Bloggang.com : อาจารย์สุวิมล - การเมือง ศาสนา และเซ็กส์

การเมือง ศาสนา และเซ็กส์

การเมือง ศาสนา และเซ็กส์

"การเมือง ศาสนา และเซ็กส์"  เป็นโจทย์ตะพาบ กิโลเมตรที่ 266
ผู้คิดโจทย์ครั้งนี้ ก็คือ น้อง กะว่าก๋า ค่ะ
หัวข้อโจทย์ตะพาบครั้งนี้ ฉันรู้สึกว่าเขียนยากนะ แต่จากการให้คำ
อธิบายโจทย์ของน้องต่อ 36 ว่า ให้เขียนในแนวแสดง
ความคิดเห็นเกี่ยวกับ 3 เรื่องนี้ว่า เป็นอย่างไร ทำไมคนจึงมักพูดว่า
เวลาพูดคุยกัน ห้ามนำ 3 หัวข้อนี้มาคุยกัน
ฉันเองก็เคยได้ยินคำเตือนดังกล่าวเหมือนกัน และคิดว่า น่าจะเป็น
ความจริง ค่ะ เพราะถ้าคุยกันทั้ง 3 เรื่องนี้ มีความคิดเห็น
ไม่ตรงกัน มักจะถือว่า ไม่ใช่พวกเดียวกัน เช่น นิยมพรรคการเมือง
ไม่ตรงกัน ต่างฝ่ายต่างก็ว่า พรรคที่ตนเองชอบนั้น
ดีกว่าอีกพรรคที่ตนไม่ชอบ ไม่ศรัทธา เมื่อความชอบไม่ตรงกัน ย่อม
เกิดอารมณ์ไม่พอใจได้นำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น
ถ้าต่างฝ่ายต่างถือว่าตัวเองนั้นคิดถูกต้องแล้ว ลองคิดดูซิว่า อะไรจะ
เกิดขึ้นต่อไป คะ
ในเรื่องของศาสนาก็เช่นกัน เรื่องของศาสนาเป็นเรื่องของความเชื่อ
ความศรัทธาต่อสิ่งที่เรานับถือ ต่างก็ถือว่า ศาสนาที่ตน
นับถือนั้นดีเลิศ น่านับถือ น่าศรัทธามากกว่าศาสนาอื่น ๆ ถ้าเราคุยกัน
ด้วยเรื่องศาสนาที่ต่างกัน ต่างคนต่างก็ต้องคุยถึง
ศาสนาของตนเองว่าดี น่านับถือ น่าศรัทธา ความขัดใจก็เริ่มมีขึ้น
อารมณ์ที่ไม่พอใจอีกฝ่ายหนึ่งก็ย่อมตามมา
เขาจึงบอกว่า ทั้งการเมือง ศาสนา เป็นเรื่องที่ไม่สมควรนำมาเป็น
หัวข้อในการสนทนา ค่ะ

สำหรับเรื่อง เซ็กส์ ฉันไม่มีระสบการณ์โดยตรง อิอิ มีความรู้แค่ศึกษา
จากหนังสือเพศศึกษา เพื่อหาความรู้และไว้สอนนักเรียน
ในคราวจำเป็นเท่านั้น
ฉันมีความเห็นว่า เรื่องเซ็กส์ เป็นเรื่องของคนสองคน เป็นเรื่องลับ
เฉพาะ เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ควรนำมาคุยกัน อวดความเก่ง
ของตนในวงสนทนา ยกเว้นในแง่ของการปรึกษาหารือเพื่อประโยชน์
เท่านั้น เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข ค่ะ

