:::ก่อนการไล่ล่า:::

::::ก่อนการไล่ล่า:::

1.

ผมย้อนกลับมาที่บ้านผู้ใหญ่มาดอีกครั้งในช่วงสาย ๆ ด้วยความรู้สึกที่ค่อนข้างอึดอัด

บ้านไม้หลังใหญ่ ที่ซ่อนในเงาเขียวครึ้มของต้นไม้ใหญ่เงียบเหงา แตกต่างไปจากทุก ๆ วัน

ทันทีที่ก้าวลงจากมอเตอร์ไซด์ ผมได้ยินเสียงกระแอมไอ ดังมาจากข้างบน แสดงว่าผู้ใหญ่มาดยังคงอยู่บนเรือน

ผมก้าวขึ้นบันไดบ้าน พร้อม ๆ กับห้วงคิดที่หนักอึ้ง เพื่อหาถ้อยคำแรกอันเหมาะสมสำหรับทักทาย และเอ่ยสนทนากับเจ้าของบ้าน อันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนดึกที่ผ่านมาทำให้ผมต้องเตรียมระมัดระวังเรื่องคำพูดเป็นพิเศษ

2.

หลังค่ำคืนของงานฉลองผ้าป่าทิดสึกใหม่และมวลมหรสพในวัดจบลง

หากเป็นวิถีปกติของหนึ่งคู่หนุ่มสาว ระหว่างไอ้น้อยมือกีตาร์ประจำวงดนตรีลูกทุ่งของผู้ใหญ่มาด และแหม่มซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวและเป็นนักร้องประจำวงของผู้ใหญ่มาดเช่นกัน ณ ในช่วงเวลาที่ไม่นานเกินหลังมหรสพในงานจบลง ทั้งคู่ควรจะกลับมาสู่บ้านหลังนี้ เพื่อไอ้น้อยจะได้ส่งสาวแหม่มกลับสู่เรือนนอน แล้วตัวมันเองก็จะแยกกลับสุ่บ้านมันเองโดยลำพัง

ผู้ใหญ่มาดเองก็รู้แก่ใจว่าไอ้น้อยและลูกสาวของแกนั้นรักกัน แกเองก็มิได้กีดกัน

แต่ค่ำคืนนี้ การณ์กับไม่เป็นดังเช่นที่เคยเป็น

ทั้งไอ้น้อย และแหม่มหายไปทั้งคู่ แม้จวบจนฟ้าใกล้สางก็ยังไม่มีวี่แวว

ผมและสมาชิกในวงดนตรีถูกเรียกตัวมาที่บ้านผู้ใหญ่ เสมือนการระดมพล หากบทสรุปข้อที่ว่า หนีตามกัน ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย

ข้อกังวลว่าทั้งสองคน ถูกดักทำร้ายระหว่างทางกลับบ้าน นั่นคือเหตุผลที่ต้องเรียกระดมพลลูกวงดนตรีกลางดึก เพื่อค้นหา

3.

เหยียบเท้าแผ่วเบาไปพื้นชานหน้าบ้าน แล้วผลักประตูเข้าไป ในเงาร่มของหลังคาบ้านหลังใหญ่

ผมเห็นผู้ใหญ่มาดกำลังนั่งขัดอะไรบางอย่างอยู่กลางบ้าน

ให้รู้สึกแปลกใจ ผมไม่ค่อยได้เห็นผู้ใหญ่มาด นำมันออกมาขัด

“ได้ข่าวอะไรคืบหน้าบ้างหรือยังครับผู้ใหญ่” ผมถามประโยคแรก ซึ่งมิใช่คำถามดั่งที่ตระเตรียมไว้ในใจเลยสักนิด

“ยัง” ผู้ใหญ่มาดตอบเสียงห้วน อารมณ์ความรู้สึกที่ถ่ายทอดผ่านใบหน้าและน้ำเสียงนั้น บ่งบอกให้รู้ว่าแกยังมีความไม่สบายใจ

ปกติผู้ใหญ่มาดแกเป็นคนอารมณ์ดีหัวเราะเก่ง ผมผู้เป็นนักร้องนำประจำวง มักมีถ้อยคำอำแกเล่นอยู่บ่อย ๆ และแกก็เป็นผู้ใหญ่บ้านที่ไม่ถือเนื้อถือตัว

