เรื่องของ เส้นหะมอยกับขนมปลากริมยายชู * หมายเหตุ เพื่อให้เข้าในตรงกันในความหมายของภาษาคำที่จะโพสต์ลงเพื่อหลีกเลี่ยง ภาษาอันนำมาซึ่งความหยาบโลน ไม่สุภาพและไม่เหมาะสม ผมจึงขอหลีกเลี่ยงการใช้ภาษาเขียนคำหนึ่ง แทนโดยใช้ภาษาเขียนอีกคำหนึ่งซึ่งไม่มีความหมาย แต่ขอให้ผู้อ่านโพสต์นี้เข้าใจตรงกันนะครับกับความหมายของคำคำนั้นคือ หะมอย แปลว่า ขนเพชร ที่ขึ้นหร็อมแหร็ม หรือดกดื่นอยู่ที่บริเวณของลับ เข้าใจตรงกันแล้วนะครับ ถ้าเช่นนั้น ลุยเลย...... 1. ท่ามกลางความมืดก่อนเที่ยงคืน ไฟคู่หน้าของรถแลนด์โรลเวอร์ฉีดพุ่งฉีกฝ่าผ่านม่านมืด ส่องให้เห็นพื้นผิวถนนยางมะตอย และเส้นขีดแบ่งเลนถนนวิ่งสวนอยู่ไม่ขาดสาย วงล้อรถหมุนในอัตราความเร็วไม่มากนัก ภายในรถอัดแน่นด้วยจำนวนนักดนตรีและเครื่องดนตรี "ขณะที่ยายแก้วกำลังนั่งตักขนมปลากริมใส่ปากกินอย่างเอร็ดอร่อย พลันสายตาของยายแก้วก็เหลือบไปสิ่งแปลกปลอมปะปนมากับเนื้อน้ำขนมปลากริมถ้วยนั้น เรื่องเล่ายามดึกของเสมดำเนินเรื่องมาได้เกือบครึ่งเรื่องแล้ว....... 2. ภาระหลังการแสดงดนตรีจบลงคือสี่ทุ่มครึ่ง บวกรวมกับการเก็บข้าวของขึ้นรถ เอ้อระเหยเอ่ยถ้อยจำนรรค์สนทนาร่ำลากับแฟนเพลงและเจ้าภาพ กว่าจะได้รวมพลขึ้นรถ ก็กว่าห้าทุ่ม ขณะเดินทางกลับ หากไม่มีเรื่องราวภายในงานการแสดงที่เพิ่งลงจากเวทีมาให้ต้องคุยต่อยอด เสียงสนทนาบนรถขณะเดินทาง ก็จะค่อย ๆ ผลอยหายไปทีละคนสองคน แต่ไม่เงียบสนิท.... สุดท้ายแล้ว หากระยะเส้นทางหมุดหมายงานแสดง ถึงแม้จะไกลสักเท่าใด ถ้อยสนทนาเป็นเรื่องบ้างไม่เป็นเรื่องบ้าง จริงบ้าง โม้บ้าง ก็จะไม่ขาดหายไปในตลอดเส้นทางกลับบ้านยามค่ำคืน นอกจากอ้น โชเฟอร์มือหนึ่งและมือเพอร์คัสชั่นประจำวงที่จะไม่มีสิทธิ์หลับแล้ว เสมมือแอคคอเดี้ยน และพ่วงตำแหน่งโชว์เฟอร์ผลัดสองเข้าไปด้วย ก็จะไม่หลับเช่นกัน ถ้อยสนทนาระหว่างทาง จากคนสองคนข้างหน้ารถ เสมบอกว่า จำเป็นต้องมี เพื่อไม่ให้โชว์เฟอร์คนขับเผลอหลับ จนอาจนำไปสู่อุบัติเหตุระหว่างทาง ดังนั้น บนเส้นทางกลับสู่บ้านบนรถที่อัดแน่นด้วยชีวิตและเครื่องดนตรีของศิลปินโฟล์คเหน่อ จึงมิอาจขาดถ้อยสนทนาได้ แม้จะดึกหรือไกลสักปานใด 3. สาย ๆ วันนั้นยายชูพร้อมหาบขนมปลากริมร้อน ๆ ก็มุ่งตรงไปสู่บ้านยายแก้ว ซึ่งเป็นเพื่อนและลูกค้าขาประจำของแกทันที เสม นักเล่าเรื่องประจำรถ เปิดหัวเรื่องเล่าหลังเริ่มรู้ว่าเสียงของสมาชิกบนรถเริ่มหายไปทีละคนสองคน จากความเพลียและง่วง เหนือสิ่งอื่นใด มุ่งหมายหลักผมรู้ว่าเสมต้องการให้ อ้น โชว์เฟอร์ ที่กำลังนั่งอยู่หลังพวงมาลัยแลนด์โรว์เวอร์ ได้ผ่อนคลายหายง่วงมากกว่าคนใดในรถ ทันที ที่วางหาบลงหน้าบ้านยายแก้วเพื่อนเกลอ ถ้อยสนทนา ก็ว่าไปพร้อมกัน กับการคนทัพพีเพื่อไล่ปลุกเนื้อน้ำขนมปลากริมในหม้อให้ตื่นหมุนวนเข้ากัน ตามความเคยชิน เสมไม่ได้บอกรายละเอียดของ ถ้อยสนทนาระหว่างคนสองคนในเรื่องเล่า แต่เสมเกริ่นก่อนหน้านี้แล้วว่ายายชูแม่ค้าขนมปลากริมและยายแก้ว ลูกค้าประจำเคยเป็นเพื่อนเที่ยวกันมาก่อนสมัยยังสาว ขณะที่ยายแก้วกำลังนั่งตักขนมปลากริมใส่ปากกินอย่างเอร็ดอร่อย พลันสายตาของยายแก้วก็เหลือบไปสิ่งแปลกปลอมปะปนมากับเนื้อน้ำข้นของขนมปลากริมถ้วยนั้น เฮ้ย อีชูนี่อะไรวะ ว่าพลางยายแก้วก็ใช้ปลายนิ้วหัวมือกับนิ้วชี้คีบสิ่งแปลกปลอมที่ว่านั้นออกมาจากถ้วยขนมปลากริมด้วยความระมัดระวังและสงสัย เส้นขนสีดำ หงิก ๆ งอ ๆ ไม่เป็นเส้นตรง ความยาวพอประมาณ เส้นผมก็ไม่ใช่ ขนหน้าแข้งก็ไม่เชิง เฮ้ย หะมอย อีแก้ว เส้นหะมอยโว้ย อีแก้วทิ้งไป เอาเส้นหะมอยทิ้งไป ขนมปลากริมถ้วยนั้นก็เททิ้งไปด้วย เอาใหม่ เอาใหม่ เดี๋ยวตักในหม้อให้ใหม่ ว่าพลางหัวเราะพลาง ยายชูคว้าถ้วยใบใหม่แล้วพลิกตะแคงโชว์ก้นถ้วยให้ยายแก้วดู เพื่อเรียกความมั่นใจว่าไม่มีเส้นหะมอยติดค้างอยู่ พร้อมคว้าทัพพีหมุนคนขนมปลากริมในหม้อใบเดิม แล้วตักขนมปลากริมใส่ถ้วยส่งให้ยายแก้วอีกครั้ง ไม่ทันที่ยายแก้วจะได้เอ่ยปากบอกยกเลิก ถ้วยขนมปลากริมก็ถูกส่งมาอยู่ในมือพร้อมช้อนเสียแล้ว ยายแก้วถือถ้วยค้างอยู่เช่นนั้นเสียเนิ่นนาน ท่ามกลางความเงียบงันและครุ่นคิด อ้าวมึงเป็นอะไรวะ อีแก้ว อีห่า ถือถ้วยปลากริมค้างเติ่งอยู่นั่นแหละ ไม่กินสักทีล่ะ เดี๋ยวกูจะได้รีบไปขายบ้านอื่นต่อ เสียงยายชู แม่ค้าปลากริม ทำลายความเงียบด้วยคำถาม อีชู อีฉิบหาย มึงแน่ใจรึว่า เส้นหะมอย เส้นเมื่อตะกี้ของมึงมันหล่นค้างอยู่ในถ้วย มันไม่ได้หล่นลงในหม้อปลากริมทั้งหม้อ ของมึงหรอกรึ ว่าเสร็จ ยายแก้วก็วางถ้วยขนมปลากริมที่ถือค้างไว้ลงในหาบ แล้วเดินหนีเข้าบ้าน ส่วนยายชูก็คว้าทัพพีกำแน่นแล้วคว้านคนในหม้อปลากริม เสมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่างในหม้อ....อย่างนิ่งเงียบอยู่คนเดียว นอกจากเสียงหัวเราะพร้อมกันของอ้นและเสมจะดังลั่นสนั่นรถหลังทิ้งท้ายประโยคเรื่องเล่าแล้ว ผมยังแอบได้ยินอีกหลายเสียงหัวเราะเบา ๆ ดังอยู่ในซอกมุมของรถแลนด์โรเวอร์ของเราคันนี้..... รวมทั้งตัวผมด้วยก็แอบหัวเราะ สวัสดีเช้าวันศุกร์ค่ะ
นี่เรื่องจริงหรือป่าวเนี่ย โน๋ก็เคยโดนมาแล้ว ค่ะ แทบอ้วกกันเป็นแถว คือว่าพวกเรา 4-5 คน จะซื้อกับข้าวมากินรวมกันในมื้อกลางวันที่บริษัท เพื่อเป็นการประหยัดเงิน มีอยู่วันหนึ่งวันนั้นซื้อต้มฟักไก่มะนาวดองมา กินกันเอร็ดอร่อย จนต้มเกือบหมดถ้วย จึงเห็นว่ามันมีไอ้เจ้าเส้นหะมอยเนี่ยมันอยู่ในถ้วย เท่านั้นแหละ มีคนโวยวายแล้วหยิบมันขึ้นมา ทุกคนวางช้อนลงอิ่มกันหมดเลยด้วยสีหน้าที่บอกไม่ถูกของแต่ละคน เรางี้แทบอาเจียร หรือคำธรรมดาว่า อ้วก โดย: โสนบ้านนา วันที่: 7 กันยายน 2550 เวลา:10:22:16 น.
โอยยยย................. ถ้ายายชูยังอยู่ ป่านนี้คงไม่มีใส่ในหม้อขนมแล้ว
มันคงร่วงหมดไปแล้วมังครับ ..555555555555 โดย: ตาอ้วนชวนคุย วันที่: 7 กันยายน 2550 เวลา:10:41:18 น.
เอ่อ...เคยซื้อเฉาก๊วยถ้วยละ 10 บาท...กินไปเกินครึ่ง เจอเส้น..ไม่อยากจะคิดว่าเป็นเส้นหะมอยเลย
คงเป็นผมคันของคนขายมั้ง? ... ...... ......... โดย: Jikkyjang วันที่: 7 กันยายน 2550 เวลา:12:27:48 น.
|
บทความทั้งหมด
|
ขนมปลากริมมอยเชอร่า
ผมเคยเจอดีกว่ายายแก้วอีก
ซื้อข้าวเหนียวมากิน
เจอมอยเชอร่าแฝงอยู่ในข้าวอ่ะ
ไม่รู้ตกลงไปตอนนึ่งข้าว
หรือแม่ค้าเอามือไปเกา....
แล้วเอามือมาคดข้าวขายผมต่อ