:::รำลึกพฤษภาทมิฬ : ฝ่าความตายบนถนนราชดำเนิน:::: รำลึกเหตูการณ์พฤษภาทมิฬ : ฝ่าความตายบนถนนราชดำเนิน 1. รอยต่อระหว่างคืนวันที่ 18 กับ 19 พฤษภาคม 2535 ข้าพเจ้าซุกตัวนอนขดร่างอยู่ข้างบันไดของธนาคารแห่งนั้น โดยมีแสงไฟจากโคมเสาสูงสาดส่องลงมา มีเงาเสาอาคารต้นหนึ่งบังแสงบางส่วนทำให้ส่องเผยกายของข้าพเจ้ากับเพื่อนผู้ร่วมชะตากรรมเพียงบางส่วนเท่านั้น เวลาเท่าไรไม่รู้ได้ แต่เป็นค่ำคืนที่ข้าพเจ้าอยากให้ล่วงลุสู่รุ่งอรุณ โดยเร็ว เสียงปืนลั่นรัวถี่ยิบอยู่ไม่ห่างจากที่ข้าพเจ้า ซุกตัวนอนมากนัก น่าจะเป็นเสียงปืนที่ยิงขึ้นฟ้า หากแต่เป็นเสียงปืนที่ยิงพร้อมกันนับร้อยนับพันกระบอกอย่างต่อเนื่องยาวนาน ไม่มีการพูดคุยสนทนากับคนที่นอนอยู่เคียงข้าง แต่ข้าพเจ้ารู้ว่าเขา ก็ยังไม่หลับเช่นกัน 2. ตอนสายของวันที่ 18 พฤษภาคม 2535 ข้าพเจ้าตัดสินใจอาบน้ำแต่งตัวกระโดดขึ้นรถเมล์จากพระโขนงสู่ราชดำเนินทันที เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วรับรู้ข่าวจากทีวีเครื่องเล็ก ว่าตำรวจทำร้ายประชาชนทีชุมนุมบนถนนราชดำเนิน เมื่อคืนนี้จนได้รับบาดเจ็บหลายคน ข้าพเจ้าไม่รู้รายละเอียดของเหตุการณ์เมื่อคืนมากนัก แต่เหตุแห่งการชุมนุมในครั้งนี้ ข้าพเจ้าคือหนึ่งของผู้ที่เข้าร่วมทุกการนัดชุมนุมมาโดยตลอด และได้รับรู้ข้อมูลอย่างละเอียด ของเหตุที่มาแห่งการชุมนุม และเมื่อวานช่วงหัวค่ำ ข้าพเจ้าก็ไปร่วมชุมนุมตามนัดปราศรัยครั้งใหญ่ ที่นำโดยพลตรีจำลอง ศรีเมืองและกลุ่มสมาพันธ์ประชาธิปไตย เพื่อขับไล่พลเอกสุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ข้าพเจ้าต้องรีบกลับ เพื่อสะสางงานของบริษัทที่ยังคั่งค้างอยู่ ก่อนที่พลตรีจำลองจะประกาศเคลื่อนขบวนจากสนามหลวงสู่ถนนราชดำเนิน ข้าพเจ้าทำงานอย่างไม่เป็นสุขนัก ทำงานไปติดตามข่าวมวลชนชุมนุมเป็นระยะ ๆ จนผล็อยหลับไปในค่อนดึกคืนนั้น 3. ก่อนเที่ยงวันที่ 18 พฤษภาคม 2535 ลวดหนามที่กั้นบนถนน ก่อนถึงสะพานผ่านฟ้า ไม่อาจต้านพลังประชาชนได้แล้ว ทหารจึงยอมเปิดทางให้ข้าพเจ้าและประชาชนนับพันผ่านเข้าไปสมทบกับประชาชนอีกหลายพันที่ยังคงปักหลักชุมนุม อยู่บนถนนราชดำเนิน พลตรีจำลอง ศรีเมืองยังอยู่ที่นั่น เวลาใกล้เที่ยง ไม่ค่อยมีผู้ร่วมชุมนุมมากนัก ประกอบกับทหารได้ใช้ลวดหนามปิดกั้นทางเข้าทุกด้าน และผู้ชุมนุมหลายท่านต้องกลับบ้านไปทำงาน หรือไปอาบน้ำพักผ่อน เพื่อว่าตอนเย็นทุกคนจะต้องกลับมารวมเป็นคลื่นขบวนเรียกร้องแบบอหิงสาเพื่อความสัมฤทธิ์ผลตามข้อเรียกร้อง อีกครั้ง แต่การณ์กลับไม่เป็นดังนั้น บ่ายสามโมง ทหารตั้งแถวหน้ากระดาน กราดกระสุนขึ้นฟ้า ดาหน้าเข้าสลายม็อบและจับตัวพลตรีจำลองศรีเมืองพร้อมผู้ร่วมชุมนุมอีกนับพัน ทันทีที่เสียงปืนนัดแรกดังขึ้น ข้าพเจ้าก็เผ่นแผล็วตามสัญชาตญาณเอาตัวรอดเข้าไปในรั้ววัดราชนัดดา ขณะที่ผู้ชุมนุมบางคนยังคงนอนหมอบอยู่กับพื้นถนนราชดำเนินที่ร้อนระอุ ท่ามกลางเสียงประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงของผุ้นำชุมนุมให้นั่งอยู่กับที่ตามวิธีอหิงสาสันติ เสร็จสิ้นการสลายม็อบชุมนุม หลังบ่ายสี่โมง ข้าพเจ้าและกลุ่มผู้ชุมนุมที่หนีรอดการจับกุมของทหารอีกหลายร้อย ก็เดินลัดเลาะไปทางเสาชิงช้าแล้วอ้อมมาสมทบกลุ่มม็อบที่เริ่มมารวมเป็นม็อบไร้ผู้นำที่หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ การประจันหน้ากันของม็อบกับทหารที่ยึดฐานที่มั่นบริเวณสี่แยกคอกวัวตึงเครียดตั้งแต่หกโมงเย็น เสียงเครื่องขยายเสียงของทหารดังอึกทึกกลบเสียงด่าทอ และปลุกระดมจากพวกเรา เกือบหมดสิ้น สถานการณ์ตึงเครียดอย่างหนัก เมื่อมีการนำรถเมล์จากผู้ชุมนุมที่ไร้การนำพุ่งชนลวดหนามทหาร มีการยิงคนขับรถเสียชีวิต และแล้วการโต้ตอบเต็มรูปแบบระหว่างผู้ชุมนุมสองมือเปล่ากับกองทหารอาวุธสงครามครบมือก็เริ่มขึ้น ข้าพเจ้า พร้อมเพื่อนที่ไม่รู้จักกัน 7-8 คน หนีออกมาทางกรมสรรพากร ขณะที่เพลิงกำลังก่อตัวอยู่ภายในอาคาร เดินตามถนนได้สักพัก พวกเราตัดสินใจหนีเข้าซอยเล็ก ขณะเสียงปืนยังดังกึกก้องอยู่ทางถนนราชดำเนิน หากชักช้าหรืออยู่ในที่แจ้งอาจถูกยิงหรือถูกจับแน่ ระหว่างทางในซอยมืด พวกเราก็สวนกับชายสองคนกำลังหามร่างชายวัยกลางคนเลือดโชกวิ่งมาอย่างกระหืดกระหอบ เขาโดนยิง หามไปไว้ปากซอย ให้รถพยาบาลที่ผ่านมาเห็น ในยามนี้ไม่มีวิธีการไหนที่ดีไปกว่านี้ ข้าพเจ้าช่วยหามร่างโชกเลือด นั้นย้อนกลับไปที่ปากซอย แล้วตัดสินใจหลบเข้าไปในอีกซอยย่อยเล็ก เพราะรู้ว่าปลายทางข้างหน้านั้นไม่ปลอดภัยเสียแล้ว และการรวมกลุ่มกันเดิน 7-8 คนเช่นนี้อาจไม่ปลอดภัยและเป็นเป้าชัดเจนให้ถูกยิงหรือถูกจับกุม แยกย้ายกันเป็นคู่ ลัดเลาะเดินอย่างรวดเร็วไปตามซอกซอยจับต้นชนปลายไม่ถูก ร้านรวงทุกร้านปิดเงียบ เสียงปืนยังดังระรัวเป็นระยะแต่เราห่างมาจากเสียงนั้นพอสมควรแล้ว มารู้ตัวอีกที ข้าพเจ้าและเพื่อนผู้ร่วมชะตากรรม ก็มานั่งหอบแฮก แฮก อยู่เชิงบันไดธนาคารแห่งหนึ่ง ไม่มีน้ำดื่ม น้ำลายเหนียวหนืด มีเสียงพูดคุยกันสองสามคำ ก่อนเราทั้งสองจะหลบลงข้างเชิงบันได ทิ้งร่างอันอ่อนเพลีย ขดม้วนนิ่งนอนด้วยความหวาดกลัว เสียงปืนยังคงลั่นรัวคำรามแว่ว ๆ และใกล้เข้า ในความนิ่งสนิทของร่างกาย จมุกของข้าพเจ้าได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้งที่ติดอยู่ที่ชายเสื้อยืด เลือดจากชายวัยกลางคนที่ยังไม่รู้ชะตากรรมว่าป่านนี้เขาจะเป็นเช่นไร ทหารหรือพยาบาลกันแน่ ที่จะมาพบเขาก่อน ข้าพเจ้าปิดเปลือกตาหลับลงด้วยความอ่อนเพลีย ท่ามกลางเสียงปืนที่ลั่นรัวถี่ยิบต่อเนื่องเหมือนบริเวณรอบ ๆ ตัวยามนี้ คือสมรภูมิรบ ::::เสียงปากคำของนักข่าวในเหตุการณ์::: บล๊อกสวยจัง
![]() โดย: Alex on the rock
![]() อ่านด้วยความระทึกใจจริง ๆ สำหรับผู้อยู่ในเหตุการณ์ ย่อมรู้สึกต่างกัน
เหมือนฝันร้ายที่ไม่อยากเห็นอีก ไม่อยากเจออีกจริง ๆ โดย: แพรจารุ
![]() สวัสดีค่ะอ้ายโฟล์คเหน่อ
-------------------------------------- "งาน FAT FESTIVAL "มันถึงแก่น" ณ หอประชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษก (มหาวิทยาลัยขอนแก่น) วันที่ 21 มิถุนายน 2551 เวลา "เที่ยงวัน ยันเที่ยงคืน" เข้าไปดูรายละเอียดที่...www.thisisclick.com ลิงค์ไป 104.5 FM. ชั้น 1 เปิดบู้ธขายสินค้าทำมือ หนังสือทำมือ เพลงทำเอง ร้องเอง ขายเอง ไม่สังกัด/สังกัดค่าย และ ฯลฯ ชั้น 2 แสดงดนตรีอินดี้ล้วน ๆ "เทศกาลดนตรีที่มีมาแต่ยุคดึกดำบรรพ์" ให้จองบู้ธ "ฟรี" ที่ 02-9384082 คุณตุ๊กตุ๊ก จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ปล. หวังว่า อ้ายโฟล์คเหน่อไปร่วมงานนี้ด้วยนะค๊า ![]() โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น
![]() |
บทความทั้งหมด
|