ไอ้ดู๊ด (แกหายไปไหนของแกวะ) ไอ้ดู๊ด (แกหายไปไหนของแกวะ) 1. แกหายไปไหนของแกวะ ทันทีที่ฉันเหวี่ยงตัวทิ้งลงบนที่นอนด้วยความรู้สึกที่ทั่วทั้งร่างอัดแน่นด้วยความอ่อนล้าและห่วงหา เศร้าหมอง ฉันก็ซบหน้าลงบนผ้าปูที่นอน เพื่อสัมผัสกับความมืดมิด ก่อนปิดเปลือกตา พร้อมคำรำพึงแผ่ว ๆ อยู่คนเดียว อยากจะถ่ายเทความรู้สึกที่มีอยู่ ไปกับน้ำตาที่รินไหลลงอาบชุ่มซับของนุ่มเนื้อที่นอนยามนี้ แต่....ฉันไม่แน่ใจว่าฉันกำลังร้องไห้อยู่หรือเปล่า ลูกผู้ชายไม่ควรร้องไห้ มีคนเคยบอกว่าอย่างนั้น หากแต่บางสิ่งบางอย่างที่เราได้ผูกพัน และผ่านพ้นจากวันเวลาหนึ่งสู่ห้วงแห่งอีกวันเวลาหนึ่ง ถึงจะเป็นช่วงที่ไม่มากมายนัก แต่มันก็สามารถพันธนาการความรู้สึกของเราให้ผูกแน่นจนไม่คิดจะจากพรากกันไป แล้วถ้าวันหนึ่งมันมีเหตุให้ต้องจากพรากเล่า การที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งจะต้องทิ้งตัวลงร่ำไห้สะอึกสะอื้น ในค่ำคืนดึกดื่นเช่นนี้ ก็ขออย่าได้ให้เป็นข้อห้ามของลูกผู้ชายเลย โดยเฉพาะผู้ชายที่มีอารมณ์อ่อนไหว อย่างฉัน 2. มีเสียงแมวร้องแว่วมาจากหน้าประตูห้อง ขณะที่ฉันกำลังนั่งกินข้าวอยู่คนเดียวในห้องเช่าแคบ ๆ ของช่วงเวลาบ่ายวันหนึ่ง บนชั้นสามของหอพัก ฉันตัดสินใจลุกขึ้นไปเปิดประตูเพื่อดูที่มาของเสียง ให้หายสงสัย แต่หากว่าฉันไม่อาจจะรู้ล่วงว่าการเปิดประตู ณ. บ่ายวันนั้น คือการเปิดรับเส้นสายใยสายสัมพันธ์ ที่ผูกมัด เป็นเสมือนพันธนาการ ที่ฉันอยากให้มัดตรึงแน่นไปจนวันตาย พลันที่ประตูห้องเช่าเปิดออก เจ้าลูกแมวตัวเล็ก สีเหลืองขาว ก็เดินอย่างทะนงองอาจเข้ามาสู่ห้องของฉันอย่างไม่สะทกสะท้าน ปากก็ร้องเสียงออดอ้อนตามประสาแมว น่าแปลกใจที่มันมิได้แสดงอาการแปลกถิ่นแปลกที่ให้เห็นเลย ตรงกันข้ามฉันดูเหมือนว่ามันจะคุ้นเคยกับห้องนี้เสมือนหนึ่งคือบ้านของมัน ฉันยืนนิ่งมองดูมัน อย่างผิดวิสัย มันมิได้เดินสำรวจห้องฉันเลย พ้นจากประตุห้อง มันก็กระโจนขึ้นบนเตียง ร้องสองสามที แล้วก็ขดตัวนิ่งนอน โดยมิได้สนใจกับอาหารมื้อบ่ายของฉัน เอ็งจะมาไม้ไหนกับฉันวะ ฉันรำพึงในใจ เมื่ออาคันตุกะที่ไม่ได้รับเชิญ บุกถึงที่นอน 3. ไอ้ดู๊ด ฉันตั้งชื่อลูกแมว ตัวเมีย ตัวใหม่ของฉันว่า ไอ้ดู๊ด ตามชื่อแมวในตัวละครเรื่องสั้น บ่ายบัดซบ ของกนกพงศ์ สงสมพันธุ์ ที่ฉันชอบอ่านซ้ำหลายครั้ง ไอ้ดู๊ดมันเป็นแมวของกวี ถึงมันจะเป็นแมวตัวเมีย ฉันก็ขอเรียกมันว่า ไอ้ดู๊ด ฉันแทบจะไม่ต้องทำความคุ้นเคยอะไรกับไอ้ดู๊ดเลยสักนิด เพราะมันตีสนิท กับฉันเหมือนอยู่ด้วยกันมาสักสิบปีได้ ช่วงหลังบ่ายฉันต้องหลับนอนสักงีบเพื่อเอาแรงไปเล่นดนตรีตอนกลางคืน ไอ้ดู๊ดมันก็ขึ้นมานอนหายใจครืดคราด ครืดคราด อยู่บนยอดอกของฉัน ไม่ยอมลงไปไหน ฉันไม่รู้ว่ามันหลับหรือไม่ แต่ฉันน่ะไม่หลับแน่ ตอนค่ำฉันตัดสินใจขังมันไว้ในห้อง กลัวว่ามันจะหนีหาย พอกลับเข้ามาอีกครั้ง ฉันเห็นไอ้ดู๊ดมันเข้าไปเยี่ยวในห้องน้ำ แกสร้างความประทับใจให้ฉันเสียแล้ว ไอ้ดู๊ด นับแต่นั้นลุกแมวตัวเมียสีเหลืองขาวก็กลายสมาชิกใหม่ร่วมห้องเดียวกันของศิลปินผมยาว หาค่ำกินเช้า แบบแขกไปใครมาก็เป็นต้องเห็นไอ้ดู๊ดคลอเคลียอยู่กับฉันแทบจะไม่ห่างจากกัน ทุกคืนหลังเลิกเล่นดนตรี ฉันต้องกลับคืนสู่ห้องเช่าพร้อมด้วยอาหารของฉันชุดหนึ่ง แล้วก็เป็นปลาทูของไอ้ดู๊ดอีกชุดหนึ่ง เป็นเช่นนี้ไม่เคยขาด แล้วก็ทุกคืนเช่นกัน ทันทีที่ฉันจอดมอเตอร์ไซด์ ก็จะเห็นไอ้ดู๊ดของฉันนั่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ อยู่ที่ตีนบันไดหอพัก เหมือนจะพยายามจะแสดงอาการให้รู้ว่าฉันไม่ได้มารอแกสักหน่อย พอฉันเดินพ้นมันไปแบบทำเป็นไม่สนใจมันเช่นกัน เท่านั้นแหละ มันก็หันตัวกลับโดดผลุงกระโจนตามขั้นบันไดแซงหน้าฉันไปรออยุ่ที่หน้าประตูห้องเช่าชั้นสามแล้ว มันชอบทำตัวน่าหมั่นไส้ ทุกข์ สุข ดี ชั่ว รัก โหด โกรธ เคือง เป็นวิสัยปกติของการอยู่ร่วมกัน ไม่ว่าจะมนุษย์กับมนุษย์ หรือมนุษย์กับสัตว์หน้าขน เฉกเช่นเดียว ฉันกับไอ้ดู๊ดก็เหมือนกัน วันไหนถ้าไอ้ดู๊ดเกิดอยากออกไปข้างนอกห้องด้วยเหตุธุระอันใดของมันก็ตามแต่ ถ้าหากว่ามันส่งเสียงร้องแล้วทำทีไปรออยู่ใกล้ประตู เพื่อรอให้ไปเปิดให้ แล้วไม่เป็นไปตามที่มันปรารถนาแล้วละก้อ เดือดร้อนถึงหนังสือของฉันที่ชั้นวางครับ ถ้ารออยู่หน้าประตูแล้วฉันยังไม่สนใจ มันก็จะปรี่เข้าไปใช้เล็บตะกุยตะกายหนังสือที่วางเรียงบนชั้นวางจนเป็นแผลร่องรอยปลายเล็บไปทั่วทุกสันเล่ม ซึ่งในที่สุดฉันก็ต้องไปเปิดประตูให้มันอย่างไม่มีข้อต่อรองใด ๆ กับมันทั้งสิ้น มันรู้ว่า บาดแผลของหนังสือคือจุดอ่อนของฉัน ขณะเดียวกันถ้ามันเสร็จธุระจากข้างนอก แล้ว มันก็จะมาส่งเสียงร้องเรียกอยู่หน้าประตู พร้อมใช้เล็บตะกุยตะกายแผ่นประตูให้ฉันรำคาญ จนต้องเปิดประตูรับมันเข้ามาตามเคย นั่นคืออารมณ์ของไอ้ดู๊ดแมวสุดที่รักของฉัน วงจรชีวิตความผูกพันระหว่างฉันกับไอ้ดู๊ดเข้าสู่รอบวงปีที่สอง ไอ้ดู๊ดของฉันโตเป็นสาวเสียแล้ว และวันหนึ่งมันก็ตั้งท้องกับแมวพเนจรที่ไหนสักตัว โดยที่ฉันลืมรายละเอียดปลีกย่อยบางอย่างของไอ้ดู๊ดซึ่งเป็นแมวตัวเมียไปเสียสนิท