบบรรยากาศนี้เป็นพิเศษ # (เกือบ)ทุกครั้งที่เดินทาง จะได้พบกับเรื่องและประสบการณ์น่าประทับใจเสมอ โรงแรมนี้ตั้งอยู่ที่พิกัดทองของเมืองไทจง ไฮไลท์ของ City Center อยู่ในระยะที่เดินได้ถึงกันหมด # ถ้าใครชอบวิ่งหรือปั่นจักรยานออกกำลัง วิวตามถนนช่วงนี้ (ระยะประมาณ 10 กิโล) สวยและน่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งเลย  จากสถานีรถไฟ TRA สามารถนั่งรถบัสมาลงที่แถวโรงแรมได้ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที # รถบัสของไทจงถ้าใช้ Easy Card หรือบัตร iPass จ่าย ช่วงระยะ 10 กิโลเมตรแรกฟรีทุกสาย # ฟินจริงๆ! Airline Inn (Taichung, Green Park Way) เปิดให้บริการเมื่อปลายปี 2015 แต่เดิมตรงนี้เคยเป็นทั้ง Sogo เลยทำให้ห้องพักของที่นี่มีเพดานที่สูงกว่าห้องพักทั่วไป # ดูกว้างขวางและโปร่งสบายมาก ล็อบบี้เช็คอินอยู่ชั้นล่าง ติดกันเป็นบริเวณมุมอ่านหนังสือและนั่งเล่น มีชา-กาแฟและน้ำดื่มให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ห้องพักมีทั้งหมดเกือบ 100 ห้อง โดยห้องพักทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้น 3-5 ชั้น 3 จะมีเป็นบริเวณให้แขกนั่งเล่น เผื่อใครเดินทางเป็นกลุ่ม อยากสังสรรค์กันตอนกลางคืนจะได้มีที่กว้างหน่อย ชั้น 4 (ที่นี่เค้าเรียก 3R -- เพราะเลข 4 ภาษาจีนไปพ้องเสียงกับคำว่าตาย บางทีเลยพยายามเลี่ยง) มี Business Center แบบจริงจัง แต่ถ้าใครจะใช้บริการต้องจ่ายเพิ่ม ชั้น 5 เป็นบริเวณห้องอ่านหนังสือหรือมุมสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากหน่อย เค้ามีเก้าอี้โซฟาเดียวๆตั้งไว้ในห้องเก็บเสียง # หรือใครจะใช้เป็นที่ประชุมลับก็ไม่ว่ากัน 55 มาดูหน้าตาห้องพักกันบ้าง ห้องพักของที่นี่มีตั้งแต่สำหรับ 2-6 คน ห้องพักสำหรับ 2 และ 4 คนบางห้องไม่มีอ่างอาบน้ำ # ถ้าใครต้องการอ่างอาบน้ำ อย่าลืมระบุเวลาจองนะคะ # ส่งอีเมล์ไปบอกทางโรงแรมก็ได้ พื้นที่ห้องพักของที่นี่กว้างขวาง อยู่สบายมาก โดยเฉพาะถ้ามาพักผ่อนเป็นครอบครัวแบบพ่อ-แม่-ลูกน่าจะถูกใจ เพราะพื้นที่วางกระเป๋าและจัดของเหลือเฟือ # อันนี้ดีสำหรับนักช้อปที่สัมภาระเยอะด้วย อิอิ ชอบใจที่โรงแรมนี้มีหมอนให้เลือกทั้ง 2  แบบ ทั้งหมอนสูงและเตี้ย เลือกปรับกันได้ตามใจชอบ ที่นอนก็แสนสบาย ไม่แข็งหรือนุ่มจนเกินไป โรงแรมมีอาหารเช้าให้ ณ ปัจจุบันเป็นเซ็ทอาหารเช้า มีให้เลือกทั้งฝรั่ง จีนและมังสวิรัติ แต่เห็นเจ้าหน้าที่แจ้งว่าอีกหน่อยจะเปลี่ยนเป็นระบบบุฟเฟ่ต์ น่าจะมีตัวเลือกเยอะยิ่งขึ้นไปอีก พักที่นี่ค่อนข้างสบาย เพราะแค่ออกไปเดินเล่นแถวนั้นก็เที่ยวกันจนหมดวันแล้ว ถ้าไม่อยากเดินจะปั่น uBike ไปก็ได้ ฟรี 30 นาทีแรกด้วย # สถานี uBike อยู่ห่างจากโรงแรมไปแค่ 5 นาที (เดิน)  เดินไปประมาณแค่ 10-15 นาที ก็ถึงเขต Calligraphy Greenway ซึ่งเป็นแหล่งรวมของฮิปเสตอร์ของไทจง บริเวณนี้เป็นสวนสาธารณะยาวหลายบล็อคถนน รอบๆล้วนแต่เป็นสถานที่น่าสนใจ ทั้งพิพิธภัณฑ์และร้านรวง # อารมณ์ประมาณแถวสยามหรือทองหล่อ  โดยเฉพาะถ้าใครสนใจเที่ยวพิพิธภัณฑ์ แถวนั้นมีให้เลือกตั้งแต่ National Taiwan Museum of Fine Arts, National Museum of Natural Science และ Botanical Garden ถ้าใครจะไปเดินตลาดกลางคืน Fengjia (ตลาดกลางคืนที่ดังที่สุดของไทจง) มีให้เลือก  2 ทางคือนั่งรถบัสหมายเลข 79 หรือเรียกแท็กซี่ไป # แต่แนะนำให้เรียกแท็กซี่ไปดีกว่า เร็วกว่าเยอะ # ประมาณ 150NTD หรือจะนั่งรถบัสขาไปแล้วเรียกแท็กซี่ตอนขากลับก็ได้ จะได้ชมวิวเมืองก่อนพระอาทิตย์ตกดินไปด้วยทีเดียว ถึงแม้จะมาแวะเวียนเมืองนี้ปีละหลายครั้ง แต่ไทจงก็ยังสร้างความประทับใจจนอยากอยู่ต่ออีกหน่อยทุกที แต่ไม่เป็นไร .. ไทเป -ไทจงอยู่ใกล้กันนิดเดียว ไว้คราวหน้ามาใหม่ แน่นอนต้องมีเรื่องสนุกอีกแน่ พบกันใหม่เอนทรี่หน้า ระหว่างนี้แวะไปทักทายกันได้ที่หน้า Facebook เหมือนเดิม Have a nice weekend กันทุกคนค่ะ    Create Date : 12 กรกฎาคม 2559     0 comment Last Update : 22 กรกฎาคม 2559 10:16:54 น.     Counter : 598 Pageviews.   Share Tweet

พักผ่อนเต็มที่กับ Hotel Relax :D สวัสดีค่ะ (▰∀◕)ﾉ . . วันนี้มาทักทายพร้อมสายฝน..หลังจากที่ "ไต้หวัน" ร้อนมาหลายสัปดาห์ อาทิตย์นี้ไต้ฝุ่นเข้าไต้หวันค่ะ-- ฟังดูเหมือนน่ากลัว แต่จริงๆไม่ต้องวิตกอะไรมากเพราะถ้าเตรียมตัวและปฏิบัติตามข้อแนะนำ ส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญหา . ข้อแนะนำก็ไม่มีอะไรยุ่งยากแค่หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านเวลาฝนตกหนักและมีลมแรง เพื่อป้องกันสิ่งของปลิวมาชนเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะเพราะทัศนวิสัยไม่ดีหรือไม่เดินทางไปในเขตพื้นที่ภูเขาเพราะอาจจะมีภาวะดินถล่มได้ . "ไต้หวัน"ทุกปีจะมีช่วงฤดูมรสุมที่พัดผ่านทำให้เกิดลมแรงและฝนตกหนักส่วนใหญ่จะเป็นช่วงเดือนกรกฎาถึงกันยา ~ ช่วงนี้เป็นช่วงที่เกิดไต้ฝุ่นบ่อยๆดังนั้นถ้าจะแพลนมาเที่ยวช่วงนี้อย่าลืมเช็คสภาพอากาศให้ดีก่อนนะคะ . # เมื่อวานโอโพสต์ข้อควรปฏิบัติหากมาเที่ยวช่วงเกิดไต้ฝุ่นไว้ที่ Facebook ลองแวะไปอ่านหรือเซฟเก็บไว้กันก็ได้ค่ะ . . ฟังดูเหมือนจะมีแต่ข้อเสียแต่จริงๆแล้ว "ไต้ฝุ่น"ก็มีดีนะคะ . อย่างแรกคือทำให้อากาศในฤดูร้อนเย็นลงอย่างเห็นได้ชัดปีนี้อุณหภูมิไปแตะเกือบ 40 องศาอยู่หลายวัน พอฝนตกเลยช่วยคลายร้อนได้มาก อย่างที่สองคือช่วยให้ไม่เกิดภาวะแล้งถ้าฝนไม่ตก บางปีเกิดสภาวะขาดน้ำ # อย่างเช่นปีที่แล้ว อย่างที่สามคือฟ้าหลังฝนช่วงไต้ฝุ่นเข้าจะใสมากฟ้าเป็นสีฟ้าคราม ส่วนใหญ่แทบไม่มีเมฆ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแต่เป็นแบบนี้ทุกครั้ง  # เหมาะกับคนชอบถ่ายรูปมาก . อันนี้เป็นรูปที่ถ่ายก่อนไต้ฝุ่นเข้า 1 วัน ฟ้าใสแจ๋วเลย พูดถึงไต้ฝุ่นเลยคุยมาซะยาวเข้าเรื่องกันดีกว่า วันนี้โอจะพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับโรงแรมอีกแห่งที่มี Concept น่าสนใจ แถมตั้งอยู่ใจกลางการคมนาคมของไทเปกันเลยทีเดียว วันนี้เราจะไปทำความรู้จักกับ "Hotel Relax" กันค่ะ . . ถ้าใครได้อ่านหนังสือ "ถูกและฟรี..มีที่ไทเป" อาจจะได้เห็นรูปของโรงแรมแห่งนี้ผ่านตากันมาบ้าง วันนี้เค้าอัพเกรดขยายความเท่และอยู่สบายมากขึ้นกว่าเดิมอีก . HotelRelax มีด้วยกันทั้งหมด 3 สาขา(เห็นว่าอีกไม่นานจะขยายสาขาที่ 4) ทุกสาขาอยู่ใกล้กันหมดอยู่ในโซนไทเปเมน เรื่องเดินทางสะดวกยกให้เป็นอันดับหนึ่ง ห้องพักของที่นี่สามารถพักได้ตั้งแต่ 2-4 คน ทุกห้องมีห้องน้ำในตัว(สุขภัณฑ์ของที่นี่เป็นแบบอัตโนมัติ เหมือนกับที่ญี่ปุ่น) ข้าวของเครื่องใช้มีให้ครบตามแบบฉบับโรงแรมทั่วไป มี้ตู้นิรภัยให้ด้วย เพื่อนๆคงสงสัยและมีคำถามว่ามีตั้ง3 สาขาจะเลือกสาขาไหนดี ใช่ไหมคะ.. . แต่ละสาขามีTheme และไฮไลท์ต่างกันไป เลือกได้ตามความชอบและความเหมาะสมของนักเดินทางเลยค่ะ . มาดูกันทีละสาขาดีกว่า . Hotel Relax I (1) ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับไทเปเมนข้ามถนนมานิดเดียวก็ถึงแล้ว หัวมุมตึกจะเป็นร้านแมคโดนัล ตัวโรงแรมจะอยู่บนชั้น 11 . Conceptของที่นี่คือสไตล์ Modern Travelers หรือนักเดินทางสมัยใหม่ คนออกแบบของที่นี่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบตกแต่งโรงแรมออกแบบให้โรงแรมใหญ่หลายแห่งเช่นโรงแรมในเครือ Hyatt . โทนสีของที่นี่เป็นแนวเอิร์ธโทนดูขรึมๆ ชั้นวางของและโต๊ะหัวเตียงเป็นกระเป๋าเดินทางทรงคลาสสิคสีเงินตัดกับหนังสีน้ำตาลเท่มากๆ . ด้านหน้ามีมุมขายของที่ระลึกซึ่งล้วนแต่เป็นผลงานของศิลปินหน้าใหม่ของไต้หวัน ราคาไม่แพงแถมไม่ค่อยซ้ำกับร้านข้างนอก น่าสนใจทีเดียว #โอชอบโพสท์อิทที่ออกแบบมาเป็นรูปเสี่ยวหลงเปาอยู่ในเข่งไม้ไผ่ ติดกับล็อบบี้จะเป็นห้องนั่งเล่นมีหนังสือและทีวีไว้ให้บริการ ข้อเสียของที่นี่คืออาหารเช้าจะต้องเดินมาทางที่Hotel Relax II (2) Hotel Relax II (2) ถ้าใครไม่ชอบโทนห้องสีขรึมสาขานี้ดูน่าจะเหมาะกว่า เพราะที่นี่โทนสีเป็นสีน้ำตาลสลับกับสีเขียวอ่อน ดูสบายตายังคงเน้นเรื่องธีมการเดินทาง แต่ตึกนี้เป็นแนวซาฟารี . #ถ้าใครเดินทางกับเด็กๆ โอแนะนำสาขานี้ เพราะการตกแต่งดูอบอุ่นสบายตากว่าแถมไม่ต้องเดินย้ายตึกเวลาทานอาหารเช้าด้วย อาหารเช้าแบ่งเป็น3 รอบ เริ่มตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า (ไม่จำกัดระยะเวลาทาน) เราสามารถเลือกเวลาที่จะทานอาหารเช้าได้ทุกวันแค่แจ้งกับเจ้าหน้าที่หนึ่งวันล่วงหน้า อาหารเช้าของที่นี่เป็นบุฟเฟ่ต์แต่จานหลักเสริฟแค่คนละ 1 ที่เท่านั้น จานหลักของที่นี่ค่อนข้างพิเศษเพราะเค้าเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและตามฤดูกาล (ไข่ที่ใช้เป็นไข่ออร์แกนนิค) . ทุกวันเมนูจะไม่ซ้ำกันสลับกันไปทั้ง 7 วัน บางวันเป็นอาหารไต้หวันบางวันเป็นสไตล์อาหารฝรั่ง ส่วนบุฟเฟ่ต์มีขนมปังซุปและเครื่องดื่มทั้งร้อนและเย็นให้ แต่จริงๆแค่ทานอาหารในเซ็ทก็อิ่มมากแล้ว พื้นที่นั่งเล่นของสาขานี้เป็นห้องโล่งๆนั่งแล้วเห็นหน้ากันหมด ใครขี้เขินหรือต้องการความเป็นส่วนตัวอาจจะไม่ถูกใจนัก มาดูสาขาล่าสุดHotel Relax III (3) กันบ้าง สาขานี้เป็นสาขาที่ตกแต่งหรูหราไฮโซกว่า2 สาขาแรกมาก ถ้าใครชอบแนว Bling Bling วิบวับเก๋ไก๋ รับรองว่าต้องถูกใจกับการตกแต่งของที่นี่ ด้านล่างของโรงแรมเป็นคาเฟ่เล็กๆที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะพลุกพล่านเพราะเค้าแยกไว้คนละโซนกับล็อบบี้ สำหรับแขกที่พักที่นี่จะได้รับคูปองทานกาแฟฟรีวันละหนึ่งแก้ว (ต่อ 1 คน)แถมยังได้ส่วนลดพิเศษเวลาใช้บริการคาเฟ่ด้วยค่ะ ใครชอบทานขนมหวานแนะนำให้ลองชิมขนมของที่นี่ เป็นขนมฝรั่งเศสเมนูคลาสสิค หน้าตาสวยแถมอร่อยอีกด้วย ห้องพักของที่นี่ตกแต่งโทนสีขาวดำแต่ไม่ดูอึดอัด #ห้อง Elite Twin Room ของที่นี่มีหน้าต่างที่เท่มาก #ใครเดินทางเป็นครอบครัว ห้อง Family Room ของสาขานี้พื้นที่ใช้สอยกว้างมาก แอบได้ยินมาว่าอีกไม่นานHotel Relax จะเปิดร้านอาหารสไตล์ออร์แกนนิคด้วย(ที่ชั้นล่างของ Hotel Relax II) -- เรียกว่าครบวงจรกันเลยทีเดียว ทั้งมื้อเช้า มื้อค่ำหรือแม้แต่อาหารว่าง ถ้าเทียบกับโรงแรมสไตล์ใกล้กันแถบนี้พื้นที่ใช้สอยของที่นี่กว้างกว่าอยู่พอสมควรที่สำคัญอาหารเช้าจัดเต็มกว่าเยอะมากเลยค่ะ . เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเพื่อนๆที่หาที่พักที่เดินทางสะดวกและใกล้กับสถานีรถไฟ #ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.hotelrelaxclub.com . . แล้วพบกันใหม่เอนทรี่หน้า ระหว่างนี้แวะไปพูดคุยกันได้ที่Facebook เหมือนเดิม . Havea nice weekend กันทุกคนค่ะ (^_^=)   Create Date : 07 กรกฎาคม 2559     0 comment Last Update : 8 กรกฎาคม 2559 12:40:08 น.     Counter : 2847 Pageviews.   Share Tweet