ถึงแม้ว่า เรื่อง การเมือง ศาสนา และเรื่องเซ็กส์ ไม่ควรนำมาใช้เป็น
หัวข้อในการสนทนาก็จริง แต่ถ้าคู่สนทนาหรือวงสนทนา
นั้น ๆ มีความใจกว้าง มีเหตุมีผล ใช้วิจารณญาณในการพิจารณาเรื่อง
ที่ฟัง และใฝ่หาความรู้ ศึกษาหาข้อเท็จจริง
ไม่ใช่ฟังแล้วก็เชื่อและเกิดการต่อต้านโดยขาดการคิดอย่างไตร่ตรอง
ให้ดีเสียก่อน เหมือนอย่างเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
ในขณะนี้ นักการเมืองบางคน บางพรรค ที่พูดทำลายล้างวัฒนธรรม
ที่ดี ที่เราปฏิบัติกันมาอันเป็นสิ่งที่สังคมยอมรับมาเป็น
ร้อย ๆ ปี เช่น การมีสัมมาคารวะ ความกตัญญูต่อพ่อแม่ ต่อผู้มีพระคุณ
ไม่ใช่พูดให้ล้มล้างวัฒนธรรมที่ดีงาม และอีกหลาย ๆ เรื่อง
ที่กำลังแสดงถึงการเรียกร้องในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เช่น เรื่องการแต่ง
กายตามอิสรเสรีไปโรงเรียน อยากล้มล้างระเบียบ
การแต่งกายชุดนักเรียน เราอยู่ในสังคมส่วนรวม จำเป็นต้องมีระเบียบ
ข้อปฏิบัติ เพื่อความเป็นระเบียบ มีกฎเกณฑ์ ไม่เช่นนั้น
สังคมคงวุ่นวาย ไม่มีระเบียบ ไม่มีเกณฑ์ในการตัดสิน การเรียกร้อง
สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้ช่วยให้การศึกษา การเรียนรู้ดีขึ้นเลย

สำหรับ ตะพาบกิโลเมตรที่ 266 "การเมือง ศาสนา และเซ็กส์ ฉันก็
ขอแสดงความคิดเห็นเพียงเท่านี้ คิดว่า คงจะมีประโยชน์
เป็นข้อคิดที่จะให้ผู้ที่เข้ามาอ่านได้บ้างพอสมควร นะคะ

ก่อนจบตะพาบกิโลเมตร ที่ 266 ขอฝากรูปที่แสดงถึงความมี
ระเบียบแบบแผนที่ดี คือ ชุดนักเรียนที่น่ารัก ค่ะ

ชุดนักเรียนอันแสนน่ารัก แสดงถึงความมีระเบียบกฎเกณฑ์ของสังคม

การแสดงความเคารพผู้ใหญ่ ผู้อาวุโสกว่า ถือเป็นวัฒนธรรมอันดีงาม

การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เนื่องในวันสำคัญ เป็นวัฒนธรรมที่ดีงาม ค่ะ

Create Date : 30 พฤศจิกายน 2563
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2563 21:54:37 น.
Counter : 1438 Pageviews.

32 comments

	อยุธยา : วัดขนอน ผู้ชายในสายลมหนาว (9 พ.ย. 2566 16:49:37 น.)		ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 339 "อยากทำ แต่ไม่เคยทำ "ขับรถเข้ากรุงเทพ" newyorknurse (14 พ.ย. 2566 03:10:27 น.)
	blog 110 ร่วมกิจกรรมตะพาบ 338: สำนวนไทย ( ภาพและความหมาย 65 สำนวนไทย) เริงฤดีนะ (29 ต.ค. 2566 14:33:22 น.)		2 วิธียืนยันตัวตนฝากเงินสดผ่านตู้ เริ่ม 11 พย. 66 newyorknurse (21 ต.ค. 2566 07:16:00 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณ**mp5**, คุณทนายอ้วน, คุณSai Eeuu, คุณร่มไม้เย็น, คุณThe Kop Civil, คุณtuk-tuk@korat, คุณnewyorknurse, คุณชีริว, คุณhaiku, คุณkae+aoe

สามเรื่องนี้ผมมองว่าคนในปัจจุบันไม่มีความคิดที่จะฟังกัน สิ่งสำคัญที่เราปฏิเสธไม่ได้คือ เราไม่สามารถด่าคนอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับเรา แล้วบังคับให้เขาเชื่อแบบเราได้หรอก มันต้องพูดคุยด้วยเหตุผลตามหลักวิชาการ และหลักฐานเชิงประจักษ์

โดย: คุณต่อ (toor36

) วันที่: 1 ธันวาคม 2563 เวลา:0:26:20 น.

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

ผมชอบคำสอนของท่านติช นัท ฮันห์
พระสงฆ์ชาวเวียดนาม
ท่านสอนให้เราฝึกที่จะฟังอย่างลึกซึ้งและตั้งใจ
สิ่งนี้ทำให้เราสามารถรับฟังได้แม้แต่กับคนที่เห็นต่าง
หรือคิดว่าเราคือศัตรูของเขา

ทั้งสามเรื่องนี้คุยกันยาก
เพราะเป็นเรื่องของความเชื่อ ความคิดเห็น ความชอบ
หากผู้พูดผู้ฟังยึดมั่นในความคิดของตน
ก็ทะเลาะกันได้ง่ายมากจริงๆครับ 555