:::เงินไม่ใช่คำตอบสุดท้าย::: :::เงินไม่ใช่คำตอบสุดท้าย::: บ่าย สองโมงผมบึ่งมอเตอร์ไซด์ออกจากบ้านเช่า มุ่งตรงไปยังร้านก๊วยเตี๋ยวเจ้าประจำ ที่อยู่บริเวณใกล้ ๆ กำแพงคูเมืองสุพรรณบุรี ร้านก๊วยเตี๋ยวป้ายาเป็นร้านก๊วยเตี๋ยวที่อร่อย เกือบจะทุกมื้อกลางวันผมมักฝากท้องไว้กับก๊วยเตี๋ยวเจ้านี้ ผมก้าวเข้าชายคาเพิงหมาแหงนที่มุงหลังคาด้วยสังกะสี แต่เหนือหลังคาขึ้นไปรกครึ้มด้วยร่มเงาไม้ใหญ่ ในร้านช่วงบ่ายแก่ เหลือลูกค้าอยู่สองคน คนหนึ่งเป็นชายร่างผอมดำกร้าน หนวดเครารกครึ้ม อายุประมาณเลยวัยกลางคน สังเกตุเห็นมีเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตคลุมอยู่ที่ไหล่ด้านขวา แต่ไม่เห็นมีแขนโผล่ออกพ้น จึงเข้าใจว่าแขนข้างขวาของแกด้วนขาด ส่วนอีกคนเป็นเด็กชายอายุประมาณ 3 ขวบ กำลังนั่งกินก๊วยเตี๋ยวอยุ่ข้าง ๆ แก เข้าใจแต่แรกว่าเป็นลูกชายของแก ป้ายา แม่ค้าเจ้าของร้านก๊วยเตี๋ยวร่างท้วม ลุกขึ้นจากที่นั่งเข้าประจำที่หน้าตู้ก๊วยเตี๋ยว ทันทีที่เห็นผมเดินเข้าร้านไปนั่งที่โต๊ะ เส้นหมี่ เนื้อสด ลูกชิ้น น้ำตก ผมไม่ได้สั่ง แต่เป็นที่รู้กัน ระหว่างผมกับป้ายา ระหว่างรอผมคว้าหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ที่พับอยู่บนโต๊ะเปิดอ่าน อันเป็นนิสัยปกติ ไล่เรียงสายตาไปบนหน้าพาดหัวข่าว แล้วมาสะดุดตรงภาพของหญิงสาวที่มีใบหน้า และอากัปกริยา อันคุ้นเคย ใช่เธอจริง ๆ ด้วย สุชิน พันธุ์แตง หญิงสาวพิการที่เคยออกรายการ คนค้นคน หัวข้อข่าวเกี่ยวกับเธอ ว่าด้วย การขึ้นโรงพักแจ้งความจับอดีตสามี ที่หลอกเงินเธอจนหมดตัวและทำร้ายร่างกาย จำนวนเงินที่ระบุ คือ 6 ล้านบาท ซึ่งล้วนแต่เป็นเงินบริจาคจากผู้ชมรายการคนค้นคน ทั้งสิ้น...
เส้นหมี่ เนื้อสด ลูกชิ้น ถูกนำมาวางข้างหน้า ผมละจากรายละเอียดข่าว คว้าตะเกียบ และเลือกตักเครื่องเติม เน้นหนักที่น้ำส้ม และน้ำปลา อียา เอาลูกชิ้นล้วน ๆ เพิ่มให้ ใส่ชามให้ไอ้หนูอีก 10 บาท ดูสิมันกินลูกชิ้นซะเกลื้ยง เหลือแต่เส้นก๊วยเตี๋ยว ควานหาใหญ่เชียวเอ็ง เสียงสั่งจากชายแขนด้วน ตามด้วยเสียงหัวเราะร่วนชอบใจ ผมแอบชำเลืองมองเห็น ไอ้หนูของชายแขนด้วน กำลังควานช้อนอยู่ในชามก๊วยเตี๋ยวจริง ๆ
คีบเนื้อสดเข้าปากชิ้นแรก สายตาผมก็ไล่เรียงไปที่รายละเอียดของข่าว.... เรื่องราวของเธอนั้น ก่อนหน้านี้สักสองเดือนผมได้รับทราบจากปากของ พิทักษ์ ใจบุญ หรือ ไอ้ทักษ์ เพื่อนซี้กวีหนุ่มหน้าราม ผู้ไปเอาดีด้วยการเป็นตากล้องเบื้องหลังภาพรายการคนค้นคน มาบ้างแล้ว เกี่ยวกับเรื่องราวของสุชินที่โดนแฟนทิ้งและตบตี จำได้ขณะมาถ่ายทำรายการเรื่องราวของ สุชิน ที่ร้านข้าวต้ม 2 บาทเมื่อสองปีก่อน ผมเองก็ได้แวะไปดูการเบื้องหลังการถ่ายทำรายการของไอ้ทักษ์ ตอนนั้นสุชินยังไม่มีแฟน และรับทราบต่อมา จากปาก ไอ้ทักษ์ อีกเช่นกันว่าสุชินเขามีแฟนแล้วนะ มีคำถามบางอย่างที่ผมแอบตั้งเอาไว้ในใจ และแอบคาดเดาไปถึงอนาคต อันใกล้ แล้วมันก็เป็นความจริง ดังที่ใจผมคิด ผิดก็แต่ว่า มันหนักมากไปกว่าที่ผมคิดซะอีก เงินหกล้านถูกอดีตสามีผลาญซะไม่เหลือ ซ้ำยังถูกกักขังไว้หลังบ้าน และถูกทำร้ายร่างกาย คุณว่ามันหนักเกินไหมละ....... จิตใจมันทำด้วยอะไร หลอกลวงและทำร้ายคนพิการ
