ไม่สายเกินไปที่จะมีความสุข "ไม่สายเกินไปที่จะมีความสุข " เป็นโจทย์ตะพาบ กิโลเมตรที่ 241 ค่ะ ผู้ตั้งโจทย์ นี้ คือ น้อง กะว่าก๋า คำว่า ไม่สายเกินไปที่จะ.........เราจะได้ยินได้อ่านบ่อย ๆ ในเวลาที่ เรากำลังมีปัญหา เช่น คนเราไม่สายเกินไป ที่จะเรียนหรอก นะ คนเราไม่สายเกินไปที่จะรวยให้ได้สักวันหนึ่ง คนเราไม่สายเกินไปที่จะแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้ว ... และอีกหลาย ๆ ความหวัง ที่เราจะปลอบใจคนที่กำลังประสบปัญหา สำหรับ "ไม่สายเกินไปที่จะมีความสุข" ก็เป็นหนึ่ง ในคำปลอบใจของคนที่เราไปปรับทุกข์ ไปเล่าปัญหาของเราให้เขาฟัง ความสุข กับ ความทุกข์ เป็นของคู่กันเสมอ ความสุขก็เป็นที่พึงพอใจ ของทุกคน ตรงข้ามกับความทุกข์ซึ่งไม่มีใครปรารถนา ความสุข ความทุกข์ ของคนเรา มักเน้นหนักไปในเรื่องของความรัก ระหว่างหนุ่มสาวเป็นหลักใหญ่มากกว่าเรื่องอื่น ๆ ใครที่สมหวังในเรื่องของความรักและลงเอยด้วยการแต่งงาน สร้าง ครอบครัวกัน มีลูกมีเต้ากัน ก็ใช่ว่า จะมีความสุขตลอดไป ก็หาไม่ บางคู่ ก็มีการหย่าร้างกันไป ก็มีไม่น้อย ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน มีความสุขตลอดไป เช่นเดียวกับความทุกข์ก็เหมือนกัน มันก็ไม่ได้จะอยู่กับเราถาวรตลอดไปเช่นกัน ฉันจึงคิดว่า ทุกคนควร เรียนรู้เรื่อง ความสุข ความทุกข์ ว่า มันเป็นเรื่องอนิจจัง ไม่เที่ยงแท้แน่นอน อย่ายึดติด ความสุข ความทุกข์ นั่นแหละจะเข้า กับ หัวข้อเรื่องของตะพาบ หัวข้อ "ไม่สายเกินไปที่จะมีความสุข" ฉันเชื่อว่า ทุกคน ล้วนแต่เคยผ่านเรื่องของ ความทุกข์มาทั้งนั้น ทุกข์ ที่รักไม่สมหวัง ทุกข์ที่ต้องพลัดพรากจากคนที่เรารัก ทุกข์ที่เงินเดือนไม่พอใช้ ทุกข์จากโรคภัยไข้เจ็บที่เบียดเบียนเรา ฯลฯ แต่ในความทุกข์เหล่านั้น ถ้าไตร่ตรองให้ดี ๆ มันก็เป็นบทเรียนให้เราไม่ก้าวพลาด มีภูมิคุ้มกันยามเราพบกับปัญหา เดิมที่เคยพบ จะได้สามารถแก้ไขเหตุการณ์นั้น ๆ ได้ ดี เวลาเราได้สมหวังในสิ่งที่หวัง ใบหน้าจะระบายไปด้วยรอยยิ้มแห่ง ความสุข ร่าเริง โลกเต็มไปด้วยความสวยงามเสมอ ![]() ความสมหวังในความรัก โลกทั้งโลกสดใสด้วยรอยยิ้ม ![]() ความสุขจากธรรมชาติที่งดงาม ด้วยสายน้ำเย็นฉ่ำ ผืนหญ้าเขียวขจี ![]() ครอบครัวที่มีความรัก มีสายใยผูกพันด้วยโซ่คล้องใจพ่อแม่ เป็นตัว ผูกสายสัมพันธ์ของความสุขให้ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ถ้าเป็นความไม่สมหวังล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น นั่นก็คือ ความทุกข์ อันเป็น ธรรมดาของโลกธรรมทั้ง 8 นั่นเอง ( สุขคู่ทุกข์ ยศคู่เสื่อมยศ ลาภคู่เสื่อมลาภ สรรเสริญคู่นินทา) ความทุกข์อันเกิดจากโลกธรรม ทั้งหมด ดังกล่าว ก็มักจะแสดงอาการออกมาด้วย การร้องไห้ สีหน้าหม่นหมอง ฟูมฟาย บางรายอาการหนัก ก็จะกลาย เป็นโรค ที่เรียกว่า โรคซึมเศร้า