เสริมเกราะป้องกันด้วย “ทักษะความปลอดภัยทางน้ำ 5 ประการ”

เรื่องราวของอุบัติเหตุ ‘เด็กจมน้ำเสียชีวิต’ โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอมนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เพิ่งจะเคยเกิดขึ้นอย่างแน่นอน หากแต่ยังคงเป็นปัญหาที่พ่อแม่ ผู้ปกครองหลายท่านเป็นกังวลใจอยู่ไม่น้อย โดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยถึงสถิติการจมน้ำพบว่า เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำเสียชีวิต เฉลี่ยปีละ 1,291 คน หรือวันละเกือบ 4 คน โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอม ระหว่างมีนาคม-พฤษภาคม มีเด็กเสียชีวิตจากตกน้ำจมน้ำสูงที่สุด เฉลี่ยปีละ 442 คน

สำหรับการป้องกัน ส่วนหนึ่งคือการแนะนำให้พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากเพราะเด็กมักจะชอบออกไปเล่นนอกบ้าน ดังนั้นพ่อแม่ ผู้ปกครองจึงต้องฝึกเด็กให้มี ทักษะความปลอดภัยทางน้ำ 5 ประการ ดังนี้

1. รู้สึกเสี่ยง สอนให้เด็กรู้ว่าแหล่งน้ำไหนเสี่ยง ไม่ควรไปวิ่งเล่นใกล้ๆ โดยอาจจะพาเด็กเดินสำรวจสิ่งแวดล้อมในชุมชน และพาเขาไปดูว่าจุดไหนที่อันตราย และจุดไหนที่ปลอดภัย เพราะเด็กวัยนี้จะเข้าใจ ในเหตุและผลได้แล้ว
2. ลอยตัว 3 นาที เนื่องจากสาเหตุของการจมน้ำส่วนใหญ่ เกิดจากการที่เด็กมักจะเล่นกันใกล้ฝั่งและพลาดตกลงไปในน้ำ แต่ไม่สามารถที่จะลอยตัวขึ้นมาเพื่อจะเข้าฝั่งได้ เพราะฉะนั้นถ้าลอยตัวได้ 3 นาที เด็กจะสามารถช่วยตัวเองได้ ท่าลอยตัวที่ง่ายและใช้เพื่อตะกายเข้าฝั่ง เช่น ท่าปลาดาว ท่าแม่ชีลอยน้ำ ว่ายท่าลูกหมา เป็นต้น
3. ว่ายได้ 15 เมตร นอกจากการลอยตัวให้ได้ 3 นาทีแล้ว เด็กยังต้องสามารถว่ายได้ไกลถึง 15 เมตร เพื่อเป็นทักษะในการว่ายเข้าฝั่งหากพลัดตกลงไปในน้ำ ตามมาตรการ 3 น 15 ม (3 นาที 15 เมตร) นั่นเอง
4. รู้อันตราย เด็กต้องรู้ว่า การกระโดดลงไปช่วยเพื่อนที่กำลังจมน้ำนั้นเป็นเรื่องที่ อันตรายมาก แม้จะถูกฝึกมาอย่างดี ดังนั้นจึงมีหลัก 3 ข้อ คือ “ตะโกน โยน ยื่น” ตะโกน ให้ผู้ใหญ่มาช่วย โยน สิ่งของที่อยู่รอบตัว เช่น ถังน้ำ แกลลอน เพื่อให้เพื่อนเกาะและสามารถใช้ลอยตัวได้ ยื่น สิ่งยาวๆ ให้เพื่อนจับแล้วดึงเข้ามาใกล้ฝั่ง (โดยจุดที่เขายืนก็ต้องมั่นคงด้วย)
5. การใช้ชูชีพ เพื่อการเดินทางทางน้ำ ไม่ว่าจะเรือชนิดใด จะว่ายน้ำเป็นไม่เป็น ก็มีความเสี่ยงที่จะจมน้ำได้เช่นกัน ดังนั้นจึงต้องมรการฝึก ใส่ – ถอด ชูชีพให้ถูกวิธี และอย่างน้อยต้องหัดลอยตัวเมื่อใส่ชูชีพให้ได้ เพราะถ้าลอยตัวไม่เป็น หน้าคว่ำลงก็อาจจะเอาชีวิตไม่รอดได้เหมือนกัน

