หมดไฟ หมดไฟ "หมดไฟ" เป็นโจทย์ ตะพาบ กิโลเมตรที่ 71 ผู้ตั้งโจทย์ คือ คุณเป็ดสวรรค์ ค่ะ พูดถึง คำว่า "หมดไฟ" ความหมาย ก็อยู่ในแนวของความท้อแท้ของชีวิต ความเบื่อ ความเซ็ง น่าจะใกล้เคียงกับอารมณ์ที่กล่าวมาข้างต้นนะ (ตามความรู้สึกของฉันค่ะ) อารมณ์เหล่านี้ คิดว่า ในชีวิตของคนเราต้องเคยเกิดขึ้นกับตัวเองอย่างแน่นอน ในชีวิตของฉัน ก็เคยเกิดอาการความรู้สึกท้อแท้ เกิดความเบื่อ ความเซ็งในชีวิต เช่นกัน ช่วงนั้น ฉันเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เทอมต้น ฉันล้มป่วยด้วยโรคปอดติดเชื้อวัณโรค จากการไปเยี่ยมแม่ของเพื่อน ทำให้ฉันต้องหยุดเรียนไปเป็นอาทิตย์ เมื่ออาการดีขึ้น ฉันกลับไปที่โรงเรียนตามปรกติ แต่ฉันเจอครูคนหนึ่ง ใช้คำพูดที่ทำให้สะเทือนใจเหมือนฉันเป็นตัวแพร่ เชื้อโรค ฉันสะเทือนใจมาก "หมดไฟ" ที่จะเรียนต่อไป ให้แม่ไปลาออก รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก ในชีวิต เหมือนการสูญเสียความฝันที่ตั้งความหวังไว้ว่า ฉันจะต้องเรียนให้ได้รับปริญญาให้ได้ ฉันเป็นคนชอบเรียนหนังสือมาก และเติมไฟของตัวเองด้วยความตั้งใจเรียน ต่อสู้กับความเห็น ที่ไม่ตรงกันในเรื่องการศึกษา ที่พ่อแม่คนจีนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ลูกสาวได้เรียนสูง ๆ หลังจากออกจากโรงเรียนแล้ว ชีวิต มัน "หมดไฟ" หมดฝัน ได้แต่นั่ง ๆ นอน ๆ และเที่ยวไปวัน ๆ แต่แล้ว วันหนึ่ง ไฟ ที่กำลังจะมอดลงไป ก็เริ่มคุกรุ่นขึ้นมา เมื่อฉันได้เจอเพื่อนสมัยประถมคนหนึ่ง เขาเล่าให้ฟังถึงเรื่องของการศึกษา ด้วยการเรียนลัด หมายความว่า มัธยมต้น เรียนรวบ เหลือแค่ 1 ปี มัธยมปลาย 2 ปี เรียนรวบจบภายใน 1 ปี แล้วไปสมัครสอบเทียบเอง ไฟที่กำลังจะมอดนั้น เริ่มมีไฟแล้ว ฉันรบเร้าแม่ให้ฉันได้ไปเรียนลัด ซึ่งแม่ก็ยอมโดยให้เรียนจบแค่ ม.ศ. 3 ชีวิตในการเรียนลัด ไม่สนุกเลย เพราะว่า มีแต่ผู้ใหญ่ อายุเยอะกว่าเราเป็นส่วนใหญ่ และต้องเรียน ในเวลากลางคืนด้วย ยิ่งช่วงต้น ๆ ยิ่งน่าเบื่อ เพราะฉันเรียนผ่านมาแล้วปีกว่า เลยไม่ค่อยมีอะไร น่าสนใจนัก เลยเกเร ไปเรียนบ้างไม่เรียนบ้าง มาตั้งใจมากขึ้นเมื่อ ครูเริ่มสอนหลักสูตร มศ.2-3 ในที่สุดฉันก็สอบผ่าน ม.ศ. 3 ความหวังเต็มเปี่ยมที่จะได้เรียนต่อมัธยมปลาย ด้วยชุดนักเรียน มัธยมปลาย แต่แทบ "หมดไฟ" อีกครั้งหนึ่ง เพราะในใบสุทธิที่กระทรวงศึกษาให้มา กำหนดไว้ว่า ผู้ที่สอบเทียบไม่สามารถเรียนต่อมัธยมปลายภาคกลางวันได้ ต้องกลับไปเรียนลัดเหมือนเดิม อุปสรรคที่ตามมาอีกอย่าง คือ แม่ไม่ยอมให้เรียนต่อแล้ว เนื่องจากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ฉันต้องหางานทำ ได้เป็นครูเด็กอนุบาลโรงเรียนของเพื่อน ได้เงินเดือนไปเรียนลัดต่อมัธยมปลาย ชีวิตก็อย่างนี้แหละ ถ้าเรา ไม่ "หมดไฟ" ในการต่อสู่ ความสำเร็จย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ในที่สุด ฉันก็สอบผ่าน มัธยมปลาย ซึ่งสมัยก่อนเรียกว่า ม.ศ. 5 และสุมไฟขยันสอบเข้าเรียนต่อ ในมหาวิทยาลัยได้ โดยพ่อเข้ามาช่วยเกลี้ยกล่อมแม่ให้ฉันไปเรียนเถอะ เพราะในบรรดาพี่น้อง เขาไม่ชอบเรียน และในที่สุด ฉันก็ได้เรียนสมใจ ความหวังที่จะต้องให้จบปริญญาให้ได้ ก็ประสบความสำเร็จ ตามที่ได้ใฝ่ฝันไว้ (สมัยเมื่อ 50-60ปีที่แล้ว ลูกผู้หญิงที่จบปริญญา ถือว่า ยังน้อยอยู่) ![]() ท่านผู้อ่านคะ เชื่อฉันเถอะ ในชีวิตคนเราไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ อุปสรรคที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งทดสอบความอดทน ความแข็งแกร่งของจิตใจ ไม่ให้เรา "หมดไฟ" ท้อแท้ เบื่อหน่าย ตามมา ซึ่งจะเป็นตัวทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ตามที่เราใฝ่ฝันเอาไว้ ค่ะ
ครูเป็นนักต่อสู้จริงด้วย... นับถือจริง ๆ
ครูหรืออาจารย์ที่แสดงการรังเกียจ การเป็นวัณโรค แสดงว่าครู ไม่รู้จริง.. ครูคนนั้นน่าจะศึกษาว่า การป่วยมีกี่ระยะ มีระยะใดที่เผยแพร่ทำให้ คนอื่นติดเชื้อได้... ช่างเขานะครับครู... อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น โดย: ไวน์กับสายน้ำ
![]() ![]() โหวต Literature Blog ครับอาจารย์
ประโยคเดียวของคนเป็นครู ทำร้ายจิตใจผู้เรียนได้อย่างมากมาย เด็กจะรักในวิชานั้นๆหรือไม่ บางครั้งครูจึงมีส่วนอย่างยิ่งเลยนะครับ โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() สวัสดีค่ะอาจารย์
รุ้งไม่คิดมาก่อนเลยว่าอาจารย์จะเรียนลัดจนสอบเข้ามหาวิทยาลัย สุดยอดเลยค่ะ ชีวิตอาจารย์ต่อสู้เพื่อให้ได้เรียน ผิดกับเด็กหลายๆคนมีโอกาสได้เรียนกลับเอาแต่จะหนีเรียน เรื่องครูนี่เห็นด้วยกับคุณก๋าเลยค่ะ สมัยก่อนแม่บอกว่าคนเรียนครูได้นี่เขาคัดหัวกะทิของประเทศ แต่มาสมัยนี้น่ะหรือ เหมือนคะแนนน้อยๆนะที่เรียนครู เงินเดือนครูก็น้อยด้วยมั้งคนก็เลยไม่อยากแข่งขันสอบเข้าครู รุ้งสอบเทียบตอนม.ปลาย เอ็นไม่ติดก็เข้ารามคำแหงเลยค่ะ รุ้งว่ารุ้งโชคดีนะมีม.รามคำแหงแล้ว เอ็นไม่ติดก็ไม่ต้องเสียเวลาสอบใหม่ โดดเข้ารามง่ายกว่า จบมาก็ได้วุฒิป.ตรี ค่าหน่วยกิตก็ถูก ใช้เวลาก็ไม่มาก โหวต Diarist ค่ะ โดย: เรียวรุ้ง
![]() ![]() อ่านแล้วรู้สึกว่า ทุกอย่างมันไม่ได้ได้มาง่ายๆ จริงๆ ทุกคนนั้นมีเบื้องหลังที่คนอื่นอาจมองไม่เห็น และแน่นอนว่าทุกคนนั้นย่อมมีช่วงเวลาที่ยากลำบากด้วยกันทั้งนั้น
แต่ถ้าไม่ยอแพ้ เราจะผ่านมันไปได้ โดย: คุณต่อ (toor36
![]() ![]() อาจารย์สุวิมล Diarist
โอ้โห....ชีวิตครู ยิ่งกว่าละครอีกค่ะเนี่ย ครูสุดยอดมากๆ ค่ะ มีความพยายามมาก ยกย่องในความมีไฟของครูค่ะ โดย: kae+aoe
![]() ![]() สวัสดีค่ะอาจารย์