ย้อนเวลาเที่ยวไทเป..กับตลาดโบราณ Nanmen สวัสดีค่ะ  ถ้าพูดถึงเมนูยอดนิยมที่ต้องลิ้มลองเวลาเดินทางมาเที่ยวไต้หวันแล้ว พายสัปปะรด ชานมไข่มุก เต้าหู้เหม็นและมะม่วงน้ำแข็งใส คงเป็นเมนูอันดับต้นๆที่นักเดินทางทุกคนอย่ามาลิ้มลองเวลามาเยี่ยมเยือนเกาะมันเทศแห่งนี้ ถ้าให้ลิสท์รายชื่อพื้นที่ยอดนิยมในหมู่นักชิมต่างชาติ เชื่อแน่ว่าต้องมีชื่อของถนนYongkang ตลาดกลางคืน Shilin หรือตลาดกลางคืน Raohe ติดมาแน่ๆ ถึงแม้ว่าพิกัดเหล่านี้จะเป็นแหล่งรวมของร้านอร่อย ชื่อดังมากมาย -- แต่วันนี้โออยากมาชวนให้เพื่อนๆออกเที่ยวนอกเส้นทาง ไปดูบรรยากาศวัฒนธรรมการกินของคนไต้หวันกันแบบเจ้าถิ่นค่ะ วันนี้โอจะพาไปรู้จักกับตลาด Nanmen 南門市場 กันค่ะ ตลาดโบราณ Nanmen เป็นที่ที่ไม่ควรพลาดถ้าหากว่าอยากจะรู้จักไต้หวันจริงๆ ตลาดแห่งนี้มีเสน่ห์ในตัวเอง ครั้งแรกที่ได้มาเดิน รู้สึกเหมือนว่าได้เดินทางย้อนกลับไปในอดีต -- ไม่น่าเชื่อว่าพิกัดใจกลางเมืองแบบนี้จะมีตลาดโบราณซ่อนอยู่ ตลาด Nanmen ตั้งอยู่ตรงข้ามกับอนุสรณ์สถาน Chiang Kai-Shek Memorial Hall เลย # สถานีรถไฟใต้ดินเดียวกัน แต่ใช้ทางออกหมายเลข 2 # ถึงจะเป็นตลาดโบราณแต่ติดแอร์ด้วย เดินสบาย  ตลาดแห่งนี้มีความสำคัญ ผูกพันเกี่ยวเนื่องกับการดำรงชีวิตของคนไทเปมายาวนาน ตั้งแต่ปีค.ศ.1906  ตลาด Nanmen มีผู้คนมาจับจ่ายใช้สอยมากมายทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหน้า 3 เทศกาลสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลตรุษจีน เทศกาลแข่งเรือมังกร (ไหว้บ๊ะจ่าง) หรือเทศกาลไหว้พระจันทร์ ถ้าใครมองหาของแห้ง ประเภทเนื้ออบ แฮม เครื่องยาจีน สมุนไพรคุณภาพดี รับรองว่าไปที่นี่ไม่ผิดหวังเพราะมีให้เลือกมากมาย หรือถ้าอยากลิ้มลองเมนูอาหารท้องถิ่น ก็มีร้านที่ขายอาหารสำเร็จรูป (ทำวันต่อวัน) มากมายให้เลือก แนะนำร้าน Yichang Yufang 億長御坊 เพราะมีให้เลือกมากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นของต้ม ทอดนึ่งหรือออร์เดิร์ฟแบบเย็น ที่สำคัญร้านนี้เค้า มีบริการแพ็คใส่กล่อง ซื้อเสร็จปุ๊บก็สามารถทานได้เลยด้วยค่ะ # ร้านนี้มองหาได้ง่ายเพราะใหญ่กว่าร้านอื่นสังเกตที่เสื้อยูนิฟอร์มสีชมพู #โลโก้ของร้าน เป็นรูปพัดสีชมพู # ช่วงนี้อยู่ในช่วงเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง ใครอยากลองชิมบ๊ะจ่างของไต้หวันแวะไปหาซื้อกันได้ ที่นี่มีเยอะมาก บ๊ะจ่างของไต้หวันมี 2 สูตร ของทางเหนือและทางใต้ # ของทางเหนือจะใช้วิธีนึ่ง ตัวข้าวจะต้องผัดกับน้ำมันและเครื่องปรุงก่อนนำไปนึ่ง เวลาแกะออกมาจะเห็นเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ -- เวลาทานไม่ต้องใส่ซ๊อสอีกเพราะมีรสเค็มอยู่แล้ว หรืออย่างมากก็ใส่ซ๊อสพริกเล็กน้อย # ของทางใต้จะใช้วิธีต้ม ตัวบ๊ะจ่างจะออกสีขาว (คล้ายข้าวต้มมัดของไทย) -- เวลาทานมักทานกับซีอิ๊วดำพร้อมกระเทียมสับ หรือจะทานกับซีอิ๊วดำแบบหวานก็ได้ ไม่ผิดกติกา ช่วงเทศกาลไหว้บ๊ะจ่างที่ผ่านมา ได้บ๊ะจ่างประเภทแนวครีเอทมาลองชิมด้วย  นอกจากของคาวแล้ว ของหวานและขนมกรุบกรอบทานเล่นก็เยอะ โอชอบหมูแผ่นผสมแอลมอนด์ของที่นี่ เพราะเขาปิ้งกันตรงหลังร้าน กลิ่นหอมยวนใจมาก # ทึ่สำคัญใหม่สดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว 555 สมัยก่อนหลังตลาดอตก. ที่กรุงเทพก็มีปิ้งสดๆแบบนี้ (แต่ไม่ได้ใส่แอลมอนด์) ไม่รู้เดี๋ยวนี้ยังมีอยู่อีกหรือเปล่า  นอกจากของแห้ง อาหารปรุงสำเร็จและของทานเล่นแล้ว ยังมีตลาดสดอีกด้วย ตลาดสดแบบนี้ไม่ได้มีอยู่ทั่วไปที่ไต้หวัน ครอบครัวสมัยใหม่นิยมจ่ายกับข้าวกันที่คาร์ฟูหรือซุปเปอร์มาเก็ตตามห้างสรรพสินค้าซะมากกว่า ตลาดสดแบบนี้เลยมีอยู่แค่บางชุมชนหรือพื้นที่ที่คนเก่าคนแก่อยู่กัน # ตลาดแนวนี้เลยนิยมขายของคุณภาพดี เกรดA และมีให้เลือกหลากหลาย มากกว่าเน้นขายราคาถูก # หลายๆอย่างซื้อที่คาร์ฟู ถูกกว่าตลาดสดแบบนี้มากค่ะ ลองแวะมาเดินเล่นเก็บบรรยากาศกันดู ตลาดนี้เปิดกันตั้งแต่เช้า แต่ร้านขายของและอาหารปรุงสำเร็จเปิดกันประมาณ 9 โมงค่ะ (เสาร์อาทิตย์ประมาณ 8 โมง) เดินเสร็จ ข้ามถนนไปเที่ยวชม Chiang Kai-Shek Memorial Hall ต่อได้เลย  * พิกัดตลาดโบราณ Nanmen: https://goo.gl/maps/sBxZ2DrWs8H2  * Chiang Kai-Shek Memorial Hall (หรือ CKS Memorial Hall)มีอะไรเที่ยวบ้าง แวะไปอ่านเรื่องราวที่เอนทรี่ก่อนได้เลยค่ะ #[ตอน 1] #[ตอน 2] ส่งท้ายกันด้วยรูปร้านขายของเก่าที่บังเอิญเดินไปพบ แอบสงสัยว่าเจ้าของร้านหาของเจอได้ยังไง (และจะเอาออกมาทางไหน?!?) พบกันใหม่เอนทรี่หน้า ระหว่างนี้แวะไปทักทายกันได้ที่ Facebook เช่นเคย Have a nice weekend กันทุกคนค่ะ    Create Date : 20 มิถุนายน 2559     1 comment Last Update : 20 มิถุนายน 2559 20:23:49 น.     Counter : 1819 Pageviews.   Share Tweet