“ทักษะเบื้องต้นเหล่านี้ จะต้องถูกสอนให้กับเด็กๆ เพื่อสร้างเกราะป้องกัน โดยใช้ความรู้และการตะหนักรู้ และสิ่งเหล่านี้จะติดตัวเขาไปตลอดชีวิต ทั้งยังสามารถถ่ายทอดให้คนอื่นเพื่อป้องกันความสูญเสียที่ไม่มีใครต้องการ ให้เกิดขึ้นได้อีกด้วย”

ที่มา: รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์” ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก

“รู้ไว้มีประโยชน์ เกิดเหตุเมื่อไหร่ ใช้ได้ทันที”

ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเฟิ่มเติมได้ที่ ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน

โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ดูเว็บไซต์ที่ www.bangkokpattayahospital.com

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ ปรึกษาแพทย์ได้ ที่นี่




Create Date : 13 สิงหาคม 2558
Last Update : 13 สิงหาคม 2558 10:17:29 น.
Counter : 1062 Pageviews.

1 comment
กิจกรรมเสวนา Healthy Lady 2015มหัศจรรย์ของ ที่ รพ.กรุงเทพพัทยา

โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา จัดกิจกรรม “Healthy Lady 2015…มหัศจรรย์ของผู้หญิง” เพื่อเป็นการรณรงค์และสร้างความตระหนักถึงการดูแลสุขภาพทั้งภายนอกและภายใน โดยได้เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสตรีและความงาม มาเสวนาให้ความรู้ในการดูแลความงามและสุขภาพของสตรี ในหัวข้อ มหัศจรรย์ของผู้หญิง...รวมอ่อนโยนและแข็งแรงไว้ด้วยกัน พร้อมแนะนำแพ็กเกจตรวจสุขภาพฉลองเทศกาลวันแม่ตลอดเดือนสิงหาคมนี้

วันศุกร์ที่  7 สิงหาคม 2558  เวลา 09.00 – 15.00 น. ณ บริเวณล็อบบี้ อาคารอี โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ได้มีการจัดกิจกรรม “Healthy Lady 2015…มหัศจรรย์ของผู้หญิง” เพื่อเป็นการรณรงค์และสร้างความตระหนักถึงการดูแลสุขภาพทั้งภายนอกและภายใน โดยมี นพ. สุจิตร์ บัญญัติปิยพจน์ ประธานองค์กรแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา กล่าวต้อนรับผู้ร่วมกิจกรรม จากนั้นพบกับการเสวนา เรื่อง มหัศจรรย์ของผู้หญิง...รวมอ่อนโยนและแข็งแรงไว้ด้วยกัน โดย พญ.สุรีย์รัตน์ ศรีตั้งรัตนกุล แพทย์ศูนย์ผิวพรรณ และศัลยกรรมความงาม และพญ.พรศรี นิรันดร์สุข สูตินรีแพทย์ ภายในงานได้มีบูทแนะนำแพ็กเกจและบริการด้านสุขภาพความงามอย่างครบวงจรด้วยนวัตกรรมใหม่ อาทิ ปรับกระชับสัดส่วน พร้อมลดริ้วรอยโดยศูนย์ผิวพรรณและศัลยกรรมความงาม นวัตกรรมการแก้ไขปัญหาเรื่องสายตา “ซุปเปอร์ไซท์” แห่งเดียวในภาคตะวันออก แพ็กเกจวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก การฝังเข็มลดอาการปวดประจำเดือน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีบูทให้คำปรึกษา บูทจำหน่ายสินค้าและเครื่องสำอางแบรนด์ชั้นนำ ราคาพิเศษ อาทิ Eucerin, La Roche,  Le’sasha, Bobbi Brown, วัคซีนมะเร็งปากมดลูก, Common Room อาหารคลีน การนวดผ่อนคลายจากศูนย์ธารชีวิตเพื่อสตรี เป็นต้น 

แพ็กเกจสุขภาพ “Healthy Lady 2015”  แพ็กเกจที่รวบรวมโปรแกรมตรวจสุขภาพที่ไม่เพียงแต่เหมาะกับสุขภาพสตรีเท่านั้น ยังมีแพ็กเกจอื่นๆที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เทศกาลวันแม่นี้อย่าลืมชวนคนที่ท่านรักมาตรวจสุขภาพ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 สิงหาคม 2558 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ศูนย์ข้อมูลสุขภาพ      โทร.1719 

ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเฟิ่มเติมได้ที่ ศูนย์สุขภาพสตรี

โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ดูเว็บไซต์ที่ www.bangkokpattayahospital.com

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ ปรึกษาแพทย์ได้ ที่นี่




Create Date : 11 สิงหาคม 2558
Last Update : 11 สิงหาคม 2558 11:10:22 น.
Counter : 1542 Pageviews.

1 comment
มะเร็งเต้านม ตอน 14 เต้านมเล็กเต้านมใหญ่ ใครเสี่ยงมะเร็งเต้านม?


ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเฟิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เต้านม

โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ดูเว็บไซต์ที่ www.bangkokpattayahospital.com

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ ปรึกษาแพทย์ได้ ที่นี่




Create Date : 10 สิงหาคม 2558
Last Update : 10 สิงหาคม 2558 18:05:02 น.
Counter : 1170 Pageviews.

1 comment
การรักษามะเร็งเต้านม

1. การผ่าตัด (Surgery)

เป็นการรักษาหลักของการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม โดยก่อนอื่นต้องทราบความรู้พื้นฐานก่อนว่า เมื่อมีก้อนมะเร็งเต้านมเกิดขึ้น อวัยวะแรกที่เซลส์มะเร็งเต้านมจะกระจายลุกลามไปถึงคือ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ ดังนั้นการผ่าตัดรักษามะเร็งเต้านมจึงต้องผ่าตัดทั้งบริเวณเต้านมและเลาะต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออกไปด้วย ในปัจจุบันการผ่าตัดรักษามะเร็งเต้านมวิธีมาตรฐาน ได้แก่ การผ่าตัดเต้านมออกทั้งเต้าและเลาะต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออกทั้งหมด เรียกการผ่าตัดนี้ว่า Modified Radical Mastectomy หรือย่อว่า MRM ซึ่งผลการรักษาดีเทียบเท่ากับวิธีการผ่าตัดรักษาในอดีตแต่ผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดน้อยกว่ามาก (สมัยก่อนนอกจากจะผ่าตัดเอาเนื้อเต้านมออกไปทั้งเต้าแล้ว ยังตัดเอากล้ามเนื้อผนังหน้าอกออกไปทั้งหมดอีกด้วย) แต่จากการศึกษาและวิจัยทางการแพทย์ล่าสุดพบว่าการผ่าตัดรักษาโดยการตัดเฉพาะก้อนมะเร็งออกโดยมีเนื้อเต้านมดีหุ้มก้อนมะเร็งออกไปนั้น ขณะที่ไม่จำเป็นต้องตัดเต้านมออกทั้งเต้า แต่ไปทำการฉายแสงบริเวณเต้านมที่เหลือแทน พบว่าผลของการรักษาในด้านการกลับเป็นซ้ำของโรคและการมีอายุยืนยาวของผู้ป่วยมากกว่า 5 ปีขึ้นไปไม่แตกต่างกันกับวิธีผ่าตัดรักษามาตรฐานเดิมคือ MRM เรียกวิธีการผ่าตัดนี้ว่า การผ่าตัดแบบสงวนเต้านม (Breast Conserving Surgery)  แต่ใช่ว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมทุกคนจะรักษาด้วยการผ่าตัดนี้ได้ เนื่องจากการผ่าตัดแบบสงวนเต้านมนี้ไม่สามารถทำได้ในกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่สามารถฉายรังสีที่เต้านมได้ เช่น เคยได้รับการฉายรังสีที่หน้าอกมาก่อนหน้า หรือตั้งครรภ์อยู่ และกลุ่มผู้ป่วยที่ก้อนมะเร็งเต้านมกระจายอยู่ทั่วทั้งเต้านมจนไม่สามารถผ่าตัดให้มีเนื้อดีหุ้มก้อนมะเร็งโดยรอบได้ จึงจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเต้านมออกทั้งเต้า หลังผ่าตัดเต้านมออกทั้งเต้าเพื่อรักษาโรคมะเร็ง นอกจากสุขภาพกายที่เสียไปแล้ว สุขภาพจิตที่รูปลักษณ์ภายนอกคือการไม่มีเต้านมก็เสียตามไปด้วย จึงเป็นผลให้มีวิทยาการทางด้านการผ่าตัดตกแต่งและเสริมสร้างเต้านมมาช่วยทำให้ผู้ป่วยมีเต้านมขึ้นใหม่ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับของเดิม โดยวิธีการผ่าตัดตกแต่งและเสริมสร้างเต้านมใหม่ที่เหมาะสมกับผู้ป่วยรายนั้นๆ ก็จะแตกต่างกันออกไป วิธีการผ่าตัดมีตั้งแต่การใช้ไขมัน กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อของร่างกายผู้ป่วยเอง ได้แก่ จากหน้าท้อง (Transverse rectus abdominis myocutaneous or TRAM flap) และจากแผ่นหลัง (Latissimus dorsi or LD flap) และการใช้เต้านมเทียมหรือการเสริมซิลิโคน (Silicone breast implant) ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเหมือนคนปกติที่ยังมีเต้านมอยู่ มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น ไม่สูญเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตในสังคมต่อไปหลังการผ่าตัดรักษามะเร็งเต้านมแล้ว

ส่วนการผ่าตัดเลาะต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ จากเดิมที่ทำการเลาะต่อมน้ำเหลืองออกทั้งหมด พบว่ามีผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด เช่น ยกแขนได้ไม่สุดหรือยกไม่ขึ้น ชาบริเวณรักแร้และต้นแขน แขนบวมหรือมีแผลเรื้อรังที่แขน เป็นต้น ข้อมูลทางการแพทย์ล่าสุดพบว่าในต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ทั้งหมดจะมีกลุ่มต่อมน้ำเหลืองกลุ่มแรกที่เซลส์มะเร็งเต้านมจะกระจายลุกลามมาถึงก่อน ต่อมน้ำเหลืองกลุ่มนี้เรียกว่า ต่อมน้ำเหลืองเซนติเนล ซึ่งสามารถใช้สารสีพิเศษฉีดที่เต้านมเพื่อจำลองการกระจายของเซลส์มะเร็งแล้วผ่าตัดเลาะเอาเฉพาะต่อมน้ำเหลืองที่ติดสารสีพิเศษนั้น (Sentinel lymph node biopsy) ซึ่งก็คือกลุ่มต่อมน้ำเหลืองเซนติเนลไปให้พยาธิแพทย์ตรวจวินิจฉัยชิ้นเนื้อเร่งด่วนด้วยวิธีแช่แข็ง (Frozen section) ว่ามีเซลส์มะเร็งลุกลามไปถึงต่อมน้ำเหลืองแล้วหรือไม่ ถ้าพบว่าผลตรวจเป็นลบ แปลว่า ไม่มีการกระจายของเซลส์มะเร็งไปถึงต่อมน้ำเหลือง ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องเลาะต่อมน้ำเหลืองออกทั้งหมด ทำให้ผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดหลังการผ่าตัดลดน้อยลง แต่ถ้าพบว่าผลตรวจเป็นบวก ซึ่งแปลว่า มีเซลส์มะเร็งลุกลามไปถึงต่อมน้ำเหลืองกลุ่มแรกแล้ว ก็จำเป็นต้องทำการผ่าตัดเลาะต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ออกทั้งหมดเพื่อรักษาและประเมินระยะของมะเร็งเต้านมต่อไป

2. การรักษาหลังการผ่าตัด (Adjuvant therapy)

เพื่อลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็งเต้านมโดยกำจัดเซลส์มะเร็งที่หลงเหลืออยู่บริเวณเต้านมและทั่วร่างกาย ซึ่งจะให้การรักษาแต่ละชนิดเมื่อมีข้อบ่งชี้ในการรักษาเท่านั้น การรักษาที่ว่าประกอบด้วย

อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bangkokpattayahospital.com/th/healthcare-th/breast-center-th-2/health-article2-th/item/2607-adjuvant-therapy-th.html

ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเฟิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เต้านม

โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ดูเว็บไซต์ที่ www.bangkokpattayahospital.com

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ ปรึกษาแพทย์ได้ ที่นี่




Create Date : 06 สิงหาคม 2558
Last Update : 6 สิงหาคม 2558 10:12:13 น.
Counter : 1430 Pageviews.

1 comment
ตรวจเต้านม แบบ 3 มิติ

เครื่องถ่ายภาพเอกซเรย์เต้านมที่ออกแบบพิเศษ  สามารถถ่ายภาพเอกซเรย์เต้านมได้ทั้ง 2 มิติและ 3 มิติ พร้อมกันได้ในครั้งเดียว โดยใช้เวลาต่อการถ่าย 1 ภาพ ประมาณ 10 วินาที ตรวจรายละเอียดภายในเนื้อเต้านมได้ทั้งหมด ให้ผลการตรวจวินิจฉัยที่ละเอียด ทำให้ตรวจพบมะเร็งเต้านมได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถแยกชนิดของก้อนเนื้อระหว่าง ก้อนเนื้องอกธรรมดาและก้อนเนื้อที่เป็นมะเร้งเต้านมได้อย่างชัดเจน รังสีแพทย์สามารถดูภาพในแต่ละมิติหรือแต่ละ slide จากภาพ Reconstruction เพื่อดูขอบเขตและรูปร่างของก้อนเนื้อที่สงสัย สามารถแยกแยะความแตกต่างของไขมันและเนื้อเยื่ออื่นๆ รวมทั้งท่อและต่อมต่างๆ ในเต้านม เพื่อค้นหาการจับตัวของแคลเซียมที่มีขนาดเล็กมากๆ ที่คาดว่าจะผิดปกติอาจกลายเป็นมะเร็งในอนาคต  ทำให้สามารถตรวจพบมะเร็งเต้านมได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก จึงมีโอกาสรักษาหายขาดได้สูงมาก 

เครื่องเอกซเรย์เต้านมแบบ 3 มิติ  ไม่ต้องกดคนเต้านมคนไข้มากเหมือนการถ่ายเอกซเรย์เต้านมแบบเดิมเนื่องจากเป็นการถ่ายภาพในมุม +/- 15 องศา แล้วนำภาพมาประมวลผลเป็น 3 มิติ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้แรงในการกดเต้านมคนไข้มาก ลดความเจ็บปวดให้คนไข้ อีกทั้งรังสีแพทย์ยังสามารถอ่านผลได้สะดวก ชัดเจนและแม่นยำขึ้น ลดอัตราการเรียกคนไข้กลับมาตรวจซ้ำ (Reduce Recall Rate) และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองคนไข้ในการเจาะตัดชิ้นเนื้อเต้านม (Breast Biopsy) อีกด้วย

สำหรับสุภาพสตรีที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการตรวจเป็นประจำทุกปีหรือตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเฟิ่มเติมได้ที่ศูนย์ ศูนย์รังสีวินิจฉัย

โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ดูเว็บไซต์ที่ www.bangkokpattayahospital.com

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ ปรึกษาแพทย์ได้ ที่นี่




Create Date : 05 สิงหาคม 2558
Last Update : 5 สิงหาคม 2558 13:31:30 น.
Counter : 987 Pageviews.

1 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  

pigget mui
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา เป็นโรงพยาบาลในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ โดยได้รับการรับรองมาตราฐานระดับสากล JCI สามารถให้บริการตรวจวินิจฉัยและรักษาพยาบาลโรคที่มีความซับซ้อนได้อย่างครบวงจรและทันสมัยมากที่สุดในภาคตะวันออก
All Blog