ป้ายาตักลูกชิ้น มาเทผสมลงในชามของไอ้หนูคนนั้นแล้ว แต่ยังไม่ทันที่ไอ้หนูจะได้กิน เสียงมอเตอร์ก็แวะมาเทียบจอดที่หน้าร้าน พ่อ เสียงไอ้หนูตะโกนลั่นแล้วผละจากชามก๊วยเตี๋ยววิ่งออกไป โดยมีชายอายุประมาณสี่สิบนั่งค่อมมอเตอร์ไซด์รออยู่ อ้าว พ่อมันมาทิ้งลุงซะแล้ว ไอ้หนู เสียงชายแขนด้วนว่า พลางเดินตามออกไป ว่าไง จะอยู่กับลุงหรือจะไปกับพ่อ ไปกับพ่อ ไอ้หนูว่าพลางไต่ขึ้นไปนั่งหลังเบาะ เกาะเอวพ่อของเขาแน่น ขณะเตรียมออกรถ ผมเห็นชายแขนด้วนใช้มือด้านซ้ายควักลงไปในกระเป๋ากางเกงดึงเงินแบงค์ร้อยส่งให้เจ้าหนูคนนั้น แล้วยืนส่งสายตามองตามรถมอเตอร์ไซด์ ไปจนสุดเสียง ก่อนที่แกจะเดินย้อนกลับมานั่งยังที่เดิม ดูสิ พอพ่อมันมาก็ทิ้งลุงไปซะแล้ว เสียงบ่นเบา ๆ ในน้ำเสียงแสดงถึงความน้อยใจอย่างชัดเจน ก็มึงทำไม ไม่หาเมียทำลูกเป็นของตัวเองสักคนเล่า มัวแต่ไปรักลูกคนอื่น เสียงป้ายา ว่า ใครมันจะมาเอากะกู... ว่าพลางชายแขนด้วน ก็หันไปสาละวนกับชามก๊วยเตี๋ยวของหลานชายที่เหลือทิ้งไว้ ส่วนผมก้มหน้ากินก๊วยเตี๋ยวและอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ..... เหตุการณ์สลดใจสาวง่อย "คนค้นฅน" น.ส.สุชิน พันธุ์แตง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194/1 หมู่ 7 ต.ดอนกำยาน อ.เมืองสุพรรณบุรี ซึ่งมีฐานะยากจนและพิการขาลีบทั้ง 2 ข้างตั้งแต่เกิด ต้องใช้มือแทนเท้าคลานออกรับจ้างหาเงินเลี้ยงหลานและพ่อที่แก่เฒ่า จนปี 2548 รายการดังทางโทรทัศน์ "คนค้นฅน" มาถ่ายทำสภาพชีวิตไปตีแผ่ คนดูทั่วประเทศสงสารส่งเงินไปช่วยเหลือกว่า 6 ล้านบาท ต่อมามีนายอารีย์ ศรฟ้า อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 1 ต.ดอนโพธิ์ทอง อ.เมืองสุพรรณบุรี มาติดพันจนไปอยู่กินด้วยกันและให้เบิกเงินไปใช้จนหมดก่อน ทะเลาะและแยกทางกัน น.ส.สุชินโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือจากทีมงานรายการโทรทัศน์ที่เคยมาถ่ายทำเรื่องราวชีวิตเพื่อให้ช่วยติดตามเงินคืน จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ชายแขนด้วนขับรถซาเล้งบรรทุกของเก่า จากไปแล้ว หลังจากผมอิ่มก๊วยเตี๋ยว มีเสียงบ่นน้อยใจหลานชายให้ป้ายาฟัง อีก 2-3 ประโยค เงินไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิต ไอ้ทักษ์แวะเข้ามาหาผมเมื่อเร็ว ๆ ก่อนหน้าจะมีข่าวนี้ พร้อมคำบอกเล่าเรื่อง ของสุชินมีแฟนใหม่อีกคนแล้ว เป็นช่างก่อสร้างแถว ๆ สมุทรสาคร ขณะนี้ไปร่วมอยุ่กินใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน พร้อม ๆ กันนี้ ไอ้ทักษ์ยังบอกถึงกรณีนี้รายการคนค้นคน จะทำรายการในเชิงสรุปถึงวิถีชีวิตของคนที่ผ่านเข้ามาในรายการ และมีดอกผลกับเงินบริจาคจำนวนมหาศาลของผู้ร่วมรายการที่ได้นำเสนอไปได้รับ มาทำเป็นเชิงสรุปว่าสุดท้ายแล้ว ...เงินไม่คำตอบสุดท้ายของชีวิต.... ผมสตาร์ทมอเตอร์ไซด์ ออกจากร้านก๊วยเตี๋ยว ป้ายา ในใจยังคงครุ่นคิดถึงเรื่องชายแขนด้วนกับเงินหนึ่งร้อยบาทที่ส่งให้หลานชาย และเรื่องของหญิงสาวพิการที่ชื่อสุชินกับเงินหกล้านบาทที่สูญไปพร้อมกับความรักกับอดีตสามีจอมหลอกลวงของเธอ เงินไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิต ผมทบทวนถ้อยคำของไอ้ทักษ์อีกครั้ง สุดท้ายก็อดหวนคิดย้อนไปถึงช่วงชีวิต โมงยามแห่งความอดอยากระหว่างผมกับไอ้ทักษ์สมัยสักสิบกว่าปีก่อน ตอนสุมหัวแสวงหาชีวิตจากถ้อยคำกวีที่หน้ารามฯ จนวันหนึ่งเราสองคนต้องรื้อค้นที่หลับที่นอน และทุกซอกมุมของห้อง รวมไปถึงช่องร่องกระดานพื้นห้อง เพียงเพื่อจะค้นหาเศษเหรียญบาทเพิ่มอีกหนึ่งเหรียญ ให้เป็นจำนวนครบพอเป็นค่ารถเมล์ เพื่อบากหน้าไปขอยืมเงินซื้อข้าวประทังความหิวจากพี่ พินิจ นิลรัตน์ พี่ชายใจดีผู้เป็นบรรณาธิการคัดเลือกบทกวี และทำงานอาร์ตเวิร์คในหนังสือมาตุภูมิรายสัปดาห์ อยู่แถว ๆ ซอยรางน้ำ อนุสาวรีย์ชัย และวันนั้นขณะห้วงอาการหิวจนตาลาย หากใครคนใดคนหนึ่งเอื้อนเอ่ยออกมาว่า เงินไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิต คงต้องมีคนใดคนนั้นโดนถูกถีบตกรถเมล์เป็นแน่แท้.....
เงินมักเป็นสิ่งแรกที่ต้องการเพื่อดำรงชีวิต
แต่สิ่งสุดท้ายที่ชีวิตต้องการมักไม่ใช่เงิน ปล. ลืมบอกว่า อ่านที่จขบ.เขียนทุกตัว สัมผัสได้กับความจริงใจจากภาษาที่เรียบง่าย เหมือนนั่งจับเข่าคุยกันยามวิกาลเลย ได้เจอยอดมนุษย์ที่ออกมาช่วยโลกยามวิกาลอีกคนหละ โดย: ริมยมนา วันที่: 14 พฤศจิกายน 2550 เวลา:2:31:28 น.
หากมีเวลาว่างสักนิด อย่าลืมแวะไปเยี่ยม...หน่อยอิง....บ้างนะคะ*** โดย: หน่อยอิง วันที่: 14 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:13:46 น.
สวัสดีค่ะอ้ายโฟล์คเหน่อ
----------------------------------------------------- "เงินไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิต" ถูกต้องคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบ ซึ่งไม่ควรปฏิเสธ......เพราะ เงินสามารถใช้หนี้ได้ตามกฎหมายค่ะ อะคึ่ ๆ ถ้าเราใช้เงินเกินจำเป็น เราก็จะเป็นหนี้ เมื่อเป็นหนี้จึงต้องดิ้นรนหาเงินมาใช้หนี้ ทำให้ชีวิตและจิตใจต้องลำบากเกินจำเป็น อืม! โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 14 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:43:54 น.
สวัสดีครับน้าโฟล์คเหน่อ (ขอเนียนเด็กเรียกน้านะครับ )
เห็นด้วยครับว่า เงินไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิต น้าโฟล์คเหน่อสบายดีนะครับ โดย: KyBlueSky วันที่: 14 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:36:55 น.
|
บทความทั้งหมด
|
แวะเข้ามาเยี่ยมและมาชวนไปดูสุดยอดละครบรอดเวย์ครับ
10 พฤศจิกายน 50
อยากดูแบบบรรยากาศแบบเต็มๆ คลิกที่รูปได้เลยครับ