ความฝันกับการเดินทางครั้งสุดท้าย ความฝันของชายหนุ่มคือการเป็นนักเล่นเชลโล่มืออาชีพ แต่หลังจากเดินทางตามฝันอยู่นานหลายปี เมื่อมองย้อนกลับไป กลับพบว่าการสร้างความสำเร็จจากความฝันนับวันยิ่งห่างไกล ชีวิตความเป็นอยู่ แม้ไม่ถึงกับลำบาก แต่ก็ไม่สบาย ความมุ่งมั่นตั้งใจ ความหลงใหลในการเล่นเชลโล่ไม่เคยหายไปไหน แต่การเดินต่อบนเส้นทางเดิมมาถึงทางตัน วงออร์เคสตร้าที่เขาเล่นประจำต้องปิดตัวลง ทั้งๆ ที่เพิ่งลงทุนซื้อเชลโล่ราคาแสนแพงได้ไม่นาน ความฝันกับความจริงต่างกันลิบลับ การตัดสินใจละทิ้งความฝันเพื่อเดินต่อในโลกของความเป็นจริงไม่ง่ายนัก ยิ่งถ้าเราใช้เวลาไปกับการเดินทางตามหาความฝันมาอย่างยาวนาน ชายหนุ่มตัดใจขายเชลโล่ เพราะรู้ดีว่าฝีมืออย่างเขา เมื่อเทียบกับนักดนตรีคนอื่นๆ การหาวงใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถ้าไม่มีวงประจำเล่น ก็ไม่มีเงินมาจ่ายค่าเชลโล่ ราคา 18 ล้านเยน ชายหนุ่มหัดเล่นเชลโล่ตั้งแต่ยังเด็ก และคิดมาตลอดว่าจะเป็นนักเล่นเชลโล่มืออาชีพ เมื่อชีวิตจริงต่างจากความฝัน และถึงจุดที่ต้องเลือกทาง เขาตั้งคำถามกับตนเองว่า การเป็นนักเล่นเชลโล่มืออาชีพใช่ความฝัน จริงๆ หรือเปล่า ไม่มีคำตอบในคำถามนั้น ............. ![]() แม่จากไป 2 ปีกว่าแล้ว ทิ้งบ้านเล็กๆ หลังหนึ่งที่เคยเปิดเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ไว้ให้ นานแล้วที่เขาไม่ได้กลับบ้าน ชายหนุ่มเลือกที่จะกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่บ้าน แม้ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อ ชีวิตที่บ้านนอกสิ้นเปลืองน้อยกว่า ความกดดันทางการเงินย่อมน้อยกว่ามาก วันหนึ่งระหว่างนั่งทานข้าวเช้า พร้อมกับอ่านหนังสือพิมพ์ไปด้วย เขาเจอกับประกาศรับสมัครงานของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ระบุว่า รับสมัครเจ้าหน้าที่จัดการเรื่องการเดินทาง และรายได้ดี เมื่อเจอกับชายแก่เจ้าของบริษัทเขาก็ต้องแปลกใจ เอกสารเกี่ยวกับประสบการณ์ในการทำงาน ประวัติทางการศึกษา ไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าของบริษัท ชายแก่พูดกับเขาแค่ว่า หวังว่าคงอยู่ด้วยกันนานๆ นะ พร้อมหยิบเงินส่งให้ ชายหนุ่มรับเงินมาอย่างงงๆ "เราไม่ต้องคุยเรื่องเงินเดือนหรือรายละเอียดงานอื่นๆ เหรอครับ" "ทำไม เงินน้อยไปหรือ" "งั้นพรุ่งนี้ ก็มาเริ่มงานได้เลยนะ" "ว่าแต่ผมต้องทำอะไรบ้าง งานที่ทำเป็นงานประเภทไหน" "คุณไม่รู้หรือ ว่าเป็นงานอะไร" "ในหนังสือพิมพ์เขียนแค่ว่าเพื่อนเดินทาง" ชายแก่เจ้าของบริษัทหยิบประกาศหางานมาดู และว่า "อ๋อเขาพิมพ์ตกไปคำหนึ่งน่ะ นี่หมายถึงการเดินทางไปสู่สุคติ" งานใหม่ของชายหนุ่ม คือคนทำศพ เขาอึ้งไปชั่วอึดใจ ตั้งแต่เกิดมา เขาไม่เคยเห็นศพคนตายมาก่อนเลย จึงไม่แน่ใจว่าจะทำได้ไหม "ผมไม่เคยเห็นคนตายเลยนะ ตากับยายก็เสียตั้งแต่ผมยังเด็กมาก ตอนแม่ผมเสียเมื่อสองปีก่อน ผมก็อยู่ต่างประเทศ จึงกลับมาไม่ทันพิธีศพ ส่วนพ่อก็ทิ้งผมไปตั้งแต่ผมอายุแค่ 6 ขวบ" "ไม่เป็นไร ช่วงแรกก็ช่วยงานไปก่อน" เขากลับบ้านอย่างงงๆ เมื่อภรรยาถามว่า งานบริษัททัวร์เป็นอย่างไรบ้าง เขาไม่ได้ตอบ แค่บอกว่า ยังไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง วันแรกของการทำงานหินสุดๆ เพราะต้องจัดการกับหญิงชราที่เสียชีวิตในอพาร์ตเมนต์ กว่าคนจะมาเจอก็ผ่านไปกว่า 2 อาทิตย์แล้ว ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถเมล์กลับบ้านถึงรู้ว่ามีกลิ่นบางอย่างติดตัวมาด้วย เขาแวะอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำร้อนระหว่างทาง ทำความสะอาดร่างกายทุกซอกทุกมุมเพื่อให้กลิ่นหายไปก่อนเข้าบ้าน ภรรยาเตรียมอาหารไว้ชุดใหญ่ มีเนื้อไก่สดๆ สำหรับทำสุกียากี้ เมื่อเห็นเนื้อสดๆ ตรงหน้า เขาวิ่งไปอ้วก คืนนั้นเขานอนไม่หลับ และต้องลุกขึ้นมาเล่นเชลโล่กลางดึก เรื่องราวในวัยเด็กเกี่ยวกับพ่อที่เขาจำหน้าไม่ได้ ย้อนกลับเข้ามาในความทรงจำ วันรุ่งขึ้นและวันถัดมา ชายหนุ่มยังคงไปทำงานเหมือนเดิม งานที่แต่แรกไม่อยาก ไม่คิดว่าจะทำได้ แต่เริ่มยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ การจัดการกับทำความสะอาดร่างกายของคนตายอย่างให้ความเคารพ แต่งตัวให้คนตายให้ดูดีเหมือนเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ เพื่อให้ครอบครัวคนตายเก็บความทรงจำ และกล่าวอำลาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนนำร่างกายบรรจุในโลง งานที่ดูเหมือนน่ารังเกียจในสายตาคนทั่วไป แต่กับครอบครัวผู้ตายต่างออกไป ครอบครัวแล้วครอบครัวเล่าต่างซาบซึ้งกับการทำหน้าที่ "เพื่อนเดินทางไปสู่สุคติ"ของเขา ความภูมิใจในอาชีพใหม่ก่อตัวขึ้นทีละน้อย จนเมื่อภรรยารู้ความจริง และต้องการให้เขาลาเพื่อไปหางานที่ดีกว่านี้ มีเกียรติมากกว่านี้ เธอยื่นคำขาดว่าจะกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่จนกว่าเขาจะลาออก ชายหนุ่มกลับไปที่บริษัท แต่ยังไม่ทันพูดอะไร เจ้าของบริษัทกำลังทานอาหารเย็น เมื่อเห็นเขาก็ชวนร่วมวงด้วย ระหว่างทานอาหารก็เล่าว่าภรรยาเสียชีวิตเมื่อ 9 ปีก่อน ตอนนั้นยังไม่มีใครทำอาชีพนี้ เขาจึงลงมือแต่งหน้าแต่งตัวภรรยาด้วยตนเองเพื่อให้คนที่เขารักที่สุดสวยที่สุด แทนของขวัญ และคำอำลาเป็นครั้งสุดท้าย เขาเปิดบริษัทนับตั้งแต่นั้นมา