ถ้าหนักมาก ก็อาจจะถึงกับฆ่าตัวตาย ดังที่เราได้ยินข่าวต่าง ๆ จาก หนังสือพิมพ์ จากโทรทัศน์ อยู่บ่อย ๆ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าและสลดใจ เป็นอย่างยิ่ง ![]() ![]() ![]() สรุปแล้ว ฉันคิดว่า ถ้าใครที่มีความรู้เรื่อง อนิจจังไม่เที่ยง และเรื่อง ของโลกธรรมแปดแล้ว สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ได้เป็นอย่างดี ก็จะสนองโจทย์ตะพาบครั้งที่ 241 ที่ว่า "ไม่สายเกินไปที่จะมีความสุข" นะคะ เหมือนดั่งชีวิตตัวของฉันเอง ซึ่งก็เคยผ่านความทุกข์อย่างแสนสาหัสมา หลายครั้ง แต่ด้วยอาศัยหลักธรรมดั่งกล่าวทั้งสองเรื่อง ศึกษาให้ เข้าใจและแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่ประสบมาให้ผ่านพ้น วิกฤตของเหตุการณ์เหล่านั้นไปด้วยดี ไม่สายเกินไปเลยที่จะมีความสุข อยู่กับการสอนหนังสือ ให้ความรู้ ให้การอบรมสั่งสอน ให้ลูกศิษย์เป็นคนดีของสังคม ได้เป็นใหญ่เป็นโตไป ก็ไม่น้อย และ ผลแห่งความตั้งใจดีในการทำงานและสอนหนังสือ ฉันก็ได้รับผลดีตามมาด้วย นั่นคือ ยามเจ็บไข้ได้ป่วย ยามมีปัญหา เด็ก ๆ ก็ให้ความเอื้อเฟื้อช่วยเหลือเป็นอย่างดี ค่ะ นี่คือ ยังไม่สายเกินไปที่จะมีความสุข หลังจากผ่านมรสุมของชีวิตมาแล้ว ชีวิตของฉันก็มีความสุขได้ ถึงจะไม่มากมาย แต่ถ้าเรารู้จักพอเพียง พอใจ ในสิ่งที่เราได้รับ ความทุกข์ก็ไม่สามารถ ทำร้ายเราได้อีกเลย นะคะ หวังว่า ข้อคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเขียน โจทย์ ตะพาบ เรื่อง "ไม่สายเกินไปที่จะมีความสุข" คงจะให้ความบันเทิงแก่เพื่อน ๆ ชาวบล็อกได้บ้างพอสมควร ค่ะ ขอขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ต ค่ะ
สวัสดีค่ะครูสุวิมล
จริงๆนะคะความสุขของคนแต่ละคนแตกต่างกันไปจริง จริงอย่างที่หลายๆคนหลายท่านได้พูดเอาไว้ จงพอใจในสิ่งที่มี และยินดีกับสิ่งที่ได้ ถ้าเรารู้จักเพียงคำเดียวว่า พอ ทุกอย่างก็จบ ฝันดีนะคะคืนนี้ ![]() โดย: โอน่าจอมซ่าส์
![]() สุขขี
เมื่อพอดี กับสิ่งที่ได้ สุขได้ แค่พอใจ กับสิ่งที่มี ![]() โดย: โอน่าจอมซ่าส์
![]() ถ้าเรารู้ต้นเหตุ หรือสาเหตุที่ทำให้เราทุกข์ และไปแก้ไขก่อนที่มันจะเกิดเป็นปัญหา มันก็จะไม่ทำให้เราทุกข์ พูดเหมือนง่ายแต่ทำยากเหมือนกัน
โดย: คุณต่อ (toor36
![]() ![]() ความสุขก็อยู่รอบๆตัวเรานี้แหละนะคะ
สนใจใฝ่ธรรมเลยบ้างก็จะจัดการกับทุกข์สุขได้พอสมควร คือพอเอาตัวรอดได้อย่าที่อาจารย์วิสัชนานี้เลยค่ะ ![]() โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า
![]() ![]() พี่ว่าความรักในวัยหนุ่มสาวของเรา