แต่ ณ สถานการณ์วันนี้ผมต้องรู้และเคารพความรู้สึกของแก

มองสอดส่ายหา ป้าจันทร์เมียแก ก็ไม่เห็น เข้าใจว่าออกไปสืบหาข่าวของแหม่ม

พอ หันกลับมาอีกที เห็นผู้ใหญ่กำลังยกสิ่งที่ขัดอยู่ในมือพลิกไปมา แล้วยกขึ้นเล็งในระดับสูง เสมือนกำลังค้นหาเศษสิ่งที่ยังเกาะติด ขันใบเล็ก ที่ใส่น้ำเพื่อชโลมขัดล้างถูกเปลี่ยนตำแหน่งไปไว้ที่โคนเสาบ้าน

“ขัดซะเกลี้ยงเลยนะครับ” ผมลองแหย่

เงียบ แทนคำตอบ แกค่อย ๆ ลุก แล้วเดินไปที่นอกชาน แล้ววางของชิ้นมันวาวไว้บริเวณนอกชานเพื่อให้แสงแดดยามสายส่องถึง

“ตอนเช้า ให้ไอ้เหมือนออกไปสืบถามดูอีกแรง อาจเป็นไปได้ว่ามันจะพากันไปอยู่ที่บ้านไอ้หมู”ขณะกลับมานั่งยังที่เดิม แกย้อนกลับเข้ามาพร้อมสู่ประเด็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

สถานการณ์ของเมื่อคืน คลายเครียดและคลายกังวลไปได้ในระดับหนึ่งในช่วงระหว่างการระดมพลค้นหา เมื่อมีคนนำข่าวมาบอกว่า ไอ้น้อยและแหม่มหนีตามกันไปจริง ๆ มิได้ถูกทำร้ายแต่อย่างใด โดยมีจดหมายฉบับหนึ่งเป็นลายมือของไอ้น้อยเขียนยืนยันมาด้วย แต่ยังไม่ระบุที่หลบซ๋อน

“แล้วทางโน้นส่งข่าวมาบ้างหรือยัง” ผมหมายถึงฝ่ายญาติไอ้น้อย

“ยัง ... มันรักกันชอบกันกูไม่ว่า มาสู่มาขอกันก็ได้พูดคุยกัน นี่ไอ้น้อยมันทำไม่ถูกต้อง กลับมาเจอดีทั้งคู่” น้ำเสียงของผู้ใหญ่แสดงความรู้สึกคับแค้น

ทิ้งช่วงหลังคำพูดอยู่เนิ่นนาน ความเงียบงันหลังคำพูดของผู้ใหญ่ ทำให้ผมรู้สึกอึดอัด อีกครั้ง

ไอ้น้อยก็เสมือนเพื่อนสนิทของผมคนหนึ่ง อุปนิสัยใจคอ ของมันนั้นไม่ใช่เรื่องยากสักนิดที่มันจะได้เป็นลูกเขยผู้ใหญ่มาด หากมันทำถูกต้องตามทำนองคลองธรรม แต่เมื่อมันกล้าทำเช่นนี้ผมคาดเดาอนาคตต่อไปของมันไม่ได้

ขณะเดียวกัน เพราะความเป็นเพื่อน ผู้ใหญ่มาดก็คงจะมิได้สนิทใจนัก กับความคิดที่เพื่อนอาจสมรู้ร่วมคิดกันกับเหตุการณ์ครั้งนี้

อันนั้นเป็นเรื่องที่จะห้ามไม่ให้คิด ไม่ให้หวาดระแวงไม่ได้

ทั้ง ๆ ที่ผมมิได้รับรู้แผนการกระทำของไอ้น้อยครั้งนี้เลยแม้แต่น้อย

แต่ผมก็ให้รุ้สึกอึดอัดใจ

ก่อนที่ความเงียบงันจะทอดยาวออกไป เสียงรถมอเตอร์ไซด์ของไอ้เหมือน ก็ดังเข้ามาจอดดับเครื่องที่ตีนบันได

ไอ้เหมือนเป็นมือคีย์บอร์ดประจำวงของเรา นิสัยส่วนตัวของมันคือชอบเสือกเรื่องของชาวบ้านไปทุกเรื่อง ดังนั้นเมื่อผู้ใหญ่มอบหมายหน้าที่ให้มันไปสืบเสาะหาข่าว จึงเป็นการใช้คนถูกตัวถูกหน้าที่แล้ว