ถ้าฉันใส่ใจในรายละเอียดตรงนี้ ฉันควรจะพาไอ้ดู๊ดไปฉีดยาคุมกำเนิด เสียก่อน แต่ช้าไป..... ไอ้ดู๊ดคลอดลูกในห้องเช่าแคบ ๆ ของฉัน ฉันต้องมีภาระ ขนถ่ายกระบะทรายขี้เยี่ยวของลูกไอ้ดู๊ดตลอดสองเดือน โดยที่ห้องแคบ ๆ ของฉันในช่วงนั้นอบอวลไปด้วยกลิ่นขี้เยี่ยวของลูกแมวสี่ตัว หลังจากลุกไอ้ดู๊ด โตพอที่จะไม่ต้องพึ่งพาพาน้ำนมไอ้ดู๊ดแล้ว ฉันจำเป็นต้องพรากลูกไอ้ดู๊ดไปไว้ ที่บ้านพ่อแม่ของฉันที่บ้านนอกเมือง แม้จะรู้สึกสงสารและเข้าใจความรู้สึกถึงการพลัดพรากของไอ้ดู๊ดกับลูกน้อยของมันเพียงใดก็ตาม แต่เสียงร้องคร่ำครวญของไอ้ดู๊ดในคืนจากพรากก็กระชากความรู้สึกของฉันให้หลับนอนแบบไม่ปกติไปหลายคืน คราวหน้าฉันจะพาแกไปฉีดยาคุม ฉันสัญญากับไอ้ดู๊ดหลังจากที่มันหายซึมเศร้า 4. แกหายไปไหนของแกวะ ไอ้ดู๊ด ฉันรำพึง ขณะที่ไม่อาจปิดเปลือกตาลงได้ ในค่ำคืนหลังการกลับจากเล่นดนตรี แล้วเที่ยวเดินตระเวณหา แมวสีเหลืองขาวของฉันอยู่นานนับชั่วโมงจนทั่วอาณาบริเวณหอพัก ฉันรู้สึกผิดอย่างมาก เมื่อรู้ว่าไอ้ดู๊ด มันตั้งท้องอีกครั้ง ฉันรู้สึกผิด ที่ไม่ได้พาไอ้ดู๊ดไปฉีดยาคุมตามที่สัญญาไว้ ขณะที่ไอ้ดู๊ดใกล้ถึงกำหนดคลอด ฉันก็เตรียมทำกะบะทรายไว้เตรียมพร้อม แต่ ไอ้ดู๊ดของฉันกลับแสดงอาการป่วยไข้ และไม่กินปลาทูที่ฉันซื้อมาฝากหลายคืนแล้ว ฉันรู้สึกผิดอย่างมาก ที่ไม่ได้พาไอ้ดู๊ดไปหาสัตวแพทย์ เมื่อเห็นอาการอ่อนแอของมันอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ฉันรู้สึกผิดจริง ๆ ที่ทิ้งแกไว้นอกห้องแล้วไปเล่นดนตรีเมื่อสี่คืนก่อนหน้านี้ และเมื่อฉันกลับมาก็ไม่เห็นแกมาต้อนรับฉันที่ตีนบันไดหอพักเหมือนดั่งคืนก่อน ๆ อีกเลย จนกระทั่งคืนนี้ฉันก็ยังไม่เห็นหน้าแก ไอ้ดู๊ด แกไปอยู่ที่ไหนของแกวะ ฉันซบหน้าลงกับที่นอนอีกครั้ง พร้อมกับเสียงสะอึกสะอื้น ในค่ำคืนแห่งการจากพราก...... ![]() เพลง ร้าวราน คำร้อง ทำนอง ลำภา มัคศรีพงษ์ (ศิลปินโฟล์คเหน่อ) เฮ้ย.. คุณบอกรักแมวได้สะเทือนใจเราจัง
โดย: ชมทะเล
![]() ขอให้น้องดู๊ดไปสู่สุขคติค่ะ
......... สำหรับคุณ แม้จะเป็นผู้ชายก็ไม่แปลกที่จะร้องไห้ ร้องไปเถิด เวลาที่ใจอยากร้อง มันไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นผู้ชายแล้วร้องไห้ไม่ได้หรอก ผู้ชายร้องไห้ คือผู้ชายที่อ่อนโยน โดย: คนเลวที่แสนดี
![]() ตอนเด็กๆ.....ที่บ้านจะเลี้ยงแมวเป็นประจำอยู่แล้ว โดยปลายแปรงจะต้องเป็นคนไปอุ้มหามา ยิ่งเป็นแมวดำ หมาดำ มีปลายแปรงคนเดียวที่อุ้มมาเลี้ยงได้ไม่งั้นจะมีเรื่องตลอดเลย....
แล้วมีครั้งหนึ่ง...จู่ๆก็มีแมวคล้ายสีสวาท จำไม่ค่อยได้แล้วแต่มันตาสองสีเหลืองข้าง ฟ้าข้าง ข้างสีฟ้าจะเป็นตาแก้วพ่อบอกว่านี่แหละตาเพชร มันมาอยู่ได้สองวันก็ตายในบ้านแล้วพ่อก็เอาไปฝัง..... พ่อบอกว่าสัญชาตญานของแมวเวลาเขาจะตายจะไม่ตายที่บ้านคนเลี้ยงส่วนใหญ่แล้วเขาจะเลือกที่จะตายเอง พอรู้ว่าใกล้ตายมันก็จะหายไป...... ปลายแปรงคิดว่า ไอ้ตู๊ดของพี่ ก็อาจจะเป็นเช่นนั้น..... แมวจะเลือกที่อยู่และที่ตายของเขาเอง... ตอนแรกก็ไม่ค่อยสนใจกลับสิ่งนี้หรอก....เพราะช่วงหลังปลายแปรงแพ้ขนแมวอย่างทรมานที่บ้านก็เลยเลิกเลี้ยง แต่พอย้ายมาอยู่ที่ปลายวากับพี่นุ...เรามาอยู่ได้สักพัก นังเหมียวนี่ก็มาด้อมๆมองๆเวียนอยู่เป็นเดือนๆ..... จนมันออกลูกมาครอกแรกที่ห้องเก็บของ เอาข้าวไปให้มันกิน กว่ามันจะเชื่องในมือ ใช้เวลาพอสมควร....แล้วก็จำยอมเลี้ยง พี่คิดดูสิมันไม่เคยขี้เยี่ยวเรี่ยราดในบ้านให้รำคาญตอนมันมีลูกมันก็ต้อนให้ไปขี้ที่กองถ่าน...... พี่เชื่อไหมล่ะ...ทุกวันนี้ทุกคนในบ้านต้องยอมให้มัน เพราะแรกๆที่มันมาอยู่เราพยายามเอาไปปล่อยเหมือนกัน จนมันออกลูกครอกที่สองนั่นแหละ แม่ก็ยกให้ญาติไปทั้งหมด.... มันไป 7 วัน แม่เปิดประตูมาตอนเช้า มันนั่งตัวเปียก ผอมโซอยู๋ตรงประตู....มันกลับมาเอง แล้วบ้านที่เอาไปนะ ต้องข้ามคลองแล้วไปไกลมาก ตอนเอาไปก็ใส่กระโปรงหลังไปมันไม่เห็นอะไรอยู่แล้ว.....แม่เลยตัดใจเลี้ยงตอนนั้น พอพลาดคลอกที่สอง ปลายแปรงเลยซื้อยาคุมมาฉีดให้มัน....ก็คุมมันมาสองปีกว่าแล้ว มาพลาดก็รอบนี้แหละ...พรุ่งนี้จะครบกำหนดฉีด ก็ชวนกันว่าจะออกไปซื้อ ....ไม่ทันแล้ว... ก็อ...วีรกรรมมันเยอะนะพี่ ยิ่งมาอ่านเรื่องไอ้ตู๊ดของพี่แล้วนะ....คนไม่เคยเลี้ยงน่ะไม่รู้หรอกว่าแมวมันฉลาดจริงๆ ทุกวันนี้เวลาออกไปเที่ยวข้างนอกกลับดึก มันก็ไปนั่งรอที่ถนนเหมือนกัน.... ใจหายเหมือนกันนะถ้ามันจากไปเหมือนไอ้ตู๊ด เพราะมันเลือกที่จะมาอยู่กับเราไงคะ.... พี่เชื่อสิ...สักวันจะมีตัวใหม่เลือกที่จะมาอยู่กับพี่ แต่ตอนนี้เนื้อคู่ของพี่ยังไม่มา....แต่ที่แน่ๆแมวตัวเมียดีกว่าตัวผู้ค่ะ... โดย: ปลายแปรง
![]() เขียนได้อารมณ์ เศร้าจังค่ะ
![]() ไม่เคยเลี้ยงแมว ที่บ้านมีแต่หมา เสียน้ำตาทุกทีเวลามันจากไป โดย: หนอนบ้านนอก
![]() |
บทความทั้งหมด
|