พัฒนาไปเป็นความห่วงใยดูแลเอื้ออาทรกันในบั้นปลายนะคะ ถึงตอนนี้เวลาข้ามถนน เราซึ่งไม่เคยจูงมือกันก็ไม่ลืมที่จะ เกี่ยวมือกันไว้เพื่อตัวเองจะได้มั่นคงและอีกคนไม่หลุดไป จากอีกคนแล้วเป็นอันตราย เราจึงไม่มีความคิดจะอยาก แยกจากกันเลยค่ะ ซึ่งน่าจะไม่ค่อยดีเท่าไร เมื่อใครจากไปเสียคน คนที่เหลือจะว้าเหว่มากนะคะ พี่ว่า ถึงตอนนั้นก็ต้องทำใจ เราไปพร้อมกันไม่ได้ เพราะบาปบุญไม่เท่ากัน ขอบคุณที่แวะไปอ่านและได้คุยกันนะคะ ![]() โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า
![]() ![]() บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต mcayenne94 Home & Garden Blog ดู Blog สายหมอกและก้อนเมฆ Travel Blog ดู Blog สองแผ่นดิน Photo Blog ดู Blog ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog หอมกร Movie Blog ดู Blog Sweet_pills Food Blog ดู Blog ภาวิดา คนบ้านป่า Diarist ดู Blog toor36 Cartoon Blog ดู Blog อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog โจทย์นี้เป็นสัจธรรมเลยนะคะ โดย: อุ้มสี
![]() ![]() โจทย์นี้เพราะจังเลยครับ อ่านแล้วชอบ ^^
ไม่มีอะไรสายเกินไปทั้งนั้น ไม่ทำวันนี้ก็ทำวันหน้า ไม่ทำชาตินี้ก็ทำชาติหน้า เอ้า เฮ้! ความสุขกับความรักสำหรับหลายคนอาจเป็นของตรงกันข้าม อิอิ ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ ไม่เมหือนนิทานเนอะ แล้วพระเอกกับนางเอกก็แต่งงานและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป *ปิดม่าน* ชีวิตคนจริงๆมันไม่จบแบบนั้นน่ะสิ ถ้าปล่อยวางได้ก็คลายความทุกข์ลงได้เช่นกัน เห็นภาพสวยๆในบล็อกนี้แล้วอยากออกไปท่องเที่ยวจังเลยครับ ช่วงนี้อากาศดี แต่งานปลายปีก็ไม่ลดลง T^T โดย: ชีริว
![]() ![]() ขอบคุณครับอาจารย์ แก้คำผิดหมดละ ตั้งใจอ่านจริงๆนะเนี่ย
อาทิตยืหน้าอากาศเย็นลง รักษาสุขภาพด้วยนะครับ แต่ก็น่าไปเที่ยวเช่นกัน อิอิ โดย: ชีริว
![]() ![]() สวัสดีค่ะอาจารย์
คิดได้เร็วเท่าไหร่ จะมีความสุขได้เร็วเท่านั้นนะคะ โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() อ่านแล้วซึ้งใจค่ะ
ตามที่อาจารย์เขียน ถ้าเข้าใจก็ไม่สายเกินไป ที่จะมีความสุขนะคะ ![]() โดย: Rananrin
![]() |
บทความทั้งหมด
|
โจทย์นี้ ให้ข้อคิดได้หลายแง่มุมมากค่ะ
เห็นด้วยกับที่อาจารย์เขียนออกมา
ความสุขอยู่รอบ ๆ ตัวเรา
ถ้าเราเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างมีความสุข
จินมีหนังสือดี ๆ สักเล่มก็มีความสุข
ไปเที่ยว ไปทำบุญ ไปออกกำลังกาย ไปนวดแผนไทย
บางครั้งการได้คุยกับเพื่อนผ่านโลกโซเซี่ยลก็มีความสุข
ความทุกข์เป็นความจริงที่เราห้ามมันไม่ให้เกิดไม่ได้
แต่ถ้าเราเรียนรู้ที่จะยอมรับ และอยู่กับความจริงอย่างที่เป็น
มันก็จะไม่ทุกข์มาก ทุกข์ สุข ล้วนเกิดขึ้นดับไป วนเวียนไม่สิ้นสุด
ตั้งแต่ศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ปฏิบัติตามคำสอนของพระอาจารย์ ทำให้เวลาเจออะไรที่มากระทบ
รู้เท่าทันมากขึ้น ทุกข์น้อยลงมากกว่าเมื่อก่อนค่ะ
เชียงใหม่อากาศหนาวแล้ว โดยเฉพาะเช้า ๆ
อาจารย์รักษาสุขภาพด้วยนะคะ