อาจารย์มีความเข้มแข็ง และแข็งแกร่ง ทางจิตใจมากๆนะคะ มีบุคคลไม่มากเลยที่พบเจออุปสรรคมากขนาดนี้แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ ฝ่าฟัน สุมไฟขยันจนสอบเข้ามหาลัยจนประสบความสำเร็จและทำให้ชีวิตยืนอยู่ได้อย่างมั่นคงและสง่างาม ทั้งยังเป็นที่พึ่งพาของญาติพี่น้องและลูกหลานได้อย่างดียิ่งเช่นนี้นะคะ โห..ด้วยความเคารพ นะคะ นับถือความมุมานะพยายามของอาจารย์ฮ่ะสุดยอดมากๆ ปล..ไม่อ้วนค่ากำลังดูดีมีสง่าเลยนะคะอาจารย์ อิอิ อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น ![]() ![]() โดย: mastana
![]() ![]() สวัสดีดึกๆครับ อาจารย์สุ
เรื่องลูกสาวคนจีนได้เรียนน้อย ก็เคยอ่านเจอบ้างครับ อาจารย์สุมุมานะเติมไฟจนจบเรียนทางลัด จบปริญญา ได้ทำงานมีหน้ามีตาในสังคม น่ายกย่องมากครับ ส่งกำลังใจครับ โดย: สองแผ่นดิน
![]() ![]() สวัสดีค่ะอาจารย์
กว่าอาจารย์จะได้มายืนอยู่จุดนี้ ชีวิตของอาจารย็ก็ผ่านเรื่องราวมาเยอะเลยนะคะ ไม่ใช่ว่าใบปริญญาจะได้มาง่ายๆ ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย อ่านแล้วยังท้อแทนอาจารย์เลยค่ะ โชดดีมากค่ะ ที่ตัวอาจารย์ยังมีไฟมาเติมตลอด จนประสบความสำเร็จ อาจารย์สุวิมล Diarist โดย: ข้ามขอบฟ้า
![]() ![]() อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog
อ่านแล้วมีกำลังใจเลยค่ะครู คนเราหากหมดไฟ หมดกำลังใจ จะทำอะไรต่อก็ยากนะคะ โดย: Close To Heaven
![]() ![]() บางครั้งเราก็อดหวาดระแวงในเรื่องต่าง ๆ ไม่ได้>>>>นั้นแหละค่ะรุ้งเลยล่ะ ระวังตัวมากไป กลัวเจ็บ กลัวผิดหวัง เลยโสดมาจนถึงวันนี้55555
โดย: เรียวรุ้ง
![]() ![]() หนูกำลังจะสอบค่ะ
เลยไม่ค่อยมาที่บล็อกนี้เลยค่ะ โดย: เจ้าการะเกด
![]() ![]() ผมอยากจะบอกอาจารย์ว่า สมัยผมเป็นหนุ่มยังไม่มีำว่าเซ็งครับ
พ.ศ.๒๔๙๘ ผมสอบ ม.๖ ตก แต่ได้ปนะกาศนรยบัตรแค่ ม.๔ เพราะเรียมข้ามชั้นมา แล้วมาเป็นพลทหารเกณฑ์ จนได้สิบเอก พ.ศ.๒๕๐๐ จึงสอบเทียบได้ ม.๖ จากการเรียนกวดวิชากลางคืนเหมือนกัน แต่ผมไม่ต่อปริญญา เพราะตั้งใจจะทำงานให้ดีที่สุด จนเกษียณอายุเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๕ ได้ยศ พันเอก ครับ งานอดิเรกของผมคือการเขียนหนังสือ ส่งไปลงพิมพ์ในวารสาร ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๑ ถึงพ.ศ.๒๕๕๑ จึง หมดไฟ แต่ พ.ศ.๒๕๕๖ ได้่รางวัล นราธิป ในการเขียนเรื่อง สามก๊กฉบับลิ่วล้อ ครับ. โดย: เจียวต้าย
![]() ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์ ดอกไม้หน้าร้อนที่เชียงใหม่มักจะบานในเวลาใกล้ๆกันครับ มีดอกหางนกยูงฝรั่ง คูน งิ้วแดง และทองกวาว ผมชอบทุกต้นเลยครับ โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() ![]() โดย: สมาชิกหมายเลข 4507140
![]() |
บทความทั้งหมด
|
อุ้มเลยแวะมาอ่านเฉยๆ ค่ะ
อาจารย์ยังมีำฟเพียบเลยนะคะ
อ่านแล้วสุดยอดเลยค่ะ