วันนั้นชายหนุ่มไม่ได้เอ่ยถึงการลาออกกับชายขรา ผ่านไปวันแล้ววันเล่า เย็นวันหนึ่งเมื่อกลับถึงบ้านก็พบว่า ภรรยากลับมาบ้านแล้ว เพราะรู้ตัวว่า กำลังตั้งครรภ์ ไม่มีใครพูดอะไรกันระหว่างนั้น จนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ชายหนุ่มต้องไปทำหน้าที่ของเขาอีกครั้ง หนนี้เพื่อคุณป้าเพื่อนบ้าน คนเดียวกับเจ้าของร้านอาบน้ำ ![]() แรกทีเดียวลูกชายคุณป้าเพื่อนในวัยเด็กของเขาก็ไม่ชอบใจนัก ที่รู้ว่าเขาทำงานอะไร แต่เมื่อได้เห็นการจัดการกับงานในหน้าที่อย่างมืออาชีพ ทั้งภรรยาและเพื่อนบ้านไม่กังขาอีกต่อไป มีแต่คำขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่ากับการทำหน้าที่เพื่อนเดินทางเพื่อส่งผู้จากไปสู่สุคติ ในยามว่างชายหนุ่มยังคงเล่นเชลโล่อย่างมีความสุข ความฝันกับความจริงมักแตกต่างกัน การเดินทางตามความฝันอาจไม่ได้มาพร้อมชื่อเสียง เงินทองและความสำเร็จ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะอยู่กับความฝันอย่างมีความสุขไม่ได้ หมายเหตุ - ข้อเขียนเปิดเผยเนื้อหาของภาพยนตร์ญี่ปุ่น "Departures" เจ้าของรางวัลออสการ์หนังต่างประเทศยอดเยี่ยมปีล่าสุด /////////////////// ไม่ได้ติดตามมาหลายวัน มาเปิดอีกที ก็มีอะไรให้อ่านเพียบเลย ดีจัง
ชอบอยู่กับฝันที่ยังไม่สำเร็จค่ะ เพราะอย่างน้อยเรามันก็ทำให้วันพรุ่งนี้ดูมีคุณค่า และพร้อมจะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ให้ไปถึงฝัน ถึงแล้วก็ฝันต่อไปได้อีก หากยังมีชีวิตอยู่ ความฝันก็ไม่มีวันหมด กลัววันหมดฝันนะ หากฝันหมด แล้วพรุ่งนี้จะทำไรดีล่ะอันตรายๆ โดย: ... IP: 24.1.66.251 วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:45:58 น.
ดีจัง..พาร์ทนึงในชีวิตเค้าเหมือนเราเป๊ะ.. หนูว่าทั้งความฝันและความเป็นจริงมันทำให้เรายิ้มได้นะถ้ามีความสุขกับมัน สุขที่ได้ฝัน สุขที่ได้ทำวันนี้ให้ดีที่สุด..ซึ้งอ่ะ
โดย: BB service IP: 172.16.226.80, 203.170.231.232 วันที่: 13 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:20:59 น.
หาดาวโหลดในบิททอเร้นท์ก่อนนะ
โดย: เพื่อนสาย IP: 58.8.172.56 วันที่: 13 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:46:57 น.
แนะนำเว็บดูหนังซีรีย์เกาหลีฟรี
โดย: koreaserie (loveyoupantip
![]() |
บทความทั้งหมด
|
ว่าไหม๊การทำตัวเป็น "นักล่าฝัน" มันทำให้หัวใจให้ชุ่มชื่น มีความหวัง (มีความสุขกับปัจจุบันที่ได้ฝันไง) ก็จงฝันกันต่อไป
เคยได้ยินใครคนหนึ่งบอกว่า เป้าหมายที่ไม่ไขว่คว้า ก็ไม่ต่างจากความฝันที่ไปไม่ถึง (สักที) สิน่า อันนี้เป็นภาคของอนาคต
รู้นะคิดไรอยู่ !!