หลังเสียงดับมอเตอร์ไซด์ ไอ้เหมือนก็วิ่งกระหืดกระหอบพ้นชานบ้านปรี่เข้ามา

“ได้เรื่องแล้วผู้ใหญ่ ผมรู้ที่ซ่อนไอ้น้อยกับน้องแหม่มแล้ว” มันระล่ำระลักบอก

“อยู่ที่ไหนวะ” ผมรีบถาม เพราะรู้ว่าผู้ใหญ่ต้องการคำตอบ

“ใจเย็นซิโว้ย กินน้ำก่อน” พลันอาการของนักเสือกข่าวของไอ้เหมือน ก็มีลูกเล่นขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ทั้งที่ผมก็รู้ว่ามันอยากจะบอกเต็มที่เหมือนกัน

...อาจเป็นเพราะความว่องไวเกินไปของมือไอ้เหมือน ที่ยื่นหยิบไขว่คว้าไปที่ขันน้ำใบเล็กโคนเสาใบนั้น

...อาจเป็นเพราะถ้อยคำห้ามอันเชื่องช้าเกินไป ขณะอ้าเอ่ยของผู้ใหญ่มาด ที่เพิ่งจะถอดฟันปลอมออกมาขัดสีฉวีวรรณ ในขันใบเล็กที่โคนเสาใบนั้น

...อาจเป็นเพราะความหมั่นไส้เสียเต็มประดา กับลีลาลูกเล่นของไอ้เหมือน ผมจึงไม่ยอมห้ามหยุดยกขันใบเล็กที่โคนเสาใบนั้น

ทันทีที่ไอ้เหมือนยกขันน้ำใบเล็กที่มีน้ำอยู่ครึ่งขันขึ้นดื่มอัก ๆ

ผมได้ยินผู้ใหญ่มาดพยายามระล่ำระลักบอกไอ้เหมือน

แต่ทุกอย่างก็ดูเหมือนช้าไปเสียหมด มีแต่ไอ้เหมือนเท่านั้นที่มันรวดเร็วรีบกินน้ำซะเกินไป

“เฮ้ย ไอ้เหมือนนั่นมันน้ำล้างฟันปลอมของกูโว้ย ไอ้ห่ากินไปได้”

สิ้นคำผู้ใหญ่บ้านพร้อมเสียงขันน้ำตกลงพื้น บ้านทั้งบ้านจึงลั่นระงมไปด้วยเสียงหัวเราะ แข่งกับเสียงอ๊วก โอ๊กอ๊ากของไอ้เหมือนที่ดังมาจากนอกชานบ้าน ใกล้ ๆ กับฟันปลอมของผู้ใหญ่มาดที่กำลังนอนอาบแดดอยู่....

>

***คำเตือน นี่เป็นความสามารถเฉพาะตัว ห้ามลอกเลียนแบบโดยเด็ดขาด คนวัยทองและคนชรา ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม ..อิ...อิ::

::::คลิ๊กอ่านเรื่องย้อนหลัง:::




Create Date : 04 กรกฎาคม 2551
Last Update : 4 กรกฎาคม 2551 5:15:38 น.
Counter : 535 Pageviews.

2 comments
15 เมษายน 2567 คุกกี้คามุอิ
(15 เม.ย. 2567 04:15:53 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 35 : กะว่าก๋า
(13 เม.ย. 2567 05:51:40 น.)
เวลวที่หายไป - บทที่ 26 ดอยสะเก็ด
(11 เม.ย. 2567 11:44:44 น.)
Oh!! my sassy boss ตอนที่ 22 หน้า 1 unitan
(11 เม.ย. 2567 07:22:50 น.)
  
เจิมๆๆๆ

หรือเปล่าไม่รู้..วันนี้อ่านตอนนี้ก่อน

วันหน้าค่อยมาอ่านเรื่องย้อนหลัง

เพราะเราเป็น สว.หัวไว...เข้าใจอะไรง่ายๆ

หุ หุ หุ..

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:35:06 น.
  



Bon Jovi


Free Concert at Central Park


12 July 2008






Free TextEditor
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:28:58 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Folkner.BlogGang.com

โฟล์คเหน่อ
Location :
สุพรรณบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด